หากคุณได้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก แลกกับการสูญเสียครอบครัวที่ดีของเราไป อย่างไม่มีวันเอากลับคืนมาได้ คุณจะยอมไหม?
ตอบได้เลยว่าไม่ยอม...
********************
เห็นด้วยอย่างมาก ๆ นะคะ
ยกเว้นเรื่องที่ เป็นสัจธรรม สิ่งจริงแท้ คนทุกคนเมื่อถึงเวลาก็ต้องคืนกลับ ไปพักก่อน หรือ ไปในภพอื่น หรือสลายไป หรือเปลี่ยนสภาพเป็นพลังงานรูปแบบอื่น
เราต้องยอมรับในเรื่องนี้
พี่เคยเขียนคุยกับนักเขียนท่านหนึ่ง ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เริ่มเขียนความนึกคิดของเรา แล้วส่งเป็นจดหมายไปคุยกับคอลัมนิสต์ ซึ่งเราไม่รู้จักเขา เพียงแต่เราแว่บคิดคำนึงข้อคิดขึ้นมาได้ หวังใจว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ จึงเขียน
ปรากฎว่า ได้ลงจดหมายทั้งฉบับ
เนื้อความคือ เราจะโกรธหรือไม่เข้าใจกับคน โดยเฉพาะคนใกล้ชิด หรือหลัง ๆ พี่อยากใช้คำว่า "คนของความรัก" ไปทำไม
ไม่แน่ว่า วินาทีใดวินาทีหนึ่ง เราจากกันที่หน้าประตูบ้าน เย็นเลิกงาน เราคิดว่าจะพบกัน หาก..
เย็นนั้นเราไม่ได้พบกันเล่า
เราอาจจากพรากกันโดยไม่ทันได้กล่าวลา ไม่มีแม้สัญญาว่าจะพบกัน....
พี่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่พี่แว่บคิดขึ้นมาในวันที่พี่ และ สามี มีความขัดแย้งกัน
เรื่องมันนานแสนนานมาแล้ว
เมื่อเราขัดใจกันในวันนั้น พี่ไปอยู่เวรฉุกเฉินต่อ
ปรากฎว่ามีอุบัติเหตุค่อนข้างใหญ่ มีผู้เสียชีวิตหลายคน เมื่อเราจัดการงานเรียบร้อย
สิ่งแรกที่พี่ทำ คือ โทรไปปรับความเข้าใจกันและกัน
ตอบซะยาว...น้องแอ๊ด คงเข้าใจ
เมื่อ พ. 28 ม.ค. 2552 @ 05:26
1097610 [ลบ] [แจ้งลบ]
สวัสดีค่ะคุณหมอเล็กภูสุภา
วิธีการนำเสนอความรักของผู้เป็นพ่อแม่นี้...อาจต้องมีโรงเรียนสอนทีเดียว
"อาจต้องมีโรงเรียนสอน" แปลว่า อาจต้องมีผู้ถ่ายทอด (หรือหน่วยที่รับผิดชอบถ่ายทอด)
ความรู้ชุดการสื่อสารในครอบครัว อย่างเป็นระบบครบกระบวน ถี่ถ้วนทุกมิติการสื่อสารของมนุษย์ ทั้งการสื่อสารภายในใจตนเองและการสื่อสารกับบุคคลอื่นในครอบครัว
คงพอเรียกว่า "เรียนรู้ Family Communication เพื่อนำไปสู่ Effective Family Communication" ได้กระมังคะ
ประสบการณ์เรื่องการสื่อสารในครอบครัวนี้น่าเรียนรู้และน่าศึกษามากเลยค่ะ ทุกคนมีประสบการณ์นี้ เพียงแต่จะนำมาคิดวิเคราะห์เพื่อปรับแก้ให้ดีขึ้นหรือไม่เท่านั้น
หากโชคดีพอ คนในครอบครัวคิดวิเคราะห์ร่วมกันด้วยความเข้าใจ และปรับวิธีสื่อสารเสียใหม่ให้เป็นการสื่อสารที่น่ารัก และนำเสนอความรักได้อย่างถูกวิธีเหมาะแก่วิถีของครอบครัวนั้นๆ เราจะได้หน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม ที่มีความมั่นคงทางจิตใจเพิ่มขึ้นมาอีกหลายหน่วย และหน่วยเล็กๆเหล่านั้นก็จะเป็นรากฐานของความเข้มแข็งมั่นคงของสังคมต่อไป เราจะได้สังคมสุขภาวะเป็นของขวัญ ได้พ่อแม่ลูกที่น่ารักเป็นรางวัล คิดแล้วอยากไปแต่งงานจริงๆ อิๆๆๆ
เวลาจะฝึกให้นักศึกษาทำงานอะไรสักอย่างแล้วเธอไม่ได้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ พี่แอมป์ชอบล้อเด็กๆด้วยประโยคนี้มากเลยค่ะ
"..ครูไปแต่งงานดีกว่า..."
แล้วเด็กก็จะฮากันครืน เพราะหน้าตาพี่ดูตั้งอกตั้งใจมาก ว่าพี่หมายฟามเช่นนั้นจริงๆ
พี่ตั้งใจสื่อความหมายว่า "ถ้าเราเสียเวลาชีวิตเพื่อทำสิ่งนี้ แล้วมิได้คุณค่าอย่างที่ตั้งใจ ทำแล้วสูญเปล่า เราจะไปเสียเวลาทำไม เราไปทำอะไรของเราเอง ให้เราได้รับเอาคุณค่าจากสิ่งที่เราทำอย่างเต็มที่... มิดีกว่าหรือ?"
แล้วพี่ก็ตัดบททันควันว่า "อย่าตอบครู จงตอบตัวเอง... และขอให้โชคดี เพราะคำตอบแท้ๆจากใจคุณวันนี้ ...จะกำหนดชะตาชีวิตของคุณเอง..และครอบครัว..ในวันหน้า
...ถ้า คุณ มี ! ..."
แปลอีกทีว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตมนุษย์สิ่งหนึ่งคือการมีครอบครัวที่ดี อยู่ในครอบครัวนั้นแล้วอบอุ่นมีความสุข พี่ถามเด็กๆว่าหากคุณได้ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก แลกกับการสูญเสียครอบครัวที่ดีของเราไป อย่างไม่มีวันเอากลับคืนมาได้ คุณจะยอมไหม?
นึกแล้วกลุ้มใจวิธีสอนของตัวเองเหมือนกันจ๊ะ เพราะพี่คิดเอาเอง(ด้วยสามัญสำนึกบ้านๆ)ว่าอะไรน่าจะเป็นปัญหาในชีวิตบ้าง แล้วพี่ก็ยกปัญหาขึ้นมาคุยกับเด็กๆเพื่อวิเคราะห์พินิจพิจารณาร่วมกัน จากนั้นก็ร่วมหาทางออกแบบทะลุ่มทะลุยตามใจฉัน แล้วก็ปล่อยให้เด็กๆไปคิดเอง ไม่เคยมีคำตอบสำเร็จรูปให้เขาสักที เด็กๆที่เรียนกับพี่จึงประเมินผลการสอนอย่างมั่นใจว่า "...จารย์สอนอะไรก็ไม่รู้..ไม่รู้เรื่อง"..ต่อเนื่องกันมาจนทุกวันนี้ (และพี่ก็ทำใจได้แล้วนะจ๊ะ) : )
สุดท้ายนี้ พี่ก็ได้มองเห็นอีกครั้งว่า ความรักของพ่อกับแม่ทำให้ลูกมีหัวใจที่อ่อนโยน ..หากนำเสนออย่างถูกวิธี จากบันทึกถึงลูกภูของคุณหมอเล็ก ที่อ่านแล้วก็รู้สึก "อิ่ม" อย่างยิ่งเช่นกัน
และทำให้พี่รู้สึกว่า Family Communication ที่ดี เริ่มต้นจาก "ความรักและความตั้งใจที่จะเข้าใจกันโดยแท้จริง" เป็นพื้นฐานสำคัญ
ขอบคุณจริงๆที่หมอเล็กแวะมาร่วมสนทนาเติมเต็ม
สามารถอ้างอิงเรื่อง "ครอบครัวศึกษาฯ" ให้เห็นหลักฐานจริงเชิงประจักษ์(แก่ตา)ได้ ในบันทึกของคุณหมอเล็กนะคะ : ) : )
------* ------ *------ *------- *-------- *------- *--------* ------- *-------
**ต้องขอขอบคุณพี่แอมป์เช่นกันค่ะ ที่เข้าใจวัตถุประสงค์ของน้องที่มีบันทึกถึงลูก
และ ขอยืนยันค่ะ ว่าสังคมหน่วยเล็กสุด ครอบครัว ถ้ามีสุข เข้าใจกันและกัน..
บางครั้งเราเป็นครู บางครั้งเขา(ลูก) ก็เป็นเพื่อน(สนิท) เป็นติวเตอร์ เป็นผู้ชี้แนะ เป็นผู้ปลอบโยนใจเรา
ก็มีค่ะ
ขอขอบคุณ อาจารย์สุขุมาล จันทวี (ดอกไม้ทะเล)อีกครั้งค่ะ