กลับบ้านบ้างก็ได้นะ ลูก
เสียงของแม่สั่นเครือผ่านมาจากคลื่นโทรศัพท์
ไม่ว่าวันและคืนจะล่วงมายาวนานแค่ไหน
แม่ก็ไม่เคยร้องขอให้ลูกชายเช่นผมกลับบ้าน
นานและนาน ...
จนผมรู้สึกราวกับว่า
ผมกำลังกลายเป็นคนแปลกหน้าของ บ้านเกิด
.....
กลับบ้านบ้างก็ได้นะลูก
แม่ยังคงบอกเปรยเหมือนทุกครั้ง
หากแต่ครั้งนี้, มีหลายห้วงวรรคคำที่แม่เปรยพูดอย่างมากมาย
และดูประหนึ่งว่า ...
นี่คือครั้งแรกที่แม่เผยความในใจมากมายกว่าการสื่อความนัยด้วยแววตาอันโรยวัย
.....
หนาวแล้ว....
ยังปวดหลังอยู่หรือเปล่า
ศีรษะซีกขวายังปวดเจ็บอยู่หรือไม่
ขาซ้ายยังคงอ่อนแรงอยู่ใช่ไหม ...
.....
นั่นเป็นถ้อยคำแห่งความรู้สึกอันห่วงใยที่เปรยขึ้นมา
และเป็นการเปรยบอกมากกว่าการต้องการคำตอบใด ๆ
เพราะแม่รู้อยู่แล้วว่า ..
ห้วงนี้ผมกำลังทำสงครามกับอะไรอยู่
......
กลับบ้านบ้างก็ได้นะ ลูก
การเลือกที่จะให้ตนเองหยุดพักเสียบ้าง นั่นไม่ใช่การบ่งบอกถึงความเห็นแก่ตัว
หน้าที่ทุกหน้าที่ย่อมมีสมดุลของมันเอง
คนทุกคนย่อมอยู่ได้ด้วยตนเอง
และทุกคนย่อมมีที่ไหนสักแห่งรองรับการหยัดยืนอย่างมีตัวตน
แต่สำหรับลูกแล้ว.....
บ้าน คือสถานที่เดียวในห้วงนี้ที่รอการฟูมฟักให้ลูกคืนกลับสู่ความเข้มแข็งอีกครั้ง
เหล่านี้.... คือส่วนหนึ่งของเสียงอันแผ่วเบาแต่มีพลังที่ผ่านออกมาจากหัวใจของแม่
.....
ยังหรอกแม่ ....
ผมยังจะไม่กลับบ้าน
แต่ทันทีที่ผมปลดเปลื้องพันธนาการแห่งสถานะอันไม่ยั่งยืนนี้ได้
ผมจะกลับบ้าน ...
กลับไปหาแม่ ...
กลับไปให้หัวใจของผมได้รับการเยียวยาและฟูมฟักพลังชีวิตอีกครั้ง...
.....
แม่ครับ....
ผมคิดถึงบ้าน !
ส่งกำลังใจไปเต็มๆ นะคะ...ขอให้ประสบความสำเร็จค่ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอนะนัส แม้ว่า บางทีพี่จะไม่ค่อยเข้าใจในวิถีของนัส แต่พี่มั่นใจว่านัสทำอะไรมีเหตุผลและมีความตั้งใจดีเสมอ
เหนื่อยนักก็พักก่อน อย่าลืมว่านัสมีคนของความรักรายรอบและคอยดูแลอยู่เสมอนะ
สู้ๆ ทาเคชิ !!
เป็นกำลังใจให้นะค่ะอาจารย์ ถึงแม้การใช้ชีวิตกับการเลี้ยงชีวิตจะมีความแตกต่างกัน แต่น่าลองดูนะค่ะ บางทีความพิเศษอาจจะเกิดขึ้นในจังหวะชีวิตนั้น ห้วงของเวลาผ่านไปแล้วไม่หวนคืนกลับ ..
ป้าหมูคิดถึงทุกคนนะค่ะ มีใครคิดถึงป้าหมูหรืเปล่า
สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน
"กลับบ้านเรามากินข้าวกับพ่อแม่บ้าง อย่าปล่อยให้ท่านอ้างว้าง มองต้นยางด้วยความเปลี่ยวเหงา ยังจำได้ไหม อุ่นไอในบ้านของเรา ล้อมวงกินข้าวให้เราได้อิ่มซึ้งใจ"...เพลงนี้น้องชายผมแต่งเพราะคิดถึงวันเก่าๆที่เรากินข้าวในกาละมังด้วยกันครับ
บางครั้งพ่อแม่คิดถึงก็ควรสละเวลาไปเยี่ยมท่านบ้าง เรามีพ่อแม่เพียงท่านเดียว ท่านต้องสำคัญที่สุด เพราะเวลาที่ท่านจะอยู่กับเราจะน้อยลงไปเรื่อยๆ ในขณะที่เวลาที่เราต้องอยู่กับงานก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ วันนี้ไม่ได้ทำพรุ่งนี้ก็ต้องทำ แต่กับพ่อแม่ถ้าไม่ได้ทำวันนี้อาจไม่ได้ทำให้ท่านเลย
แต่ก็นั่นแหละ เราก็ต้องจัดลำดับความสำคัญให้กับชีวิต ผมเชื่อว่าอาจารย์ทำได้ดีอยู่แล้ว ขอเป็นแรงใจด้วยคนครับ
สวัสดี รัตน์ชนก (ratchanokokom)
นี่คืออีเมลติดต่อจากผู้อ่าน กรุณาตอบโดยตรงไปยังผู้อ่านนั้น
------------------------------------------------------------
หัวเรื่อง: Miss you
ข้อความ:
สวัสดีค่ะ พี่นก;
น้อง,สาว พ่อและแม่ ติดต่อกับ ชาย พี่นก และน้องกวาง&กันต์ ไม่ได้เลย แม่คิดถึงมาก รบกวนพี่นก บอกน้องกวาง ให้โทรกลับแม่ให้ด้วยนะค่ะ..
ขอบคุณค่ะ
น้อง
นี้คือข้อความที่แม่แฟนของนกพยายามจะติดต่อลูกชาย(ชายคือพี่ชายภาษาบ้านคะ) เลยโทรให้น้อง สาวพยายามติดต่อ น้องสาวพอเป็นคอมอยู่บางพิมพ์ชื่อนก และเห็นนกใน gotoknow จริงฝากขอความไว้ เพราะติดต่อ พี่ชายให้แม่ไม่ได้
เมื่อนกได้รับ mail รีบโทรกลับไปหาแม่แฟน บอกว่านกลืมเอาโทรศัพท์มา แม่ของแฟนดีใจและบอกว่าติดต่อลูกชายไม่ได้
นี้คือสิ่งลูกชาย ลืมไป นกก้มีลูกชายกลัวเขาจะไม่คอยคิดถึงแม่จังเมื่อโตขึ้น
สวัสดีครับ...
ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจและแง่งามของชีวิตที่นำมากำนัลนะครับ
ผมเองระลึกถึงอาจารย์เสมอ -
แต่ตอนนี้, ขออนุญาตลงไปดุความเรียบร้อยเกี่ยวกับสถานที่นั่งของพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรก่อนนะครับ
สวัสดีครับ....
ขอบคุณที่ดูแลกันด้วยดีเสมอมาในเวทีแห่งการเรียนรู้แห่งนี้
บางทีผมอาจจะเป็นนักเดินทางเกินไปกระมัง วิถีที่เป็นอยู่จึงออกมาในแบบลักษณ์ของการ "บุกเบิก.. ต่อยอด" และจากลาไป
และผมก็ชัดเจนเสมอมาว่า ..ยศฐาบรรดาศักดิ์ เป็นสิ่งที่ผมไม่ยึดติด ผมเชื่อว่า ผมอยู่ที่ใดก็ได้ ... ผมมีตัวตนชัดเจน ถึงไม่อยู่ในวิถีกิจกรรม ผมก็ไม่เคยหล่นหายไปจากวิถีนี้...
สิ่งเหล่านี้ผมได้พิสูจน์แล้ว....
ภาวะนี้... บางทีผมอาจจะทำงานหนักจนเกินไปจริง ๆ ก็เป็นได้
.....
ขอบคุณเจ้มากครับ
หวัดดีครับ...ป้าหมูของเด็ก ๆ ...
สวัสดีครับ
สวัสดีครับ....
ช่วงนี้ก็ยังกลับบ้านไม่ได้ เพราะต้องลุยงานพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร .... แต่ปลายเดือนคงมีโอกาสได้กลับเป็นแน่ครับ แต่ต้นเดือนมกราคม - กลางเดือนก็ไปราชการยาวอีกรอบ....
ยิ้มให้กับตนเองเสมอครับ, ถึงแม้จะเป็นยิ้มแบบอิดโรย ผมก็ยังมีความสุขที่จะยิ้มให้กับตนเอง
และขอเป็นกำลังใจให้เช่นกัน
ขอบคุณครับ...
สวัสดีครับ..
สวัสดีครับ อ.ขจิต
สวัสดีครับ
การจัดลำดับความสำคัญของชีวิต เป็นเรื่องท้าทายสำหรับผมมาตลอด เป็นเรื่องที่ไม่ยากและไม่ง่าย ซึ่งผมเองก็พยายามอยู่มากสำหรับเรื่องนี้
ขอบคุณข้อคิดเตือนใจนะครับ...
สวัสดีครับ...
ดีใจนะครับที่เห็นอาจารย์ฯ กลับมาเขียนบันทึกอีกครั้ง
ส่วนเรื่อวกลับบ้านผมนั้น.... ผมคาดว่าต้องหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยโน่นเลย
ขอบคุณครับ...
สวัสดีครับ คุณนก
ผมได้อ่านข้อความที่คุณนกฝากให้ได้คิดหลายรอบ สัมผัสได้กับบรรยากาศสายสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอันอบอุ่น
บางทีอาจคลับคล้ายกับโบร่ำโบราณพูดเปรยไว้กระมังครับว่า ลูกผู้ชายเมื่อเติบโตก็ยิ่งไกลห่างไปจากบ้านเกิดของตนเอง ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงนัยสำคัญหลายประการ ทั้งการออกเรือน... การไปเป็นทหาร การไปท่องโลกและชีวิต ฯลฯ...
ตอนนี้โฆษณาในทีวีหลายเรื่องก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับสายใยของคนในครอบครัว ทุกครั้งที่ดูผมก็รู้สึกคล้อยไหวไปกับท้องเรื่องนั้น ๆ ....
ในเร็ววัน (ปลายเดือน) ผมคงได้กลับบ้านอย่างแน่นอนครับ..
สวัสดีครับ...
ทั้งในภาวะทุกข์ หรือสุข...บ้านยังเป็นสถานที่อันดับแรก ๆ ที่ผมเลือกที่จะไปพิงพัก
ผมจะไม่ยอมให้การงาน พรากชีวิตไปจากบ้านได้ทั้งหมด แต่ห้วงนี้ เวลาว่างยังไม่ลงตัวเท่านั้นเอง (ทั้งปี) ...
ยังไงก็จะต้องกลับบ้านให้ได้ ...ขอบคุณครับ
อ่านบันทึกนี้แล้วน้ำตาไหล
ไม่ต้องบอก...ก็คงทราบว่าคิดอะไร
.......
กลับบ้านนะครับ
ยากจะบรรยายความรู้สึกจังเลยครับ
ผมคิดว่าถ้าแยกร่างได้คงรีบไปหาในทันที
แต่สุดท้ายต้องจำใจทำหน้าที่ส่วนรวมก่อนส่วนตน
นี่แหละชีวิตคนทำงาน
พี่อึ่งอ๊อบ..ครับ...
สวัสดีครับ....
วิถีของการงาน ... คือความรับผิดชอบที่เราต้องตระหนัก แต่บ้านก็คือ หัวใจที่ผมไม่เคยหลงลืม เพียงแต่ยังต้องคงบริหารเวลาให้ดีกว่าที่ผ่านมา ...
ถึงไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่แม่ก็ติดตามเรื่องราวของผมอยู่อย่างสม่ำเสมอ โชคดีที่ยังมีเทคโนโลยีให้สื่อสารกันได้ แต่ผมก็ไม่จอมจำนนต่อเทคโนโลยีเสมอไป เพราะยังไงก็ต้องกลับบ้านไปด้วยตนเอง
ขอบคุณครับ