หนึ่งใจ..เดียวกัน ..ภาพยนตร์ที่น้องดินชวนผมไปดู


คนเราย่อมบอบบางต่อความดีงามเสมอ และกล้าที่จะแข็งกร้าวกับความเลวร้ายที่ย่ำยีชีวิต

เย็นของวันนี้  ผมพาลูก ๆ  และเพื่อนชีวิตไปดูภาพยนตร์เรื่อง  "หนึ่งใจ..เดียวกัน" (Where The Miracle Happens) จากบทพระนิพนธ์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

 

ไม่สิ อันที่จริงผมไม่ได้ชวนพวกเขาหรอก  หากแต่น้องดินนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเอ่ยชวนผมตั้งแต่เมื่อวาน  และผมก็รับปากไว้อย่างแข็งขันว่า  เป็นตายร้ายดี   วันนี้ยังไงเสียผมก็จะพาพวกเขาไปดูหนังเรื่องนี้ให้จงได้  

 

ผมไม่รู้หรอกว่า  แท้ที่จริงนั้น  น้องดินคิดอย่างไรถึงอยากไปดูหนังเรื่องนี้มาก  สังเกตได้จากการรบเร้าให้ผมพาไปดูมาอย่างต่อเนื่อง    แต่สำหรับผมแล้ว   ผมเองก็ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกเริ่มที่หนังเปิดตัวแล้วว่า  ยุ่งแค่ไหนก็จะไปดูเรื่องนี้ให้จงได้ 

 

ในโรงหนังของวันนี้  ดูเงียบไปถนัด  ขณะที่โรงข้าง ๆ  มีคนมากหน้าหลายตาซื้อตั๋วเข้าดูหนังฝรั่งอย่างครึกครื้น 

 

ผมชอบดูหนังมาก    แต่ผมไม่มีความรู้ความสามารถในการวิจารณ์หนังเอาเสียเลย 
การดูหนังในแต่ละครั้ง  จึงเป็นการดูเพื่อความบันเทิง  และดูเพื่อเสพสาระชีวิตในแง่มุมที่ผมคิดว่าโดนใจของตนเองเป็นสำคัญ

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า สร้างสรรค์สังคม 
ผมนั่งดูโดยมีน้องดินนั่งอยู่บนตัก  ขณะที่น้องแดนก็นั่งบนตักของเพื่อนชีวิต  
เราสามคนนั่งดูภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างนิ่งสงบ  เด็กสองคนนิ่งเงียบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  ทั้งน้องดินและน้องแดนจับจ้องเรื่องราวอย่างใจจดใจจ่อ

 

มีหลายตอนที่ผมพยายามบอกเล่าแทรกสอนให้เขาได้รับรู้ถึงชีวิต  โดยเน้นย้ำให้เห็นคุณค่าของการเรียน   การทำงานเพื่อตนเองและคนอื่นอย่างมีเหตุผล  รวมไปถึงการรักผืนแผ่นดินเกิดของตนเอง  ผมก็ไม่ละเลยที่จะมองข้าม - 

 

หลายต่อหลายตอนของภาพยนตร์เรื่องนี้  ปลุกเร้าให้เราทั้งสี่คนสะอึกสะอื้นอย่างสุภาพ และมีน้ำตาซึมไหลเล็ก ๆ อยู่เป็นระยะ ๆ   


กรณีดังกล่าวนี้   น้องดินยอมรับว่าตนเองน้ำตาไหล  ส่วนเจ้าจุกนั้นปากแข็งเป็นยิ่งนัก  โดยเจ้าตัวบอกว่า "ไม่ได้ร้องไห้"  พร้อม ๆ กับยืนยันเสียงแข็งว่า เป็นผลพวงของ "แมลงบินเข้าตา"  เท่านั้นเอง

 

 

 

 

ผมดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว  หวนคิดถึงวิถีชีวิตและการงานของตนเองเป็นยิ่งนัก  ความสะเทือนใจกับชะตาชีวิตของเด็กในถิ่นอันกันดารนั้น  ผมสัมผัสได้อย่างแจ่มชัด  ทั้งจากภาพยนตร์  และเบื้องลึกที่ผมสัมผัสมาจากหมู่บ้านต่าง ๆ  ซึ่งทุกวันนี้  ภาพทั้งปวงนั้น  ยังคงฝังจำอยู่ในหัวใจของผมเองอย่างแน่นหนา

 

จะว่าไปแล้ว  การสัญจรไปค่ายอย่างมากมายของผมนี่กระมังที่กลายเป็นต้นทุนที่ทำให้หัวใจของผมจำยอมที่จะสะเทือนใจไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างง่ายดาย   และไม่กังขาแม้แต่นิดกับคุณค่าและความหมายของการมีชีวิตอย่างไม่สิ้นหวัง  การพึ่งพาของมนุษยชาติ  ความเรียบง่ายและแสนงามของการใช้ชีวิต  และโลกอันสดใสไร้เดียงสาของเด็กที่รอการฟูมฟักจากผู้ใหญ่  การศึกษาและวัฒนธรรมในดินแดนอันแสนไกลและกันดาร  ฯลฯ

 

เฉกเช่นเดียวกันนี้  ในบางห้วง  ผมเองก็กลับคิดถึงอดีตของตนเองที่ครั้งหนึ่งเคยฝันไว้ว่าจะไปใช้ชีวิตเป็นครูอาสาตามชนบทอีสาน  รวมถึงการเฝ้าฝันที่จะเป็นบัณฑิตอาสา  ตระเวนไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ  ...

 

ผมดูภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมีความสุข   ถึงแม้น้ำตาจะปริ่ม ๆ  ซึม ๆ  บ้าง  แต่ก็ไม่เขินอายที่จะบอกลูกว่า ผมร้องไห้   เพราะผมกำลังจะบอกกับเขาว่า  คนเราย่อมบอบบางต่อความดีงามเสมอ  กล้าหาญที่จะแสดงความเคารพต่อความดีงาม  และกล้าพอที่จะแข็งกร้าวกับความเลวร้ายที่ย่ำยีชีวิต

 

ตลอดเวลาของการดูภาพยนตร์เรื่องนี้  ภาพชีวิตของผมและนิสิตในค่ายต่าง ๆ  ผุดขึ้นมาเป็นฉาก ๆ  ผมคิดถึงเรื่องราวของตัวเอง  คิดถึงวิถีที่ตนเองดุ่มเดินมาอย่างยาวนาน คิดถึงรอยยิ้มของเด็กนักเรียนตัวมอม ๆ  คิดถึงรอยยิ้มของการเป็นผู้ให้ของนิสิต

 

และฉากหนึ่งที่นักเรียนร่วมกันเชิญธงชาติและร้องเพลงชาติอยู่นั้น  ยิ่งทำให้ผมอดคิดถึงภาพการทำงานของน้องนิสิตที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก    ชุมชนเด็กรักป่าของพี่หน่อยไม่ได้   ครั้งนั้น  นิสิตร่วมแรงใจสร้างเสาธงให้น้อง ๆ อย่างไม่ลดละ  ภายใต้ระยะเวลาอันน้อยนิด  พวกเขาก็ทำได้จนสำเร็จ   ครั้นรุ่งเช้าก็ร่วมกันเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาพร้อม ๆ  กับการร่วมร้องเพลงชาติอย่างแสนสุข และเต็มไปด้วยพลัง  ราวกับไม่ได้ร้องเพลงนี้มาเสียนาน

 

 

เช้าวันนั้น ...
ผมถามนิสิตว่า  นานแค่ไหนแล้ว  ที่เขาทั้งหลาย  ไม่ได้ร้องเพลงชาติหน้าเสาธงเช่นนี้ 
?
และเขารู้สึกเช่นไรบ้าง  กับการได้ร้องเพลงชาติต่อหน้าเสาธงที่เขาทั้งหลายได้ร่วมกันสร้างขึ้นมากับมือ

 

ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครแม้แต่คนเดียวเอ่ยปากตอบคำถามของผม   แต่ผมก็รู้ได้ด้วยหัวใจว่า  พวกเขาทั้งหลาย  มีความสุขกับชีวิต  และสัมผัสได้ถึงความสุขของการเป็นผู้ให้อย่างมหาศาล 

 

และนั่นก็หมายรวมถึง  การได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าและความงดงามที่มีอยู่ในตัวตนของตนเองด้วยเช่นกัน

 

 

 

..................................................................................................

 

หมายเหตุ    ภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์จาก Kapook.com

                ภาพกิจกรรมนิสิตจากโครงการเรียนนอกห้องเรียน  ปรับเปลี่ยนทัศนคติ สู่จิตสำนึกสาธารณะ ครั้งที่  1

               

หมายเลขบันทึก: 201915เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2008 22:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (23)

ตามมาดู กิจกรรมสร้างสรรค์ครับพี่

สบายดีไหมครับ

เรื่องนี้..หลานสาวก็ชวนไปดูค่ะ.

ดูเบื้องหลังแล้ว..ยังตื้นตันใจเลยค่ะ..

พอดีเข้ากับชีวิตครูเลย..

ก็เลยซึ้งเป็นพิเศษ

แต่จนถึงวันนี้..ยังไม่มีเวลาได้พาหลานไปเลยค่ะ..เฮ่อ..

หนังเรื่องนี้นุ้ยก็ชวนพี่เต้ยไปดูค่ะ แต่พี่เค้าบอกว่า ไม่ไปดูหรอก หนังที่ต้องเห็นนุ้ยร้องไห้ เหอะๆๆๆๆๆๆๆ

สงสัยนุ้ยคงต้องชวนคนอื่นไปดูซะแล้ว 555

  • ตามมาร่วมซาบซึ้งใจไปด้วย กลุ่มคนเล็กๆที่ทำดีต่อสังคมไม่ค่อยได้รับความสนใจและการตอบรับจากผู้คนเท่าไหร่
  • เมื่อก่อนพี่ก็อยากเป็นครูอาสาค่ะ เสียแต่ว่าที่บ้านไม่ยอมให้ไป

ตั้งใจนะครับว่าจะไปดูให้ได้ตั้งเเต่ตอนที่ไปดู สามก๊ก เห็นตัวอย่างเเล้วอยากดูมากเลย เเต่ทว่า ตอนนี้ยังไม่ค่อยสดวกอะครับ เเต่จะต้องดูให้ได้เพราะยังสิ่งดีๆในสังคมที่ใครสักคนจะทำเพื่อนใคนอีกหลายคนนั้นหายากนะครับ

.......ยังไงพี่ก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับอย่ามัวเเต่ทำงาน....

  • ธุค่ะ..

เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ต้อมบอกตัวเองว่า "จะต้องไปดูให้ได้"  ^^

สวัสดีครับ  ครูโย่ง

  • ไปดูหนังเรื่องนี้หรือยังครับ
  • หนังชีวิตที่ให้อารมณ์สะเทือนใจ พอ ๆ กับสาระชีวิตที่ง่าย ๆ แต่มีพลัง
  • หรืออาจเป็นเพราะผมสนใจกิจกรรมเพื่อสังคมในแนวนี้อยู่แล้ว
  • พอได้ดู ยิ่งสัมผัสได้ง่าย
  • ....
  • ไปดูนะครับ
  • อย่างน้อยก็เชียร์หนังไทยของเราเอง
  • สวัสดีค่ะอ.แผ่นดิน
  • อยากจะชมภาพยนต์เรื่องนี้มาก รอจังหวะอยู่ค่ะ
  • เพราะบ้านเราอยู่หลังเขา คิดว่าภูมิประเทศคงจะคล้ายๆกับหมู่บ้านที่นี่ค่ะ
  • คุณครูของเราก็ลำบากพอๆกัน แต่ก็พากันสอนด้วยใจค่ะ
  • ขอบคุณที่เล่าสู่กันฟังนะคะ

สวัสดีครับ

เป็นหนังที่ดีนะครับขอบคุณที่นำมา ประชาสัมพันธ์ คนมักจะไปดูหนังต่างประเทศ ส่วนหนังไทยคนไทยมักจะไม่ให้ความสำคัญ หนังเรื่องนี้คงช่วยกระตุ้นเตือนให้ใครหลายๆ คนหันมาทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม บ้างนะครับ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  

ดีจังค่ะ แค่อ่านก็อยากไปดูเสียแล้วค่ะ

ไปดูตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย ... เสียดายว่าคนไทยไปดูน้อยมาก...

ดูที่ตึกคอมซีนีเพก... มีคนดูประมาณสิบคน...

.....

น้อมใจลงดูด้วยความซาบซึ้ง...

น้ำตาซึมด้วยความปิติ ... ในความมีน้ำใจ และการแบ่งปัน

เป็นเรื่องราวที่สวยงาม... ประทับในความทรงจำ

อยากให้ผู้คนไปดูมากๆ... ไม่ได้เพียงแค่การดูหนังแต่หากได้อะไรมากมายยิ่งกว่าการได้ดูหนัง...นั่นเอง

(^___^)

ขอบคุณค่ะ

เห็นด้วยค่ะว่าเราต้องสันบสนุน หนังไทยที่มีเนื้อหาที่ดี สร้างสรรสังคม

สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน

ขอบคุณค่ะสำหรับการเล่าเรื่องหนั

แค่อ่านที่คุณแผ่นดินเขียนก็ประทับใจแล้ว จะไปดูให้ได้ค่ะ

ยังไม่ได้ไปดูครับ เข้าใจว่ามีโอกาสจะตามไปดู ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับ  คุณครูแอ๊ว

  • อย่าลังเลเลยนะครับ  รีบพาหลาน ๆ ไปดู
  • สองหนุ่มของผม  ดูเรื่องนี้อย่างนิ่งสงบ
  • เขาคงละเอียดอ่อนพอที่จะซึมซับกับความดีงามและสะท้อนใจกับความเลวร้ายของบางเรื่อง
  • ดูแล้ว  ทำให้ผมมีพลังเพิ่มมาเท่าตัว
  • และมุ่งมั่นที่จะทำงานในลักษณะนี้ต่อไป

 นุ้ยcsmsu

ตอนขับรถกลับมา  พี่ก็คิดนะว่า  ถ้านุ้ยมาดู  ก็คงน้ำตาไหลไม่แพ้กัน  หนังเรื่องนี้  หลายฉากคาดเดาได้ง่ายมาก  แต่ความน่าสนใจอยู่ที่การเป็นหนังชีวิตในมุมเล็ก ๆ ที่คนมองข้าม  หรือแม้แต่หลงลืมว่ายังมีเด็กกลุ่มนี้อยู่ในสังคม 

สำหรับคนหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยแล้วอยากให้ดูกันมาก ๆ ...จะได้มีแรงใจในการออกไปสร้างสรรค์สังคม

อย่าลืมไปดูนะครับ....

ไปช่วยกันส่งเสริมหนังไทย..ส่งเสริมเรื่องดี ของสังคม

สวัสดีครับ พี่อ็อด naree suwan

การเป็นครูอาสา  เป็นความฝันของผมมาอย่างยาวนาน  เคยดูเรื่องครูบ้านนอก  ครูวิบาก .. หรือแม้แต่  เขาชื่อกานต์ และหมอเจ็บ 

สิ่งเหล่านี้เป็นแรงแรงใจผมอยากทำงานอาสาฯ อย่างมาก   แต่เสียดายไม่มีโอก่สได้ทำในสิ่งเหล่านั้น  กระนั้นก็ไม่เสียดายเท่าไหร่หรอกนะครับ  เพราะวิถีที่เป็นอยู่ในขณะนี้  ก็ชดเชย หรือเติมเต็มในความฝันได้บ้างเหมือนกัน

.....

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ คุณ พุดตาล

อย่างไรก็ตาม.   อยากให้ไปดูหนังเรื่องนี้นะครับ  เป็นหนังอุดมการณ์และอุดมคติที่ดีมาก  เป็นมุมเล็ก ๆ ในสังคมที่ยิ่งใหญ่ 

ตอนนี้ผมกำลังควักตังค์ให้น้องนิสิตไปดู  เผื่อเขาจะมีไฟฝันที่เข้มข้นขึ้น  และมีกำลังใจในการที่จะทำงานเพื่อสังคมต่อไป

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณต้อม  เนปาลี

หนังเรื่องนี้ไม่ซับซ้อนอะไรมากหรอกนะครับ  แต่เป็นหนังชีวิตที่นำเสนอความงามของชีวิตได้อย่างน่าเคารพ

ดูหนังไทย  เชียร์หนังไทย...  และร่วมสังเคราะห์ความเป็นไทยร่วมกันผ่านหนังเรื่องนี้บ้างก็น่าจะดี

สำหรับผมแล้ว  ดูแล้วเกิดพลังใจที่จะทำงานมากขึ้นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

ขอบคุณครับ

อ่านแล้วอยากดูหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีเลยครับ

แต่ไม่รู้จะมีโอกาสได้ดูหรือเปล่า

ผมอยู่ไกลไปหน่อย :(

สวัสดีครับ อ.เอื้องแซะ

ถ้ามีเวลาว่างก็แวะไปดูหนังงเรื่องนี้นะครับ  สภาพแวดล้อมรอบตัวก็คงมีกลิ่นอายคล้ายในหนังพอสมควร

มีบางฉากที่สะท้อนให้เห็นเทคนิคการสอนหนังสือได้อย่างนุ่มเนียน  โดยนำภารโรง  ผู้ใหญ่บ้าน แม่เฒ่ามาสอนในเรื่องที่พบเห็นในชุมชน  และเชื่อมโยงมาสู่เรื่องนอกชุมชน  ซึ่งเด็กได้ทั้งความรู้ในเรื่องท้องถ่น และเรื่องราวของสังคมเมือง

ขณะที่บางฉากก็ตีแผ่วัฒนธรรมการค้าลูกสาวได้อย่างน่าหดหู่

ไปดูเถอะครับ...
อย่างน้อยก็ไปให้กำลังใจแก่คนทำหนังที่พยายามนำเรื่องราวอันสร้างสรรค์มาจรรโลงไว้ในสังคมของเรา

 

สวัสดีครับ คุณกวิน

ในวันที่ผมไปดูหนังเรื่องนี้  เห็นได้ชัดว่า  คนแห่ไปดูหนังฝรั่งอีกเรื่องอย่างหนาตา  ขณะที่เรื่องนี้มีคนดูไม่มากนัก  แต่เชื่อว่า  ก่อนนี้ก็คงมีคนดูเยอะแล้วแหละ  หรือไม่ก็คงเป็นรอบดึกกระมังครับที่จะมาดูมากกว่าที่เห็นในรอบนี้

โดยปกติผมอุดหนุนหนังไทยเสมอ...   แต่ก็เลือกเรื่องที่ลูก ๆ  ดูได้  พร้อมกับการแทรกแนวคิด คำสอนเล็ก ๆ น้อย ๆ  ผ่านตัวหนังให้ลูกได้รับรู้

แต่เรื่องนี้....
สอนเขาโดยตรง  โดยที่ผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากเหมือนเรื่องอื่น ๆ

ขอบคุณครับ

 

+ หวัดดีค่ะ...

+ มารายงานตัวค่ะว่าครอบครัวเราสบายดีค่ะ....

+ ขออภัยนะค่ะที่เราไม่ได้มาเยี่ยมเยีนยท่านหลายวันเลย...

+ คิดถึงค่ะ...หนึ่งใจเดียวกัน.....

+ เห้นด้วยทุกประการ...

+ ออ...ครอบครัวท่านอบอุ่นมากค่ะ....ประทับใจค่ะ...ครอบครัวท่านก็หนึ่งใจเดียวกัน...

+ อิ อิ......

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท