ขอบใจเจ้าหนูสำลักน้ำตัวนั้น...ไม่ได้ปลาบปลื้มที่ได้ช่วยชีวิตมันหรอกนะ แต่...ขอบใจ สำนึกในบุญคุณของมันต่างหากที่สอนให้เราได้เอาชนะ....ความกลัวของตัวเอง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา กรุงเทพ ฯ โดนฝนถล่มตั้งแต่เช้ามืดยัน 9 โมงเช้า ชุ่มฉ่ำไปทั้งเมือง คิดอยู่ในใจว่า วันอาทิตย์นี่วันพักผ่อน ฝนท่านก็มาตกหนักเสียอย่างนี้ สงสัยหลายคนต้องอยู่บ้าน ออกไปไหนไม่ได้
พอฝนหยุด ภารกิจ “การเดิน” ที่ตั้งใจไว้ก็ดำเนินการต่อ...การเดินในวันหยุดเป็นสิ่งพิเศษในความรู้สึกของคนไม่มีราก...
ทำไมล่ะหรือ?
ก็ในวันหยุด โดยเฉพาะตอนเช้า ๆ นี่ ถนนหนทางจะเงียบสงบ เพราะผู้คนไม่ต้องรีบร้อนออกจากบ้านไปทำงาน
เช้าวันหยุดจึงมักจะเป็น...ช่วงเวลาผ่อนพัก ตระหนักรู้ของคนไม่มีรากอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะเช้าวันนี้....กำลังเดิน ๆ อย่างเพลิดเพลิน นับก้าว ท้าวคาง มองโน่นมองนี่ ก็ได้ยินเสียง ...
ดูมันสิ...อย่างนี้ต้องจัดการ ดูมัน....เดี๋ยวเหอะนะ....เสียงแว่วดุ ๆ
อีกเสียงว่า ใช่ ๆ เดี๋ยวมันเข้าบ้านเรา...ตายเลย...
ต้องจัดการมัน รอเดี๋ยวต้องหาน้ำร้อนก่อน ท้าทายนักนะ....
หันไปมอง....อ้อ...ต้นเหตุคือ...เจ้านี่เอง....
มองชัด ๆ อีกที อื๋อ...ขนลุกชันขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้....
เกิดมาไม่เคยกลัว อะไรเท่ากับเจ้าสัตว์ชนิดนี้ ทั้ง ๆ ที่มันก็ตัวเล็กนิดเดียวเอง...ความกลัว ความขยะแขยง ตามมาด้วย...ความรังเกียจ...เจ้าตัวเล็ก ๆ สกปรกนี้คงโผล่ขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ เพราะฝนตกหนักจนน้ำท่วม แต่มันแปลกตรงที่ผิดธรรมชาติของหนูที่จะกลัวคน แต่เจ้าตัวนี้ คงสำลักน้ำจนเมา หรือด้วยเหตุอะไรก็สุดจะเดา มันจึงยืนจังก้า นิ่ง ท้าทายต่อมนุษย์ ผู้ทั้งกลัว ทั้งเกลียด และกำลังจะหาทางกำจัดมัน...
ยืนดูเหตุการณ์ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประดังกันขึ้นมา... ยังไม่รีบไปอีก เขากำลังจะจัดการแล้ว ยังไม่รู้ตัวว่าชะตาจะขาดแล้ว...เจ้าหนูเอ๋ย...ยืนปลงต่อไป เกิดเป็นหนูก็อย่างนี้ เป็นศัตรูกับมนุษย์ ก็เจ้าชอบกัดแทะทำลายข้าวของ นำเชื้อโรคนี่นา...เอานะ...ขอให้โชคดี ไปเกิดใหม่อย่าเป็นหนูอีกล่ะ...คิดไปพลางก็จ้องไปพลาง ไปสิ ๆ ๆ ๆ ยังไม่ไปอีก ... เสียงของมัจจุราชดังขึ้น
เอาราดมันเลย...ระวังนะ...ยกมาสิ....
ตัดสินใจในนาทีนั้น ดึงกล้องถ่ายรูปออกมา แล้วหันไปบอกว่า...เดี๋ยวนะคะ ขอถ่ายรูปก่อน คนที่ถือกระติกน้ำร้อนชะงัก ถามเสียงไม่พอใจว่า...ถ่ายทำไม้...
ก้มลงถ่ายภาพ 3 ใบ มันก็ยังคงนิ่ง ในใจคิด รีบไปซี่ ยังจะยืนเมาอีก ไปสิเร็ว ๆ อย่ากระโจนเข้ามาหาฉันล่ะ ไปทางโน้นนะ...ก้มไปถ่ายภาพใกล้ไม่เกิน 1 เมตร ทั้งที่กลัวสุดใจ ทำไงดีมันถึงจะรู้ตัวแล้วรีบหนี...ต้องทำเสียงกระแอมกระไอมันจะได้ตกใจหนีไป .... ซึ่งก็ได้ผล มันเดินช้า ๆ ผลุบลงไปข้างทางฟุตบาท
เสียงคนถือกระติกน้ำร้อนบ่น...บ้าหรือเปล่า...เอ้อ...มันหนีไปแล้ว...ตามด้วยเสียงไม่พอใจอีกหลายคำ...แต่ไม่สนใจฟังแล้ว...เดินอมยิ้มออกไปอย่างสุขใจ....
ขอบใจเจ้าหนูสำลักน้ำตัวนั้น...ไม่ได้ปลาบปลื้มที่ได้ช่วยชีวิตมันหรอกนะ แต่...ขอบใจ สำนึกในบุญคุณของมันต่างหากที่สอนให้เราได้เอาชนะ....ความกลัวของตัวเอง ด้วยเป็นคนที่กลัวหนูจนขึ้นสมอง เป็นผลมาตั้งแต่วัยเด็กที่ฝังใจจนปัจจุบัน
ตระหนักว่า.... “ความรักความเมตตา” นี่....ชนะ “ความกลัว” ได้เหมือนกัน...
“การเดิน” ท่ามกลางความเฉอะแฉะในวันนั้น...จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าอย่างคาดไม่ถึง...(^__^)