คุณให้ความสำคัญกับชีวิต….กี่เปอร์เซ็นต์? : Life Management


…มุมมองจากอดีต:ปัจจุบัน:อนาคต จาก Knowledge Sharing : Productvity

         ในช่วงเวลาที่ผ่านมา....เรามัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำงานและกิจกรรมต่างๆ ไม่เคยนึกถึงเลยว่าเราให้ความสำคัญกับชีวิตกี่เปอร์เซ็นต์? ในมุมมองของอดีต : ปัจจุบัน : อนาคต จนเมื่อ ดร.ชลวิทย์ เจียมจิตต์ ซึ่งเป็นวิทยากรรับเชิญ ได้มาให้แง่คิดในเรื่องเวลาและการเปลี่ยนความคิด ชีวิต...ก็เปลี่ยน..(….CHANGE….)

 

                           

 

          โดยเล่าว่า...เวลาอยู่ที่ทำงานนั้น บางคนมีอคติกับการทำงาน ทำให้ชีวิตน่าเบื่อ พบคนเดิมๆเบื่อสังคมรอบตัว พอถึงวันหยุดดูกระปี้กระเปร่า ผิดกับวันทำงาน ทำให้ไม่มีความสุขในการทำงาน ดังนั้นให้ลองลุกมาปฏิวัติตัวเองโดยให้ยึดหลัก 5 ประการคือ

สวัสดี.....เช้ามาถึงที่ทำงานก็ลองเอ่ยคำว่า...สวัสดี กับทุกคน...(แม้บางคนเรา

             ไม่อยากสวัสดีก็ตาม ให้ฝึกทำแล้วจะเริ่มชินเอง)

สบายดี.....ถามทุกข์สุขเพื่อนร่วมงานรอบข้างบ้างว่า สบายดี...ไหม? เพื่อแสดง

               ความห่วงใยซึ่งกันและกัน (เพราะทุกคนอยากเป็นsome body ไม่  

               อยากเป็น nobody)

สนุกดี.....ทำงานให้มีความรู้สึกว่า..ท้าทาย...มีความสุขและสนุกกับงาน

เปิดใจ....ต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิตและใจกว้างยอมรับฟังความคิด

             เห็น ติ-ชม ด้วยความจริงใจ รู้จักในการให้อภัย ขอโทษและขอบคุณ

เข้าใจ.....ต้องมีความเข้าใจเพื่อนมนุษย์ว่า นานาจิตตัง ไม่มีใครได้ในสิ่งที่ต้อง

             การเสมอไปและแต่ละคนก็มีความคิดความรู้สึกแตกต่างกันได้ แต่ไม่

             แตกแยกความรักและความสามัคคี

 

                             

 

          จากประสบการณ์ท่านได้เล่าว่า ท่านเคยไปถึงมหาวิทยาลัยแล้วหาที่จอดรถไม่ได้ เสียเวลาขับรถวนไปมาจนเป็นชั่วโมง ทั้งๆที่มาก่อนเวลาสอนแต่จนแล้วจนรอดก็ไปสอนไม่ทันและก็โมโหบ่นว่า ทำไมยามไม่รู้จักกันที่ไว้ให้อาจารย์บ้าง แต่เมื่อมาคิดใหม่ ว่าจะทำอย่างไรคราวหน้าจึงจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก พอวันต่อมา...ก็ได้ตื่นเร็วขึ้นอีก 1 ชั่วโมง ทีนี้มีทีจอดรถว่างเยอะไปหมด...จะเลือกจอดที่ตรงไหนก็ได้ตามใจชอบ อารมณ์ก็ดี มีความสุข จะเห็นว่าการเปลี่ยนวิธีคิด (จากที่มัวแต่โทษคนอื่น...มาปรับที่ตัวเอง) คิดได้..ชีวิตก็เปลี่ยน….

 

          

 

          การอยู่คนเดียว...ให้ระวังความคิด...อยู่ร่วมมิตรให้ระวังวาจา... การรู้จักการเปลี่ยนวิธีคิด เป็นการทำให้วิกฤติที่มีอยู่ให้เป็นโอกาสขึ้นได้ จากการอ้างว่าไม่มีเวลานั้น ...ท่านได้ทำเวลาหล่นหายไปตรงไหน? โดยมุมมองใหม่ในเรื่องเวลา ดังนั้นให้ลองนึกดูว่า...เราได้ให้ความสำคัญกับชีวิตกี่เปอร์เซ็นต์? และก็ลองให้คะแนนตัวเองจาก 100 คะแนน เราให้คะแนนเปอร์เซ็นต์ของอดีต ปัจจุบัน อนาคต สักเท่าไหร่? และลองหาเหตุผลประกอบดู แล้วเราจะรู้ว่า เราสูญเสียเวลาและโอกาสไปในส่วนไหนบ้าง?

 

                    

 

          แต่สูตรการดำเนินชีวิตที่ควรเป็นนั้นคือ อดีต = 0, ปัจจุบัน = 100 , อนาคต = 0 (0:100 :0) เพราะเราไม่สามารถที่จะไปแก้ไขได้และอนาคตก็มาจากปัจจุบัน ซึ่งมันยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงก็คือปัจจุบันเท่านั้น  ที่จะส่งผลและดำเนินอยู่ การไปนึกถึงทั้งอดีตและอนาคตไม่เกิดประโยชน์ จึงมีค่าเป็นศูนย์ แต่มีคนจำนวนมากที่ไปให้ความสำคัญกับอดีตจนขโมยเวลาของปัจจุบันไปโดยแก้ไขอะไรไม่ได้ อีกทั้งการเพ้อฝันถึงอนาคตซึ่งยังมาไม่ถึงและจับต้องไม่ได้ จนลืมทำในสิ่งที่ปัจจุบันควรจะทำ แล้วมาอ้างว่าไม่มีเวลาทั้งๆที่ทุกคนมีเท่ากัน 24 ชั่วโมงเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้ให้มาเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนก็ตาม

 

        

 

          ดร.ชลวิทย์ เจียมจิตต์ ได้ให้แนวคิดเรื่องการจัดการเวลาโดยใช้หลักดังนี้

1) แจกแจงงานที่ทำ 2) ประมาณเวลาที่ใช้ในการแจกแจง 3) แบ่งเวลากับงานที่คาดไม่ถึงบ้าง 4) ออกแบบงานในแต่ละวันที่ทำ  (งานA (โปรเจ็ก) , งานB(งานร่วม) , งานC(งานประจำ) ) งานที่ไปทำร่วมกับองค์กรอื่น อันไหนสำคัญก็ทำก่อน 5) เคลียร์งานโต๊ะทำงานก่อนกลับบ้าน อย่าทำให้โต๊ะรก จะทำให้วิตกกังวลว่ามีอะไรมากมายที่ยังไม่เสร็จ

          หลวงปู่ ติช นัท ฮันท์  ท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่มีจริยวัตรงดงาม เป็นชาวเวียดนาม ที่ชาวพุทธนับถือและยกย่องท่านมาก ท่านได้ให้ข้อคิดในเรื่องเวลาว่าตัวท่านเองนั้นไม่ชอบใส่นาฬิกา ไม่ชอบให้เวลามาพันธนาการชีวิต....แต่ไม่นานมานี้ได้มีสหายเก่าซึ่งรักกันมาก ได้มอบนาฬิกาให้เป็นของที่ระลึก ท่านกลัวว่าเพื่อนจะเสียใจจึงได้พกนาฬิกาเรือนนี้อยู่ตลอดเสมอ แต่นาฬิกาเรือนนี้ไม่เหมือนเรือนอื่นๆเพราะหน้าปัดนาฬิกาจะบอกเวลาเฉพาะเวลาปัจจุบันเท่านั้นคือ ไม่มีตัวเลข มีเพียงอักษร 3ตัวเท่านั้นคือ...NOW…  เป็นการเตือนสติไม่ให้ไปนึกถึงอดีตและอนาคต

 

                         

 

          ท่านอาจารย์ มิตซูโอะ คเสโก  ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อชา กล่าวว่า ชีวิตมีทั้งวันวาน วันนี้และพรุ่งนี้ เมื่อปัจจุบันธรรม เป็นสิ่งที่สำคัญของชีวิต ชีวิตในวันนี้หรือปัจจุบันจึงเป็นเรื่องที่ควรคำนึงถึงมากกว่ากาลใดๆ ซึ่งทั้งอดีตและอนาคตก็ต้องแก้ไขในปัจจุบันเท่านั้น วันนี้มีไว้ให้สำหรับแก้ไข ไม่ใช่แก้ตัว

 การแก้ตัว  คือการไม่ยอมรับความจริงในการทำผิดของตน พยายามผลักความผิดไปให้ผู้อื่นหรือสิ่งแวดล้อม

ารแก้ไข  คือการยอมรับความจริง หากมีอะไรผิดพลาด บกพร่องก็ยอมรับผิดแล้วพยายามแก้ไข ปรับปรุงพัฒนาตนเอง

คนดี   ชอบหาดูจุดบกพร่องของตน มีหิริโอตัสปะ ละอายแก่ใจกลัวบาป

คนชั่ว    ชอบหาจุดบกพร่องของคนอื่น จับผิดคนอื่นและคิดไปว่าเราดี เขาไม่ดี เมื่อเขาดีกว่าก็อิจฉาริษยา น้อยใจ ถ้าดีกว่าเขาก็คิดถือตนลืมตัว ดูถูกดูหมิ่นเขา มีอัตตาสูง

          การให้ความสำคัญกับชีวิตนั้นมีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล  ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านก็สอนให้เราควรอยู่กับปัจจุบันและทำปัจจุบันให้ดีที่สุด การส่งใจไปในอดีตและอนาคตไม่เกิดประโยชน์ใดๆ แล้วท่านล่ะ..ให้ความสำคัญกับปัจจุบันกี่ %?

 

         

 

 

          นาฬิกาชีวิตของบางคน...มัวแต่หลงวนเวียนในอดีต ซึ่งไม่ว่าดีหรือไม่ดีก็กลับมาแก้ไขไม่ได้ แต่นาฬิกาบางคนอาจจะเดินเร็วล้ำหน้าไปก่อนโดยห่างไกลจากโลกแห่งความเป็นจริงมาก ทำให้เวลาที่จะทำอะไรในปัจจุบันนั้นหายไปโดยไม่รู้ตัว...แล้วคิดว่า “ ใครขโมยเวลาฉันไปนะ ” ขอให้ท่านนึกไว้เสมอว่า ไม่ว่าท่านจะทำอะไรหรือไม่ก็ตาม...เวลาก็จะเดินผ่านไปเรื่อยๆ...แล้วไม่หวนกลับมาที่เดิมอีก จากมุมมองของผึ้งงานนี้ ท่านคิดว่า...ท่านให้ความสำคัญกับชีวิตในปัจจุบันแล้วหรือยัง?....กี่%?

 

     

หมายเลขบันทึก: 314424เขียนเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2009 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)
  • อ่านแล้วเข้าถึงเข้าใจ
  • นับเป็นแนวคิดและวิธีการนำเสนอที่ทรงคุณค่า
    ขอชื่นชมค่ะ

เคยอ่านหนังสือชื่อเรื่องสั้นๆ NOW

พยายามอยู่ กับณ ขณะนี้ค่ะ seize the moment

ขอบคุณค่ะ

เป็นข้อความที่ดีมากๆครับ อย่างน้อยก็ทำให้คนเรารู้ว่าเวลามันมีคุณค่ามากกว่าที่เราคิด เพียงแต่คนเรานั้นยังจัดการกับเวลาที่ตนเองมีมากน้อยเพียงใด แต่ยังไงก็อย่าลืมนะครับว่า เวลาไม่เคยย้อนกลับเลยแม้แต่วินาทีเดียว

ชอบบทความนี้มากๆครับ

จะพยายามทำเวลาที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เกิดคุณค่ามากที่สุดครับ

นศ.มหาวิยาลัยราชภัฏสงขลา สาขา สาธารณสุขชุมชน ปีสอง

สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมชม

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะคุณธรรมทิพย์P

  • ขอบคุณที่คุณธรรมทิพย์ ให้กำลังใจผึ้งงานในการเขียนบทความค่ะ
  • ชีวิต...เรามีความสำคัญที่ปัจจุบันจริงๆ...แต่คนก็มักจะมองข้าม
  • ขอบคุณที่ให้เกียรติแวะมาเยี่ยมผึ้งงานค่ะ

สวัสดีค่ะคุณ pooP

  • ....NOW...สั้นๆแต่มีความหมาย
  • ดีใจที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

สวัสดีค่ะคุณpanom

  • มีคนมากมาย...ได้ทำเวลาหล่นหายไปกับกาลเวลา โดยเปล่าประโยชน์โดยที่ไม่รู้ตัว ผึ้งงานเองก็ได้นำมาไว้เตือนใจตัวเองด้วยเช่นกัน
  • บทความนี้เรามาช่วยเตือนใจซึ่งกันและกัน ให้อยู่กับชีวิตปัจจุบันให้มีความสุขค่ะ
  • ขอบคุณที่ชอบบทความนี้ค่ะ และดีใจที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

สวัสดีค่ะคุณต้นเฟิร์นP

  • รู้สึกเป็นเกียรติมากที่คุณต้นเฟิร์นแวะมาเยี่ยมค่ะ
  • มีหลายครั้งเหมือนกันที่หลงให้เวลาไปอยู่ในอดีต พอนึกได้ก็ดึงกลับมาปัจจุบัน
  • ขอให้มีความสุขนะคะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

ขอบคุณเรื่องดีๆ ที่คุณผึ้งงานสรุปรวมไว้ให้ค่ะ เวลาเป็นสิ่งมีค่า ใช้ให้คุ้มเพื่ออนาคตค่ะ ไม่หลงติดอยู่ในอดีต แต่ก็ต้องไม่ลืมบทเรียนจากอดีตมาปรับปรุงแก้ไข +ทำงานแข่งกับเวลาด้วยนะคะ

ขอบคุณมากคะ

ที่นำมาสรุปและเล่าให้ฟัง ชอบมากคะ

มาบันทึก ได้คำสองคำ ไปเปลี่ยนวิธีคิดครับ

เปิดใจ เข้าใจ

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี P

  • ขอบคุณสำหรับการมาเติมเต็มของบทความค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
                          05

สวัสดีค่ะคุณประกาย~natachoei ที่~natadee P

  • มีบ่อยครั้งที่ต้องพยายามดึงตัวเองให้มาอยู่กับปัจจุบัน เนื่องจากจิตคนชอบนึกถึงอดีตและอนาคต ไม่อยู่นิ่ง
  • ต้องนึกไว้เสมอว่า ปัจจุบันเท่านั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ                                                       

                            13

 

 

 

สวัสดีค่ะคุณsmall man P

  • เปลี่ยนวิธีคิด...เปิดใจ...เข้าใจ...ลึกซึ้งในปัจจุบัน...
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

                                 13132-a

  • คนชั่วชอบหาจุดบกพร่องของคนอื่น..สะดุ้งเลย(ฮา)
  • ภาพประกอบสวยและแปลกๆตาทั้งนั้นเลยครับ ชอบ! 
  • ปัจจุบันสำคัญกว่า..เรื่องจริงที่ควรทำความเข้าใจ
  • ขอบคุณข้อคิดดีๆครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์ธนิตย์

  • ปัจจุบันสำคัญกว่า..เรื่องจริงที่ควรทำความเข้าใจ เหมือนดั่งท่านผู้รู้กล่าวเตือนสติไว้ เป็นเช่นนั้นจริงๆค่ะ
  • ขอบคุณที่ชอบบทความและภาพที่นำเสนอค่ะ
  • รู้สึกยินดีมากที่อาจารย์เมตตาแวะมาเยี่ยมเสมอค่ะ
  • ขอให้มีความสุขกับปัจจุบันค่ะ

                                           05

ขอบคุณข้อคิดที่ดีหลากหลายรสอ่านแล้วได้ปัญญาเพิ่มขึ้นครับ

สวัสดีค่ะคุณสันติ หมื่นไวยP

  • นาฬิกาชีวิตของแต่ละคนนั้นเดินอยู่ตลอดเวลา อยู่ที่ว่าจะใช้มันให้คุ้มค่าหรือไม่?เท่านั้น.
  • สิ่งที่เท่าเทียมกันของมนุษย์คือเวลานั่นเอง
  • ดีใจที่คุณสันติแวะมาอ่านแล้วได้ข้อคิดกลับไปค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

                                         13

Att0000111

HAPPINESS IS NOW HERE NOT HAPPINESS IS NO WHERE.. (HAPPINESSIS NOWHERE) สุข สดใส อนรับปีใหม่ มีความสุข และสมหวังทุอย่างที่ต้องการค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเกด เกศนี บุณยวัฒนางกุล P

  • ขอบคุณสำหรับพรปีใหม่ค่ะ
  • ขอให้คุณมีความสุขมากๆเช่นกันค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ.

สวัสดีครับ พี่ผึ้งไปงานวันที่ 8 ต.ค.52 ที่มิราเคิ้ลใช่หรือเปล่า ผมก็ไป เลยขอเอาของอาจารย์ชลวิทย์มาแบ่งมั่ง ชอบโมเดลการจัดการเวลา leads เหมือนกับที่พี่ผึ้งเขียนไว้ละครับ

L = List activity กำหนดตารางเวลาปฏิบัติในแต่ละกิจกรรม

E = Estimate Time List ประมาณเวลาที่ใช้ในแต่ละกิจกรรม

A = Allow time for unexpectable task เผื่อเวลาไว้สำหรับงานที่ไม่คาดคิดมาก่อนด้วย

D = Decide on your priority list กำหนดลำดับความสำคัญของกิจกรรมต่าง ๆ

S = Scan schedule task at the end of the day เคลียร์งาน จัดเก็บโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยก่อนกลับบ้าน

สูตร ๕ ๓ ๕ ๕ ๗ สูตรแห่งความสำเร็จ

๕ แรก = เปิดใจ เข้าใจ มั่นใจ เชื่อใจ และ คึก มีกำลังใจ

๓ = ครอบครัว สุขภาพ การงาน ๑.๒.๑๐.๓

๕ ที่ ๒ = ความเป็น Unity (เป็นหนึ่งเดียวกัน)

U = Understanding เข้าใจ

N = Nice ปฏิบัติดี

I = Interaction สร้างสัมพันธภาพ

T = Team Spirit ทำงานเป็นทีม

Y = yielding รู้จักละเลยบางเรื่องเสียบ้าง

๕ ที่ ๓ = ความ Smart

S = Smile ยิ้มแย้มแจ่มใส

M = Manage จัดการเวลา

A = Attitude ปรับทัศนคติให้ดี

R = Realize ตระหนักคิด มีสติ

T = Test หมั่นทดสอบตัวเอง

สูตร ๗ = ๑) สื่อสารดี ๒) เป้าหมายดี ๓) มนุษยสัมพันธ์ดี ๔) คิดเชิงบวก ๕) คาดหวังกับชีวิต ๖) บุคลิกผู้นำดี ๗) น่าเชื่อถือดี คือ ตรงต่อเวลา และรักษาคำพูด

สวัสดีค่ะคุณปุ๋ยKittiphong_t P

  • ขอขอบคุณคุณปุ๋ยมากค่ะที่มาช่วยเติมเต็มให้บทความนี้สมบูรณ์มากขึ้น
  • เสียดายที่ไม่ได้พบกันเนื่องจากคนเยอะมากๆค่ะ
  • โมเดลการจัดการเวลา leads , สูตร ๕ ๓ ๕ ๕ ๗ สูตรแห่งความสำเร็จ สุดยอดมาก ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ
  • ซึ่งล้วนแต่จะนำพาองค์กรให้ไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

                                 

พยายามให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุดค่ะ

ขอบคุณบันทึกที่คอยเตือนให้รู้ตนค่ะ

สวัสดีค่ะคุณhanakoP

  • ...N-O-W.... สั้นๆแต่มีความหมาย
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

ฉันคิดและไตร่ตรองดูแล้ว ปัญหา มันหน้าจะเป็นเรื่องของการสื่อสาร เพราะตัวหนังสือ มันแสดงอารมณ์ และความรู้สึกไม่ได้ ฉันพยายามเปลี่ยนตัวเอง และปรับตัวเข้าหาเพื่อน แต่มันยากที่จะแสดงออก ให้เห็นถึงความปราถนาดี และความจริงใจผ่านตัวอักษร คำที่พิมพ์ในแชทว่า ฉันห่วงใย ฉันดีใจ ฉันมีความสุข ฉันขอโทษ ข้อความเหล่านี้ มันไม่สามารถทำให้ใครเห็นแววตาที่จริงใจของฉันได้ ฉันก็ไม่รู้จะต้องค้นหาคำกี่ล้านคำ เพื่อส่งผ่านความรู้สึกของฉันทางข้อความได้

ฉันไม่เคยทำให้ใครเสียใจ ด้วยความตั้งใจ แต่ฉันผิดพลาด ตรงที่ฉันไม่คิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะแสดงความคิดเห็น เป็นเพราะฉันยึดมั่นว่าฉันทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งมันไม่ใช่ ใครทำถูกหรือใครทำผิด มีแต่ฉันคนเดียว ที่ผิด เพราะฉันไม่ได้ทำเพื่อคนอื่นด้วยความรักอย่างแท้จริง แต่ฉันรักตัวเองมากเกินไป




พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท