จากนี้ไปเราไม่ใช่ "คนชายขอบที่ตกขอบ" อีกแล้ว


การพัฒนานิสิตผ่านกิจกรรมนอกหลักสูตร จะไม่เป็นยุทธศาสตร์แฝงที่หมายถึงส่งเสริมและสนับสนุนยุทธศาสตร์อื่นๆ อีกแล้ว –งานของพวกผมกลายเป็นงานหลักของมหาวิทยาลัยอย่างภาคภูมิเสียที

เรียนนอกฤดู
เจ้ารู้หรือไม่
วันวานเหนื่อยหนักแทบขาดใจ
วันนี้เจ้ากำลังโตใหญ่ดังใจปรารถนา
 

 

เรียนนอกฤดู ฉันหลงรักเธอเหลือเกิน
ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่เป็นความใฝ่หา
เป็นความรัก ความเชื่อ ความศรัทธา
ว่าเจ้าคือหนึ่งปรัชญาความเป็นคน
 

 

จากวันนั้นถึงวันนี้
มากมีความทุกข์ท้น
หลากหลายหยาดเหงื่อและน้ำตาที่สู้ทน
หลายหลากรอยยิ้มที่สุขล้นด้วยความรัก
 

 

เรียนนอกฤดู  ขอบคุณวันที่เจ้ามา
เหมือนภูผาที่แน่นหนัก
เหมือนไม้ใหญ่ให้ร่มพัก
เหมือนอ้อมตักและอกอุ่น-ละมุนละไม
 

 

อะไรอะไรจะเป็นไปในทางที่ดี
เรียนนอกฤดู  เธอเชื่อเช่นนี้ ใช่หรือไม่
เราไม่ใช่คนชายขอบอีกต่อไป
เราจะเป็นส่วนหนึ่งในหัวใจของผู้คน

 

 

 

  

 

เมื่อวาน เป็นอีกวันที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในห้องประชุมยาวนานเป็นที่สุด  เพราะกว่าจะเลิกร้างกลับเข้าสำนักงานก็ปาเข้าทุ่มเศษ  และกว่าจะกลับเข้าบ้านได้  เวลาก็ล่วงเข้าเกือบๆ จะสามทุ่มเศษๆ 

 

 

เดิมผมตั้งใจที่จะกลับมาพักสมองสักยกสองยก  ถัดจากนั้น  ก็จะเตรียมข้อมูลการเป็นวิทยากรเพื่อนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับ “นักศึกษาจาก ม.นครพนม”  ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่  8  สิงหาคม  2552  ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. แต่เอาเข้าจริง  ผมกลับหลับนิ่งราวกับถูกทุบหัวให้หมดสติ  มารู้ตัวอีกที ก็กลายเป็นวันใหม่ไปเสียแล้ว ! 


สำหรับกระบวนการที่จะมีขึ้นร่วมกับมหาวิทยาลัยนครพนมนั้น  ถือได้ว่าเป็นเวทีที่ผมต้องรับผิดชอบความเป็นวิทยากรอย่างยาวนานที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้   

 

 

ถึงกระนั้นก็เถอะ  ผมก็ยังมีความสุขกับการงานในครั้งนี้เป็นยิ่งนัก  เพียงเพราะผมเคยปาวารณาตนมาตลอดว่า  หากอะไรที่ผมพอที่จะช่วยเหลือเพื่อนต่างสถาบันได้บ้าง  ผมก็ยินดี (ฟรีได้ตลอดงาน) ...



ดังนั้น คราวนี้ ม.นครพนม จึงหอบเอาผู้นำนิสิตข้ามเทือกเขาภูพานมายังเมืองมหาสารคาม  ด้วยหวังว่าจะให้ผมช่วยขับเคลื่อนกระบวนการของการทำกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา 


 

ที่สำคัญครั้งนี้  ผมถือได้ว่าเป็นโอกาสอันดีที่ผมจะทดลองใช้ระบบ “ทีม”  ที่ผมกำลังปั้นแต่งขึ้นในองค์กรภายใต้แนวคิด หรือวาทกรรมที่ว่า “สอนงาน...สร้างทีม”  ดังนั้น  ผมจึงมอบหมายให้ทีมงานในแต่ละคนรับผิดชอบโจทย์การเรียนรู้ไปคนละอย่างสองอย่าง  และให้แต่ละคนเป็น “พระเอก-นางเอก”  ในโจทย์นั้นๆ อย่างเต็มที่  พร้อมๆ กับการย้ำคิดถึงกระบวนการที่เราจะมีขึ้นอย่างแน่นหนัก นั่นก็คือ การขับเคลื่อนในแบบบรรรยากาศ “บันเทิง-เริงปัญญา” 

 

แน่นอนครับ 

 

 คราวนี้จึงเป็นอีกครั้งที่ผมและทีมงานจะได้พิสูจน์ตัวเองว่าแต่ละคนมีศักยภาพแห่งการ “สอนงานและสร้างทีม” กันแค่ไหน  และในมิติของการเป็นวิทยากรนั้น ก็ยังเป็นโอกาสที่ผมและทีมงานจะได้ประเมินตัวเองว่า ถึงห้วงนี้แล้วพวกเราสามารถ “สอนงานและสร้างคน”  ได้อย่างมีกระบวนการกี่มากน้อยกันแน่

 

... 

หวนกลับมาถึงเรื่องราวการประชุมเมื่อวานกันดีกว่า  เพราะเป็นความรู้สึกหลักที่ผมอยากเขียนถึง หรือบันทึกไว้ในวันนี้

 

  

การประชุมเมื่อวานนี้  เป็นการนำเอาขุนพลต่างๆ จากสำนักงานอธิการบดี  มานั่งถกคิดถกคุยกันเพื่อร่วมกำหนด “แผนยุทธศาสตร์ของสำนักงานอธิการบดี”  เพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาองค์กรไปสู่อนาคต  ซึ่งหลักๆ ก็ปักธงล่วงหน้าไว้ 4 ปี

 

สำหรับผมแล้ว  ผมไม่ค่อยได้หลงรักการประชุมในแบบนี้มากนัก  เพราะมันขยับแข้งขยับขาได้ไม่มากสักเท่าไหร่ 

 

ผมไม่คุ้นชินกับการนั่งชิดติดกับเก้าอี้ 
ผมไม่ชินกับการอยู่ในแวดวงของผู้หลักผู้ใหญ่  
และไม่ถนัดนักกับการประชุมที่พุ่งให้แต่ละคนโถมความคิดมาถกคุยกันแบบเพียวๆ โดยไม่มีกิจกรรมเชิงปฏิบัติการเข้ามาเกี่ยวข้องและเกี่ยวพัน

 

  

ดังนั้น  เช้าล่วงบ่ายต้นๆ  ผมจึงจำต้องทำสงครามอย่างหน่วงหนักกับห้วงบรรยากาศเช่นนั้น  แต่พอหลุดข้ามห้วงระยะนั้นมาได้  อะไรๆ ก็ดูจะแช่มชื่นและรื่นรมย์ขึ้นมามากโขพอสมควร

 

แต่อย่างไรก็ตาม  เวทีในครั้งนี้  ได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับผมเป็นพิเศษ  ซึ่งนั่นก็หมายถึง  การได้ฟังอธิการบดี (ผศ.ดร.ศุภชัย  สมัปปิโต) แถลงนโยบายการนำพามหาวิทยาลัยไปสู่อนาคตอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ...

 

โดยเท่าที่ผมจับประเด็นได้นั้น  พันธกิจของมหาวิทยาลัย มีการเปลี่ยนแปลงไปจากแผนปฏิบัติการเดิมที่เคยมี 5 ข้อ บัดนี้ก็เหลือเพียง 4 ข้อเท่านั้น ประมาณว่า

 

·        จัดการศึกษาและผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพและมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ 

·        ผลิตงานวิจัย 

·        บริการวิชาการสู่สังคม 

·        อนุรักษ์ ฟื้นฟู ปกป้องและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม 

 

ที่ขาดหายไปนั้นก็คือ การบริหารจัดการที่ดีนั่นเอง  ซึ่งไปโผล่อยู่ในยุทธศาสตร์แทน 

 

แต่ที่ผมกล่าวว่าตื่นตาตื่นใจนั้น  ก็เพราะว่ายุทธศาสตร์จากเดิมที่มี 5 ข้อตามพันธกิจนั้น บัดนี้ขยายกลายเป็น 8 ยุทธศาสตร์  โดยการนำเอาพันธกิจมาขยายให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมและกว้างขวาง ครอบคลุมอย่างเห็นได้ชัด

 

 

และในนั้นปรากฏว่ามียุทธศาสตร์แห่งการพัฒนานิสิตโผล่ขึ้นมามีตัวตนอย่างชัดแจ้ง  เรียกได้ว่าคราวนี้


การพัฒนานิสิตผ่านกิจกรรมนอกหลักสูตร  จะไม่เป็นยุทธศาสตร์แฝงที่หมายถึงส่งเสริมและสนับสนุนยุทธศาสตร์อื่นๆ อีกแล้ว

งานของพวกผมกลายเป็นงานหลักของมหาวิทยาลัยอย่างภาคภูมิเสียที...เราไม่ใช่องค์กรชายขอบที่ตกขอบอีกต่อไป ...เราไม่ใช่คนไกลปืนเที่ยงอีกแล้ว...(ผมรำพึงรำพันกับตัวเองเช่นนั้นจริงๆ)

 

 

 

ในห้วงหนึ่งของการกลับมาพักเที่ยง  ผมหลบหลีกออกจากวงรับประทานอาหารกลางวัน ตรงดิ่งมาสะสางแฟ้มอย่างเร่งด่วน  พร้อมๆ กับการติดตามงานที่จะมีขึ้นในเสาร์และอาทิตย์อีกรอบ  รวมถึงการแจ้งให้ผองเพื่อนในทีมงานได้รับรู้ว่า “บัดนี้เราไม่ใช่องค์กรชายขอบอีกแล้ว  สิ่งที่เราเพียรพยายามสะท้อนภาพและป้องประกาศมาระยะหนึ่งนั้น  บัดนี้ได้รับการขานรับอย่างเป็นทางการแล้ว..."



 

มิหนำซ้ำก่อนกลับออกจากการประชุม  ผมยังถูกถามทักจากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งในทำนองว่า ยังสนใจที่จะผนวกกิจกรรมนอกหลักสูตร หรือเรียนนอกฤดูเข้าสู่วิชาศึกษาทั่วไปบ้างหรือเปล่า ...



ซึ่งผมไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่า "มันเป็นความฝันที่มีชีวิตของผม..."  และท่านยังเอ่ยถึงหนังสือเรียนนอกฤดูของผมว่า ถึงแม้จะเป็นเพียงบันทึกธรรมดาๆ แต่มันมีค่าต่อคนหนุ่มสาวมากพอสมควรแหละ อย่างน้อยก็มีค่าต่อนิสิตของที่นี่อย่างไม่ต้องสงสัย



ครับ-มันเป็นความสุขที่ผมสัมผัสได้  และรู้เลยว่า ที่ลงแรงไปเกือบปีนั้น ไม่เสียหลายเลยสักนิด  และบัดนี้โมเดลต่างๆ ที่คิดและวางแผนไว้กับทีมงานก็น่าจะถูกส่งรับขึ้นสู่เวทีแห่ง “ความเป็นมหาวิทยาลัย”  กับเขาอย่างมีตัวตนเสียที  

และเช้าวันนี้  ผมก็อดที่จะคลิกกลับไปเยือนความทรงจำในบันทึกนี้ไม่ได้  เพราะมันคือที่มาที่ไปของเมื่อวานอย่างชัดเจน ...



นั่นก็คือ บันทึกที่มีชื่อว่า พัฒนานิสิต (นอกห้องเรียนมหา'ลัย) : เรื่องของคนชายขอบที่ตกขอบมานาน”  http://gotoknow.org/blog/pandin/247115

แน่นอนครับ  มันเหมือนการเริ่มต้นได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเสียที  ถัดจากนี้ไป ทั้งผมและทีมงาน ต้องลงแรงใจกันอีกเท่าตัว

 

 
หมายเลขบันทึก: 284443เขียนเมื่อ 8 สิงหาคม 2009 07:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 10:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)

ขอแสดงความยินดีด้วยนนะคะ

ที่ไม่เป็นชายขอบ งานพัฒนานิสิตเป็นยุทธศาสตร์ที่เด่น

ที่ชอบนะคะ กำลังลุ้นให้น้องแตมไปเรียนที่มมส.อยู่คะ

น้องแตมบอกว่าได้ข่าว มมส.ไม่รับเด็กสาธิต มข. เท็จจริงอย่างไรบอกด้วย

  • อิ่มเอมใจทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสความรู้สึกของอาจารย์แผ่นดินผ่านอักษร
  • พลอยพาให้ความรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งใจกายลดลงเยอะค่ะ
  • ชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ..กับการสอนงานสร้างคนแบบบันเทิงเริงปัญญา..สุดยอด
  • ขอแสดงความดีใจกับการเป็น "คนในขอบ" แล้ว
  • อย่างภาคภูมิ..เสียด้วย
  • กว่าจะถึงวันนี้..ของอาจารย์แผ่นดิน ทำให้ต้องยิ้มทั้งน้ำตาไหมคะ

  •   ด้วยมิตรภาพจากใจจริงค่ะ..                       

สวัสดีครับอาจารย์

ฟังอาจารย์พูดแล้วเข้าใจมาก ๆ

กับคนทำงานที่มีเป้าหมายให้กับลูกศิษย์

คิดเป็น ทำเป็น และมีความคิดสร้างสรรค์

ไปสนองตอบในอนาคตที่พวกเขาจะไปสร้างชาติ

อย่างมีคุณธรรมในสังคม ครับ

ผมยังมีความรู้สึกดี ๆ กับงานกิจการนักศึกษา

ที่ผมเคยเป็นนายกสโมสรนักศึกษา

รองประธานสภานักศึกษา

หัวหน้าหมู่เรียน

และการออกค่ายอาสาพัฒนา

ทำให้สิ่งเหล่านี้ที่ทำเป็ประสบการณ์การทำงาน

ในการมีจิตสาธารณะ ครับอาจารย์

ชื่นชมและยินดีที่มีอาจารย์ ที่เป็นผู้สร้างบัณฑิต

ที่สมบูรณ์ในความเป็นผู้รู้ ผู้ประเสริฐ อย่างแท้จริงในอนาคต

ที่เป็นจริงได้

สวัสดีค่ะ

  • เก็บหนังสือไว้ให้พี่คิมด้วยนะคะ
  • ยังไม่มีเวลาไปส่งเงินให้เลยค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้เด็กที่อยู่หน้าปกหนังสือด้วยนะคะ

สวัสดีครับอาจารย์

ฟังอาจารย์พูดแล้วเข้าใจมาก ๆ

กับคนทำงานที่มีเป้าหมายให้กับลูกศิษย์

คิดเป็น ทำเป็น และมีความคิดสร้างสรรค์

ไปสนองตอบในอนาคตที่พวกเขาจะไปสร้างชาติ

อย่างมีคุณธรรมในสังคม ครับ

ผมยังมีความรู้สึกดี ๆ กับงานกิจการนักศึกษา

ที่ผมเคยเป็นนายกสโมสรนักศึกษา

รองประธานสภานักศึกษา

หัวหน้าหมู่เรียน

และการออกค่ายอาสาพัฒนา

ทำให้สิ่งเหล่านี้ที่ทำเป็ประสบการณ์การทำงาน

ในการมีจิตสาธารณะ ครับอาจารย์

ชื่นชมและยินดีที่มีอาจารย์ ที่เป็นผู้สร้างบัณฑิต

ที่สมบูรณ์ในความเป็นผู้รู้ ผู้ประเสริฐ อย่างแท้จริงในอนาคต

ที่เป็นจริงได้

ล้นลึกในความรู้สึกกับบันทึกที่ทรงคุณค่า เรื่องราวมากมายนานา สร้างค่าคนเต็มค่าคน...ขอเป็นกำลังใจให้ครับอาจารย์

สวัสดีค่ะอาจารย์ มาเป็นอีกกำลังใจดีๆ

การประชุมคงเครียดนะคะ....อาจารย์มีเวลาพักบ้างไหม เห็นแล้วเหนื่อยแทน...ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่ทำ มีพลังดีๆ...

ภูมิใจแทนน้องๆที่มีพ่อเก่งๆนะคะ....

 

สวัสดีค่ะ

ห้องสมุดโรงเรียนบ้านน้ำจุนได้รับ หนังสือ เรียนนอกฤดู แล้วนะคะ กราบขอบคุณค่ะ

เทือกเขาภูพานทำให้นึกถึงอะไรต่อมิอะไรมากมาย

สวัสดีค่ะอาจารย์แผ่นดิน

  • ดีใจกับความอิ่มเอมใจที่อาจารย์ได้รับ
  • สิ่งที่ทำด้วยใจรักมาโดยตลอดเกือบค่อนชีวิตและที่ได้รับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
  • กิจกรรมนอกห้องเรียน ก็ถือว่าเป็นแบบฝึกหัดชีวิตใช่ไหมคะ
  • หนังสือของอาจารย์สะท้อนให้ผู้อ่านได้เข้าในวิถีชีวิตอีกมากมายค่ะ
  • รักษาพลังใจให้เข้มแข็งเพื่อพัฒนาคนต่อไปนะคะ

สวัสดีค่ะ...คุณแผ่นดิน

เข้ามาทักทาย...มิ่งมิตรที่แสนดี...และขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จค่ะ

สุดท้ายก็ได้ชื่อว่าเป็นคน..."คนของแผ่นดิน"

---------------

สุขกายสบายใจ-ดิฉันเป็นกำลังใจให้ค่ะ

เข้ามาอ่านด้วยความคิดถึง..ยกย่องในอุดมการณ์ที่เต็มไปด้วยความตั้งใจของอาจารย์

...รักษาสุภาพให้ดีนะครับอาจารย์...

...งานสร้างคนงานสร้างอนาคตของชาติยิ่งใหญ่มากมาย...

สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน

นักคิด นักพัฒนาที่ดีค่ะ

ให้กำลังใจค่ะ

  • ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ
  • และมาช่วยยืนยันนะคะว่า  (ในฐานะศิษย์เก่าที่ผ่านการทำกิจกรรมอย่างเข้มข้น)
  • บทเรียนนอกฤดูของนิสิต มมส.  หรือเดิมคือ  มศว.มหาสารคาม  มีความเข้มข้นมาตั้งแต่อดีต
  • ยาวนานมาสามสิบกว่าปี  ครั้งที่ครูอรวรรณ ยังเป็นนิสิตชั้นปีที่ 1
  • จากแรงกระตุ้นจากบรรดาเหล่าคณาจารย์  ให้สร้างสรรค์สังคมผ่านกิจกรรมค่ายอาสาในวันนั้น ทำให้นิสิตมีความรักสถาบันและมีความผูกพันกันอย่างเหนียวแน่น  ไม่เสื่อมคลาย
  • ดังที่ได้พบปะกันเมื่อวานนี้ 8 ส.ค. 52 ในงาน  เสือดาว 2 คืนถิ่น หลอมดวงจินต์คารวะครู   ที่ ร้านน้องอิน  มหาสารคาม
  • แล้วจะนำภาพบรรยากาศมาให้ชมนะคะ

สวัสดีค่ะ

  • แวะมาเยี่ยมเยียนค่ะ
  • ยินดีและดีใจกับความอิ่มเอมใจที่อาจารย์ได้รับค่ะ
  • มีความสุ่ขเช่นนี้เสมอ ๆ นะคะ

Untitled227

เราไม่ใช่องค์กรชายขอบที่ตกขอบอีกต่อไป ...เราไม่ใช่คนไกลปืนเที่ยงอีกแล้ว...

สวัสดีค่ะ อาจารย์

ลูกศิษย์คนนี้มาแสดงความยินดีอ่างจริงใจด้วยคนค่ะ (^_^)

ยินดีด้วยคน

ต้องหาเวลาไปเรียนรู้นอกห้องเรียนบ้างแล้ว

สวัสดี ครับ คุณ แผ่นดิน

อ่านแล้ว...รู้สึกถึงความมุ่งมั่น มาก นะครับ

ขอบส่งแรงใจไว้ ยามท้อ...จะได้มีพลังหนุน เยอะ ครับ

ด้วยความระลึกถึง ครับ

 

ขอบ ขอส่งแรงใจไว้ ยามท้อ...จะได้มีพลังหนุน เยอะ ๆ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท