สงกรานต์ปีนี้ ผมไม่มีโอกาสได้เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการเดินทางอันแสนไกลเท่าที่ควรนัก เพราะยังลังเลกับงานราชการที่ติดพันอยู่รอบตัว.. ดูอย่างวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมาผมยังหอบสังขารกลับที่พักเกือบ 6 ทุ่มเข้าไปแล้ว ตั้งใจจะเข้าบล็อกเพื่อเติมเต็มชีวิตชีวาเสียหน่อย แต่กลับกลายเป็นว่าเข้าระบบไม่ได้ ! เลยหยิบ ๆ จับ ๆ หนังสือพักใหญ่ เพียงหวังให้หนังสือเป็นยานอนหลับ แต่เอาเข้าจริง - กว่าจะหลับลงได้ก็ปาเข้าตี 2 โน่นเลยทีเดียว...
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เช้าวันวันรุ่งขึ้น (13 เมษายน) ผมตื่นนอนตอนเกือบ ๆ 7 โมงเช้าตรวจเช็คสภาพรถและเคลื่อนตัวเดินทางออกจากมหาวิทยาลัยไปยังบ้านเกิดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการไปรับลูกชายทั้งสองคนเพื่อเดินทางไปยังบ้านหนองทับม้า อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ – </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า “น้องดิน – น้องแดน” ไม่ยินยอมเออออร่วมเดินทางไปกับเราด้วย โดยพวกเขาต่างชักแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างเอ่ยนานาประการ อาทิ ไกลเกินไป , จะอยู่เล่นน้ำ, เหนื่อย หรือแม้แต่ ไม่อยากจะไป !</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ด้วยเหตุเช่นนี้ เพื่อนชีวิตของผมจึงตัดสินใจที่จะเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางกลับบ้านเกิดที่อำนาจเจริญ โดยให้ผมฝังตัวอยู่ที่กาฬสินธุ์เพื่อดูแลลูก ๆ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเข้าใจดีว่าเธอต้องการเช่นนั้นจริง ๆ อีกทั้งส่วนหนึ่งผมเข้าใจว่าลึก ๆ เธอคงต้องการให้ผมได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากเคี่ยวกรำชีวิตกับงานมาตลอดสัปดาห์ โดยมั่นใจว่าผมไม่มีทางพกพาความโสด (ชั่วคราว) ไปตะลอนทัวร์ที่ใดได้แน่ เพราะลูก ๆ จะคอยเกี่ยวรัดเกาะขาและขี่คออยู่อย่างไม่ว่างเว้น รวมถึงเบื้องลึกที่เป็นข้อเท็จจริงอันสำคัญยิ่งก็คือ ผมไม่ใคร่ใยดีต่อการเดินทางในเทศกาลใด ๆ เลยก็ว่าได้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p>นี่คือสงกรานต์ครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ผมมีเวลาได้อยู่กับ “ตัวเองและคนที่เรารัก” เพราะที่ผ่านมาผมรับหน้าที่ตั้งเต็นท์บริการผู้สัญจรเดินทาง หรือไม่ก็ต้องเที่ยวตระเวนนิเทศกิจกรรมของนิสิตที่อยู่ในหมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคามและกาฬสินธุ์…</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ช่างเป็นความโชคดีของผมโดยแท้ที่ได้รับ “วันเวลาแห่งชีวิต” ของเทศกาลสงกรานต์กลับคืนมาสู่ชีวิตของตนเองอีกครั้ง แต่บางห้วงนึกก็อดคิดไม่ได้ว่าจะจัดการกับวันเวลาเหล่านี้ยังไงดี ? เพราะการที่ห่างเหินวันหยุดไปนานเช่นนี้ ก็หลงลืมไปบ้างเหมือนกันว่าต้องทำอะไรบ้าง ? รวมถึงบรรดาญาติก็คงแปลกประหลาดอยู่ไม่น้อยที่เห็นผมวางมือจากงานราชการไปร่วมกิจกรรมกับพวกเขา !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">จะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ … ผมตัดสินใจขับรถยนต์ไปส่งเพื่อนชีวิตและญาติของเขาที่อำนาจเจริญ โดยเลือกใช้เส้นทางที่คาดว่าแปลกเปลี่ยว – ผู้คนไม่พลุกพล่าน – รถราไม่มากมาย ซึ่งหมายลึกว่า “จะไม่มีคนเล่นน้ำ” อย่างมากมายมหาศาล โดยการสัญจรไปยังตัวเมืองกาฬสินธุ์ ผ่านเส้นทาง อ.กมลาไสย, ร่องคำ ไปสู่ อำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดร้อยเอ็ด อันได้แก่ อ.โพนทอง, โพธิ์ชัย, หนองพอก จากนั้นก็เข้าสู่เขตพื้นที่อำเภอของจังหวัดยโสธร นั่นก็คือ เลิงนกทา และสู่จุดหมายปลายทางที่ อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p>ผมรักและคลั่งไคล้การเดินทางเสมอ ยิ่งได้ขับรถเองก็ยิ่งมีความสุขเป็นพิเศษ อยากแวะชมอะไรก็แวะได้ดังใจหมาย…(ยิ่งคนนั่งข้าง ๆ หลับสบายในรถผมยิ่งมีความสุขในการขับเป็นที่สุด)</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตลอดเส้นทางการเดินทางพานพบวัฒนธรรมการเล่นน้ำที่ไม่ต่างกันในทุกท้องที่ - โดยเฉพาะริมทางในเขตชุมชนที่ชาวบ้านมักจับกลุ่ม “เล่นสาดน้ำ – ปะแป้ง” กันอย่างคึกคักและ “ถึงลูกถึงคน” และเป็นกันเองอย่างน่ารัก !</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมไม่ใครพบคนเมาแล้วขับ แต่พบคนเล่นน้ำที่อยู่ในอาการเมาสุรา หรือดื่มสุราอย่างมากมายก่ายกอง </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ปรากฏการณ์เช่นนั้นชวนให้ผมขบคิดอยู่อย่างลึก ๆ เงียบ ๆ ว่าเรามักรณรงค์เขียนป้าย “เมาไม่ขับ” หรือแม้แต่ “ขับช้า ๆ เสียเวลา ดีกว่าเสียชีวิต” แต่ไม่ค่อยพบว่ามีการรณรงค์โดยใช้วาทกรรมที่สื่อสะท้อนในทำนองให้คนเล่นน้ำที่อยู่ตามถนนสายต่าง ๆ เพลา ๆ การดื่มสุราลงบ้าง บางท้องที่ผมเห็นคนเมาฟ้อนเซิ้งกรีดกรายออกมากั้นให้รถหยุด ผมยิ่งเฝ้าสังเกตและภาวนาว่าอย่าได้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ กับพวกเขาเลย..</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">นั่นคือภาพชีวิตอันเป็นรูปแบบของวัฒนธรรมในเทศกาลน้ำที่พบอย่างหลากล้นอยู่ตลอดเส้นทาง ถึงแม้เส้นทางที่ผมเลือกจะถือว่าเปลี่ยวแปลกอยู่บ้าง กระนั้นก็ยังถือว่ามีรถราสัญจรคึกคักอยู่ไม่น้อย และพบอุบัติเหตุถึง 3 ครั้ง 3 ครา </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ชีวิตบนท้องถนนดูรีบเร่งกันทั้งนั้น ! ป้ายทะเบียนรถต่างจังหวัดวิ่งอยู่ในถนนอย่างรวดเร็วและมากมาย นั่นอาจหมายถึงการมาท่องเที่ยว หรือแม้แต่การกลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนก็เป็นได้ !</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมเห็นรถจำนวนไม่น้อยบรรทุกชีวิตอย่างมีชีวิต…มีสัมภาระและของฝากจากการเดินทางอันแสนไกลจากเมืองใหญ่กลับสู่หมู่บ้าน… ผมพบรถเล็กแต่บรรทุกสินค้าเต็มพิกัดมุ่งกลับบ้านเพื่อจำหน่ายในเทศกาลสงกรานต์อย่างรีบเร่ง ..</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมไม่ได้รีบเร่งเหมือนเช่นพวกเขา…เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมขับรถทางไกลโดยเข็มวัดความเร็วไม่ถึง 100 …ผมจอดแวะริมทางเสมอเมื่อรู้สึกอยากหยุดพัก โดยเฉพาะการหยุดรถเพื่อบันทึกภาพของ “เถียงนา” และ “ทุ่งนา” ที่อยู่ตามรายทาง … บ้างแห้งแล้ง โหยไห้ ขณะที่บางแห่งกลับเริ่มทอสีเขียวอ่อน ๆ ต้อนรับลมร้อนอย่างทระนง</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมไปถึงจุดหมายตอนเกือบ ๆ บ่าย 3 โมงเย็น - แต่ต้องรีบเร่งจัดการกับเวลาอันน้อยนิดแต่ยิ่งใหญ่นั้นอย่างเต็มอัตราศึก เริ่มจากการสรงน้ำกระดูกบรรพบุรุษของเพื่อนชีวิต…รวมถึงพ่อตาผู้ล่วงลับดับหายไปนานกว่า 3 ปีเศษ ๆ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p> </p><p> </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมมีเวลาพักฟื้นร่างกายแต่เพียงสั้น ๆ จากนั้นประมาณบ่าย 4 โมงเศษก็ขับรถกลับมายังกาฬสินธุ์อีกครั้ง … หากแต่ขากลับผมตัดสินใจใช้เส้นทางหลักเข้าสู่ตัวจังหวัดอำนาจเจริญ – ยโสธร – ร้อยเอ็ด – กาฬสินธุ์ เพียงเพราะรู้สึกว่าถนนหนทางได้มาตรฐานกว่าเส้นทางเดิมที่สัญจรในช่วงเช้ามากมายนัก แต่ก็ไม่วายต้องเตือนตนเองเสมอว่า “ต้องใจเย็น ๆ …เพราะรถมันเยอะ !”</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ตลอดเส้นทางจากตัวจังหวัดอำนาจเจริญมาถึงกาฬสินธุ์ถูกห่มคลุมด้วยฟ้าอุ้มฝน ..อากาศไม่ร้อน และมีฝนตกปรอยปรายอย่างไม่ขาดสาย</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ผมกลับถึงบ้านอีกครั้งในเวลา 4 ทุ่มเศษ ๆ … ไม่ทันได้ทานมื้อเย็นกับพ่อ – แม่ แต่ท่านทั้งสองยังคงรอการกลับมาของผมอย่างใจจดใจจ่อ ขณะที่ลูกชายคนเล็กหลับพริ้มอยู่บนฟูกที่เก่าโชยกลิ่นอับอ่อน ๆ ส่วนคนโตยังคงรอคอยผมอย่างไม่มีทีท่าง่วงเหงาหาวนอน - รอคอยพร้อมๆ กับการพกพาเรื่องเล่าอันหลากรสชาติของการเล่นน้ำในวันนี้ที่พร้อมเล่าสู่ผมอย่างปลื้มปิติ</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p>นี่คือ การเดินทางที่ไม่รีบเร่งในเทศกาลน้ำที่ผมไม่คุ้นเคยนัก เพราะเพิ่งมีโอกาสได้ “วันเวลาของชีวิต” อันเป็นวันหยุดในเทศกาลนี้กลับคืนมาอย่างแทบไม่น่าเชื่อ ! </p><p></p><p></p>
สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ อ่านเพลินเลย คุณแผ่นดิน เขียนให้อ่านสนุก มองเห็นภาพค่ะ เอ่ยถึงลูกๆแล้ว น่ารักมากค่ะ
สวัสดีครับคุณ แผ่นดิน
ขอให้มีความสุข ขอบคุณครับ
ผมมีความสุขกับการเดินทางเสมอ โดยเฉพาะการได้ขับรถไปเองยิ่งถือเป็นกำไรชีวิต เช่นเดียวกับครั้งที่ อ.แป๋วติดรถกลับจากบ้านพ่อครูบานั้นก็ถือเป็นเกียรติสำหรับผมยิ่งนัก.นะครับ
...ที่บ้าน...มีคนที่เรารัก - รักเรา ..รอคอยอยู่เสมอ ยิ่งช่วยให้เราต้องดูแลตนเองมากขึ้น
ขอบคุณครับ
ผมดูระยะทางตลอดเส้นทางจนถึงวันนี้ก็รวมแล้ว 1,100 กิโลเมตร..เป็นการเดินทางที่รื่นรมย์สำหรับผมมาก..
ขอบพระคุณนะครับที่แวะมาทักทายและให้กำลังใจผมอยู่อย่างต่อเนื่อง
คุณแผ่นดินครับช่วยลบ Comment ข้างบนด้วย ยังไม่เสร็จ มือไปกดโดนบันทึกก่อนครับ
จะกี่ร้อน กี่หนาว เราไม่สน
ยอมสู้ทน ฝันฝ่า ท้าแดดฝน
แม้จะรอ ปีหน้า ก็ยอมทน
รอผู้คน เจ้ามา หาพึ่งพิง
แม้ชรา เสาเอน เป็นเช่นนี้
ก็มีดี อยู่ที่ ให้คุ้มฝน
ใว้บังแดด เป็นเงา ไม่ละคน
เหมือนดั่งคน แก่เฒ่า เฝ้ารอทาง...
ผมได้รับแนวคิดที่ดีและลุ่มลึกเสมอจากการทิ้งรอยไว้ในบันทึกทุกบันทึกของผม...
ตอนนี้ผมถ่ายภาพเถียงนาน้อยในละแวกมหาสารคาม,ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, ยโสธร, ขอนแก่น และอำนาจเจริญไว้แล้ว ..เกือบ ๆ 20 ภาพ และกำลังเขียนบันทึกเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้...
ไม่นานเกินรอ - สัปดาห์หน้าคงได้อ่านกันแน่นอนครับ
....
ขอบคุณครับ...
สว้สดีค่ะคุณแผ่นดิน
ขอบคุณพี่สมนึก - มากครับ
กลอนเพราะและมีความหมายที่ดีมาก...และจริงดังว่านะครับ ไม่ว่าฤดูกาลใดก็แล้วแต่ เถียงนายังคงรับใช้ผู้คนอย่างไม่เลือกหน้าเลือกตา และไม่เกี่ยงงอนใด ๆ ..บางอารมณ์เหมือนรอคอยการดูแลด้วยเช่นกัน
ขอบคุณมากครับ,...
ดีจังครับ ขับรถแล้วไม่เคยเหงา - มีเพื่อนคุยตลอดทาง...ถึงลูกถึงคนดี.. อย่างน่านับถือ (ยิ้ม ๆ)
.......
ภาพน่ารักจังเลย...ลูก ๆ ชอบขี่คอผมแต่ไม่ยักจะขอขี่คอคุณแม่เขาเลย...
....
ขอบคุณนะคะอ่านแล้ว...รู้สึกดีมากเลยค่ะ...
ช่วงปีหลังนี้กะปุ๋มขับรถช้าลง...ประมาณไม่เกินร้อย...
อีกทั้งเรายังได้ซึมซับอารมณ์...สุนทรียภาพสองข้างทาง...ไปด้วย...น่าอภิรมย์ยิ่งนัก..
...
การได้เข้ามาอ่านบันทึกของคุณพนัสบ่อยๆ นี้ก็ช่วยทำให้...อารมณ์และจิตใจละไมมากขึ้นค่ะ
(^______^)
ขอบคุณค่ะ
กะปุ๋ม
น้องชาย
ความอบอุ่นไม่เคยจางหายไปจากบันทึกของน้องชายคนนี้เลย
อบอุ่นเสมอที่เข้ามาค่ะ
ดูแลหัวใจและคนรอบ ๆ ข้างให้มีความสุขนะคะ
วันนี้ผมคุยกัยแฟนและขำกันมากกับวิถีชีวิตในวันหยุดช่วงนี้ที่เทียวตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ ...ราวกับเป็นครอบครัวกลางถนน...ข้ามอำเภอโน่นไปจังหวัดโน้นบ้างตามประสาคนหลายบ้าน...
แต่ทั้งหมดก็เป็นความสุขที่ผมควรต้องทำ...หลังจากที่ห่างเหินไปนาน...
ขอบคุณนะครับ...ขอบคุณทุกสิ่งอย่างที่มีให้อย่างไม่เคยขาดห้วง
ขอบคุณมากเลยนะครับที่แวะมาทักทาย...ผมแวะไปอ่านบันทึกของคุณกะปุ๋มบ่อยครั้ง...แต่ก็ต้องขบคิดอยู่มากกับเนื้อความที่สื่อสาร เพราะออกแนวปรัชญาอยู่เยอะ...(ผมไม่ถึง...ครับ)
กระนั้นก็ยังมีความสุขที่จะขบคิดอยู่อย่างไม่ว่างเว้น...
ขอให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตและการงานเสมอไป, นะครับ
ผมเองก็สูญเสียหลานชายจากอุบัติเหตุและจากอาการเมาสุราไปเมื่อกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว....ผมปวดร้าวและเศร้าเสมอเมื่อคิดถึงเขา...และยังคิดถึงอยู่อย่างไม่เสื่อคลาย....
ผมรู้สึกผิดที่ยังไม่มีโอกาสได้ดูแลพวกเขา....ผมทุ่มเททำงานเรื่องการรณรงค์เรื่องนี้มาร่วม 4 ปีเต็ม ๆ แต่กลับต้องมาสูญเสียหลานชายไปอย่างไม่มีวันกลับ
วูบใดที่คิดถึงเขา...ผมเศร้าและเศร้าเสมอ....เสียดายที่ยังไม่ได้ดูแลเขาดังที่ควรจะเป็น....
และการได้สร้างหน่วยสวัสดิภาพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุขึ้นมา จึงเป็นเสมือนการแผ่กุศลให้กับหลานชายที่ล่วงลับไปกับอุบัติเหตุครั้งนั้น...
....สงกรานต์ ผมจึงไม่อยากพานพบการสูญเสียใด ๆ อีกเลย
รับปากครับ...(จะ) ดูแลหัวใจและคนรอบ ๆ ข้างให้มีความสุข
เช่นกันนะครับ....ขอให้มีความสุขทุกวันและเสมอไป