ตาเหลิม
นาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

8. ข้างทาง "แสนแสบ"


ร้อยหกสิบปีมาแล้วที่คลองแสนแสบอยู่คู่กับกรุงเทพมหานคร เชื่อมการเดินทางระหว่างบางปะกง และบางกอก

.

.

.

โอ้โฮ ครับ วันนี้ ได้เดินทางไกล เรียกได้ว่า

ไกลแบบจะกลายเป็นลูกเสือสำรองกันเลยทีเดียว

ได้เดินครับ เดินชมนก ชมไม้ ชมเรือ ชมน้ำ ริมทางข้างคลอง... แสนแสบ

♠ ♠ ♠ ♠ ♠

เริ่มต้นออกเดินจาก ซ.รามคำแหง 43/1 ไปจนถึงเดอะมอลล์บางกะปิ

ระยะทางเกือบๆ สามกิโลเมตร ให้บรรยากาศประมาณ 18.20 น.

ซึ่งเป็นการเดินทางไปในรอบแรก

ให้อารมณ์ อกพี่กลัดหนอง พี่หมองดังคลองแสนแสบ มากกกกกกก

ด้วยความที่น้ำในคลองสีเหมือนมีใครทำช็อคโกแลต หก ตกใส่คลอง

โอ้ แล้วช็อคโกแลตก็ตกลงไปในคลองแสนแสบ จึงทำให้คลองมีสีสันเยี่ยงนี้

♠ ♠ ♠ ♠ ♠

นอกจากที่คลองสีสันเหมือนช็อคโกแลตน่ากินแล้ว

ยังมีบรรยากาศเรือหางยาวที่สัญจรไปมาอย่างน่าเสียวไส้

ให้ประหวั่นพรั่นวิตกถึงความมั่นคงในชีวิตของผู้โดยสารบนเรือ

ซึ่งความรู้สึกนั้น ก็มากพอๆ กับการเดินที่ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพื่อไม่ให้น้ำคลองกระเด็นใส่เรา เรียกว่า เป็นการเดินอย่างมีสติ สู่อิสรภาพ(บ้าง) ก็ว่าได้ ...

ระหว่างการเดินทาง พบว่า เรือโดยสารมีผู้โดยสารแน่นขนัดตลอดเกือบทุกเที่ยว

พร้อมกันนั้น ก็ปล่อยควันดำโขมง ออกมาพร้อมกับไอเสียจากเครื่องดีเซลของเรือ ซึ่งทำให้น้ำบริเวณท้ายเรือ ดำอย่างไม่น่าให้อภัย

สะท้อนถึง ความใส่ใจอย่างมาก ของผู้ประกอบการที่มีต่อคลองสายนี้...

นั่นเป็นการใส่ใจทำลายคลองอย่างต่อเนื่อง  ... คลองแสนแสบ จึงกลายเป็นผู้ถูกกระทำอย่างทารุณ ที่ไม่สามารถลุกขึ้นมาเรียกร้อง และปฏิเสธการย่ำยีที่ตนกำลังเผชิญอยู่เพื่อรักษาสิทธิของตนเองได้

คิดไปคิดมา มันเป็นอย่างนี้มาเนิ่นนานเสียจนคนเคยชิน เพราะมันเป็นพฤติกรรมซ้ำซาก แต่สำหรับผม มันแย่มาก ที่วันนี้พึ่งสังเกตเห็น

ระหว่างทางเดินกว่าสามกิโลเมตร วิถีชีวิตของคนข้างคลองดูจะปกติ ราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เขาเหล่านั้นคงเคยช่วยกันเรียกร้อง และก็คงไม่มีใครตอบสนองได้

คลองแสนแสบ จึงยังคงกลายเป็นทางด่วนสำหรับระบบขนส่งมวลชน และทางด่วนสำหรับการทิ้งสิ่งปฏิกูลลงไปอยู่ดี

ระหว่างทางมีสะพานเล็กๆหลายสะพาน (ประมาณ 5-7 แห่ง) ใช้เพื่อข้ามคลองส่งน้ำและประตูส่งน้ำ ที่ส่งน้ำจากชุมชนลงไปยังแสนแสบ มีสิ่งที่สังเกตได้ชัด คือ น้ำที่มีสีดำ ที่ถูกส่งออกมาจากชุมชนเพื่อแบ่งลงสู่คลองประวัติศาสตร์สายนี้ คล้ายกับโอเลี้ยงที่ลงมาผสมกับช็อคโกแลต

มองเห็นได้อย่างชัดเจนซะนี่กระไร เลยพาลทำให้ดวงจิตก็คำนึงถึงแม่น้ำสองสี ที่บ้านเกิดของผม อุบลราชธานี ประหนึ่งว่าผม กำลังยืนอยู่ระหว่างจุดบรรจบของแม่น้ำโขงและแม่น้ำมูลที่อำเภอโขงเจียม โดยไม่ต้องเดินทางกลับบ้านเกิด เพียงแค่สีมันแตกต่างกัน คนเปรียบไว้ว่า โขงสีปูน มูนสีคราม ก็คงต้องเปรียบแสนแสบว่า แสนแสบสีน้ำตาล คลองขนานล้วนสีดำ   

นี่เรากำลังทำอะไรกับคลองสายนี้กันหว่า หรือ กทม.ควรจะถมคลองไปเสีย เพื่อสร้างให้มีรถรางมาวิ่งแทน ... คงดีเหมือนกัน

ผมจบความคิดของตัวเองลง

พร้อมๆ กับการเดินทางเมื่อมาถึงเดอะมอลล์บางกะปิ

เมื่อดูหนังจบ ตัดสินใจไม่ใช้แท็กซี่อย่างเคย แต่ตัดสินใจเดินกลับ อีกครั้ง ตอนนั้นเวลาประมาณ 23.30 น. และรอบเดินกลับนี่แตกต่างจากรอบแรกตรงที่ ไม่ต้องห่วงน้ำจากเรือด่วนจะกระเซ็นมาโดน จึงทำให้มีเวลาอิ่มเอิบกับสองข้างทางยามค่ำคืนได้อย่างเต็มที่

เวลาล่วงเลยมาเกือบสองยาม สายน้ำนิ่งสงบ มีคนตกปลาเป็นระยะๆ เมื่อมองด้วยสายตาเป็นมิตรไปยังเพื่อนร่วมทางเหล่านั้น สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือ รอยยิ้ม นั่นทำให้ระหว่างทางที่บางช่วงมืดมิด อับแสงและเปล่าเปลี่ยว ไม่ได้น่ากลัวจนเกินไปนัก

ลมพัดเบาๆ ทำให้บรรยากาศโรแมนติกอย่างบอกไม่ถูก ถ้าไม่นับบางช่วงที่กลิ่นน้ำเน่าฉุนกึกจนทำให้ต้องรีบเร่งฝีเท้าเดิน

วันนี้ รู้สึกได้ว่า ชีวิตช้าลง... มีสติ ประคับประคองเพื่อนร่วมทางและตนเองได้เป็นอย่างดี ร้อยหกสิบปีมาแล้วที่คลองแสนแสบอยู่คู่กับกรุงเทพมหานคร เชื่อมการเดินทางระหว่างบางปะกง และบางกอก ... 

นี่หรือคือคลองที่ใช้ขนส่ง เป็นระบบมวลชนระบบแรกๆของประเทศเรา และยังคงเป็นระบบขนส่งมวลชนที่ได้รับความนิยมอยู่จนปัจจุบันในภาวะ รถติด ทั้งๆที่น้ำมันราคาแพงฉิบ 

ผมเดินเลียบคลองนี้ และไกลแบบนี้เป็นครั้งแรก

     

วันนี้ได้เดินข้างทางคลองประวัติศาสตร์ คลองแสนแสบ (<=คลิกเพื่ออ่านประวัติ) ที่เป็นต้นตอของ วันอนุรักษ์รักษาคูคลองแห่งชาติ (<=คลิกเพื่ออ่านประวัติ) ผมกลับมาคิดอีกครั้ง นี่เรื่องจริงเหรอวะ ...

    

และแล้วบรรยากาศยามค่ำคืน ก็พาผมกลับมาอยู่กับคนข้างๆ

เราเดินทางกลับอย่างมีความสุข

แม้จะมีคำถามบางอย่างเรื่องคลอง

และการรักษาสิ่งแวดล้อมที่กลับมาพร้อมๆกัน ก็ตามที...     

หมายเลขบันทึก: 283251เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2009 02:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 16:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีค่ะ

  • พี่คิมเคยลงเรือไปและกลับ  เพื่อเที่ยวทางน้ำที่คลองแสนแสบค่ะ
  • การรักษาสิ่งแวดล้อม  เป็นความรับผิดชอบต่อสังคม  ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยหรือชาวโลกนะคะ
  • แต่เราจะทำอย่างไร..ให้ทุกคนมีสำนึกในความรับผิดชอบ  โดยไม่ต้องรอให้ประเทศชาติมาจัดการ
  • ขอช่วยคิดค่ะ  ป้าครูคิมอบรมเด็กอยู่เสมอ ๆ

จะว่าไปแล้ว...
ป่าไม้โล่งเตียน ยังมีทางเลือก คือการปลูกป่า
แม่น้ำบอบช้ำ...
ทางเลือก ดูตีบตันกว่าเยอะเลย
...

ผมเป็นแฟนประจำของเจ้าขวัญ..และนางเรียม..โดยแท้
อ่านนวนิยายของไม้เมืองเดิมหลายเรื่อง...และเก็บไว้กับตัวเองหลายเรื่องด้วยเช่นกัน

ใช่..

ข้ารักเอ็ง ยิ่งกว่าไอ้ขวัญ รัก อีเรียม...

...

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท