คุณพยาบาลที่เป็นอาสาสมัครกัลยาณมิตรท่านหนึ่ง (sister ประภัสสร) ได้มาปรึกษาผมว่า มีผู้ป่วยเป็นครู รร. ประถมคนหนึ่งป่วยด้วยมะเร็งเต้านมมาประมาณ 5 ปีแล้ว คุณครูปฏิเสธการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันมาตลอด+ใช้แพทย์ผสมผสาน sister ได้ดูแลผู้ป่วยมาเป็นปี ตอนนี้เริ่มมีแขนขวาบวม+ก้อนที่เต้านมเริ่มโตขึ้น คุณครูปิดบังคนใน รร. มาตลอดเรื่องการป่วยเพราะกลัวว่า จะเป็นภาระแก่คนอื่น ผมบอกกับ sister ว่าถ้าคุณครูยินดีจะรักษาก็มาหาผมได้
คุณครูมาหาผมวันจันทร์ ครูนับถือศาสนาคริสต์ มีลูกสาวอายุ 7-8 ขวบ สามีทำงานรับจ้าง หลังจากคุยกัน+ตรวจร่างกาย พบว่าก้อนมะเร็งขึ้นมาที่ผิว+ต่อมน้ำเหลืองโต+แขนบวม+เส้นเลือดที่หน้าอกเริ่มเห็นชัด สรุปว่า เป็นมะเร็งที่ลุกลาม/ต่อมน้ำเหลืองกดทับเส้นเลือดดำทำให้แขนบวม
ผม "หลังจากที่เริ่มแขนบวม แล้วมีผมกระทบกับชีวิตยังไงบ้าง"
ครู " ปวดคะ โดยเฉพาะตอนกลางคืน คุณหมอคะฉันควรทำอย่างไรดี"
ผม "โรคตอนนี้เป็นค่อนข้างเยอะ น่าจะอยู่ในระยะที่ 3 เป็นอย่างน้อย คงต้องตรวจว่ามีการลุกลามของมะเร็งไปแล้วหรือยัง เพื่อประเมินว่าจะต้องรักษากันอย่างไร"
ครู "ดิฉันรักษาช้าไปไหมคะ"
ผมฟังดูแล้วรับรู้ได้ว่าเธอรู้สึกผิดที่ไม่รักษาตั้งแต่แรก
ผม "การตัดสินใจที่ผ่านมาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น ผมคิดว่าไม่มีอะไรผิดถูก" ผมถามต่อเรื่องครอบครัว
"ที่ผ่านมาดูแลตนเองด้วยวิธีใดบ้าง"
สามีที่มาด้วยกันตอบ "ผมช่วยปรุงยาสมุนไพรให้เขากินตลอด"
ผมรู้สึกเห็นแววตาสามีที่เป็นห่วงภรรยาและผมรู้ว่านี่คือพลังแห่งการเยียวยาที่ดีมาก
ครู "เขา (สามี) ดูแลดีมาก ส่วนฉันรักษาใจด้วยตัวเอง ฉันเชื่อในพระเจ้า ท่านชี้ทางชีวิตให้เราเสมอ"
ผม "ครูคิดยังไงกับความเจ็บป่วยในครั้งนี้"
ครู "ดิฉันคิดว่า เป็นการถ่ายบาปให้แก่เพื่อนมนุษย์ ดังเช่นพระองค์ "
ผมเห็นศรัทธาที่แรงกล้าในแววตา+รับรู้น้ำเสียง
ผมอธิบายทางเลือกให้เธอฟังว่า หากจะสู้ก็คงต้องตัดชิ้นเนื้อตรวจ+ตรวจหาว่ามะเร็งกระจายหรือยัง ถ้ายังการรักษาเช่นเคมีบำบัด/ฉายแสงจะลดความเจ็บปวด ก้อนไม่โตขึ้นและยืดระยะเวลาการมีชีวิตได้
ผมประสานงานกับ ศัลยกรรม/อายุรกรรม และวางแผนนัดเธอมาตรวจวันจันทร์นี้(พรุ่งนี้) ระหว่างนี้ผมให้ยาลดปวด ประโยคสุดท้ายเกี่ยวกับความหวังของเธอคือ
" ดิฉันเชื่อว่าพระเจ้าเดินเคียงข้างฉัน"
"พระเจ้าช่วยฉันผ่านคุณหมอ"
ผมได้เรียนรู้ว่า "ศรัทธา" ทรงพลังขนาดไหน และผมก็หวังว่า มะเร็งจะยังไม่กระจายไปไกล (locally advanced) และถ้าโชคดีกว่านั้น ก็ขอให้ผมชิ้นเนื้อตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศ (estrogen/progesterone receptor) เพื่อจะได้ช่วยเธอได้มากขึ้น
ผมชักจะเชื่อจริงๆแล้วนะครับว่า "พระเจ้ามีจริง"
เคยเจอ case แบบนี้เช่นกันค่ะ
ผู้ป่วยเป็นคริสต์เตียน...และได้มีโอกาส counselling แล้วก็พบว่าเธอมีศรัทธาและ hope ที่ดีเหลือเกิน...
ตอนนี้เธอกลับบ้านแล้วค่ะ...หวังเหลือเกินว่าเธอจะยังคงมี hope ในการดูแลตัวเองต่อไป