เด็ก ไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก(ตอนหนึ่ง)
ทำไมเด็กบางคนเช่นลูกของเราเอง ไม่มีแรงขับดันหรือแรงผลักในหลายแขนงวิชาหรือ กิจกรรมที่อยากให้เขาสนใจ
ทั้งที่เขามีโอกาส มากกว่าหลายคน
ทำไมจึงสนใจเฉพาะบางเรื่อง ที่เราพ่อแม่คิดว่าเราไม่ได้เน้น หรือจริง ๆ แล้วไม่ได้สนับสนุนเขานัก
เช่น การเล่นเกมซึ่งยังดีที่เขาเล่นในสายตา
ถ้าไม่เล่นในสายตาคือห้ามเล่น
ทำไมมีคำพูดหลุดมา ให้ได้ยินบ่อย ๆ ว่า
"บางวิชาตั้งใจหรือขยันไปก็ไม่มีประโยชน์ ใช้หาเงินไม่ได้ไม่ใช่หรือแม่"
"ครูประจำวิชานี้ เขาไม่ชอบแบบที่น้องทำนี่แม่"
"แม่ แม่ แม่ แม่ทุ่มเททำสิ่งนี้เพื่ออะไร ไม่เห็นได้อะไรตอบแทนเลย"
(ถักหมวกเด็กแจกเด็ก ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ คนรู้จัก ลูกของผู้ช่วยที่คลินิก)
"ถ้าพ่อคิดจะเปลี่ยนงาน งานใหม่ได้เงินเดือนดีกว่าหรือครับพ่อ"
"พ่อครับ พ่อคิดว่าอาชีพอะไรน่าเรียน น่าทำที่สุดรายได้ดี ๆ น่ะพ่อ"
"เป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ หรือ นักมวยอาชีพก็ดีนะพ่อ เงินรางวัลสูงจังครับ"
ทำไม ทำไม และทำไม
เราจึงมานั่งคิด ถก พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทำไมลูกมองโลกแคบจัง
เขายึดเอา สิ่งที่เขาเห็นบ่อย ๆ ในคอมพ์พิวเตอร์ หัวข้อข่าวสาร ข่าวฮิตติดอันดับ หรือความรู้บางอย่างเฉพาะที่เขาสนใจในหนังสือ ในคอมพ์พิวเตอร์ ใช่หรือไม่
เมื่อแรกเริ่มที่เขาสนใจ หิวกระหายอยากเรียนรู้การใช้คอมพ์พิวเตอร์ หิวกระหายอยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
โลกของเขาดูราวกับว่า มันกว้างขึ้น กว้างมาก กว้างกว่าโลกของพ่อ ของแม่
ดู ๆ ไปเขาเหมือนฉลาด รู้ทางกว้าง
แต่เขาไม่รู้ ทางลึก
เขาทุ่มเท จนแตกฉานภาษาอังกฤษ เคยทดสอบด้วยโปรแกรมเกี่ยวกับการสอบภาษาอังกฤษ (TOELF) คะแนนเขานำลิ่ว เลยแม่ไปมาก ขั้น advance หรือ excellent โน่น
เขาจึงสนุกกับการใช้ search engine เกือบทั้งวัน ในช่วงเวลาที่ปิดเทอม สลับกับการอ่านหนังสือเล่มพกพา pocketbook
แต่สิ่งที่เราสองคนเริ่มวิตกกังวล คือ
โลกหรือสิ่งที่เขารู้มันระนาบเดียว
มันไม่ใช่ชีวิตแบบรายรอบตัว อย่างที่เราหรือเขาหรือทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่กับมัน
มนุษย์ ต้องมีชีวิตจริง ที่ลึก กว้าง
จึงอยากหยิบยกเรื่องลูกกับการหล่อหลอมเขาในรูปแบบใหม่อีกรูปแบบหนึ่งมาลองพูด เล่า แลกเปลี่ยนเรียนรู้
หยิบเรื่องลูกเราเองดีที่สุด เห็นกันทุกวันถามได้และมักได้ฟังเหตุผลแปลก ๆ เสมอ
สิ่งสำคัญ สะท้อนกลับมาที่เราทั้งคู่ด้วยว่าได้ให้โอกาสเขาครบจริงหรือไม่
ปฎิสัมพัทธ์กับผู้อื่นที่ใกล้ชิดเช่นญาติ มิตร เพื่อนสนิท
สังคมแบบท้องถิ่น ตลาดสดประจำตำบล การฝึกหัดค้าขายปลีก
การมีสังคมเพื่อนบ้าน หรือ สังคมหน่วยใหญ่ที่เหนือกว่าครอบครัวในโลกจริง ไม่ใช่โลกเสมือนอย่างโลกไซเบอร์
ขนบประเพณีบางอย่าง เช่นงานบวชนาค งานศพ งานแต่งงานท้องถิ่น
กีฬา
งานสังคมสาธารณประโยชน์ เช่นแบบจิตอาสาโกทูโน
การให้กลับคืนสู่สังคมเช่น การไปบริจาคอาหารแก่เด็กยากไร้ที่เราเคยไปกัน
การไปกราบไหว้ สนทนาธรรมกับพระปฎิบัติ
และเหนืออื่นใด
การปฎิบัติธรรม
เขาเริ่มขาดส่วนนี้ไป พร่องไป เราสรุปแก่เรากันเองเพราะเราหลงลืม หยิบยื่นโอกาสให้เฉพาะบางสิ่ง
ซึ่งเราสองคนไม่มัวกล่าวโทษกันเองเรื่องงานเต็มมือ ไม่มัวระทดท้อ คุณพ่อขายาว เริ่มวางแผนวันหยุดระหว่างสัปดาห์ หรือนับแต่นี้ไป เราจะเริ่มตั้งต้นกันอีกสักครา
เรายังมีเวลา
เขายังเด็ก
เขายังพร้อมรับการปรับแต่ง เปลี่ยนแปลงทัศนคติ
กลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ และ เวลาเท่านั้นที่ต้องเริ่มต้นทุ่มเท
*จะมาเล่าให้ฟังอีกค่ะว่าจะดำเนินการอย่างไร*
ผู้รู้ผ่านมา กรุณาถ่ายทอดวิทยายุทธ์ จะเป็นพระคุณ ค่ะ
บางครั้งเราก็ต้องปล่อยวางบ้างค่ะ
ทุกวันนี้ที่คนเราต้องผิดหวัง ก็เพราะเราหวังผิด
หวังว่าสิ่งต่าง ๆ จะต้องเป็นไปอย่างใจเรา
หวังให้ลูกเดินตามทางที่เราวางไว้ให้
ปล่อยให้น้องค่อย ๆ เรียนรู้โลกไป
เราในฐานะแม่ก็ค่อย ๆ ประคับประคอง
เมื่อลูกอยู่ปฐมวัย จงเป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกให้เต็มที่
เมื่อลูกอยู่วัยปฐมศึกษา จงทำตนเป็นพี่ที่ดีของลูก
เมื่อลูกอยู่วัยปฐมศึกษา จงเป็นเพื่อนที่ดีของลูก
เมื่ออยู่วัยอุดมศึกษา จงเป็นที่ปรึกษาของลูก
เมื่อลูกออกไปทำงาน จงเป็นคนคุ้นเคยของลูก
ขออภัยที่จำที่มาไม่ได้ เดี๋ยวขอกลับไปค้นดูแล้วจะกลับมาบอกที่มานะคะ
ค่อย ๆ คิด แก้ไขไปนะคะ
จะคอยเป็นกำลังใจให้ค่ะ
จาก...คุณแม่ลูกหนึ่ง
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะอาจารย์
สิ่งที่อาจารย์กรุณาเขียนแนะนำนี่แหละค่ะที่อยากตอบ อยากให้เขาอ่าน ทำความเข้าใจ
เงินไม่ใช่สิ่งที่คัญที่สุด
ดูเหมือนเขา แตกแนวไปเมื่อไรไม่ทราบ ว่า ดัชนีชี้วัด ความสำเร็จของคนมีข้อนี้มาประกอบ
เราสองคนพ่อแม่ เริ่มแหม่ง ๆ เริ่มคิด เริ่มที่จะพาเขาไปดู ทำให้ดู และอื่น ๆ ที่คิด ๆ กันเอาไว้
ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวพันกัน ตั้งแต่หน่วยเล็กสุดของร่างกาย(ขอยกตัวอย่างนี้ก่อนแล้วกันค่ะ) ไปจนถึงหน่วยใหญ่ ๆ หรืออวัยวะแขนขา
เคยอธิบาย และพาให้เขาไปดู เผื่อเข้าใจงานตรวจทางวิทยาศาสตร์ระดับเซลล์บ้าง
พอทราบหรือรับรู้ได้หรือไม่ ยังต้องพุดคุยกันค่ะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
คุณหมอคะ พี่ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกจะเริ่มมีความคิดของตัวเอง แตกแนวจากที่เราวางไว้ให้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
พี่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว และถอยมาตั้งหลัก พิจารณาอย่าละเอียดรอบคอบ ที่สำคัญ ต้องค่อยๆตะล่อมเขาค่ะ ใช้จิตวิทยามากๆ แบบละมุนละม่อม จริงๆ เ ขาก็ไม่ไปไหน เพียงแต่ ต้องการเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เชื่อใ นความคิดของตัวเองมากขึ้น
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกพี่ จะไปหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านให้ได้ ที่สยามสแควร์ ตอนอยู่ ม.1 ดึงดันมาก เพราะพี่ที่โตกว่า ชวนเขา สรุปว่า ให้เงินไปก้อนหนึ่งไม่มาก เพราะเรารู้คำตอบอยู่แล้ว อีกไม่นาน เจ๊งสนิท ตอนนี้ เงียบกริบเลย
บางที อาจต้องมีการ ซื้อบทเรียนบ้าง อายุจะเข้าวันรุ่น ไม่ค่อยฟังผู้ใหญ่ ฟังเพื่อนมาก พี่เหนื่อยมามากค่ะ แต่พอผ่านช่วงวัยนี้ไป ก็สบายแล้วค่ะ
พี่มีบันทึกนี้ อยากให้อ่านค่ะ
Sasinand "ใช้จิตวิทยามากๆ"
ค่ะพี่คะ กำลังคิดกันค่ะ
การใช้จิตวิทยา
การออกภาคสนามชีวิตจริง
การพาไปช่วยงานแม่ที่ห้องทำงาน
การพาไปดู site งานจริงของพ่อ (โรงไฟฟ้า)
การพาไปสถานสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสกว่าเรา
การเกษตรแบบพอเพียง
ตลาดสดทั้งหลาย
การค้าหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์ พาให้เขาดู เพราะเขาสนใจ
งานห้องผ่าตัดของโรงพยาบาล (ฉพาะส่วนที่พอให้ดูได้)
งานศูนย์แพทย์ชุมชน
ไปวัด สนทนาธรรม
ที่พาไปมาแล้ว คือศูนย์ค้าส่งโบ๊เบ๊ทาวเวอร์และตลาดสด
ยังไม่ได้สรุปกันแบบเนียน ๆ คือซึม ๆ ถามไปเรื่อย ๆ
** **
ไปอ่านบันทึกพี่แล้วค่ะ หากส่วนหนึ่งน้องคิดว่า มันมากับพันธุกรรมด้วยนะคะ
แน่นอนสิ่งแวดล้อมและการเหนี่ยวนำ หล่อหลอม..สำคัญ
สังเกตุที่ประเภทหนังสือที่สนใจเลือกอ่าน อันนี้เหมือนมาทางพันธุกรรม
ส่วนท่าทางการอ่านของลูก น่าจะมาจากการเลียนแบบพฤติกรรม หรือ เห็นมาตามสิ่งแวดล้อมค่ะ
ท่าอ่านหนังสือของลูก เหมือนคุณพ่อเปี๊ยบเลยค่ะ คือ
นอนอ่าน !!!
มาอ่านความคิดเห็นที่ลึกซึ้ง อีกรอบ
แล้วสังคม(ที่ดี) ก็คืนกลับ ความรู้สู่สังคม สู่ชีวิต
อีกครั้ง
ชอบมากค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง
เมื่อลูกอยู่ปฐมวัย จงเป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกให้เต็มที่
เมื่อลูกอยู่วัยปฐมศึกษา จงทำตนเป็นพี่ที่ดีของลูก
เมื่อลูกอยู่วัยปฐมศึกษา จงเป็นเพื่อนที่ดีของลูก
เมื่ออยู่วัยอุดมศึกษา จงเป็นที่ปรึกษาของลูก
เมื่อลูกออกไปทำงาน จงเป็นคนคุ้นเคยของลูก
มาอ่านทบทวน ตรงนี้ดีจริง ๆ ค่ะ คุณora Ora
สวัสดีค่ะ คุณหมอ
สวัสดีค่ะ เขียนดีจังเลย
เหมือนได้อ่านหนังสือหนึ่งเล่ม
ท่าทางจะคล้ายกัน แต่อย่าเหมือนกันนักนะคะ เดี๋ยวคุณแม่น้องพอ จะปวดหัวเหมือนพี่
คะแนนงานของพี่ภู เกี่ยวกับวิชาศิลปโดนหักคะแนนเพราะไม่ยอมระบายสี ชอบวาดเป็นลายเส้น
ครูถามว่า ทำไมไม่ระบายสีของท้องฟ้า เขาบอกว่า ฟ้าวันนี้(ที่เขาวาด) "พระอาทิตย์กำลังฉายแสงจ้า เป็นฟ้าไม่มีสี"
เขาเลยได้คะแนนสะสม น้อย ค่ะ อิ อิ
คุณ กอก้าน>>>ก้านกอ ขา
เด็กหนึ่งคน เรื่องของเขา เรื่องของเรา(พ่อและแม่)
และวีรกรรม ของเขา ที่บ้าน โรงเรียน เพื่อนเขาอีก..โอ๊ย..
รวมไปรวมมา หลากเรื่องราวมากเกินหนังสือหนึ่งเล่มจะเขียน หรือ บันทึกได้จบค่ะ
ขอบคุณที่มาติดตามอ่าน ค่ะ