ความสุขหาได้ทุกที่ที่เราต้องการ...แม้เป็นเพียงสุขเล็กน้อยจากอดีต...
ต่อจากบันทึกที่แล้ว พาลูกเที่ยว (๑)...
มาเที่ยวศรีราชารอบนี้เราพักโรงแรมติดทะเลที่ราคาไม่แพง “โรงแรมศรีราชาลอดจ์” ได้สัมผัสบรรยากาศชายทะเล และให้บังเอิญ ที่ได้บรรยากาศงานแต่งงานบริเวณสระน้ำของโรงแรมด้วย ..... บรรยากาศโรแมนติคซะเหลือเกิน
อาหารเย็นในห้องอาหารที่เราทานกัน มีบรรยากาศการร้องเพลงคาราโอเกะ...
แขกโต๊ะใกล้กันทยอยร้องเพลงทั้งครอบครัว เค้าเวียนกันร้องเพลงเก่าสมัยแม่ยังสาวได้ไพเราะมาก จนทำให้วัยรุ่นของเราต้องออกไปนั่งคุยกันริมทะเล ปล่อยให้ผู้ใหญ่ฟังเพลงกันไป(ดีกว่า)
ป๊าโอบไหล่แม่แล้วถามว่า
“ร้องเพลงมั้ย...เอาเพลงอะไรน้า...ข้องจิต?”
“ม่ายเอา ถ้าจะร้องต้องร้องเพลงที่เราร้องด้วยกันตอนแต่งงานน่ะ”
“เพลงอะไร...”
“เพลงนั้นไง....เพลง...เพลง...อ้อ...ชั่วฟ้าดินสลาย”
ครู่ใหญ่ๆนักดนตรีที่รู้จักกับป๊าก็พยักเพยิด แล้วเชิญป๊าขึ้นไปร้องเพลง ป๊าเดินขึ้นเวทีและก่อนร้องเพลงป๊าพูดว่า
“ขอบคุณท่านที่ร้องเพลงเมื่อสักครู่นี้ครับ เพลงนั้นทำให้ผมคิดถึงแม่ ผมกลับมาเยี่ยมบ้าน มาเยี่ยมแม่ของผม แม่ผมยังแข็งแรงดีครับ” ป๊าทิ้งช่วงเสียงตอนท้ายนาน
“เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2524 วันนั้นเป็นวันแม่ วันนั้นเป็นวันเกิดของผม และก็เป็นวันแต่งงานของผมด้วย ผมได้ของขวัญวันเกิดที่มีค่าที่สุดในชีวีตของผม ผมขอเชิญคุณ....... ภรรยาสุดที่รักของผมครับ” เสียงคนกรี๊ดกร๊าดและปรบมือ ...คงแซวป๊า...
“ผมจะร้องเพลงนี้ครับ...ชั่วฟ้าดินสลาย...เป็นเพลงที่เราร้องด้วยกันในวันแต่งงาน”
“อ้าว...เด็กๆไปไหนหมดแล้ว ไม่ได้มาฟังป๊ากับแม่ร้องเพลงด้วยกัน....” แล้วแม่กับป๊าก็ร้องเพลงนี้ด้วยกันอีกครั้งต่อหน้าผู้ฟังหลายคน ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก...
เมื่อย้อนอดีตเรื่องรักโรแมนติค ที่ดูท่าว่ามันจะต่างออกไปตามยุคตามสมัย
สมัยนั้น เวลาป๊ามาหาแม่ป๊าจะแต่งตัวหล่อ เสื้อผ้าสะอาดสอ้าน ป๊าใส่น้ำหอมกลิ่น Blue Stratos…. แม่จำได้.... ตอนนี้ไปเดินหาซื้อ ไม่มีแล้ว...ไม่เห็นมีขายมานานแล้วด้วย แม่จำได้ว่าเป็นขวดสีฟ้า มีรูปนกสีขาวบิน
...ป๊าบอกว่า มันเป็น Aftershave... ใช้หลังโกนหนวด แม่ชอบ เพราะตอนแม่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์(อีแก่..ของ) ป๊า แม่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมา ... มันหอมเย้ายวนดี....
ตอนเย็นๆป๊ามักจะแวะไปรับแม่ที่หอพักพยาบาล ไปเดินริมทะเลแล้วพาไปทานอาหารค่ำที่ สวนอาหาร“บ้านและสวน” ใกล้ๆโรงพยาบาล
เราไปทานอาหารที่ร้านนี้บ่อยๆเพราะบรรยากาศโรแมนติค(อีกนั่นแหละ) อาหารอร่อย บรรยากาศดี มีต้นไม้มาก ร่มรื่น มีเพลงรักโรแมนติคเบาๆให้ฟัง และมี “พี่นิด” นักดนตรีสีไวโอลินเดินไปตามโต๊ะอาหาร
ป๊าบอกในตอนหลังว่า ที่พาไปทานได้บ่อยๆทั้งๆที่อาหารแพงเพราะป๊าได้เงินพิเศษจากการคุม study เด็กที่อัสสัมชัญพอดี งานนี้ป๊าเลยทุ่มเต็มที่... แล้วก็ได้ผล....
...และนั่นก็เป็นเหตุผล ที่ทำให้ “พี่นิด” นักดนตรี สีไวโอลินในสวนอาหาร ต้องขึ้นเวทีในงานแต่งงานของแม่กับป๊า แล้วสีไวโอลินประกอบเพลง “ชั่วฟ้าดินสลาย” ที่แม่กับป๊าได้ร้องคู่กัน....
...และวันนี้แม่ได้ร้องเพลงนี้คู่กับป๊าอีก จะต่างกับวันแต่งงานก็ตรงที่ไม่มี “ลุงนิด” คนที่สีไวโอลินใน ห้องอาหาร“บ้านและสวน” มาเล่นด้วยเท่านั้นแหละ
...ตอนเช้าแม่ก็ให้ลูกได้สัมผัสความสุขกับบรรยากาศชายทะเล(ยามน้ำลด)จริงๆ....
ความรักที่มีต่อกันในอดีตมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เดี๋ยวนี้ไม่มีรักหวานเจี๊ยบ จ๊ะจ๋าเหมือนแต่ก่อน...ที่จะมีก็แอบหยอกล้อกันพอมีชีวิตชีวา เช่นพอรับโทรศัพท์ก็พูดว่า....ว่าไงจ๊ะที่รัก...ฮัลโหล รัก(รก)นะจุ๊บๆๆ.... พอให้คนอยู่ใกล้ที่ได้ยินอิจฉา แซวเล่นๆ ก็เรียกเสียงฮาจากเพื่อนๆได้พอควร
.........................................................................................................
คุยโม้มากแล้ว... พอดีกว่า เดี๋ยวหนุ่มสาวสมัยนี้คิดว่า แม่แต่งนิยายน้ำเน่า.....
อ้าว!.... แล้วนั่นใครยกถุงกอล์ฟขึ้นรถน่ะ...
อ๋อ.... ป๊า ไป ตี กอล์ฟ .....
มากกว่าความรักที่เป็นพื้นฐานของครอบครัว เปลี่ยนเป็นความ(ต้องพยายาม)เข้าใจกันมากขึ้น เข้าใจความต่างของคน มีความห่วงใย อาทรต่อกันมากขึ้น เอาแต่ใจตัวเองน้อยลง...เป็นผู้ให้ ผู้เสียสละ และยอมซะมากกว่า
มีเด็กๆที่สร้างบรรยากาศของชีวิตที่เป็นธรรมชาติ เป็นโลกของความจริงที่ต้องเผชิญอย่างปฏิเสธไม่ได้ ชีวิตคู่สอนให้เราเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อต่อปัญหา อุปสรรค และมั่นใจว่าเมื่อมีปัญหาจะมีคนคนหนึ่งที่อยู่ข้างเราเสมอ