Gotoknow Forum ครั้งที่ 1 : เขียนบล็อก...เขียนจดหมายเหตุชีวิต


เขามีต้นทุนที่ดี เพราะเขาเติบโตมาจากพื้นที่ของโกทูโน

(๑)

 

ผมชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าการไปร่วมงาน Gotoknow Forum ครั้งที่ 1 นั้น  หลักๆ คือการไปพบปะกับบรรดาบล็อกเกอร์
เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ตามแต่โอกาสจะอำนวยให้  และเหนือสิ่งอื่นใดเลยก็คือ  การไปให้กำลังใจกับทีมงาน Gotoknow  ที่ทุ่มเทสร้างงานนี้ขึ้นด้วยใจล้วนๆ

 

ครับ, กำลังใจจากคนเล็กๆ อย่างผมคงไม่อาจเป็นรูปธรรมอะไรมากนักหรอก  แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังอยากจะยืนยันว่าไปให้กำลังใจจริงๆ  เพราะตัวผมเองรู้และตระหนักเสมอว่า  Gotoknow ได้ปรับแต่งให้ผมเกิดการเรียนรู้ครั้งใหญ่  ผมเห็นโลกและชีวิตกว้างขึ้นโดยมี Gotoknow เป็นพลังหนุนนำ

 

ผมไม่อาจบอกกับใครต่อใครว่าการมาครั้งนี้ คือการมาให้กำลังใจอย่างที่เกริ่นกล่าวข้างต้น  แต่ก็ไม่อาจเก็บงำไว้คนเดียวอย่างลึกเร้น  จึงตั้งหน้าตั้งตาเปิดเปลือยกับน้องสาวแสนเก่งสองคน คือ  มะปรางเปรี้ยวและสี่ซี่ว่า “พี่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะ ..พี่มาให้กำลังใจล้วนๆ”

แน่นอนครับ ผมพูดเช่นนั้น  เพราะรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ..


 

 

(๒)

 

บันทึกที่แล้ว  ผมเขียนกลอนสดๆ ในหัวข้อ “เขียนบล็อก...เขียนเพื่ออะไร  อันเป็นแรงขับเคลื่อนภายในที่เกิดขึ้นจากการได้ฟังการบรรยายของรองศาสตราจารย์ ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเกี่ยวกับมูลเหตุการเขียนบล็อก และการใช้บล็อกให้เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์องค์กร

 

บันทึกที่ว่านั้น  เป็นการสรุปรวมด้วยกลอนง่ายๆ  ไม่เน้นฉันทลักษณ์  หรือรูปแบบใดๆ  คำและความไม่หรูหรา (เพราะมีศักยภาพเท่านั้นจริงๆ)  จึงได้แต่คิดอะไรก็เขียนลงไปอย่างนั้นเลยก็ว่าได้  เรียกได้ว่า เน้นความสดเป็นหลัก  รสชาติแห่งคำและความหมายนั้น  ค่อยว่ากันใหม่เมื่อมีโอกาส

 

ทวนกันอีกทีก็แล้วกัน ครับ...

เขียนบล็อก..เขียนเพื่ออะไร

เขียนเพราะ “ใจ” สั่งให้เขียน

เขียนเพื่อร่ำเรียน
เขียนเพื่อสังคม


โกทูโนสอนให้รู้ (เอง) ว่า
เขียนให้รู้ค่าการสั่งสม
เขียนให้รู้ค่าการชื่นชม
เขียนเพื่อความสุขอุดมแห่งปัญญา

 

เขียนเพื่อชำระตัวตนอันหม่นเศร้า
เขียนเพื่อผ่อนเบาความเหนื่อยล้า
เขียนเพื่อให้รู้การพึ่งพา
เขียนเพื่อศรัทธาของชีวิต


ต่างคนต่างเขียนต่างนิยาม
ต่างเขียนต่างก้าวข้ามพรหมลิขิต
การเดินทางของถ้อยคำย้ำความคิด
สื่อพันธกิจทางใจไร้พรมแดน ...

....

ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติขาดไม่ได้
สุขทุกข์แบ่งปันใจได้ทุกที่
มหัศจรรย์สัมพันธ์อันมากมี
โกทูโน-คือพื้นที่ของ "ชีวิต

 

 

(๓) 

 

ผมประทับใจการบอกเล่าของท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะท่านบอกเล่าว่า  การเขียนบล็อกของท่าน เน้นสั้นๆ กระชับ  หรือเรียกให้ง่ายๆ ก็คือ  เอาแต่เนื้อ-น้ำไม่ต้อง นั่นแหละ

ถึงตอนนั้น  ผมถึงขั้นสะดุ้งราวกับโดนเข็มแหลมเล็กแทงเข้าที่หัวใจแบบไม่ให้ตั้งตัว  พร้อมๆ กับเปรยออกมาให้กัลยาณมิตรข้างกายได้ฟังแบบขำๆ ว่า
“ถ้าเช่นนั้น ผมก็สอบตกเลยสิ  เพราะบันทึกของผมยาวยืด  เป็นประเภทวิชาการสามบรรทัดล้วนๆ” (น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหลงเหลง)

 

แน่นอนครับ  บันทึกของผมเป็นสไตล์นั้นจริงๆ  ผมมันประเภทหมอลำ  เขียนแต่ละทีแต่ละครั้งต้องเกริ่นลากความระโยงระยางราวกับเถาวัลย์ในป่ารก  เหมือนกับหมอลำนั่นแหละ  กว่าจะเต้ยให้คึกคักได้  ก็จำต้องเกริ่นแบบ “โอละหนอ โอละนอ.....”  เสียก่อน

 

ถึงกระนั้น  ท่านอธิการบดีฯ  คนเก่ง  ยังไม่วายผูกโยงมาสู่ประเด็นใหม่ว่า  บางครั้งก็จำต้องเขียนให้ยาวบ้าง  เพราะต้องให้รายละเอียดต่างๆ ให้มากขึ้น  เนื่องจากบางเรื่องจะถูกนำไปขยายผลในโอกาสต่างๆ  หากกระชับมากไปจนเนื้อความไม่ชัดและไม่ครบ  ก็เกรงว่าจะถูกตีความไปแบบคลาดเคลื่อน  จึงจำต้องมีรายละเอียดยิบยับมากเป็นพิเศษ  และที่สำคัญบางเรื่องก็จะกลายเป็น “จดหมายเหตุ”  ของมหาวิทยาลัยฯ  ยิ่งต้องเน้นรายละเอียดให้มากเป็นพิเศษ  พลอยให้เรื่องที่เขียนออกท้วมๆ บวมๆ  หรือยาวกว่าปกติ

 

 

(๔)

 

แน่นอนครับ  พอมาถึงฉากนี้ก็โดนใจผมเข้าอีกรอบ  คราวนี้เหมือนคนได้ใจ  ผมรู้สึกมีพลังขึ้นมาอย่างกระชุ่มกระชวย  เพราะสิ่งที่ท่านบอกเล่านั้น  ก็เป็นสิ่งเดียวกันกับที่ผมกำลังคิดและกระทำอยู่ที่มหาสารคาม

 

มีเหตุผลมากมายสำหรับการเขียนบล็อก  ผมค้นพบสิ่งอันดีงามอย่างมหาศาลในพื้นที่แห่งนี้จนหลุดเป็นวาทกรรมประจำตัวออกมาเมื่อปีสองปีที่แล้วในทำนองว่า “โลกไม่เงียบเหงา เพราะยังมีคนให้เราได้คิดถึง”

 

และจนแล้วจนรอด  เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ  ผมก็แน่ชัดแล้วว่าการเขียนบล็อก หรือเขียนบันทึกของผมนั้นคือการเขียนเพื่อเป็น “จดหมายเหตุของชีวิต”  เป็นจดหมายเหตุของตัวเอง -คนของความรัก-และสังคมรอบตัว

 

เมื่อพิจารณากลุ่มก้อนอันเป็นแนวเรื่องของผมนั้น หลักๆ จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกิจกรรมของนิสิตในมหาวิทยาลัย  โดยเฉพาะเรื่องราวในวิถีกิจกรรมนอกหลักสูตรแทบทั้งสิ้น  ซึ่งผมเคยบรรยายในที่ต่างๆ  ผมก็พร่ำพูดเสมอว่า มหาวิทยาลัยอันโตใหญ่ มากมายด้วยหลักฐานแห่งพัฒนาการของยุคสมัย แต่กลับกลายเป็นว่าวิถีชีวิตนอกห้องเรียนของนิสิตนั้น  กลับมีการจัดเก็บกันน้อยมาก  ผมเองกลับต้องแบกรับค้นหาและจดจำมาบอกกล่าวอย่างไม่รู้จบ 

 

บางครั้งผมก็เป็นเหมือนตู้ประวัติศาสตร์เคลื่อนที่ทางกิจกรรมของคนที่นี่  มันเหนื่อยต่อการแบกรับเรื่องต่างๆ  ดังนั้นการบันทึกเรื่องต่างๆ ไว้ในบล็อกจึงเป็นการทำหน้าที่บันทึกประวัติศาสตร์ของที่นี่ไปในตัว  และเอกสารที่ปรากฏในบล็อกก็จะกลายเป็น “จดหมายเหตุ” ไปโดยปริยาย  ซึ่งบัดนี้ก็เป็นที่น่ายินดีว่า บันทึกหลายเรื่องถูกนำไปขยายผลในแวดวงมหาวิทยาลัยบ้างแล้ว  และเริ่มมีครูบาอาจารย์เข้ามาสืบค้นกันมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

(๕)



ส่วนจดหมายเหตุชีวิตในประเด็น “คนของความรัก” นั้น
ชัดเจนอย่างมาก โดยเฉพาะในบันทึกที่เขียนถึงการ “เปลือยความสุข” ซึ่งบัดนี้ก็เดินทางมาถึงบันทึกที่ ๓๒ แล้ว

 

เรื่องราวทั้งปวงนั้น เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนในครอบครัวที่ผมเรียกเองว่า “คนของความรัก”  หากแต่โฟกัสไปยังสองหนุ่มสองมุมมากกว่าผมและเพื่อนชีวิต

 

บันทึกแต่ละเรื่องเสมือนการบันทึกพฤติกรรม หรือนาฏกรรมการใช้ชีวิตของลูกๆ  ว่าเขาทั้งสองพานพบเจออะไรและสำแดงฤทธิ์ต่อเรื่องต่างๆ อย่างไรบ้าง  ซึ่งก็เป็นที่น่ายินดีว่าวีรกรรมของสองหนุ่มนั้น  กลายเป็นเรื่องชวนสนุกของชาวบล็อกไปก็มากโข  หลายท่านถึงขั้นขันอาสาเป็นพี่เลี้ยงกิตติมศักดิ์ไปแล้วก็หลายคน

 

ผมตั้งใจอย่างแรงกล้าว่าจะนำบันทึกที่เกี่ยวกับลูกๆ มาทำเป็นหนังสือเล็กๆ สักเล่ม และส่งมอบให้กับเขาในวันที่โตพอที่จะอ่านออกเขียนได้  เพื่อย้ำให้เขารู้ว่า  ชีวิตของพวกเขาเติบโตมาอย่างไร  เผชิญทุกข์เผชิญสุขมากี่ชะตากรรม  และที่สำคัญ  ผมอยากให้เขารู้ว่า  ส่วนหนึ่งของชีวิตเขา  ไม่ได้ถูกขับเคลื่อนโดยผมและเพื่อนชีวิต หรือแม้แต่เครือญาติเดียวกันเท่านั้น  แต่ยังได้รับการกล่อมเกลาและดูแลจากพี่ป้าน้าอาที่เรียกตนเองว่า “บล็อกเกอร์”  อย่างหลากหลาย

ครับ ผมกำลังสื่อสารกับลูกให้รู้ว่า  เขาไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกกว้างใบนี้  เขาได้รับการเลี้ยงดูและใส่ใจจากคนรอบข้างเป็นอย่างดียิ่ง ...เขามีต้นทุนที่ดี  เพราะเขาเติบโตมาจากพื้นที่ของโกทูโน นั่นเอง

 

และเมื่อเขาได้อ่านเรื่องราวของเขาผ่านบล็อกที่จัดรวมเป็นหนังสือเล่มเล็กแล้ว  เขาก็จะรู้เองว่า  นั่นคือจดหมายเหตุเฉพาะกิจของชีวิตของเขาเอง – เขาจะได้รู้และตระหนักถึงจังหวะของการใช้ชีวิตอย่างคนที่มี “ต้นทุน”  ...

หาใช่คนที่เกิดมาแล้วเดินดุ่มๆ อยู่คนเดียวเสียเมื่อไหร่

 

หมายเลขบันทึก: 263425เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2009 09:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 11:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (58)

สวัสดีค่ะ

สรุปเรื่องได้ดีมากๆเลยค่ะ

มาเป็นมิตรภาพใน  G2K

โลกไม่เงียบเหงา เพราะยังมีคนให้เราได้คิดถึง

ชอบมากค่ะ

 

"จดหมายเหตุชีวิต" ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งมีคุณค่ามากขึ้นนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

อ่านแล้ว "อิ่ม" ใจ อย่างบอกไม่ถูกค่ะ

ขอบคุณทุกถ้อยคำจากใจค่ะคุณแผ่นดิน

สวัสดีค่ะอาจารย์แผ่นดิน

  • ดีจังเลยค่ะ  "จดหมายเหตุแห่งชีวิต"  เป็นเรื่องราวที่เขียนมาจากความรู้สึกขณะที่เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น เป็นการเขียนความรู้สึกที่แท้จริง
  • จริงค่ะ  มีแต่คนรักมากมายเพราะหลาน ๆได้มีวิถีที่เต็มไปด้วยความรัก กำลังใจ ความบริสุทธ์ใจของชาว G2K ...เขามีต้นทุนที่ดี  เพราะเขาเติบโตมาจากพื้นที่ของโกทูโน   
  • ได้แอบติดตามอ่านบันทึกของอาจารย์เสมือนหนึ่งว่าได้รู้จักครอบครัวของอาจารย์ คู่ชีวิต หลานทั้งสองมานานแสนนาน ทั้งที่ยังไม่เคยได้พบกันเลยนะคะ
  • บันทึกวิถีชีวิตคนภาคอีสานทำให้เหมือนหนึ่งว่าเราอยู่ภาคเดียวกัน เพราะบางครั้ง บางแห่งวิถีแห่งการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ก็คล้ายกันค่ะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์ได้บันทึกสิ่งที่อาจารย์อยากบันทึกต่อไปนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับ อาจารย์แผ่นดิน

อ่านแล้วทำให้นึกไปว่า

"บล็อก" นั้นก็เสมือนเป็น Snap Shot ในแต่ละช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่ง

(ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีครับ)

อีกทั้งยังเป็นร่องรอยแห่งการเดินทางไกลของชีวิต

หรือมันอาจดูเหมือนเป็นเงาสะท้อนขององค์รวมแห่งชีวิต

หรือมันคือ Tacit ภายในที่เผยตัวออกมาให้โลกรับรู้

.....

ชอบมากครับกับบันทึกนี้

มาบอกว่าแอบเห็นหนังสือต้นฉบับที่รอคำนิยมจากนายเอก : ) และฝากบอกเจ้าตัวเล็กสองคนว่าอยากเจอมากนะคะ ไว้มีโอกาสคงได้พบกันอีก ดูแลตัวเองดีๆ ค่ะพี่ชาย

สวัสดีค่ะ

  • หนึ่งมุมมองของความเหมือนที่แตกต่าง
  • คนหนึ่งคน ความคิดแปลก แตกแยกได้หลากหลายอารมณ์
  • สิ่งที่อยู่ลึก ๆ คนมักถ่ายทอดออกมา ได้ดีบ้างไม่ดีบ้าง
  • แต่จากที่สังเกต หลายบันทึกของท่าน ทรงคุณค่าต่อผู้ศึกษาในทุกกระบวนความ
  • นับถือในมุมมอง ในความคิด ...

สวัสดีคะอาจารย์ พนัส

พี่ประกายอยากจะบอกว่าเขียนแบบอาจารย์พนัสเขียนอยู่นะคะดีแล้วคะ คือตัวตนของอาจารย์พนัส ถ้าเขียนสั้น ๆ ไม่ใช่ พี่ชอบคะ เป็นเรื่องราว ย้อนหลัง เป็นจดหมายเหตุเหมือนอาจารย์จะทำหนังสือ พี่ขอชื่นชมนะคะ

พี่ถึงบ้านแล้วคะ

  • มาบอกว่าได้กำลังใจ จากพี่น้องๆ เพื่อนๆในโกทูโนว์ ก็เป็นพลังที่ดีในการเขียนค่ะ
  • ยังไงก็ขอบคุณโกทูโนว์ค่ะ

สวัสดีครับ..พี่ แดง

ผมเดินทางกลับมาถึงมหาสารคามในยามเช้าเวลาประมาณตี 5 เศษๆ เหนื่อยมากครับ แต่ความสุขก็ล้นเหลืออย่างมหาศาล  การไปร่วมงานคราวนี้ ส่วนหนึ่งคือไปเติมพลังชีวิตให้ตัวเอง ถึงแม้จะไม่ใคร่ได้คุยกับใครมานัก เพราะปัญหาสุขภาพ และการเขินๆ ที่จะเข้าสังคม แต่ทั้งปวงแล้ว ก็ถือว่า ประทับใจ และเป็นความงดงามที่สัมผัสได้อย่างไม่กังขา ...

ครับ แน่นอนเหมือนวาทกรรมนี้แหละครับ

โลกไม่เงียบเหงา เพราะยังมีคนให้เราได้คิดถึง

หรือปรับแต่งหน่อยก็ .."โลกไม่เงียบเหงา เพียงเพราะยังมีคนให้เราได้คิดถึง"

ขบคุณครับ

 

สวัสดีครับ  Mr.Direct

คิดถึงนะครับ เสียดายไม่ได้เจอกันที่สงขลา แต่ก็ถามข่าวคราวจากคุณเอกบ้างแล้ว...

ผมคิดถึงและเป็นกำลังใจให้นะครับ

สวัสดีครับ...Jarinya

ผมเขียนบันทึกด้วยสไตล์นี้มานานร่วมสองปี เปิดเปลือย..และวกวน แต่โชคดีครับยังมีคนอดทนอ่านมาได้อย่างน่ายกย่อง...

ขอบคุณครับ...
ด้วยเหตุใดก็แล้วแต่  ผมจะพยายามทำงานด้านการเขียนให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่นะครับ จะได้สมกับการใช้พื้นที่ตรงนี้ให้เกิดคุณค่าให้มากที่สุด

ขอบคุณอีกครั้งนะครับ

 

สวัสดีค่ะอาจารย์แผ่นดิน

  • ไม่นึกฝันว่าจะได้พบเจอตัวเป็นๆ
  • เห็นแต่ทางบันทึก....ผ่านตัวอักษรและเรื่องราวมานาน
  • พบเจอตัวตนที่แท้จริงคือสิ่งยืนยันว่า...คนนี้เป็นคนเดินดินธรรมดาที่ไม่ธรรมดา" ...จริงๆ
  • ชื่นชมอาจารย์นะคะ
  • ฝากกอดหลานทั้งสองด้วยค่ะ
  • ขอบคุณมากมายกับมิตรภาพที่น่าประทับใจในมหัศจรรย์แห่งโกทูโนค่ะ

 

มาชม

เป็นบันทึกจากใจเลยนะนี่...ชื่นชม ๆ

สวัสดีครับ..คุณ เมียวดี

ถัดจากบันทึกนี้ ผมจะเขียนถึงเรื่องราวบางเรื่องที่ทำให้ผมมีพลังใจที่จะเขียนบันทึกนะครับ เรื่องนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับชนบทๆ  มันมีความหมายถึงการให้กำลังใจแก่ใครสักคนที่พลัดบ้านไปแสนไกล

ผมเองก้ไม่เชื่อว่า บันทึกเล็กๆ ของผม จะเป็นกำลังใจให้ใครบางคนได้ถึงเพียงนั้น...

ครับ น้อยนิดแต่มหาศาล-ประมาณนั้น

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ..คุณซวง ณ ชุมแสง


ขอบคุณคำชื่นชมที่ทำให้ผมมีกำลังใจเพิ่มขึ้นก่ายกองนะครับ  ผมว่าข้อสังเกตของท่านนี่แหละครับ คือนิยามที่แจ่มชัดและมีชีวิตเป็นที่สุด จึงขออนุญาตนำมากล่าวซ้ำอีกรอบ นะครับ

บล็อก" นั้นก็เสมือนเป็น Snap Shot ในแต่ละช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่ง

(ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีครับ)

อีกทั้งยังเป็นร่องรอยแห่งการเดินทางไกลของชีวิต

หรือมันอาจดูเหมือนเป็นเงาสะท้อนขององค์รวมแห่งชีวิต

หรือมันคือ Tacit ภายในที่เผยตัวออกมาให้โลกรับรู้

สวัสดีครับ คุณน้องซูซานLittle Jazz

ยินดีที่ได้เจอ..เสียดายก็แต่ไม่ได้พูดคุยกันเท่าไหร่เลย..
พี่เองก็เป็นคนปีระเภทนี้ครับ คุยไม่เก่ง เข้าสังคมไม่เก่ง
แต่ชอบที่จะสังเกตร่องรอยชีวิตของคนหลายคนไปในตัว

ครับ นั่นเป็นต้นฉบับที่ไมสมบูรณ์ครับ...
เป็นหนังสือเล่มแรกที่จะมีขึ้นในชีวิต
แล้วอย่าลืมช่วยซื้อไปแจก นะครับ

ฮา.............

เปล่าหรอกครับ รายได้ส่วนหนึ่ง จะมอบให้นิสิตได้ทำกิจกรรม "จิตอาสานำพาสู่บ้านเกิด" ..ครับ

 

สวัสดีครับ phayorm แซ่เฮ


ขอบคุณจริงๆ ครับ ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจ
บันทึกต่อไปจะมีกลิ่นอายเรื่องราวของคนอีสานพลัดถิ่น...

ติดตามอ่าน นะครับ

สวัสดีครับ พี่ไก่- ประกาย~natachoei ที่~natadee

ทำทุกอย่างอย่งเปิดเปลือย
เขียนแบบเปิดใจ
ยาวบ้าง สั้นบ้างสลับกันไป
ไม่มีนิยามใดตายตัว...

นั่นคือวิถีการเขียนของผม ...ขอบคุณครับ....

อ่านบันทึกนี้แล้ว อิ่มใจเลยค่ะ เสริมกันได้ดีมากๆกับสิ่งที่ได้ฟังจากท่านอธิการบดีของเรา ขอบคุณมากๆค่ะ

อ่านบันทึกนี้แล้ว อิ่มใจเลยค่ะ เสริมกันได้ดีมากๆกับสิ่งที่ได้ฟังจากท่านอธิการบดีของเรา ขอบคุณมากๆค่ะ

สวัสดีค่ะ

- ตามมาอ่านบันทึก เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ น่าอิจฉาจังเลยค่ะ

"โลกไม่เงียบเหงา เพราะยังมีคนให้เราได้คิดถึง" ชอบมากค่ะ และอื่น ๆ อีกมากมาย แบบว่าไม่ค่อยคิด 555

สวัสดีค่ะอาจารย์แผ่นดิน

อิ่มเอมใจกับบันทึกนี้มากค่ะ

ชอบ..คำงาม..งามคำ ในทุกคำพูดของอาจารย์ค่ะ

จดหมายเหตุชีวิต..ทุกบทตอน

เป็นหนึ่งกำลังใจในทุกย่างก้าวด้วยค่ะ

  • น้องแผ่นดิน
  • เอามาฝาก
  • สบายดีนะครับ
  • หลานน้อยเป็นอย่างไรบ้าง

กำลังใจของพี่

น้องๆ ขอน้อมรับไว้เต็มที่เลยค่ะ ^_^

ขอบคุณพี่แผ่นดินมากค่ะ

สวัสดีค่ะพี่แผ่นดิน

ยินดีมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบคุณน่ะค่ะ

ตามมาอ่านค่ะ พี่ว่า แต่ละคน ก็มีสไตล์ของตนเอง จะเขียนสั้น ยาวอย่างไร คงอยู่ที่เนื้อความ ครบถ้วน ได้ใจความที่เราอยากจะสื่อหรือเปล่านะคะ

SHORT OR LONG IS NO PROBLEB

TO UNDERSTAND AND PRACTICE IS MORE NICE

ผมเห็นด้วยตามพี่นิรันดร์ niran นะครับว่าบันทึก สั้น หรือ ยาว ไม่ได้สำคัญ สำคัญที่ที่คุณค่า

ผมเองเป็นประเภทหากห้ามไม่อยู่ แม้แต่ข้อเสนอแนะ ก็จะเป็น เอสี่ ทุกครั้งไป

ผมเป็นคนหนึ่งที่เขียนบันทึกยาวครับ เพราะเป็นเรื่องเล่า ผมคิดว่าเรื่องเล่าจำเป็นต้องให้เห็นภาพของเรื่องราว ตัวละคร และชีวิตในนั้น นั่นหละครับ วิชาการที่มีชีวิต...

"ก้อนหินในบ่อบัว"  ผมอ่านได้หลายบทแล้วครับ ยิ่งตอกย้ำว่า เรื่องเล่าที่สนุกและมีสาระ อ่านแล้วมีความสุข เราต้องออกแบบอย่างไร?

ให้กำลังใจครับผม

สวัสดีค่ะพี่

แวะมาบอกอีกครั้งว่าแค่พี่มา รอยยิ้มของพี่และของทุกท่านๆ ที่มีในงานคือกำลังใจที่ดีที่สุดที่ทำให้เป็นพลังในการขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ แล้วค่ะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจอีกครั้งค่ะ ขอบคุณจริงๆ

ปล.กลอนเพราะมากค่ะ

แผนดิน เป็นที่อาศัย

แผนดิน จึงเย็นได้ไม่ทำร้ายใคร

แผนดิน รับหน้าที่ไม่เกี่ยงงอน

แผนดิน ไม่อาทรเรื่องใด ๆ

สวัสดีครับ นายแผ่นดิน

* มาเยี่ยมครับ น่าสนใจติดตาม

* มาไกลมากนะครับ ผมอยู่ใกล้เสียอีก แต่ไม่กล้าไป

* เพราะระดับ vip ทั้งนั้น

....

ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติขาดไม่ได้
สุขทุกข์แบ่งปันใจได้ทุกที่
มหัศจรรย์สัมพันธ์อันมากมี
โกทูโน-คือพื้นที่ของ "ชีวิต

 

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

  • สมกับการเป็น " ฅน KM มมส." คนแรก และ เจ้าของรางวัล "สุดคะนึง 2552" จาก  Gotoknow จริง ๆ ครับ
  • เป็นกำลังใจเสมอ แม้ตัวจะอยู่ไกล แต่ใจอยู่ใกล้ คร้บ

ชอบคำว่า จดหมายเหตุชีวิต ครับ

ผมก็รู้สึกอย่างนั้น ตอนพยายามพิมพ์ดีด..เขียนบันทึก

สวัสดีครับ...berger0123

เช่นกันครับ ทั้งหลายทั้งปวงนั้น หากไม่มีพื้นที่ตรงนี้เราก็ไม่รู้ว่าเราจะสื่อสารและพบพานกันได้อย่างไร  ดังนั้น จึงต้องขอบคุณและยกเครดิตทั้งหมดให้กับโกทูโนไปเต็มๆ ...

และที่เหลือก็ขอบคุณตัวเราเองกันทุกคนที่ทำหน้าที่ของการเรียนรู้ร่วมกันได้อย่างมีมิตรภาพและไร้พรมแดน

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ ...กุ้งเต้น

เช่นกันครับ ขอบคุณมากๆ ...
แวะไปที่บันทึก กะจะทิ้งรอยคิดไว้ แต่ดูเหมือนจะบันทึกไม่ได้ซะงั้น

โชคดีครับ

สวัสดีครับ... Lioness_ann

ขอบคุณคำๆ นี้มากครับ ...คนเดินดินธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

แต่ความจริงนั้น  ผมก็เป็นคนเดินดินธรรมดาๆ อยู่วันยังค่ำแหละครับ

 

สวัสดีครับ..อ.umi

บันทึกทุกบันทึกของผม..เป็นประเภท "เทใจ" เขียน ครับ...

อิอิ..

สวัสดีครับ พี่โอ๋-อโณ

ก่อนอื่นต้องบอกว่าดีใจที่ได้เจอตัวจริงนะครับ..ขอบคุณถุงผ้าแสนงามที่นำมาฝาก...ผมส่งต่อให้เพื่อนชีวิตอีกทอด

ผมชื่นชมอธิการบดีฯ มาก  ท่านลงมาเล่นเรื่องนี้จริงจัง  เป็นผู้นำ..ที่ทำให้เห็นเป็นต้นแบบ..

เพราะการกระทำสำคัญกว่าคำสอน จริงๆ ...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ...เพชรน้อย

สบายดีนะ..ไม่ได้คุยกันนานแล้วมั๊ง  แต่คิดถึงเช่นเคยนะครับ..

โลกไม่เงียบเหงา.....(ที่เหลือต่อเองครับ-เปิดกว้าง)...

ฮา-

สวัสดีครับ...ศน.อ้วน

ผมชัดเจนตั้งแต่ต้นนะครับว่าจะเขียนเพื่อตอบแทนมหาวิทยาลัย และเขียนเพื่อพัฒนาตัวเอง รวมถึงการเขียนเพื่อเป็นจดหมายเหตุชีวิต...

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ อ.ขจิต ฝอยทอง

ไปงานคราวนี้ไม่ค่อยได้บันทึกภาพด้วยตนเอง ก็พลอยได้ดูได้ชมภาพผ่านบันทึกท่านอื่นๆ นี่แหละครับ..

ขอบคุณครับ..ทั้งมิตรภาพ และภาพถ่ายหลายๆ ภาพ..
ภาพแต่ละภาพ เป็นจดหมายเหตุในตัวของมันเองด้วยเหมือนกัน

 

สวัสดีครับ คุณน้องสาวคนเก่ง
มะปรางเปรี้ยว

บอกตรงๆ นะครับ ...ทุกอย่างถึงจะไม่ดีเลิศ แต่ก็ฉายให้เห็นกระบวนการในหลายๆ เรื่องที่น่าสนใจ  อย่างน้อยก็มีชุมชนต้นแบบให้ศึกษา  มีนวตกรรมให้ดูให้ชม...

สำคัญ...มีการดูแลกันและกันที่ดีเยี่ยม

ประทับใจ ครับ-ประทับใจมากๆ...

สวัสดีครับ คุณน้องกอก้าน>>>ก้านกอ

หายไปนานเหมือนกันนะ...สบายดีใช่ไหม...
เดี๋ยวแวะไปเยี่ยมนะครับ

เป็นกำลังใจให้เสมอ...นะ

อ่านแล้ว น่าจะ inspire เป็นอีกบทความ เป็นบทสะท้อนภายในที่งดงาม และช่วยตัวเองได้ดีเลยครับ ค้นหาและยืนยันใน "แรงบันดาลใจ" ของการกระทำตนเอง

เขียนเสร็จแล้วครับ คุณแผ่นดิน ขอบพระคุณมากสำหรับแรงบันดาลใจ

บันทึก Life review, Reviewed Life

มาอ่านสิ่งที่ดีดีที่บันทึกให้กับแผ่นดิน

  • สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน ยอดปราชญ์ในใจแป๋ม
  • รู้สึกดีดีชุ่มชื่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
  • ที่มีโอกาสกลับมาอ่านเรื่องราวที่ร้อยเรียง
  • ด้วยภาษาที่งดงามของคุณ...ที่สำคัญ...
  • จดหมายเหตุชีวิต ฉบับนี้ มีคุณค่านับอนันต์
  • กับคนช่างฝัน เพื่อฟันฝ่า ให้ถึงปลายทางแห่งฝัน...
  • จนกระทั่งย่างไปสู่ปลายทางแห่งชีวิต
  • ขอบคุณเรื่องราวดีดี กับมิตรภาพที่งดงามค่ะ.

สวัสดีครับคุณแผ่นดิน

ยังจำได้เสมอ วันที่ไปร่วมงาน gotoknow forum วันสุดท้ายก่อนจาก ยังจำได้ว่าท่านแผ่นดิน ได้กอดลาเพื่อนๆ หลายคนด้วยความเป็นมิตร ดูจากภายนอก คุณแผ่นดินเหมือนกับคนเคร่งขรึม ถือตัว หากได้พูดคุยแล้ว ถึงจะทราบได้ว่าเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นและจริงจัง พูดน้อย แต่คำพูดที่ออกมาแต่ละคำ มีความหมายและคมมาก

คำว่า แผ่นดิน เป็นนามแฝง ที่กินใจมาก ผมเคยฟังคำพูดของ พล.อ.เปรมฯ พูดเมื่อหลายปีมาแล้ว ยังจำอยู่ในความทรงจำ และยึดถือปฎิบัติ เท่าที่จะทำได้มาโดยตลอด คือ คำว่า "ตอบแทนคุณของแผ่นดิน" หลายๆ คนฟังแล้ว ก็แล้วไปไม่ได้นำไปปฎิบัติ พวกเราคงไปบังคับใครไม่ได้ เพียงแต่เราร่วมมือร่วมใจกันปฎิบัติ โดยเฉพาะเพียงแต่ตัวเราเองก็เพียงพอแล้ว เมื่อหลายๆ แรงรวมกัน ย่อมก่อเกิดเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในที่สุด

ด้วยความระลึกถึง ดูแลสุขภาพด้วยครับ

ฉลอง-สิ่งแวดล้อม (จ๊าบ)

สวัสดี อีกรอบครับ สไตด์การเขียนของแต่ละคน ย่อมเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล ได้อ่านหลายๆ รุปแบบ ทำให้ได้อรรถรส ที่หลากหลาย ผมได้อ่านบทความของหลายๆท่านแล้ว ขอชื่นชม ตอนนี้เป็นน้องใหม่ กำลังอยู่ระหว่างอ่าน blog ของแต่ละท่านอยู่ เพื่อศึกษาแนวการเขียน สำหรับเตรียมพร้อมในการลงมือเขียน blog ของตัวเองบ้าง ฉลอง-สิ่งแวดล้อม (จ๊าบ)

สวัสดีครับ  พี่ศศินันท์ Sasinand

ผมเองก็มองในมุมเดียวกันครับ..เรื่องสไตล์เป็นแบบฉบับของแต่ละคน  สำคัญอยู่ที่ปว่า ประเด็น สาระ หรือเนื้อความนั้นต่างหาก คือสิ่งที่เราควรต้องให้ค่าน้ำหนัก ทั้งในฐานะการเขียนและการอ่าน ..

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ niran

สมัยเรียน ม.ปลาย  ผมชอบอ่านงานประเภทสั้นๆ ..เช่นบทกวี
โตมาหน่อย อ่านเรื่องสั้น - นวนิยาย-สารคดี-บทความ

ระยะหลัง ชอบอ่านความเรียง ..สั้นๆ เป็นตอนๆ ..
ไม่ว่ากระบวนการใด ประเภทใด ก็คงเหมือนที่อาจารย์บอกแหละครับ..ขนาดความยาวความสั้น ไม่ใช่ประเด็น ..คุณค่า-นัยสำคัญของเนื้อหา คือเรื่องที่เราต้องให้ค่ากับมัน

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีครับ คุณเอก.จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร

จากวันนั้น หนังสือมีชื่อว่า "ก้อนหินในบ่อบัว" ..ถึงวันนี้ หนังสือเปลี่ยนชื่อว่า "เรียนนอกฤดู" ...ผมเองได้รับกำลังใจจากกัลยาณมิตรหลายท่าน ถึงได้เดินหน้ามาจนแล้วเสร็จ

ส่วนยอดขายนั้น..
ยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย...
แต่ยังไม่ใช่สิ่งหลักเสียทั้งหมด
ความสุขที่ได้ทำต่างหาก คือ สิ่งที่ผมภูมิใจกับมันมากที่สุด

ขอบคุรครับ

สวัสดีครับสี่ซี่

คิดถึงวันเวลาแห่งการพบพานน่าดู...ความสุข ที่เป็นพลังของการขับเคลื่อนตัวเองไปสู่โลกภายนอก...

 

กราบนมัสการ พระคุณเจ้าฯ พระ มงคล มงคล ถีราวุฒิ

แผ่นดิน..กว่าผมจะตั้งชื่อนี้ให้กับลูกชายคนโตได้ ต้องใช้เวลาสองวันครับ เพราะเทศบาลไม่ยอมให้ใช้ชื่อนี้ แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี...ได้ใช้ชื่อนี้สมใจ

 

 

ผมตั้งใจอย่างแรงกล้าว่าจะนำบันทึกที่เกี่ยวกับลูกๆ

มาทำเป็นหนังสือเล็กๆสักเล่ม

และส่งมอบให้เขาในวันที่เขาโตพอที่จะอ่านออกเขียนได้

..................................

ฉันก็กำลังทำเช่นนี้ค่ะ แต่จุดประสงค์มอบให้คนที่รักเหล่านั้น

ในวันที่ไม่มีฉันแล้ว

ขอบคุณบันทึกดีๆที่ทำให้เห็นเป้าหมายไวกว่าที่กำหนด

ขอบคุณจริงๆ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท