ไปก็ไม่มีหนองน้ำที่มีดอกบัวเหมือนในอดีตเมื่อสี่สิบปี และการไปครั้งนี้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปพิชิตขั้นบันไดทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสะเก็ดให้จงได้...ผ่านไปผ่านมาตั้งแต่เด็กยังไม่เคยลงเดินขึ้นลงบันไดนี้สักครั้ง
ด้วยการขับรถเรื่อยๆ เอื่อยออกจากบ้านอำเภอสันทราย ความเร็วที่ 60-70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เราไปถึงสถานที่เป้าหมายในเวลา 11.40 น. รวมระยะทาง 12 กิโลเมตรค่ะ
บันไดวัดพระธาตดอยสะเก็ดมีสามร้อยยี่สิบเจ็ดขั้น เป็นบันไดที่เงียบมาก ๆ เมื่อคิดถึงบันไดนาควัดพระธาตุดอยสุเทพซึ่งตั้งอยู่ฝั่งฟากตรงข้าม เมื่อขึ้นไปถึงลานวัดพระธาตุดอยสะเก็ด และมองไกลออกไปในทิศตะวันตก จะเห็นดอยสุเทพ-ปุยเด่นเป็นสง่า พร้อมวิวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะเมืองแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งอยู่เชิงดอย เห็นชัดถนัดตาค่ะ
ระหว่างสองข้างทางเดินขึ้นสู่วัดพระธาตุ มีสวนสมุนไพรเชิงนิเวศน์ด้วยค่ะ มีเส้นทางเดินชมสวนดูร่มรื่น
จากแผ่นพับประวัติตำนานวัดพระธาตุดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด เชียงใหม่ เล่าไว้ว่าวัดแห่งนี้เป้นวัดเก่าแก่สร้ามาตั้งแต่ พ.ศ. 2155 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2461 เมื่อ พ.ศ. 2543 ได้รับยกย่องฐานะให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ของพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ประวัติหรือตำนานที่บันทึกไว้ มีดังนี้ค่ะ
ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลายได้ตรัสรู้ธรรมอันวิเศษแล้ว ได้นำเอาธรรมะออกเผยแผ่แก่ชาวชนบทน้อยใหญ่ ในชมพูทวีปจนได้มีผู้รู้แจ้งเห้นจริงในสัจธรรม เป็นจำนวนมาก ในกาลนั้น แลพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์มาปรากฏกายทิพย์ ณ บนดอยแห่งนี้ แล้วทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีสว่างเจิดจ้าไปทั่ว ขณะนั้นได้มีพญานาคคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในหนองบัว (ห่างจากวัดพระธาติดอยสะเก็ดประมาณ 1 กิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) เห็นฉัพพรรณรังสีจึงแปลกใจพากันเลื้อยขึ้นสู่บนดอยแล้วได้ทัศนาเห็นพระพุทธองค์ บังเกิดความเลื่อมใส จึงแปลงกายเป็นชายหนุ่มหญิงสาวมาเข้าเฝ้าพร้อมกับได้นำดอกบัวมาถวาย พระพุทธองค์ทรงรับเอาดอกบัวแล้วจึงทรงแสดงธรรมโปรด และประทานพระเกศาธาตุแก่พญานาคแปลงคู่นั้น พญานาคจึงได้อธิษฐานสร้างเจดีย์หิน แล้วนำเอาพระเกศาธาตุบรรจุประดิษฐานไว้บนดอยแห่งนี้ ต่อมาได้มีนายพรานผู้แสวงหาของป่าได้มาพบเจดีย์มีลักษณะสวยงาม จึงเกิดอัศจรรย์ แล้วได้นำเอาก้อนหินมาก่อเป็นรูปเจดีย์ขึ้น กลางคืนได้นิมิต(ฝัน) ว่า เจดีย์ที่ตนพบนั้นเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า จึงได้บอกกล่าวชักชวนประชาชนในแถบนั้น ขึ้นไปสักการบูชา และเรียกชื่อภูเขาแห่งนี้ว่า “ดอยเส้นเกศ” บ้าง “ดอยสะเก็ด” บ้าง ที่เรียกว่าดอยเส้นเกศนั้น เพราะเรียกตามพระเกศาธาตุ ที่เรียกว่าดอยสะเก็ดเพราะเรียกเพี้ยนสำเนียงตามที่พญานาคลอกคราบ (ชาวเหนือเรียกสะเก็ด หรือสละเกล็ด) คือ ถอดหรือลอกคราบนั้นเอง...(คัดลอกข้อความบางส่วนจากแผ่นพับแจกเป็นธรรมทานโดยคุณพ่อธีระ-คุณแม่สมควร สุขสำราญ และคณะ พิมพ์เผยแพร่โดยบ้านพุทธบุตร)
เราเข้าไปในวิหารของวัด นอกจากองค์พระพุทธรูปแล้ว สิ่งที่เห็นและสะดุดตาคือภาพปริศนาธรรมภายในผนังของวิหาร มีขนาดใหญ่ สวยงามและชวนให้คิด ก่อนหน้าที่เราจะเข้าไป มีชายหนุ่มสองคน นั่งสงบสำรวมราวกับกำลังขบคิดปริศนาธรรมจากภาพวาดที่ปรากฏนั้น ซึ่งมีด้วยกัน 18 ภาพวาด เป็นภาพเขียนลายไข่มุกและภาพเขียนสี บันทึกมาให้ชมเป็นแนวทางค่ะ
มีผู้ไปเที่ยวชมวัดแห่งนี้และนำเรื่องราวมาบันทึกบอกเล่ามากพอสมควร ลองอ่านบันทึกที่กล่าวถึงภาพวาดปริศนาธรรม เล่าโดย จอมยุทธตะวันตกนะคะ
ก่อนออกจากวัดพระธาตุดอยสะเก็ด ฉันไม่ลืมปฏิบัติตามที่เคยดูดวงชะตาไว้ว่าปีนี้ให้ทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าบำรุงวัดเป็นเงิน 77 บาท จากนั้นเราออกเดินทางตามรอยอดีตที่หนองบัวพระเจ้าหลวง สถานที่ท่องเที่ยวในวัยเด็กของเรา ซึ่งพี่ผมคนโสตฯ ครับ เองก็เคยมีโอกาสไปท่องเที่ยวภายในครอบครัวค่ะ
อ่านต่อบันทึกถัดไปค่ะ
เรียน ท่านดาวฅนโสต ขอบพระคุณครับ ไปดูลาดเลาไว้ก่อน คราวหน้า จะได้ มา แวะ เวียน ครับ
เรียนท่านพ่อ (เรียกตามน้องชาดาและคุณลิตเติ้ลแคทค่ะ)
ปริศนาธรรมในวิหาร แต่ละเรื่อง ทำให้คิดไปนานเลยค่ะ
เที่ยวพระธาตุ ดอยต่างๆสวยดี แต่ท้อตรงบันไดนี่แหละค่ะ เข่าไม่ดีแล้ว
สวัสดีค่ะคุณครู ป.1
ที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ดและอีกหลายๆ วัดมีทางให้รถขึ้นไปถึงอาณาบริเวณค่ะ เหลือเดินอีกไม่เกินสิบก้าว ที่วัดนี้ก็มีทางรถขึ้นค่ะ
โชคดีมากที่ก่อนหน้านั้นดาวลูกไก่พยายามเตรียมกำลังแข้งขาให้พร้อมค่ะ โชคดีที่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ออกมาตรการให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น โชคดีที่ห้องสมุดเริ่มเอาจริงเอาจังในการเปิดใช้ลิฟต์โดยสาร อ้าวไม่เห็นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเท่าไรเลยนะคะ
ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันค่ะ
เรียน ท่านดาวฅนโสต "ชีวิต ก็ ต้อง ได้คิด และ คิดได้"ครับ
เสาร์สบายไปเที่ยววัดพระธาตุดอยสะเก็ดนี้มีแต่รูปนายแบบรึจ๊ะ??? ^^ เดินขึ้นบันไดสามร้อยยี่สิบเจ็ดขั้นจนเหนื่อยเหรอจ๊ะ จึงเบลอๆๆ พิมพ์ผิด อิอิ มารับเต่าบินด้วยนะจ๊ะ
เห้นชัดถนัดตาค่ะ
ก็รอน้องจ๊ะมาจับถูกนี้ไง...จุดอ่อนของพี่เลยนะเนี่ย กระปุกเต่าน่ารักจังเนอะ ไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยว่า พี่ชิว พับนกอินทรีให้พี่แล้วนะ...ที่ติดค้างเอาไว้ตั้งแต่ปีก่อนโน้นนะจ๊ะ ว่าจะถ่ายภาพมาอวดในซักบันทึกนะจ๊ะ...
เห้น =เห็น เห็น เห็น เห็น เห็น
ปกติตามกฏกติกาเรามักจะแก้ไขคำผิดให้เขียน "ถูก" สิบคำนี่นา ไหงช่วงนี้ใครต่อใครแก้กันแค่สี่ห้าคำ ทั้งพี่จ๊ะ อา(จารย์)จ๊ะ .. น้องจ๊ะแอบคิดว่ามันต้องเกี่ยวกับวัยแน่ๆ อุ๊บ!
ว่าแต่หนีไปเที่ยวกันสองคนแก้โรคคิดถึงสาวน้อยแน่ๆ วันหลังชวนน้องจ๊ะกับเพื่อนสาวก็ได้ อิอิ ก็ชวนเฉยๆ ไง ไปหรือไม่ไปก็อีกเรื่องนิ
อยากเห็นนกอินทรี จัง
น้องจ๊ะ...จ๊ะ
ช่วงนี้พี่ยังอยู่ในอาการ เบลอๆ นับสิบยังไม่ค่อยจะถ้วนเลย... ^^... ให้อภัยเถอะนะจ๊ะ