หลักการของการดูแลสุขภาพด้วย โยคะบำบัด-ธรรมชาติบำบัด มุ่งที่กิจกรรมส่งเสริม “พลังในการเยียวยาตามธรรมชาติของร่างกาย” เน้นการป้องกัน ปรับสมดุล และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคของร่างกาย ไม่ใช้ยาแผนปัจจุบันซึ่งเป็นสารเคมีต่าง ๆ
จากคำแนะนำของ รศ.ดร.เกียรติวรรณ อมาตยกุล อาจารย์ที่ปรึกษา ทำให้คนไม่มีรากได้ไปค่ายโยคะบำบัด-ธรรมชาติบำบัด ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2552 ณ สถาบันอบรมผู้นำ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ค่ายนี้จัดโดยทีมงานจากมูลนิธิโยคะแห่งประเทศไทย (นวมนุษยธรรม-นีโอฮิวแมนนิส)
วิทยากรและผู้ประสานงานโครงการคือ
คุณบุญส่ง ปะสิ่งชอบ (ครูเข็ม)
คุณนันท์ คงมีผล (ครูนันท์)
คุณวิไล วงค์อนันต์คุณ (อาจารย์จ๋อ)
คุณวรรณพร มะลิซ้อน (คุณติ๊ก)
วัตถุประสงค์ของค่าย คือ
1. ใช้ศาสตร์ทางโยคะเพื่อปรับสมดุลกายใจ
2. ให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาหารเพื่อการบำบัดและสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์
3. ให้ความรู้มิติความสัมพันธ์ระหว่าง กาย ใจ จิตวิญญาณ
4. เรียนรู้เคล็ดลับการมีสุขภาพดีและอายุยืนยาวอย่างมีความสุข
โดยส่วนตัวแล้ว คนไม่มีรากมีความสุขและชื่นชอบแนวทาง ธรรมชาติบำบัดและเรื่องของโยคะศาสตร์เบื้องต้นอยู่แล้ว เพราะได้ปรับเปลี่ยน (อย่างค่อยเป็นค่อยไป) วิถีชีวิตทั้งด้านการเลือกอาหาร การออกกำลังกาย การนั่งสมาธิ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น (ซึ่งยังคงทำได้น้อยมาก) และยังได้มีโอกาสเป็นผู้สอนวิชา “การดูแลสุขภาพด้วยวิถีรรมชาติ” ที่วิทยาลัยพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ด้วย
ปัญหาเดียวที่ยังคงแก้ไขไม่ได้ของคนไม่มีราก คือ การ “ติดกาแฟ”... วันใดไม่ได้ดื่มกาแฟมีอันต้องปวดหัว ตัวร้อน หงุดหงิด ง่วงซึมไปเกือบจะทั้งวัน
เมื่อมาค่ายนี้ ระยะเวลาเพียง 3 วัน ทำให้ เห็นอีกมิติหนึ่งในการดูแลสุขภาพ...บันทึกนี้จึงเป็นเพียงการแบ่งปันบอกเล่าประสบการณ์ ซึ่งต้องขออนุญาตเรียนว่า... ขึ้นกับความเชื่อและความชื่นชอบเป็นการส่วนตัว เพราะในเรื่องของสุขภาพแล้วต้องบอกว่า “ลางเนื้อชอบลางยา” ใครที่มีแนวทางที่เหมาะสมและทำให้มีสุขภาพดี เรื่อง “ธรรมชาติบำบัด” ก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่เราอาจเลือกใช้ในบางส่วน ตามแต่เห็นสมควร ไม่มีกฎตายตัว
ที่พักมีภูเขา ต้นไม้ ลำธาร อากาศบริสุทธิ์ และพืชผักผลไม้ไร้สารเคมี
หลักการของการดูแลสุขภาพด้วย โยคะบำบัด-ธรรมชาติบำบัด มุ่งที่กิจกรรมส่งเสริม “พลังในการเยียวยาตามธรรมชาติของร่างกาย” เน้นการป้องกัน ปรับสมดุล และเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคของร่างกาย ไม่ใช้ยาแผนปัจจุบันซึ่งเป็นสารเคมีต่าง ๆ ด้วยนักธรรมชาติบำบัดเชื่อว่าร่างกายมนุษย์มีความสามารถในการเยียวยา บำบัดและรักษาตนเองได้ตามธรรมชาติ ส่วนโรค อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เป็นกลไกพิเศษของร่างกายในการปรับตัวและทำให้คนมีสุขภาพดีกลับสู่สมดุล
กิจกรรมหลักในค่าย คือ การให้ความรู้ ฝึกปฏิบัติ และสาธิต ในเรื่อง
· อาหารชนิดต่าง ๆ ที่บริโภค
· อาหารกาย – อาหารใจเพื่อพิชิตโรค
· อาหารบำบัด – ฟื้นฟู
· วิธีการเลือกอาหาร การปรุงอาหารที่คงคุณค่าและปลอดภัย
· โยคะ – อาสนะ จินตนบำบัด
· การอดเพื่อล้างพิษ (Fasting)
· การล้างตา – ล้างคอ – ล้างจมูก – อาบแดด – อาบลม
· การอาบน้ำครึ่งตัว
· โยคะ – อาสนะ – การปรับคลื่นสมอง
· กิจกรรมผ่อนคลาย – สนทนาอย่างสร้างสรรค์
· ปุจฉา – วิสัชนาเรื่องสุขภาพ
วิทยากร คุณครูเข็ม และ อาจารย์จ๋อ
ค่ายนี้เป็นค่ายที่ต่อเนื่องมาจากค่ายธรรมชาติบำบัด (ระยะเวลา 8 วันเต็ม) ซึ่งได้เชิญ คุณหมอเจค็อบ วาทักกันเชรี จากประเทศอินเดีย มาเป็นผู้ให้ความรู้ด้านสุขภาพองค์รวม (Holistic Health) โยคะ-อาสนะ อาหาร การดูแลบำบัดกายใจและจิตวิญญาณ โดยเจาะลึกเฉพาะด้านอาหารและการกินการอยู่
ในค่ายจะไม่มีการใช้สารเคมี งดเว้นการใช้ แป้ง ครีมกันแดด ครีมทาผิวทุกประเภท ลิปสติก สบู่นั้นมีสบู่ผงถั่วเขียว ยาสระผมสมุนไพร ยาสีฟันเกือบไม่ต้องใช้ และใครที่ลืมแปรงสีฟัน ก็ได้รับคำแนะนำให้ใช้ใบไม้ เช่น ใบขนุน ใบฝรั่ง ใบข่อย ม้วน ๆ แล้วขัดฟัน ซึ่งก็สะอาดดีเช่นกัน นอกจากนี้ยังไม่อนุญาตให้ดื่ม ชา กาแฟ เครื่องดื่มอื่น ๆ นอกจากน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำผักซึ่งคั้นสด ๆ
ช่วงเช้าจะมีกิจกรรมออกกำลังกายด้วยโยคะอาสนะ การเต้นเกาชิกิ เต้นคีรตาน นั่งสมาธิ อาบแดดตอนเช้าก่อน 8.00 น. และตอนเย็นหลัง 16.30 น.
ตัวอย่างเมนูอาหารในค่าย
เช้า : ผลไม้ โยเกิร์ตสด (ทำเองจากน้ำนมถั่วเหลือง)
เบรกเช้า : น้ำผลไม้ หรือ น้ำผัก อย่างใดอย่างหนึ่ง
กลางวัน : ข้าวกล้อง อาหารชีวภาพที่ปรุงกันเอง ปราศจากเนื้อสัตว์ สารปรุงรส งดหอม กระเทียม เห็ด น้ำมันที่ใช้เป็นน้ำมันชนิดกลั่นเย็น ผักสด ๆ ที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมีใด ๆ
เบรกบ่าย : น้ำผลไม้ หรือ น้ำผัก อย่างใดอย่างหนึ่ง
อาหารเย็น : ผลไม้สด
เท่าที่สังเกตสมาชิกในค่ายนี้คุ้นเคยและเคยร่วมกิจกรรมในค่ายอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันมาแล้ว และในค่ายนี้มีผู้ป่วยมาร่วมด้วย 3 คน
ท่านแรกเป็นคุณป้าวัย 72 ปี ที่มีประวัติเป็น มะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ทำการผ่าตัดเต้านมไปแล้ว และรักษาด้วยเคมีบำบัดแล้ว 1 ครั้ง ท่านผอมมาก ผมบางร่วงเกือบหมด อยู่ในระหว่างการ อด (Fasting) เพื่อการเยียวยา โดยการรับประทานผลไม้เพียงอย่างเดียว
ท่านที่สอง หญิงสาวในวัยไม่เกิน 35 ปี แพทย์วินิจฉัยว่าเป็น มะเร็งที่มดลูกระยะที่ 3 ตัดสินใจใช้ธรรมชาติบำบัดในการรักษาและเยียวยา อยู่ในขั้นตอนการรักษาด้วยการรับประทานเฉพาะผลไม้ ตลอด 3 เดือน ซึ่งเธอรับประทานมาแล้ว 1 เดือนเต็ม
ท่านที่สาม หญิงสาววัย 44 ปี เพิ่งตรวจพบว่ามีเนื้องอกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 เซ็นต์ที่มดลูก เธอตัดสินใจมาค่ายนี้เพราะเพื่อนที่ทำงานแนะนำและขับรถมาส่งเธอถึงค่ายหลังเลิกงานในวันศุกร์
รายละเอียดของการเลือกรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย วิธีการปฏิบัติตัวเพื่อปรับสมดุลของสุขภาพ การดูแลด้านจิตใจและจิตวิญญาณ จะนำเสนอให้บันทึกต่อไปค่ะ
(^___^)