กรณีนายมาร์ค : จากคนต่างด้าวซึ่งมีจุดเกาะเกี่ยวโดยการเกิดกับประเทศไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดา ใน พ.ศ.๒๕๓๑....สู่คนสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดาตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕
โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร
เขียนเมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๕
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๖
กรณีศึกษาเพื่อการสอนวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล
http://gotoknow.org/blog/people-management/316087
http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=486&d_id=485
https://www.facebook.com/note.php?saved&¬e_id=10151956180638834
--------------
ข้อเท็จจริง
-------------
เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ นายสามารถหรือสมิทซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิด ได้สมรสตามกฎหมายไทยกับนางโสรยาซึ่งมีสัญชาติไทยโดยการเกิดเช่นกัน
ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๒๗ บุคคลทั้งสองไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศซาอุดิอาระเบีย
นายสามารถได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นอเมริกันใน พ.ศ.๒๕๒๙ และใน พ.ศ.๒๕๓๐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศคำสั่งอนุญาตให้นายสามารถสละสัญชาติไทยในราชกิจจานุเบกษา
ใน พ.ศ.๒๕๓๑ นายสามารถและนางโสรยามีบุตรด้วยกัน ๑ คน กล่าวคือ นายมาร์ค ซึ่งเกิดในประเทศซาอุดิอาระเบีย
--------
คำถาม[1]
---------
๑. โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล ถามว่า นายมาร์คมีข้อเท็จจริงอันเป็นจุดเกาะเกี่ยวที่แท้จริงกับประเทศไทยหรือไม่ ? ถ้ามี ข้อเท็จจริงนั้นอาจทำให้ได้รับสัญชาติไทยหรือไม่ ?
๒. ในกรณีที่มีจุดเกาะเกี่ยวที่อาจทำให้ได้สัญชาติไทย โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล จะต้องใช้กฎหมายของประเทศใดในการพิจารณาปัญหาการได้สัญชาติไทยของ นายมาร์ค ? เพราะเหตุใด ?
๓. โดยผลของกฎหมายไทยดังกล่าว นายมาร์คได้สัญชาติไทยโดยการเกิดหรือไม่ ? เพราะเหตุใด ?
๔. ในวันนี้ นายมาร์คจะต้องทำอย่างไรเพื่อทำให้ได้สถานะคนสัญชาติไทย ?
---------------
แนวคำตอบ
---------------
โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล ขอให้คำตอบต่อคำถามดังต่อไปนี้
๑. นายมาร์คมีข้อเท็จจริงอันเป็นจุดเกาะเกี่ยวที่แท้จริงอันทำให้ได้สัญชาติของประเทศใดบ้าง ? ถ้ามี เพราะเหตุใด ?
โดยพิจารณาธรรมชาติของหลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยอำนาจอธิปไตยของรัฐ เอกชนจึงอาจมีจุดเกาะเกี่ยวกับรัฐใดรัฐหนึ่งได้ใน ๒ ช่วงเวลา กล่าวคือ ในขณะที่เกิด เอกชนอาจมีจุดเกาะเกี่ยวกับรัฐ ๓ สถานะ กล่าวคือ (๑) รัฐเจ้าของถิ่นที่เกิด (๒) รัฐเจ้าของสัญชาติของบิดา และ (๓) รัฐเจ้าของสัญชาติของมารดา ต่อมา ภายหลังการเกิด เอกชนอาจมีจุดเกาะเกี่ยวกับรัฐใน ๒ สถานะ กล่าวคือ (๑) รัฐเจ้าของสัญชาติของคู่สมรส และ (๒) รัฐซึ่งมีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับเอกชน
จากการพิจารณาข้อเท็จจริงของ นายมาร์ค จะพบว่า นายมาร์คมีความสัมพันธ์อย่างแท้จริงกับประเทศไทยตั้งแต่เกิด ทั้งนี้ เพราะมารดามีสัญชาติไทย ประเทศไทยจึงมีความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับนายมาร์คในสถานะของรัฐเจ้าของสัญชาติของมารดา
นอกจากนั้น นายมาร์คมีความสัมพันธ์อย่างแท้จริงกับประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่เกิดเช่นกัน ทั้งนี้ เพราะประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นรัฐเจ้าของสัญชาติของบิดา
ในขณะที่ประเทศซาอุดิอารเบียก็มีสถานะเป็นรัฐเจ้าของดินแดนที่เกิดของนายมาร์ค นายมาร์คจึงมีความสัมพันธ์อย่างแท้จริงกับประเทศซาอุดิอารเบียตั้งแต่เกิดเช่นกัน ทั้งนี้
ดังนั้น โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายนี้ยอมรับว่า นายมาร์คจึงมีข้อเท็จจริงอันเป็นจุดเกาะเกี่ยวอันอาจทำให้มีสัญชาติไทย สหรัฐอเมริกา และซาอุดิอารเบีย แต่การจะมีหรือใช้สิทธิในสัญชาติของประเทศดังกล่าวได้จริงหรือไม่ ย่อมเป็นไปตามกฎหมายของรัฐเจ้าของสัญชาติแต่ละรัฐ ซึ่งอาจนำไปสู่สภาวะคนหลายสัญชาติก็เป็นได้
๒. จะต้องใช้กฎหมายของประเทศใดในการพิจารณาปัญหาการได้สัญชาติไทยของ นายมาร์ค ? เพราะเหตุใด ?
เมื่อปรากฏว่า นายมาร์คซึ่งเกิดใน พ.ศ.๒๕๓๑ จากมารดาสัญชาติไทย กฎหมายที่มีผลกำหนดปัญหาความเป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิดของ นายมาร์ค จึงได้แก่ พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดย ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ ซึ่งมีผลกำหนดปัญหาความเป็นคนสัญชาติไทยโดยการเกิดของบุคคลที่มีจุดเกาะเกี่ยวโดยการเกิดกับประเทศไทยระหว่างวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ จนถึงวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕
เมื่อฟังว่า นายมาร์คมีจุดเกาะเกี่ยวกับประเทศไทยโดยการเกิดโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดา จึงมีความเป็นไปได้ที่นายมาร์คจะได้สัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดา หากมีข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบของมาตรา ๗ (๒) แห่งพ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดย ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ว่าด้วยการได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
๓. โดยผลของกฎหมายดังกล่าว นายมาร์คได้สัญชาติไทยโดยการเกิดหรือไม่ ? เพราะเหตุใด ?
โดยมาตรา ๗ แห่งพ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดย ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้เกิดนอกราชอาณาจักรไทยโดยมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย แต่ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายหรือบิดาไม่มีสัญชาติ”
จะเห็นว่า บุคคลที่จะมีสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดาภายใต้กฎหมายนี้ จะต้องมีข้อเท็จจริง ๓ ประการ กล่าวคือ (๑) บุคคลนั้นเกิดนอกประเทศไทย (๒) มารดามีสถานะเป็นคนสัญชาติไทยในขณะที่บุคคลนั้นเกิด และ (๓) ไม่ปรากฏบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายหรือบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายไม่มีสัญชาติ
จะเห็นว่า แม้ว่านายมาร์คจะเกิดนอกประเทศไทย กล่าวคือ ในประเทศซาอุดิอารเบียโดยมีมารดาเป็นคนสัญชาติไทย แต่นายมาร์คไม่อาจได้สัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดาโดยการเกิดโดยผลของมาตรา ๗(๒) แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งถูกแก้ไขและเพิ่มเติมโดย ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ ๓๓๗ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ ทั้งนี้ เพราะปรากฏมีบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่เข้าองค์ประกอบของการได้สัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดาโดยการเกิดตามข้อกฎหมายดังกล่าว ดังนั้น ในวินาทีที่เกิด จนกว่าจะมีการกำหนดเป็นอย่างอื่นในกฎหมายไทย นายมาร์คจึงไม่มีสถานะเป็นคนสัญชาติไทย ในสายตาของรัฐไทย นายมาร์คจึงมีสถานะเป็นคนต่างด้าวที่มีจุดเกาะเกี่ยวเข้มข้นกับประเทศไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดา
๔. ในวันนี้ นายมาร์คจะต้องทำอย่างไรเพื่อทำให้ได้สถานะคนสัญชาติไทย ?
นับแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ รัฐสภาไทยยอมรับ พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ อันมีผลปรับแนวคิดเรื่องสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดา ให้มีลักษณะกลับไปสอดคล้องกับหลักกฎหมายสัญชาติ นั่นก็คือ บุตรของมารดาสัญชาติไทยทุกคนย่อมสืบสิทธิในสัญชาติไทยจากมารดาได้ ไม่ว่าจะเกิดนอกหรือในประเทศไทย หรือไม่ว่าจะปรากฏมีบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หรือไม่ว่าบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายจะมีสัญชาติหรือไม่ ข้อเท็จจริงเดียวที่ทำให้ได้มาซึ่งสิทธิในสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดา ก็คือ มารดาเป็นคนสัญชาติไทยในขณะที่บุตรเกิด
จึงสรุปหลักกฎหมายในเรื่องนี้ได้เป็น ๒ ประเด็นว่า
ประเด็นแรก บุตรของมารดาสัญชาติไทยซึ่งเกิดภายใต้การปฏิรูปกฎหมายใหม่โดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ ย่อมมีสิทธิในสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดาตามกฎหมายใหม่ กล่าวคือ มาตรา ๗ (๑) แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕
ประเด็นที่สอง บุตรของมารดาสัญชาติไทยซึ่งก่อนการปฏิรูปกฎหมายใหม่โดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ ย่อมมีสิทธิในสัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดาตามกฎหมายใหม่ นับแต่วันที่กฎหมายใหม่มีผล นั่นก็คือ วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ มาตราที่เป็นบ่อเกิดแห่งสิทธิมี ๒ มาตรา กล่าวคือ (๑) มาตรา ๑๐ แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕ และ (๒) มาตรา ๗ (๑) แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.สัญชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕
ดังนั้น แม้ว่า นายมาร์คจะไม่ได้สัญชาติไทยจากมารดาในขณะที่เกิดตามมาตรา ๗ (๒) แห่ง พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.๒๕๐๘ ฉบับดั้งเดิม ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีผลในขณะที่นายมาร์คเกิด แต่โดยกฎหมายที่ปฏิรูปใหม่ที่มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๕ เป็นต้นมา นายมาร์คจึงได้สัญชาติไทยโดยหลักสืบสายโลหิตจากมารดาโดยผลของกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ จึงไม่จำเป็นต้องร้องขอสัญชาติไทยแต่อย่างใด
หากวันนี้ นายมารค์ยังไม่มีเอกสารรับรองสิทธิในสัญชาติไทย นายมาร์คก็จะต้องไปแสดงตนขอเพิ่มชื่อในทะเบียนราษฎรของรัฐไทย ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองที่ทำหน้าที่นายทะเบียนราษฎรตาม มาตรา ๓๖ แห่ง พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร พ.ศ.๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขและเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.การทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๑ จะต้องเพิ่มชื่อหรือลงรายการสัญชาติไทยให้แก่นายมาร์คในทะเบียนบ้านประเภทคนอยู่ถาวร (ท.ร.๑๔) หากเจ้าหน้าที่ดังกล่าวปฏิเสธ นายมาร์คก็อาจร้องขอต่อศาลปกครองให้คุ้มครองสิทธิที่จะมีชื่อในทะเบียนบ้านดังกล่าวได้ โดยการบังคับให้อำเภอหรือเขตหรือเทศบาลที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามมาตรา ๓๖ ดังกล่าวมา
----------------------------------
[1] เคยเป็นข้อสอบในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล หลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิต คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ปีการศึกษา ๒๕๔๔ ภาคการศึกษาที่ ๒ ออกโดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร
สวัสดีครับท่านอาจารย์
เป็นความรู้ที่ดีมากครับ
สามารถนำไปแนะนำ...ต่อไปได้ครับ
ขอบคุณมากครับ
ยินดีค่ะคุณประเสริฐ
สวัสดีคะอาจารย์ ได้ความรู้มากเลยคะ
ขอบคุณค่ะปริมปราง