ภาพในงานการจัดเครือข่ายการจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 14 (UKM - 14) ณ จังหวัดมหาสารคาม
ปัจจุบันการจัดการความรู้ได้ถูกนำไปปฏิบัติในมหาวิทยาลัยเครือข่ายอย่างหลากหลายและได้ผลอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น
มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เริ่มศึกษาและนำการจัดการความรู้มาใช้อย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 พร้อมกับเครือข่าย UKM โดย ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและประกันคุณภาพ ในฐานะ "คุณเอื้อ" ที่ใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนระบบการประกันคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัยนเรศวรเพื่อยกระดับคุณภาพของมหาวิทยาลัย โดยมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยตามนโยบายของสภามหาวิทยาลัย ด้วยการใช้ระบบและกลไกในการประกันคุณภาพภายในกับคณะวิชาต่างๆ โดยวางเป้าหมายในการดำเนินงานตามขั้นตอน คือ สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้รับผิดชอบ ในระดับคณะและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง สร้างวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยสนับสนุนให้มีการจัดตั้งชุมชนนักปฏิบัติ (CoP) เพื่อพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างเครือข่ายการแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านเว็บไซต์และบล็อก ด้วยการสนับสนุนการจัดกิจกรรมและใช้เครื่องมือในการเรียนรู้ระหว่างหน่วยงานโดยใช้ Stair diagram แสดงผลเพื่อค้นหาแนวทางปฏิบัติที่ดีหรือ best practice เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการทำงานอย่างต่อเนื่องทำให้ผลการประเมินคุณภาพของมหาวิทยาลัยนเรศวรในกลุ่มมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัยดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งที่ทีมงานจากงานประกันคุณภาพที่มีภาระมาก เจ้าหน้าที่น้อย มีระบบประเมินคุณภาพหลายระบบ แต่มหาวิทยาลัยนเรศวรสามารถดำเนินการใช้ KM ให้เนียนอยู่ในเนื้องานตลอดจนผู้ปฏิบัติได้เป็นอย่างดี มีผลงานที่โดดเด่นอย่างรวดเร็ว ทำให้ได้รับรางวัลยกย่องชมเชยจากหน่วยงานภายนอกอย่างมาก นอกจากนี้ยังใช้ KM เป็นเครื่องมือในการยกระดับสถานภาพงานวิจัยและการวิจัยของมหาวิทยาลัยนเรศวรให้มีและพัฒนาเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างด้วย ซึ่ง ผศ.ดร.วิบูลย์ วัฒนาธร ได้ระบุถึงปัจจัยความสำเร็จดังกล่าวว่า "เกิดจากการไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันในระหว่างทีมทำงาน ตลอดจนระหว่างผู้บริหารกับผู้ปฏิบัติ อีกปัจจัยหนึ่งได้แก่ การใช้หลักการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และเบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้อยู่ที่ตัว "คุณเอื้อ" เองที่มีภาวะผู้นำความน่าเชื่อถือ และการประพฤติที่เป็นแบบอย่าง
ภาพแนวคิดการจัดการความรู้ในมหาวิทยาลัยนเรศวร
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยอาจารย์พิชิต เรืองแสงวัฒนา รองอธิการบดี ได้ใช้การจัดการความรู้เป็นเครื่องมือสำคัญเพื่อผลักดันมหาวิทยาลัยไปสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำ โดยกำหนดสมรรถนะหลักขององค์ความรู้ที่จำเป็น 5 ด้าน คือ การผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริหารวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการบริหารจัดการองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนากิจกรรมคุรภาพของมหาวิทยาลัยและขยายผลไปยังทุกหน่วยงาน มีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการประกันคุณภาพที่เนียนอยู่ในเนื้องานในทุกกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาองค์กรในหลายคณะเพื่อมุ่งหวังให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั่วทั้งองค์กร นอกจากนี้ยังสร้างวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนและแสดงความคิดเห็นภายในมหาวิทยาลัยผ่านเว็บไซต์ share.psu.ac.th อีกด้วย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหน่วยงานสำคัญที่มีนโยบายชัดเจนในการใช้การจัดการความรู้เพื่อเป็นเครื่องมือการปฏิบัติพันธกิจในทุกๆ ด้าน โดยผู้บริหารได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบันปรากฏว่า ชุมชนนักปฏิบัติของภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โดย รศ.พญ.ปารมี ทองสุกใส ได้สร้างแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในโครงการ Patho-OTOP ที่ปรับแนวคิดและกระบวนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในภาควิชาพยาธิวิทยา เสริมสร้างบรรยากาศกัลยณมิตรและช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการทำงานเป็นทีม จนเกิดผลงานที่โดดเด่นเป็นที่ยอมรับทั่วไปในลักษณะงานเห็นผล คนเป็นสุข จุดเด่นของ มอ. อีกอย่างหนึ่ง คือ มีทีมงานจัดทำและสนับสนุนบล็อก Gotoknow ที่สำคัญ คือ ดร.ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ และดร.จันทวรรณ ปิยะวัฒน์ จากคณะวิทยาการจัดการ ปัจจุบัน รศ.นพ.วรัญ ตันชัยสวัสดิ์ เป็นผู้รับผิดชอบในฐานะ "คุณเอื้อ" แต่การขับเคลื่อน KM ของ มอ. ยังเข้มข้นเหมือนเดิม
การบริหารจัดการองค์กรและการจัดการความรู้ (รวมบท)
เครือข่ายการจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย ตอน 1 ตอน 2 ตอน 3 ตอน 4 ตอน 5 ตอน 6
ไม่มีความเห็น