จังหวัดลพบุรี เดิมเรียก ละโว้ นับตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ มีหลักฐานที่สำคัญคือ พระปรางค์สามยอด (อยู่ในเขตอำเภอเมือง) เป็นศิลปะเขมรสมัยบายน และมี ศาลพระกาฬ อายุราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นเมืองยุคก่อนประวัติศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 3,000-4,000 ปีมาแล้ว พบหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมาก ในพุทธศตวรรษที่ 11-15 พงศาวดารเหนือกล่าวถึง พระยากาฬวรรรณดิศได้ให้พราหมณ์ยกพลมาสร้างเมืองละโว้ตั้งแต่ พ.ศ. 1002 นอกจากนี้ยังมีตำนานชินกาลมาลีปกรณ์กล่าวถึงการสร้างเมืองหริภุญไชยใน พ.ศ. 1204 ต่อมาอีก 2 ปี คือ พ.ศ. 1206 ได้ส่งทูตล่องลำน้ำปิงไปเมือง ลวปุระ ทูลขอเชื้อสายกษัตริย์ลวปุระให้ไปปกครอง กษัตริย์ลวปุระจึงได้พระราชทานพระนางจามเทวี พระราชธิดา ให้ไปครองเมืองหริภุญไชย ทรงสร้างวัดจามเทวีที่เมืองหริภุญไชย ราวพุทธศตวรรษที่ 16-18 ละโว้หรือลพบุรีตกอยู่ภายใต้อำนาจทางการของอาณาจักรกัมพูชาเป็นครั้งคราว ในพุทธศตวรรษที่ 19 ปรากฏหลักฐานว่าเมืองลพบุรี เป็นเมืองที่พระเจ้าอู่ทองเคยครองราชย์ก่อนที่จะไปสถาปนาอาณาจักรอยุธยา และในสมัยกรุงศรีอยุธยานี้ลพบุรีเจริญรุ่งเรืองที่สุด เพราะสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (ครองราชย์ พ.ศ. 2199-2231) ได้สถาปนาลพบุรีเป็นราชธานีที่สอง จนกระทั่งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้โปรดสถาปนาเมืองลพบุรีเป็นที่ประทับอีกแห่งหนึ่ง
พระนารายณ์ราชนิเวศน์
สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2209
เพื่อใช้เป็นที่ประทับ ณ เมืองลพบุรี แบ่งเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก
เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน
กำแพงพระราชวังก่ออิฐถือปูนมีใบเสมาเรียงรายบนสันกำแพงมีซุ้มประตูทั้งหมด
11 ประตู ประตูทางเข้าเป็นทรงจัตุรมุขมีช่องทางเข้าโค้งแหลม
ตรงจั่วซุ้มประตูตกแต่งลายกระจังปูนปั้นที่วิวัฒนาการมาจากดอกบัว
ที่ซุ้มประตูและกำแพงพระราชฐานชั้นกลางและชั้นในมีช่องเล็ก ๆ
เจาะเป็นรูปโค้งแหลมคล้ายบัวเรียงเป็นแถวสำหรับวางตะเกียง ประมาณ
2,000 ช่อง ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4)
โปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมขึ้นใหม่เมื่อ พ.ศ. 2399
เพื่อให้เป็นราชธานีชั้นใน และพระราชทานชื่อว่า
"พระนารายณ์ราชนิเวศน์" งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
จะจัดราวกลางเดือน กุมภาพันธ์ ของทุกปี ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์
พระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนารายณ์
พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท เป็นพระที่นั่งศิลปกรรมแบบไทยและฝรั่งเศสผสมกัน เดิมเป็นท้องพระโรงมียอดแหลมทรงมณฑป ตรงกลางท้องพระโรงมีสีหบัญชร ซึ่งเป็นที่เสด็จออกเพื่อทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้เข้าเฝ้า ประตูและหน้าต่างท้องพระโรงซึ่งอยู่ด้านหน้าทำเป็นโค้งแหลม ผนังด้านนอกพระที่นั่งตรงมณฑปชั้นล่างเจาะเป็นช่องโค้งแหลมไว้สำหรับวางตะเกียง ซึ่งจะเห็นได้อีกเป็นจำนวนมากตามซุ้มประตูและกำแพงของพระราชวัง สมเด็จพระนารายณ์ฯเคยเสด็จออกรับคณะราชทูตฝรั่งเศส เชอวาเลีย เดอ โชมองต์ ที่พระที่นั่งองค์นี้ในปี พ.ศ. 2228
พระปรางค์สามยอด
ตั้งอยู่บนเนินดินด้านตะวันตกของทางรถไฟ ใกล้กับศาลพระกาฬ
มีลักษณะเป็นปรางค์เรียงต่อกัน 3 องค์ มีฉนวนทางเดินเชื่อมติดต่อกัน
พระปรางค์สามยอดเป็นศิลปะเขมรแบบบายน ซึ่งมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 18
สร้างด้วยศิลาแลง และตกแต่งลวดลายปูนปั้นที่สวยงาม
เสาประดับกรอบประตูแกะสลักเป็นรูปฤาษีนั่งชันเข่าในซุ้มเรือนแก้ว
ปรางค์องค์กลางมีฐาน
แต่เดิมเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและมีเพดานไม้เขียนลวดลายเป็นดอกจันสีแดง
แต่เดิมคงเป็นเทวสถานของขอมมีฐานศิวลึงค์ปรากฏอยู่ในองค์ปรางค์ทั้งสามปรางค์
จนกระทั่งถึงรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ
จึงได้บูรณะปฏิสังขรณ์พระปรางค์สามยอดเป็นวัดในพุทธศาสนา
แล้วสร้างพระวิหารก่อด้วยอิฐ
ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาผสมแบบยุโรปในส่วนของประตูและหน้าต่าง
ในวิหารประดิษฐานพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยาตอนต้น
เปิดให้เข้าชม ระหว่างเวลา 07.00-17.00 น. เว้นวันจันทร์-อังคาร
อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท นะคะ
ดอกทานตะวัน(sunflower) บานเต็มท้องทุ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - มกราคม ดอกทานตะวัน เป็นพืชที่ออกดอกปีละหนึ่งครั้ง (Annual plant) อยู่ในแฟมิลี Asteracae มีฐานรองกลุ่มดอก (Inflorescence) ขนาดใหญ่ ลำต้นโตได้สูงถึง 3 เมตร ฐานรองกลีบดอกอาจกว้างได้ถึง 30 เซนติเมตร ชื่อ"ทานตะวัน"ถูกใช้อ้างอิงถึงพืชทั้งหมดในจีนัส Helianthus
ดูในระยะใกล้จะเห็นลวดลายที่ธรรมชาติบรรจงสร้างสรรค์ อย่างสวยงามนะคะ
ดอกทานตะวันมีจริงๆหลายสีคะ ภาพด้านล่าง Sunflower 'Moulin Rouge'(มีปลูกที่ตัวเขื่อนป่าสักคะแต่ไม่ทราบมีปลูกที่อื่นๆบ้างหรือไม่)
คลิกเข้าไปชมภาพต้นฉบับ ดอกทานตะวันจาก van Gogh Museum
นำเพลงที่เกี่ยวข้องกับดอกทานตะวันมาฝากคะ
ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน คำร้อง: ประภาส ชลศรานนท์ ทำนอง: เกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์ คุณ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร ขับร้อง
เจ้าไม้ขีดไฟ ก้านน้อยเดียวดาย
แอบรักดอกทานตะวัน
แรกแย้มยามบาน อวดแสงตะวัน
ช่างงดงามเกินจะเอ่ย
ดอกเหลืองอำพัน ไม่หันมามอง
แม้เหลียวมายังไม่เคย
ไม้ขีดเจ้าเอ๋ย เลยได้แต่ฝัน ข้างเดียว
* ดอกไม้จะบานและหันไปตาม
แต่แสงจากดวงอาทิตย์
จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เพียงปรารถนา ให้มีลำแสงสีทอง
จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เพียงปรารถนา ดอกทานตะวันหันมอง สักครั้ง
เจ้าไม้ขีดไฟ ก้านน้อยเดียวดาย สาดแสงในใจไม่นาน
ดอกเหลืองอำพันจึงหันมามอง และพบเพียงกองเถ้าถ่าน
เจ้าไม้ขีดไฟ ก้านน้อยเดียวดาย เพราะรักจริงใจอย่างนั้น
เพียงแค่เธอหัน เพียงแค่เธอมองก็พอ
(*) จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เพียงปรารถนา ให้มีลำแสงสีทอง
จุดตัวเองก็ยอมทันใด ให้ลุกเป็นไฟขึ้นมา
เพียงปรารถนา ดอกทานตะวันหันมอง สักครั้ง
เพลงทานตะวัน
ในชุด ลมไผ่ คำร้อง: โดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
ทำนอง: อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี
ตะวันส่องใส
แดดฉายลงมา ทาบทาทิวทุ่ง
แผ่วลมผ่านโรย เหมือนโปรยกลิ่นปรุง
ดอกฟางหอมลอย
ดอกหญ้าดาว วับวาวทางเกลื่อน
เหมือนดังหยาดพลอย
แตะนิดต้องน้อย ราวมณีร่วงพรู พัดพรายลงดิน
จะอยู่แดนไหน
สุดฟ้าแสนไกล คะนึงถึงถิ่น
ด้าวแดนแผ่นดิน ที่เราจากมา เนิ่นนานแสนนาน
ดอกหญ้างาม งดงามดังก่อน หรือร่อนร่วงราน
แดดร้อนดินแล้ง ลมระงมแผ้วพาน บ้านนาป่าเขา
ทุ่มกายทุ่มใจ
เข้าโหมแรงไฟ หัวใจแรงเร่า
ยิ่งสร้างยิ่งทำ ระกำหนักเบา ดิ้นรนหนทาง
เจ้ามิ่งขวัญ ยิ่งวันยิ่งเดือน
ยิ่งเลือนยิ่งราง
ทอดทิ้งทุ่งร้าง วันและวันผ่านเยือน เหมือนเดินทางไกล
ตะวันส่องแสง
สาดแสงลงมา ทาบทาทางใหม่
ร่วมจิตร่วมใจ ก้าวไปก้าวไป ฝ่าภัยร้อยพัน
มิ่งขวัญเอ๋ย หัวใจเรามั่น เหมือนทานตะวัน
เฉิดแสงแรงฝัน กลางรวีตะวัน สีทองส่องใส
คุณ ธวัชชัย แนะนำ เพลง ดอกทานตะวัน ที่ขับร้องโดยคุณนันทวัน เมฆใหญ่ มาให้ฟังกันอีกเพลงคะ
เพลง ดอกทานตะวัน
ยาม... ยามเมื่อรุ่งอรุณแจ่มฟ้า ตื่นตา...
เห็นตามแนวป่าอุราสำราญ มวล...
พรรณไม้ชื่นชูดอกงามพลิ้ว เฉื่อยฉิว...
สายลมวาบหวิวดูตระการ แววไว..
สดใสชื่นฉ่ำ งามล้ำเจ้าดอกทานตะวัน งามเย้ย...
ดวงสุริยัน ทานตะวันใครสรรเรียกเจ้า แสง..
สุรียส่องดอกทานตะวันข้าฝัน...
แสงสุริยันกำลังมาเยือน
ก่อนกลับ อย่าลืมแวะเอากล้วยไปฝาก
ลิงที่พระปราค์สามยอด
ด้วยนะคะคุณ
ช่วงที่น่าจะมาเที่ยวลพบุรีมากที่สุดคือช่วง งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช คะ
จัดราวกลางเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี
ช่วงนี้..ภารกิจรัดตัวอวบอ้วน เลยไม่ค่อยได้เข้ามาทักทาย อิอิ แต่คิดถึงเสมอน๊า จะบอกให้
เคยไปเยือนเมืองลพบุรีจ๊ะ น่าจะครั้งหนึ่งในชีวิต และก็เพิ่งรู้นะคะ ว่า ดอกทานตะวันมีสีอื่นด้วย ^_^
สวัสดีค่ะ
อ่านแล้วด้วยความสนใจค่ะ
คุณนารีเป็นคนลพบุรีหรือคะ
ที่นี่เป็นเมืองเก่า มีหลักฐานให้เห็นอยู่มากมาย เคยไปบ่อยค่ะ มีไร่พันธุ์พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกไว้ค่ะ การทำเมล็ดพันธุ์ต้องแยกกันไกลๆจากไร่ที่จะปลูกมากๆค่ะ มิฉะนั้น จะกลายพันธุ์
สวัสดีครับ ท่านประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี พี่นารี
อ่านแล้วอยากแพ็คกระเป๋าไปทันใดครับ ...
ผมแปลกใจทานตะวันสีแดง ตามมาจากบันทึกของผมนะครับ ...สวยงามครับ
ไม่เคยไปเมืองลิงสักที...ต้องหาโอกาสครับ
เคยมีน้องคนหนึ่งร้องเพลง "ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน" ให้ฟังบ่อย ๆ เพราะ..อยากให้ความรู้สึกของเธอ
เศร้าเลย TT_TT
สวัสดีตอนค่ำๆครับคุณนารี
สวัสดีครับ
ผมอ่านบันทึกนี้แล้วเหมือนกลับไปตอนอยู่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย เพราะผมเป็นมัคคุเทศก์อาสาสมัครนำชมพระราชวังนารายณ์ ผมเป็นเด็กหน้าวัง ครับ บ้านอยู่ละแวกนั้น เรียนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่วัดเสาธงทอง ผมอยู่ลพบุรีนานเกือบ 20 ปีครับ ผมจึงเป็นเด็กเมืองละโว้แต่ดั้งเดิมทีเดียว เพราะฉะนั้นอ่านบันทึกแล้ว ความทรงจำเก่าๆ ก็พรั่งพรูออกมา ขอบคุณจริงๆ ครับ สำหรับบันทึกนี้
สวัสดีค่ะ คุณ naree suwan
ตามมาอ่านเนื้อหาสาระดี ๆ ค่ะ และภาพสวย ๆ ค่ะ พอได้อ่านและดูภาพประกอบเหมือนกับว่าได้ไปเที่ยวเมืองลพบุรีเลยละค่ะ
สวัสดีครับ
น่าอิจฉานะค่ะ มีแต่ที่สวยๆ รูปสวยมากค่ะ
ขอบคุณนะค่ะที่แวะมาเยี่ยม(กำลังใจชั้นเยี่ยมเลยค่ะ)
ยินดีด้วยนะคะ ที่ไปเยี่ยมเยียนที่บลอก
เข้ามาบลอกนี้ ความรู้แน่นเอี๊ยดเลยนะคะ
สวัสดีครับ
ขอสารภาพว่ายังไม่เคยไปลพุรีเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่รับรู้ รับฟังถึงเรื่องราวอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในฐานะเมืองประวัติศาสตร์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ ... สืบมาจนถึงประเพณีการเลี้ยงโต๊ะจีนลิง
ส่วนเพลงทานตะวันนั้น... เป็นเพลงที่ชอบที่สุดอีกเพลงหนึ่งในชีวิต ...
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ
..................
เมืองลพบุรีเคยแวะไปเที่ยวช่วงเวลาสั้นๆ นานมาแล้ว
นึกถึง พระปรางค์สามยอด ลิงลพบุรี และ ดอก
ทานตะวัน
แวะมาอ่านข้อมูลโดยละเอียด ทำให้อยากไปเที่ยว
อีกสักครั้ง ครับ
ขอบคุณที่แวะไปแสดงความเห็นที่บล็อก ครับผม
สวัสดีครับ
คุ้นเคยกับลพบุรีพอสมควรครับ
ในฐานะเป็นมดงานเล็กๆในโครงการเขื่อนป่าสัก
และทางรถไฟที่สวยที่สุด
มีญาติธรรมอยู่โคกสลุงด้วยครับ
เพลงทานตะวัน สุดยอดแห่งคำร้องครับ เคยนั่งฟังได้ต่อเนื่องทั้งวันจนเทปพัง
เจ้าไม้ขีดไฟฯ ก็ที่สุดแห่งการเสียสละเพียงเพื่อให้เธอหันมามอง แสนสุดซึ้ง ผมว่าฟังต่อเนื่องกับเพลงคุณตุ๊กที่ว่า" ท่ามกลางความเงียบงัน กลับกดดันยิ่งกว่า.....ยิ่งซึ้งครับ
เพลง ดอกทานตะวัน
ยาม... ยามเมื่อรุ่งอรุณแจ้มฟ้า
ตื่นตา... เห็นตามแนวป่าอุราสำราญ
มวล... พรรณไม้ชื่นชูดอกงามพลิ้ว
เฉื่อยฉิว... สายลมวาบหลิวดู่ตระการ
แววไว.. สดใสชื่นฉ่ำ งามล้ำเจ้าดอกทานตะวัน
งามเย้ย... ดวงสุริยัน ทานตะวันใครสรรเรียกเจ้า
แสง.. สุรียส่องดอกทานตะวัน
ข้าฝัน... แสงสุริยันกำลังมาเยือน
เพลงยุคเก่า แต่ว่าไพเราะมากครับ...
สวัสดีครับ
ผมไม่ได้ไปลพบุรีมา ๑๒ ปีแล้ว เห็นแล้วอยากไปเที่ยวจังเลย ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ
แวะมาทักทายครับ ได้ของแถมเป็นข้อมูลประวัติศาสตร์ของเมืองลพบุรีกลับไปด้วย ขอบคุณมากครับ
สบายดีใหมครับ?
เจอหุ่นไล่กาแล้ว..
รบกวนบันทึกภาพมาแบ่งปันกันด้วยนะครับ..
ตามมาอ่านต่อค่ะ เรื่องดีมาก ค้นคว้ามาฝากกันหลากมุม ภาพก็สวยทุกภาพเลยค่ะ
ลพบุรีนั้นพี่ไปมาสองสามครั้ง ครั้งแรกที่ไปก็ประทับใจกับโบราณสถานมากเลยค่ะ
- ขอสุมาเต๊อะเจ้า...แวะมาหาละอ่อนหน้อยล่าช้าไป..
- บอกความลับ...ไปลพบุรีหลายครั้งแต่ไม่เคยไปเที่ยววังนารายณ์เลย...ภาพสวยม๊าก...มาก
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMNMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
MMMMMMMMMMMMM
ปล. ถ้าแก่แล้วจะหาไม่เจอ 5555...
เอาดอกไม้ดินญี่ปุ่น (ทำเอง) มาฝากคนงามค่ะ http://gotoknow.org/file/gutjang/p_din.jpg
(เอ๊...ทำได้หรือเปล่านี่..มือใหม่)
OOOOOOOOOCOOOOOOOOOOOOOOO
9999699999999999999999999999999999
MMMMMMMNMMMMM
สวัสดีค่ะ
จะมารอจองคิวอ่านบันทึกใหม่ค่ะ รออยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากครับพี่ที่ให้เห็นภาพสวยมากเลยทั้งๆที่ไม่เคยไปแต่ก้อยากไปเมื่อเห็นภาพ
อยากร้องแต่ร้องไม่เป็น
ผมชอบปราสาทหินมาก แต่ที่ปราสาทสามยอดนี้ผมไม่คอยสักเท่าไหร่ เพราะผมไม่ชอบลิง หรืออาจจะว่ากลัวก็ได้
ขอบคุณที่เขียนบทความดี ๆ ครับ
ขอบคุณคุณวาทิน ที่แวะมาเที่ยวชมปราสาทสามยอดนะคะ
ปัจจุบันปราสาทเหลือพื้นที่นิดเดียว เพราะถูกคนรุกคืบมาครอบครองพื้นที่
ตัวปราสาทเลยดูเล็กไปถนัดใจถ้าเทียบกับ ปราสาทหินพิมายที่ตั้งอยู่กลางเมืองเช่นกัน
เมืองละโว้ เป็นเมืองโบราณเก่าแก่ และเป็นเมืองของหนุมาน
จึงมีลูกหลานเหลน หนุมาน เต็มเมือง
ลิงที่ดุคือลิงตึกค่ะ ลิงที่ปราสาทสามยอดไม่ดุเท่าไหร่
แต่ถ้ามาเที่ยวต้องระวัง ไม่ถือของรุ่มร่าม
หากลิงแย่งของอย่าแย่งกลับเพราะจะถูกกองทัพลิงรุม
ลวะปุระ ยังคงน่าสนใจและมีเสน่ห์ที่เป็นเมืองโบราณที่มีชีวิตนะคะ
เมื่อ ศ. 12 ต.ค. 2550 @ 14:00
419926 [ลบ]