กิจกรรมแรกสุดของทุกการอบรมคงหนีไม่พ้น การแนะนำตัว ในการอบรมเผชิญความตายอย่างสงบครั้งนี้ นอกเหนือจากการแนะนำตัวซึ่งน้องเล็ก..ปรีดา วิทยากรหลัก ใช้วิธีให้ทุกคนแนะนำตัวเอง ๓-๔ ประเด็น ตาม คำถามท้ายบันทึก นี้แล้ว ยังมีข้อตกลง..ฟังดูเป็นทางการจัง ที่ทางวิทยากรฝากไว้ให้ผู้เข้าอบรม สรุปตามภาษาของผมได้สามประเด็น คือ
- ถอดหมวก: ให้ทิ้งยศฐาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่การงานไว้ที่ทำงาน ทุกคนเสมอภาค เป็นส่วนหนึ่งของวงกลมที่เรานั่งล้อมกันอยู่ เพื่อเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
- เปิดเสาอากาศ: รับฟังผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง บางครั้งสัญญาณไม่ชัด ก็ต้องจูนเครื่อง ปรับเครื่องรับสัญญาณ ให้ตั้งใจรับฟังความเห็นความรู้สึกของผู้อื่น อย่าเพิ่งตัดสิน วิเคราะห์วิจารณ์ (แม้แต่ในใจ) ว่าคำพูดของเขา ไม่ได้เรื่องไร้สาระ เศร้าไปฉันไม่ฟัง ใส่ไข่นี่หว่า
- แบ่งปัน: ทั้งความรู้ ประสบการณ์และเวลาร่วมกันอย่างเห็นคุณค่า นำเสนอความรู้สึก ความคิดของตนเองอย่างเปิดเผยและกระชับ เปิดโอกาสให้ผู้อื่นร่วมแสดงความเห็น ไม่ผูกขาดคนเดียว
จุดที่ผมเห็นว่าการอบรมครั้งนี้แตกต่างจากการอบรมส่วนใหญ่ คือ วิทยากรเองก็ต้องแนะนำตัวด้วยวิธีเดียวกับผู้เข้าอบรม สิ่งนี้สื่อให้เห็นว่า วิทยากรก็ต้องถอดหมวก เปิดเสาอากาศและแบ่งปัน ร่วมเรียนรู้ไปกับผู้เข้าอบรมด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจนะครับ ที่วิทยากรจะเล่าประสบการณ์ตนเอง น้ำตาคลอ ร่วมประทับใจและสะเทือนใจ ไปกับผู้เข้าอบรมอย่างกลมกลืน
คำถามสำหรับบันทึกนี้
๑. ชื่อจริง ชื่อเล่น ชื่ออะไร
๒. ทำงานอะไร
๓. ตั้งแต่เช้ามาถึงตอนนี้ รู้สึกอย่างไรบ้าง
๔. อะไรเป็นแรงจูงใจให้สนใจเรื่อง เผชิญความตาย
อยากชวนให้ทุกท่านร่วมถอดหมวก เปิดเสาอากาศและแบ่งปันใน บันทึกนี้ด้วยนะครับ
มาร่วมเปิดหมวกด้วยค่ะ
1.ชื่อจริง อนิศรา โกวิทยานนท์
ชื่อเล่น นิด
2.เป็นรังสีแพทย์ค่ะ
3.ตั้งแต่เช้ามาถึงตอนนี้ รู้สึกมาหลายอย่างแล้วค่ะ ครบทุกอารมณ์
4.แรงจูงใจให้สนใจเรื่องความตายเพราะเจอประสบการณ์ตรงที่เคยเฉียดตาย เจอผู้ป่วยที่มาตรวจรักษาแล้วเสียชีวิตไป อยู่กับคุณพ่อตอนใกล้จะเสียชีวิต
อาจารย์ ย่ามแดง ครับ
หมอนิด ครับ