การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย เป็นการพัฒนาให้เกิดองค์ความรู้อย่างเป็นระบบ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การจัดการความรู้ที่นำไปใช้ประโยชน์และต่อยอดองค์ความรู้ต่อไป
เมื่อวันที่ 23-25 ก.ย.2552 ที่ผ่านมา ได้เข้าร่วมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ
หัวข้อ “การเพิ่มประสิทธิภาพของงานประจำด้วยการทำวิจัย” (Routine to Research)
สถานที่ฝึกอบรม : ณ ตึกเพียรวิจิตร ชั้น 9 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ผู้เข้าร่วมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วทุกภาคของประเทศ รวมทั้งผู้สนใจทั่วไป รวมประมาณ 80 คน
บรรยายโดย รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ อาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เนื้อหาสาระในการฝึกอบรม
- นัยสำคัญของการวิจัยเพื่อการพัฒนางาน
- การกำหนดประเด็นปัญหาเพื่อการพัฒนางาน
- กระบวนการวิจัยเพื่อพัฒนางาน
- การค้นหากลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงาน
- การดำเนินการเพื่อพัฒนางาน
- การออกแบบเครื่องมือในการประเมินผลการปรับปรุงงาน
- การจัดทำโครงร่างการวิจัยเพื่อพัฒนางาน
งานประจำ เปรียบเสมือนขุมทรัพย์สำหรับการเรียนรู้และการสร้างสรรค์ ที่สามารถทำให้เราเติบโตได้ตลอดเวลา งานประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญและสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเรียนรู้ของทุกคน การเรียนรู้จึงไม่เพียงเป็นการคืนศักดิ์ศรีความเป็นคนให้กับคนทำงาน หากแต่ยังเป็นการรักษาไว้ซึ่งศรัทธาต่อการทำงานอย่าง “มืออาชีพ”
กระบวนการที่จะทำให้ได้งานที่มีลักษณะที่พึงประสงค์ของ “การวิจัย” การทำงานวิจัยจากงานประจำ (Routine to Research) หรือ R2R เป็นรูปแบบของการผสมผสานระหว่างการพัฒนาคุณภาพการทำงานและการวิจัย
สิ่งสำคัญของการทำวิจัยคือ เน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ จากองค์ประกอบ 4 ประการ ได้แก่
1. คำถามต้องมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นจริง
2. คนทำวิจัยต้องเป็นคนที่กำลังเผชิญปัญหา
3. ผลลัพธ์ที่ได้คือปัญหาที่ได้รับการแก้ไขและเกิดการบริการที่ดีขึ้น
4. สามารถนำผลงานวิจัยมาใช้เผยแพร่ต่อไปได้
เริ่มการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ((((นำภาพ เริ่มฝึกอบรม ตลอดจนปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการฯ มาฝาก))))
การผ่อนคลายทุกช่วงของการฝึกอบรม เพื่อฝึกสติ สมาธิ และปัญญา
สิ่งที่ได้จากการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ
-
การวิจัย (Research) = Re คือ การทำซ้ำ, search คือ การค้นหา ดังนั้น การวิจัยคือ การค้นหาอยู่บ่อย ๆ หรือทำการค้นหาซ้ำ ๆ หลายครั้ง อย่างเป็นระบบ มีหลักการที่ตรวจสอบและอ้างอิงได้
-
ก่อนเริ่มพัฒนางานประจำเป็นงานวิจัย เราต้อง
-
วิเคราะห์ตนเองก่อนว่า เราอยู่ในงานประจำส่วนใด ประเภทใด และรู้ว่าจะทำอะไร
-
งานที่จะทำ มีปัญหาอะไร ถ้าไม่แก้ปัญหาจะเกิดอะไร
-
ทบทวน ศึกษา ค้นหาปัญหาที่จะแก้ไขให้ได้
-
สรุป รวบรวมข้อมูลจากงานประจำที่ปฏิบัติเป็นประจำอย่างเป็นระบบ
-
จัดลำดับความสำคัญของงานและประมวลข้อมูลเพื่อให้เห็นปัญหาในแต่ละเรื่อง
-
ศึกษาหาความรู้เพื่อประกอบการจัดทำวิจัยพัฒนางานประจำ ในการอ้างอิงประกอบ
-
เริ่มดำเนินการวิจัย
-
กำหนดหัวข้อวิจัย โดยใช้ฐาน อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อทบทวนหาโจทย์ปัญหาที่จะแก้ไข โดยการทำวิจัย
-
การทำวิจัยเพื่อพัฒนางานประจำ ต้องเป็นงานที่ตนเองปฏิบัติอยู่เป็นประจำและต่อเนื่อง
-
สามารถรู้และเข้าใจในโจทย์/หัวข้อวิจัยที่ตนเองจะศึกษา
-
เริ่มดำเนินการวิจัยอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่
-
เริ่มกล่าวถึงความเป็นมาของเรื่องที่จะศึกษา โดยบอกเล่าให้เห็นภาพรวมของที่มาของปัญหาที่จะแก้ไข (แสดงให้เห็นว่าจะศึกษาอะไร ทำไมต้องศึกษา มีความจำเป็นและสำคัญอย่างไร เกิดขึ้นที่ไหน เกิดกับใคร ขนาดและผลกระทบอย่างไร
-
บอกถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตการศึกษา ประโยชน์ที่จะได้รับ
- ผลลัพธ์ (ตัวชี้วัด) ได้อะไรบ้าง
-
หลักการทบทวนวรรณกรรมเพื่อหาหัวข้อ
-
พัฒนาการของแนวคิด, แนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพของงาน
-
กระบวนการและขั้นตอนที่จำเป็นต้องรู้
-
มีองค์ความรู้อะไรบ้าง, กฎหมาย กฎเกณฑ์อะไร, ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
-
ขั้นตอนในการศึกษา
-
ระเบียบวิธีวิจัยต้องดูที่วัตถุประสงค์เป็นตัวตั้ง แล้วอธิบายโดยละเอียดว่าทำอย่างไร
-
ประชากร, กลุ่มตัวอย่าง, แหล่งข้อมูล (ข้อมูลทุติยภูมิ,ปฐมภูมิ) ต้องกำหนดให้ชัดเจนในการทำวิจัย
-
ผลการศึกษา
-
นำเสนอผลที่ได้จากการศึกษา เป็นอย่างไร
-
สรุป อภิปรายผล และเสนอแนะ
-
สรุปผล และเสนอแนะแนวทางแก้ไข เพื่อเป็นการต่อยอดในการศึกษาวิจัยต่อไป
-
การอ้างอิงเอกสาร
- ต้องอ้างอิงที่มาของข้อมูลประกอบการจัดทำวิจัยทุกเรื่องตามระเบียบหลักเกณฑ์ของการอ้างอิงข้อมูลนั้นๆ
แบ่งกลุ่มย่อย เพื่อฝึกเขียนโครงการวิจัย โดยเริ่มจากการกำหนดหัวข้อวิจัย วัตถุประสงค์ที่จะทำวิจัย และผลที่จะได้รับจากการทำวิจัย
ปิดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ ผู้เข้าอบรม
- ได้รับประกาศนียบัตร เพื่อรับรองว่า ผ่านการฝึกปฏิบัติ"การพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย" R2R แล้ว และถ่ายภาพหมู่ร่วมกัน
- ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
- ได้ความรู้จากหน่วยงานอื่น ปัญหาอุปสรรคของหน่วยงานอื่น เพื่อนำมาประยุกต์และปรับปรุงต่องานตนเองที่ทำอยู่ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
- ได้ฝึกสติ สมาธิ และปัญญา จากวิทยากรที่มีประสบการณ์
- ได้โลกทัศน์ใหม่ ๆ ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การฝึกอบรมในครั้งนี้เป็นอย่างดี
- ได้แนวทางการพัฒนางานอย่างมีหลักการที่ดี เพื่อการประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการนำมาปฏิบัติอย่างแท้จริง
- ฯลฯ
หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติงานประจำ ที่จะทำวิจัยเพื่อพัฒนางานตนเองต่อไป
(((((นำมาฝาก))))))))