การออกแบบกิจกรรมของงาน SCG Power of Learning and Collaboration ทั้งสองวันจะคล้ายกันคือ เป็นการบรรยายนำ (Keynote Speacker) แล้วจะต่อด้วยกิจกรรมที่เรียกว่า Learning Lab Activities ที่แบ่งออกเป็นห้องย่อย ๆ 3 หรือ 4 ห้องพร้อมกัน ให้ผู้ร่วมงานได้เลือกเข้าร่วมกิจกรรมตามหัวข้อที่ตนเองสนใจ เป็นที่น่าสังเกตว่า จะไม่มีการบอกชื่อวิทยากรหรือกระบวนกร ในหัวข้อของกิจกรรมเรียนรู้เหล่านี้ มีเพียงคำอธิบายสั้น ๆ (Description) 1-2 ประโยคชี้ประเด็นสำคัญของกิจกรรมนั้น ๆ เช่น ห้องกิจกรรม “คำถามสร้างสรรค์องค์กร” มีคำอธิบายไว้ว่า “เรียนรู้หลักการและวิธีปฏิบัติในการตั้งคำถามเชิงบวก การสร้างบรรยากาศ การสร้างความสัมพันธ์และการเล่าเรื่อง เพื่อกระตุ้นพลังด้านบวกในองค์กร”
พวกเราชาว มมส. บังเอิญได้มีโอกาสคุยกับ วิทยากร ห้องนี้ก่อนคือ ท่าน นท.บดินทร์ วิจารณ์ เลยทำให้เข้าห้องนี้กันเกือบหมด ซึ่งก็คิดว่าทุกคนคงเก็บเกี่ยวอะไร ๆ กันได้มากอย่างแน่นอน กระบวนการทำกิจกรรม ท่าน Jack ได้นำเสนอไว้แล้ว ผมจึงขอนำเสนอในมุมที่แตกต่างกันเพิ่มเติมครับ
กิจกรรม Learning Lab Activities ของงานนี้แทบทุกห้องจะถูกออกแบบไว้ในรูปแบบที่คล้าย ๆ กัน คือ เริ่มด้วยการสร้างบรรยากาศ และเตรียมร่างกายและจิตใจ ให้เหมาะหรือพร้อมที่จะเรียนรู้ในหัวข้อหรือทำกิจกรรมที่จะตามมา มีวิธีการนำเข้าสู่บทเรียนที่น่าสนใจ อย่างกรณีห้องนี้ก็ใช้ เกม 20 คำถาม ด้วยคำถามว่า ”เกิดอะไรขึ้นกับคุณฤดี ?”
รายละเอียดเนื้อหาอื่น ๆ ต้องยกความดีให้กับ ทีมอัจฉริยะ ของเขาที่สามารถจับประเด็นลงไว้ใน mind map ได้เป็นอย่างดี ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมสามารถจะใช้ในการทบทวน หรือ recalled เรื่องราวได้ง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะท่านที่ผ่านกิจกรรมเรียนรู้เรื่องของการเขียน mind map มาแล้วก็จะยิ่งสามารถอ่านข้อมูลได้อย่างถูกต้องและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น จะเห็นได้ว่ากิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ ทีม Inno Fa เขาคิดและออกแบบให้มีความสัมพันธ์กันไว้เป็นอย่างดี และจะเห็นว่าเขาให้เรียนรู้เครื่องมือการจัดการความรู้ หรือ KM ต่าง ๆ โดยไม่ต้องบอกว่านี่คือเรื่องของการจัดการความรู้ เพราะบางคนอาจจะยังไม่พร้อมที่จะเปิดใจรับมัน ถ้าบอกว่านี่คือ KM ก็อาจจะปฏิเสธหรือต่อต้านในใจ เนื่องมาจาก mind set ของเขาเหล่านั้นเอง
สำหรับท่านที่ชอบถามว่า What is Appreciative Inquiry (AI) ? หรือ การถามอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นเครื่องมือการจัดการความรู้ที่มีประโยชน์มากอันหนึ่งนั้นคืออะไร ? ผมขอนำข้อสรุปของท่านวิทยากร มาบันทึกไว้ดังนี้ครับ
AI คือ กระบวนการศึกษาค้นหาร่วมกันเพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคน ในองค์กร หรือของโลกที่อยู่รอบตัวเรา
AI คือ กระบวนการค้นหาอย่างเป็นระบบว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ระบบดำเนินไปอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อระบบนั้นสามารถบรรลุซึ่งประสิทธิผลสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านนิเวศวิทยา หรืออะไรที่เกี่ยวกับมนุษย์ก็ตาม
AI เป็น ศิลปะของการถามคำถาม ที่นำไปสู่การส่งเสริมให้ระบบมีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาไปสู่ศักภาพสูงสุด
AI เป็น กระบวนการขับเคลื่อนให้เกิด การถามคำถามในเชิงบวก แบบไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับคนตั้งแต่ไม่กี่คน จนถึงเป็นล้านคนในกระบวนการทำ
ประโยคทอง ที่ผมได้จากท่านในวันนั้นคือ “ไม่มีการเรียนรู้ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ และ การปฏิบัติทุกอย่าง จะทำให้เกิดการเรียนรู้เสมอ”
เยี่ยมเลยท่านพี่
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับอาจารย์แพนด้าที่หาอะไรดี ๆ มาให้ชาว มมส.ได้ศึกษาครับผม
อ่านแล้วได้ประโยชน์มากกับการนำไปใช้จริงครับผม
ผมจะติดตามไปเรื่อย ๆ ครับ