- "ทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา"
- เศร้าจังคะ
รางวัลซีไร้ท์ปีที่แล้วค่ะ
บทที่หนึ่งชื่อ"กระทะกับตะหลิว"
ชื่อบทและคำโปรยที่กัดกินหัวใจคนอ่าน อาจสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กัน กับเนื้อหา
แต่มีนัย..นัยยะสืบเนื่องกัน
คำโปรยที่กัดกินหัวใจ
"แม่ไม่เคยสัญญาว่าจะกลับมา"
ประโยคนี้เริ่มต้นบนมุมขวาของบทที่หนึ่งค่ะ "โฮ"ค่ะตอนอ่านครั้งแรก..รอบแรก
ไม่เสียน้ำตาได้หรือคะ โดยเฉพาะคนที่เข้าใจความรู้สึกของการเป็นแม่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่ตามมา ดำเนินไปอย่างช้า ๆ เรียบ ๆ เนิ่น ๆ ราวกับต้องการ เป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้คนอ่านเห็นภาพของ"กะทิ"ที่ค่อย ๆเติบใหญ่
เติบโตทั้งกายภาพและความคิดอ่าน
รวมทั้งเป็นการถ่ายทอดให้เห็นว่า ถึงแม้กะทิจะไม่ได้อยู่กับแม่ แต่เธอมีความสุข
มีตาและยายดูแล ฟูมฟักให้ความอบอุ่น
มีพี่ทองเป็นเสมือนพี่ และเพื่อน
มีครูราตรี มีน้าฏา มีลุงตอง มีเพื่อน ๆ เฮี้ยว ๆ และไม่เฮี้ยว
ชีวิตดำเนินไปตามปกติ
แต่ทว่าในส่วนลึกของหัวใจ
เธอปฎิเสธไม่ได้ว่า
หนูน้อยโหยหา ใครคนหนึ่ง
ใครคนหนึ่งผู้ซึ่ง
"มีเพียงเสียงของแม่เท่านั้นที่กะทิจำได้เสมอ"
หากไม่ได้ฟูมฟาย หนูกะทิของเรา
เธอค่อย ๆ เข้าใจชีวิต..เข้าใจในสถานภาพที่แม่และเธอต้องแยกจากกัน
จากเป็น..จน...กลายเป็นจาก..นิรันดร์
"กะทิรอแม่ทุกวัน"
"ในบ้านไม่มีรูปถ่ายของแม่เลย"
"กะทิจำหน้าแม่ไม่ได้แล้ว"
และที่สุดประโยคหนึ่งของตา
"กะทิ ลูกเอ๊ย คนเราอยู่ที่ไหนก็ดูพระจันทร์ดวงเดียวกัน"
หนูน้อยก็คิดต่อเอาเองในใจว่า
ตาคงหมายถึง "ใครคนหนึ่ง" กำลังมองดูดวงจันทร์แสนสวย บนฟ้าอยู่เช่นกัน
ใครคนนั้นคือคนที่หัวใจของกะทิร่ำร้องเรียกหาอยู่ ทุกลมหายใจ
เรื่องในบทส่งท้ายทิ้งท้ายไว้ดีมาก
"ทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา"
"ทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา"
ลองอ่านประโยคนี้ซ้ำ ๆ และทำความเข้าใจให้ดี
เป็นสิ่งที่จริงที่สุด
"ทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา"
นอนให้หลับ
วันรุ่งพรุ่งนี้ตื่นมาก็จะเป็นอีกวันหนึ่ง
....ความสุขของกะทิ.....
หนังสือแห่งความสุขที่เรียกน้ำตา(ดิฉัน)เกือบทุกตัวอักษร
"ทิ้งอดีตไว้ให้เป็นเพียงเงา" เศร้าจังคะ ชอบประโยคเดียวกันค่ะ
หามาอ่านนะคะ ถ้าหายากแล้วล่ะก็ มาแวะที่โรงพยาบาล(ถ้าเจอ)จะยกให้หนึ่งเล่มค่ะ
อารมณ์เดียวกันค่ะ..เมื่อซึ้งและอยากร้องก็ร้อง..บ่อยครั้งที่น้ำตาไหลแต่สุขใจ..ขอบคุณค่ะ
หนังสือเศร้าๆ อ่านแล้ว ร้องไห้ค่ะ
หนังสือเล่มนี้ซึ้งแต่ไม่เชิงเศร้า อบอุ่นคลุกเคล้าน้ำตานิด..หนึ่งค่ะ (ความเห็นส่วนตัว..)
วันนี้ได้ดูหนัง แล้วค่ะ
เด็กที่เล่นเป็นกะทิหน้าตาน่ารักมาก
คุณรัชนก แสดงเป็นคุณแม่ เล่นได้พอดี ๆ ดู ๆ แล้วเหมือนท่าทางคนไข้จริง ๆ
โรค ALS (Amyotrophic lateral sclerosis) แม้ไม่เคยเห็นกับตา แต่ดูคุณ Stephen Hawking ซึ่งป่วยด้วยโรคนี้เหมือนกัน แล้วคิดว่า แม้ไม่ดูเพลีย ๆ เท่า แต่คุณรัชนก ก็แสดงท่าทางได้ผ่าน
อยากให้หลาย ๆ คนดูค่ะ หนังทำได้ "ดี" ในความรู้สึกส่วนตัว
ถ่ายภาพสวย อาร์ต ได้อารมณ์เข้ากับธีมของเรื่อง ดนตรีและเพลงประกอบ โอเค
เสียดายนิดเดียวว่า นักแสดงบาง(อืมม..หลาย)คน แข็งไปนิด
สรุปว่า ชอบ เชียร์ค่ะ
มีลูก ไม่มีลูก มีครอบครัวแล้วหรือยังไม่มี ก็..น่าจะดู ค่ะ
ไม่เศร้านะคะ คิดลึก ๆ หนูน้อยกะทิ เธอมีความเข้มแข็ง มีความสุข มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
**เธอรู้ใจตัวเองว่า ต้องการอะไร และ เลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการ **
ถ้าคิดให้ดีเป็นสัจธรรม นะคะ