เสาร์สบายไปเที่ยววัดพระธาตุดอยสะเก็ด


        วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2552 เวลา 11.11 น. อากาศแจ่มใส เราสองคนตั้งใจมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่าจะหาโอกาสเดินทางไปในทิศตะวันออก จะไปตามรอย หนองบัวพระเจ้าหลวง กัน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่า...

 

        ไปก็ไม่มีหนองน้ำที่มีดอกบัวเหมือนในอดีตเมื่อสี่สิบปี  และการไปครั้งนี้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปพิชิตขั้นบันไดทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสะเก็ดให้จงได้...ผ่านไปผ่านมาตั้งแต่เด็กยังไม่เคยลงเดินขึ้นลงบันไดนี้สักครั้ง

 

        ด้วยการขับรถเรื่อยๆ เอื่อยออกจากบ้านอำเภอสันทราย ความเร็วที่ 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราไปถึงสถานที่เป้าหมายในเวลา 11.40 น. รวมระยะทาง 12 กิโลเมตรค่ะ

        บันไดวัดพระธาตดอยสะเก็ดมีสามร้อยยี่สิบเจ็ดขั้น เป็นบันไดที่เงียบมาก ๆ เมื่อคิดถึงบันไดนาควัดพระธาตุดอยสุเทพซึ่งตั้งอยู่ฝั่งฟากตรงข้าม เมื่อขึ้นไปถึงลานวัดพระธาตุดอยสะเก็ด และมองไกลออกไปในทิศตะวันตก จะเห็นดอยสุเทพ-ปุยเด่นเป็นสง่า พร้อมวิวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งอยู่เชิงดอย เห็นชัดถนัดตาค่ะ

        ระหว่างสองข้างทางเดินขึ้นสู่วัดพระธาตุ มีสวนสมุนไพรเชิงนิเวศน์ด้วยค่ะ มีเส้นทางเดินชมสวนดูร่มรื่น

 

  

        วัดพระธาตุดอยสะเก็ดมีตำนานค่ะ

        จากแผ่นพับประวัติตำนานวัดพระธาตุดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เล่าไว้ว่าวัดแห่งนี้เป้นวัดเก่าแก่สร้ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2155 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2461 เมื่อ พ.ศ. 2543 ได้รับยกย่องฐานะให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ของพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ประวัติหรือตำนานที่บันทึกไว้ มีดังนี้ค่ะ

        ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลายได้ตรัสรู้ธรรมอันวิเศษแล้ว ได้นำเอาธรรมะออกเผยแผ่แก่ชาวชนบทน้อยใหญ่ ในชมพูทวีปจนได้มีผู้รู้แจ้งเห้นจริงในสัจธรรม เป็นจำนวนมาก ในกาลนั้น แลพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์มาปรากฏกายทิพย์ ณ บนดอยแห่งนี้ แล้วทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีสว่างเจิดจ้าไปทั่ว ขณะนั้นได้มีพญานาคคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในหนองบัว (ห่างจากวัดพระธาติดอยสะเก็ดประมาณ 1 กิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) เห็นฉัพพรรณรังสีจึงแปลกใจพากันเลื้อยขึ้นสู่บนดอยแล้วได้ทัศนาเห็นพระพุทธองค์ บังเกิดความเลื่อมใส จึงแปลงกายเป็นชายหนุ่มหญิงสาวมาเข้าเฝ้าพร้อมกับได้นำดอกบัวมาถวาย พระพุทธองค์ทรงรับเอาดอกบัวแล้วจึงทรงแสดงธรรมโปรด และประทานพระเกศาธาตุแก่พญานาคแปลงคู่นั้น พญานาคจึงได้อธิษฐานสร้างเจดีย์หิน แล้วนำเอาพระเกศาธาตุบรรจุประดิษฐานไว้บนดอยแห่งนี้ ต่อมาได้มีนายพรานผู้แสวงหาของป่าได้มาพบเจดีย์มีลักษณะสวยงาม จึงเกิดอัศจรรย์ แล้วได้นำเอาก้อนหินมาก่อเป็นรูปเจดีย์ขึ้น กลางคืนได้นิมิต(ฝัน) ว่า เจดีย์ที่ตนพบนั้นเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า จึงได้บอกกล่าวชักชวนประชาชนในแถบนั้น ขึ้นไปสักการบูชา และเรียกชื่อภูเขาแห่งนี้ว่า ดอยเส้นเกศ บ้าง ดอยสะเก็ด บ้าง ที่เรียกว่าดอยเส้นเกศนั้น เพราะเรียกตามพระเกศาธาตุ ที่เรียกว่าดอยสะเก็ดเพราะเรียกเพี้ยนสำเนียงตามที่พญานาคลอกคราบ (ชาวเหนือเรียกสะเก็ด หรือสละเกล็ด) คือ ถอดหรือลอกคราบนั้นเอง...(คัดลอกข้อความบางส่วนจากแผ่นพับแจกเป็นธรรมทานโดยคุณพ่อธีระ-คุณแม่สมควร สุขสำราญ และคณะ พิมพ์เผยแพร่โดยบ้านพุทธบุตร)

 

 

        เราเข้าไปในวิหารของวัด นอกจากองค์พระพุทธรูปแล้ว สิ่งที่เห็นและสะดุดตาคือภาพปริศนาธรรมภายในผนังของวิหาร มีขนาดใหญ่ สวยงามและชวนให้คิด ก่อนหน้าที่เราจะเข้าไป มีชายหนุ่มสองคน นั่งสงบสำรวมราวกับกำลังขบคิดปริศนาธรรมจากภาพวาดที่ปรากฏนั้น ซึ่งมีด้วยกัน 18 ภาพวาด เป็นภาพเขียนลายไข่มุกและภาพเขียนสี บันทึกมาให้ชมเป็นแนวทางค่ะ

 

        มีผู้ไปเที่ยวชมวัดแห่งนี้และนำเรื่องราวมาบันทึกบอกเล่ามากพอสมควร ลองอ่านบันทึกที่กล่าวถึงภาพวาดปริศนาธรรม เล่าโดย จอมยุทธตะวันตกนะคะ

 

          ก่อนออกจากวัดพระธาตุดอยสะเก็ด ฉันไม่ลืมปฏิบัติตามที่เคยดูดวงชะตาไว้ว่าปีนี้ให้ทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าบำรุงวัดเป็นเงิน 77 บาท จากนั้นเราออกเดินทางตามรอยอดีตที่หนองบัวพระเจ้าหลวง สถานที่ท่องเที่ยวในวัยเด็กของเรา ซึ่งพี่ผมคนโสตฯ ครับ เองก็เคยมีโอกาสไปท่องเที่ยวภายในครอบครัวค่ะ

 

อ่านต่อบันทึกถัดไปค่ะ

หมายเลขบันทึก: 277889เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2009 21:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เรียน ท่านดาวฅนโสต ขอบพระคุณครับ ไปดูลาดเลาไว้ก่อน คราวหน้า จะได้ มา แวะ เวียน ครับ

เรียนท่านพ่อ (เรียกตามน้องชาดาและคุณลิตเติ้ลแคทค่ะ)

ปริศนาธรรมในวิหาร แต่ละเรื่อง ทำให้คิดไปนานเลยค่ะ

เที่ยวพระธาตุ ดอยต่างๆสวยดี แต่ท้อตรงบันไดนี่แหละค่ะ เข่าไม่ดีแล้ว

สวัสดีค่ะคุณครู ป.1

ที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ดและอีกหลายๆ วัดมีทางให้รถขึ้นไปถึงอาณาบริเวณค่ะ เหลือเดินอีกไม่เกินสิบก้าว ที่วัดนี้ก็มีทางรถขึ้นค่ะ

โชคดีมากที่ก่อนหน้านั้นดาวลูกไก่พยายามเตรียมกำลังแข้งขาให้พร้อมค่ะ โชคดีที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกมาตรการให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น โชคดีที่ห้องสมุดเริ่มเอาจริงเอาจังในการเปิดใช้ลิฟต์โดยสาร อ้าวไม่เห็นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเท่าไรเลยนะคะ

ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่ะ

เรียน ท่านดาวฅนโสต "ชีวิต ก็ ต้อง ได้คิด และ คิดได้"ครับ

  • พี่จ๊ะ..จ๊ะ..

เสาร์สบายไปเที่ยววัดพระธาตุดอยสะเก็ดนี้มีแต่รูปนายแบบรึจ๊ะ???  ^^   เดินขึ้นบันไดสามร้อยยี่สิบเจ็ดขั้นจนเหนื่อยเหรอจ๊ะ  จึงเบลอๆๆ พิมพ์ผิด  อิอิ  มารับเต่าบินด้วยนะจ๊ะ

เห้นชัดถนัดตาค่ะ

ก็รอน้องจ๊ะมาจับถูกนี้ไง...จุดอ่อนของพี่เลยนะเนี่ย กระปุกเต่าน่ารักจังเนอะ ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยว่า พี่ชิว พับนกอินทรีให้พี่แล้วนะ...ที่ติดค้างเอาไว้ตั้งแต่ปีก่อนโน้นนะจ๊ะ ว่าจะถ่ายภาพมาอวดในซักบันทึกนะจ๊ะ...

เห้น =เห็น เห็น เห็น เห็น เห็น

  • พี่จ๊ะ..จ๊ะ..

ปกติตามกฏกติกาเรามักจะแก้ไขคำผิดให้เขียน "ถูก" สิบคำนี่นา     ไหงช่วงนี้ใครต่อใครแก้กันแค่สี่ห้าคำ  ทั้งพี่จ๊ะ  อา(จารย์)จ๊ะ ..   น้องจ๊ะแอบคิดว่ามันต้องเกี่ยวกับวัยแน่ๆ  อุ๊บ!  

ว่าแต่หนีไปเที่ยวกันสองคนแก้โรคคิดถึงสาวน้อยแน่ๆ   วันหลังชวนน้องจ๊ะกับเพื่อนสาวก็ได้  อิอิ   ก็ชวนเฉยๆ ไง   ไปหรือไม่ไปก็อีกเรื่องนิ

อยากเห็นนกอินทรี จัง

 

น้องจ๊ะ...จ๊ะ

ช่วงนี้พี่ยังอยู่ในอาการ เบลอๆ นับสิบยังไม่ค่อยจะถ้วนเลย... ^^... ให้อภัยเถอะนะจ๊ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท