เก็บเกี่ยวได้....ในระหว่างทาง (4) " ซื้อชีวิต" ไม่ต้องคิดมาก
ครั้งหนึ่งที่นานๆในเช้าวันหยุดจะไปตลาดสด ปกติตู้เย็นที่บ้านจะมีผักเป็นหลัก (เพราะที่บ้านเราจะไม่ทานสัตว์บก และสัตว์ 4 เท้า (ไม่ทานจระเข้ กบ ด้วย) การไปตลาดสดเก่าแก่แห่งนี้เลยจะมองหาขนม ของกินเล่นเป็นหลัก และดูกุ้ง ปลา ด้วย ซึ่งตลาดที่นี่อาหารทะเลจะสดมาก แต่วันที่ไปตั้งใจจะไปซื้อข้าวเหนียวกลอย ของโปรด เลยไม่ได้เอาเงินติดตัวไป นอกจากกระเป๋าใส่เหรียญ ซื้อข้าวเหนียวเสร็จจะเดินกลับมาขึ้นรถ สายตาพลันมองไปเห็นในถาดขนาดใหญ่มีปลาดุกตัวใหญ่อ้วนมาก นอนพะงาบๆ บนถาด ความรู้สึกสะดุดใจ แต่ไม่แน่ใจ ขาก็คงก้าวเดินต่อ ในขณะที่ใจยังคิดถึงปลาดุกตัวนั้น เดินต่อได้สัก 2 ก้าวในที่สุดก็เดินกลับเพราะมีความรู้สึกที่ติดค้างใจ มาหยุดยืนมองในถาด แม่ค้าทำหน้าที่ขายทันที เธอมองเราแล้วถามว่า
"เอาไหมคะ เหลือตัวเดียวแล้ว ตัวมันใหญ่ ตัวสุดท้ายเดี๋ยวลดให้" ยังไม่ทันรู้ราคาเลย
meepole ก็เห็นตามที่เธอพูด แต่เธอไม่พูดสิ่งที่เราสงสัย ก็เลยถามแม่ค้าว่า
" ที่เห็นมันอ้วนมากนี่น่ะ มันท้องไช่ไหม"
แม่ค้าบอกว่า "ไช่ ไข่เยอะเลย ท้องแก่แล้วด้วย" หมดข้อสงสัย เลยถามว่า
"มันจะรอดไหม จะเอาไปปล่อย "
แม่ค้าบอกว่า "รอด" เราก็ย้ำอีกว่า "รอดแน่นะ " เธอบอกว่า
"รอดเพราะมันยังแข็งแรงอยู่" ก็เลยตกลงซื้อ
เหตุที่ซื้อเพราะสงสารมองหน้ามันแล้วรู้สึกเองว่า มันคงอยากอยู่รอดเพื่อเกิดลูกตามสัญชาตญาณ
แม่ค้าชั่งเสร็จ บอกราคาปลา และแน่นอนเงินไม่พอเพราะเอาเฉพาะเหรียญไป คิดๆๆๆจะเอาเงินที่ใหนให้เพราะแม่ค้าคนนี้ก็ไม่เคยรู้จักกัน ว่าแล้วก็นึกได้ว่ามีแม่ค้าปลาที่รู้จักกันซื้อกันมาตลอด ก็บอกเขาว่า"เดี๋ยวมานะ ใส่ถุงเบาๆนะ "แล้วก็ไปยืมเงินเขา (เขินเหมือนกัน แต่จำเป็น)
เสร็จรีบกลับบ้านชวนสามีไปปล่อยปลาตัวนี้ที่วัด ซึ่งเป็นวัดที่มีสระน้ำขุด ไว้ให้ปล่อยปลา แต่คนนอกไม่ค่อยรู้ ต้องเป็นคนเก่าแก่ สระอยู่ใต้อาคารไม้เก่า ตอนนี้ทำขั้นกระไดเล็กๆให้เดินลงไปปล่อยปลาได้ สมัยเด็กๆจำได้ว่าไม่มีกระไดใครจะปล่อยปลาต้องแทบจะโยนปลาลงไป ก็ให้สามีลงไปเปิดถุงค่อยๆหย่อนเท มันออกมากลัวมันกระเทือนเพราะอ้วนท้องแก่
สามีเดินกลับขึ้นมา เรามองตามตั้งแต่ตอนที่ปล่อยมันออกจากถุงพร้อมกับนึกไปว่าขอให้มันอยู่ปลอดภัยมีลูกหลานเต็มบ่อนะ ไม่ได้คิดอะไรอื่น สามีขึ้นมายืนมองตาม สิ่งแปลกก็เกิดเมื่อปลาดุกตัวนั้นที่เราเห็นว่าว่ายออกไปแล้ว ว่ายกลับมาแล้วโผล่หัวขึ้นมามองทางที่เราและสามียืน (ไม่ไช่ขึ้นมาฮุบอากาศ) เราเห็นหน้ามัน ความรู้สึกที่เกิดขณะนั้นคือ มันมาขอบคุณ แล้วมันก็หันกลับว่ายหายลงไป ยืนดูอีกครู่ไม่มีอะไรนอกจากน้ำที่นิ่ง
มีความสุขที่ได้มีโอกาสช่วยชีวิตแม่ปลาท้องแก่ผู้กำลังจะเกิดลูก โดยไม่ได้มีความตั้งใจว่าจะไปหาซื้อปลาเพื่อสะเดาะเคราะห์ ใครจะคิดหรือเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ความรู้สึกที่สื่อว่ามันกลับมาขอบคุณ เป็นปิติ อย่างยิ่ง และความรู้สึกนั้นยังอยู่ทุกครั้งเมื่อนึกถึงภาพนั้น
และเชื่อว่าสักวันหนึ่งใครก็ตาม ถ้าได้มีโอกาสเช่นนี้จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่า หากเราซื้อชีวิตโดยไม่คิดอะไร จะเกิดสุขมากกว่าที่ซื้อชีวิตเพื่อแลกเคราะห์จริงๆ เพราะเคยซื้อสะเดาะเคราะห์เช่นกัน แต่ความรู้สึกต่างกันสิ้นเชิง
ดังนั้นสุข และปิติจะเกิดเอง หากซื้อชีวิต ไม่ต้องคิดมาก เพราะ
ชีวิตทุกชีวิต มีค่าสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของชีวิตเสมอ
มาสาธุด้วยคนครับ เป็นความเมตตาที่ดีมากเลยครับ ต่อไปเขาคงออกลูกไปอีกมาก ทุกชีวิตรรักชีวิตของตนเองครับ ขอบคุณมากๆๆสำหรับบันทึกดีๆๆ
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต ขอบคุณค่ะ
ตามมาขอบคุณ
และยินดีอย่างยิ่งที่ได้รู้จักผู้ใจบุญที่เป็นผู้ให้
หากเราซื้อชีวิตโดยไม่คิดอะไร จะเกิดสุขมากกว่า นั่นคือ ปิติสุข
อ่านแล้วมีความรู้สึกว่าการให้มีคุณค่าและยิ่งใหญ่ในใจผู้ให้ครับ ชอบเก็บเอาคำคม ประโยคทองมาจดจำ ชีวิตทุกชีวิต มีค่าสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของชีวิตเสมอ
สวัสดีค่ะ
มาอนุโมทนาบุญด้วยคน มาร่วมขอบคุณจากใจแทนปลาดุกและลูกๆของเธอที่กำลังจะเกิดมาด้วยค่ะ เชื่อว่าทุกชีวิตก็รักชีวิตของตัวเองเหมือนกัน และคงไม่มีใครอยากเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้ว่าโลกนี้ยังน่าอยู่เพราะมีเมตตาทุกหนแห่ง
สวัสดีค่ะ Merry Christmas & Happy new year 2554
คิดว่าตอนนี้น่าจะมีรุ่นหลานออกมาแล้วค่ะ :)