ถ้าคนไทยมีเงินมากขึ้น จะเอาเงินไปทำอะไร


ใครๆก็รู้เวลาคนไทยมีเงินจะทำอะไร นอกจากไปซื้อของแบบจ่ายหมดไป ตามห้างที่เป็นของนักธุรกิจที่ออกมาพูดนั่นแหละ

 

เมื่อคืน (๓๑ มีนาคม ๒๕๕๑) ผมดูรายการทีวี "จับเข่าคุย" ที่มี คุณสรยุทธ์  สุทัศนจินดา เป็นพิธีกร 

เรื่องมีอยู่ว่า

 มีนักธุรกิจใหญ่ระดับโลกท่านหนึ่งมาชวนคนไทยกำหนดแนวทางการพัฒนาประเทศ โดยการหาเงินมากๆ แบบ "๒ สูง"

ดูไปก็คิดไปว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ของต่างๆคงจะขายได้เงินมากขึ้น เงินเดือนคนไทยในทุกระบบก็จะสูงขึ้น

 

แล้วคนไทยอาจจะมีเงินที่ดูเป็นตัวเลขมากขึ้น (มูลค่าจริงๆ เดาไม่ถูกครับ) 

อย่างน้อยก็ “วินาทีหนึ่ง” ในรอบเดือน หรือรอบฤดูการผลิต

 

แล้วในวินาทีนั้น คนไทยจะเอาเงินไปทำอะไร นอกจากใช้หนี้ (จนหมด!!!)

 

 

เรื่องการกำหนดแนวทางในการพัฒนาประเทศ โดยใช้เงินเป็นหลักคิดนั้น

เราเคยมีบทเรียน เมื่อช่วงเริ่มแผนพัฒนาฯบ้าเลือด ประมาณหลังปี ๒๕๐๐

 

และได้ผ่านวิกฤติ การใช้คำขวัญ “งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข

 

มาแบบเลือดตาแทบกระเด็น คนไทยทำงานหาเงินกันแทบตาย เพื่อจะได้มี “ความสุข

 

หลังจากผ่านไป เกือบ ๕๐ ปี

 

มีแต่คนจนเพิ่มขึ้น และความสุขน้อยลง เพราะมัวแต่ไปวิ่งตามหาเงิน ขายทุกสิ่งที่ขวางหน้า แม้แต่ชีวิตและศักดิ์ศรีของตัวเอง และลูกหลาน ก็ไม่ละเว้น

 

ระยะหลังๆ รัฐบาล "ประชานิยม" ก็ใจดี เอาเงินมาแจกบ้าง ให้ยืมแบบไม่มีดอกบ้าง จนทำให้คนไทยเป็น “ทาสเงิน” และเป็นหนี้กันถ้วนหน้า

 

นั่งรอวันตายที่จะได้มีโอกาสใช้หนี้ จากเงินฌาปนกิจ ธกส. หรือเงินประกันชีวิต

เลยมีคนฆ่าตัวตายเพื่อล้างหนี้กันเป็นรายวัน

 

ทำไม เมื่อหาเงินได้มาก น่าจะสบายขึ้น

 

ทำไมจึงดูเหมือนจะลำบากมากขึ้นเล่าครับ

 

 

ผมว่า ที่ผ่านมาเรามองง่ายเกินไป

มองเอาแต่ได้

ลืมนึกไปว่า

 

เมื่อคนในสังคมมีเงินมากขึ้นเมื่อไหร่ นอกจากของ สินค้าต่างๆ จะขึ้นราคาไปดักรอ เป็นปกติแล้ว และยังมีแต่คนจะขอร้องแกมบังคับให้เราซื้อของของเขา

 

และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

พอมีเงิน คนทั่วไปก็จะกลายเป็นเหยื่อของนักธุรกิจทุกรูปแบบ ทั้งล่อหลอก ทั้งดัก ทั้งต้อน ทั้งไล่จับไล่ต้อน ให้เข้ากับดักธุรกิจที่เขาวางไว้

ถ้าจะเทียบไป ก็แบบมีทั้งไซ ลอบ โพงพาง ฉมวก ตาข่าย แห ฯลฯ ไม่มีทางเล็ดลอดไปได้

(ถ้ามีใครลอดไปได้ ก็เสียชื่อนักธุรกิจใหญ่ระดับโลก แย่เลย จริงแมะ!)

 

จึงเป็นที่มั่นใจได้ว่า ไม่มีทางรอด แน่นอน

 

ตอนนี้ ใครๆก็รู้เวลาคนไทยมีเงินจะทำอะไร นอกจากไปซื้อของแบบจ่ายหมดไป (Consumerism) เช่น

  • ซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกสารพัดชนิด  
  • จัดงานสังสรร
  • งานเลี้ยง
  • งานบุญประเพณี บวช แต่งงาน (แบบฉิบหายเท่าไหร่ไม่ว่า เอาหน้าไว้ก่อน) 

โดยไปจ่ายเงิน หรือซื้อของตามห้าง ที่มีทุกมุมเมือง ทุกชุมชน

(เป็นของใคร ใครๆก็รู้กันทั้งเมือง)

แล้วใครจะเป็นคนมีเงิน ที่แท้จริง

 

ทั้งห้างใหญ่ ร้านใหญ่ ร้านเล็ก ร้านจิ๋ว แม้นอนอยู่บ้านเฉยๆ ยังต้องเสียเงินให้ระบบธุรกิจของเขาเลย

 

คนไทยจึงไม่ต่างจาก การเป็นเหยื่อรอการจูงเข้าระบบธุรกิจการค้า

 

เพราะเขาคุมการขายแบบเกือบเบ็ดเสร็จ และกำลังไล่ไปคุมระบบการผลิต แล้วในที่สุดก็จะมาบีบผู้บริโภค

 

แล้วเราจะเป็นอย่างไร

 

ผมเชื่อว่าเขาทำได้ เพราะประเทศไทยพื้นที่น้อยกว่าบางมณฑลของจีนมากนัก

 

เรากำลังเดินตามรอยประเทศอาร์เจนตินาแบบหายใจรดต้นคอ

 

เกษตรกรจะหมดไป มีแต่คนงานในฟาร์มระดับธุรกิจ

 

คนที่เป็นเหยื่อของระบบของเขา อย่างมากก็

  • มีเงินบ้าง "ในบางวินาที"  ของชีวิต
  • มีแรงทำงานให้เขาทำธุรกิจได้มากขึ้น

 

 

รู้แล้วเราจะหาเงินมากๆไปทำไมครับ

อยู่แบบเศรษฐกิจพอเพียงดีกว่า ปลอดภัยกว่าครับ

 

 

หมายเลขบันทึก: 174616เขียนเมื่อ 1 เมษายน 2008 17:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (33)

เงินมากไปก็ไมาดี...

เงินน้อยไปก็ไม่ดี...

อยู่อย่างเศรษฐกิจพอเพียงอย่างที่อาจารย์ว่านั่นแหละค่ะ...หนูเห็นด้วยมากๆเลยค่ัะ

ให้พ่อ-แม่

ช่วยเหลือคนในสังคม

สวัสดีเจ้าค่ะ คุณครู

น้องจิจะเอาไปสร้างโรงเรียนให้เด็กๆภาคเหนือค่ะ น่าสงสาร มากๆ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ

เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---> น้องจิ ^_^

น่ารับฟังมากครับ อาจารย์ :)

แหม คำถามนี้ประหลาด แต่ก็ชอบใจมาก

ถ้าผมมีเงินรึครับ

จะออกเงินเหมาเครื่องบิน 10 ลำ

ขนชาวG2kไปเที่ยวภูเก็ต

เรื่องอื่นค่อยว่ากัน เอาเรื่องเฉพาะหน้าก่อน

เรื่องเศรษฐกิจบ้างิน บ้ากิเลศ ก็ต้องปล่อยไปสู่ที่ชอบๆ

ใครสนใจก็กระโจนเข้าไป

เขาทำสำเร็จได้ครับ เพราะเป็นแผนการเฉลี่ยกิเลศ

แต่เมื่อกิเลศมากขึ้นๆ มันหมายถึงทุกข์

  • เงินซื้อความพอดี
  • ซื้อความสงบสุข
  • ซื้อความปกติสุขของสังคม
  • ไม่ได้หรอกครับ

 

อ้าว.....ท่านครูบา ครับ

แล้วที่ว่าเงินเป็นพระเจ้า แปลว่าอะไรครับ

ถ้าพระเจ้าสร้างโลกได้ ทำไม "เงิน" จะสร้างโลก ไม่ได้เล่าครับ

อิอิ

กราบสวัสดีครับท่านอาจารย์

    มีเงินเยอะหน่ะดีแล้วครับ.....ใครๆ ก็อยากมีเงินกันทั้งนั้นครับ

งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข

    หากใครไม่อยากได้เงิน คงไม่อยากทำงาน เพราะแนวคิด

งานคือน้ำใจ น้ำใจคืองาน บันดาลสุข

งานคือทาน ทานคืองาน บันดาลสุข

งานคืองาน งานคืองาน งานคือสุข

มันหายไปครับ แปลงอะไรๆ ให้เป็นทุน อิๆๆๆ

    น่าจะลองทำแบบสอบถามดูว่า คุณอยากมีเงินเดือนเดือนละเท่าไหร่ให้ประเมินตัวเอง แบบว่าเงินเดือนมากที่สุดที่อยากได้โดยไม่ต้องคอรัปชั่น คอรับท่าน นะครับ

    ต่อไปก็ถามว่า คุณจะให้อะไรกับประเทศนี้เพื่อตอบแทนเงินเดือนก้อนนั้นที่ทำให้คนไม่ขี้โกง มีศีลมีธรรม?

แล้วค่อยมาถ่วงดุลดูว่า ท้ายที่สุดแล้วประเทศนี้จะขาดดุล หรือเกินดุล และมีคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนกับส่วนรวมอย่างไหนมากกว่า ก็อาจจะเอาไว้ทำนายได้ว่า ป่าไม้จะเหลือไหม ทรัพยากรจะเหลือไหม ประเทศชาติจะล่มจมไหม....

-------------------------------------------------------------   

วันนี้วันข้าราชการครับ ขอให้มีความสุขกันครับ

เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน วันอังคารที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๑" ติดตามอ่านได้ที่

website ของสภาฯ http://www.senate.psu.ac.th

หรือ อ่านโดยตรงได้ที่

http://www.rd.go.th/publish/kingsay/Royal_Instruction01042551.pdf

ขอบคุณมากครับ

ถ้ามี แล้วจะเช่าเครื่องบินไปชนตึกเวิร์ลเทรด... เอ้ย ไปภูเก็ตกับครูบาหรือเปล่า ครับ

เห็นกำลังระดมทุนอยู่

ตอนนี้เห็นว่าเหมาได้แค่รถไฟสามขบวน กับเคื่องบินอีก ๙ ลำ ยังขาดอีกลำหนึ่ง ครับ

ใช่ไหมครับครูบา

    " ...  รวยเหมือนทักษิณ    จะซื้อเครื่องบิน คอร์ปเตอร์..

         ขับพาเธอ  เที่ยวสองต่อสอง  แต่วาสนา 

          ยังอัตคัต      เงินทอง  ได้แค่มอง...."

  • ร้องได้แค่นี้แหละครับอาจารย์ ..อิอิ

 

โอ้ย เขามีใหม่แล้ว เชยจัง

"...รวยเหมือนทักษิณจะซื้อเครื่องบินไอพ่น ขับไปชนบ้านจอร์จ บุชดีไหม

เพื่อนบอกอย่า อย่า อย่า อย่า มันอันตราย

ผมเลยเปลี่ยนใจ ขับไปบ้านบิน ลาดิน...."

 

ดีกว่าไหม......

สวัสดีคะ

   เงิน เป็นเครื่องมือที่ทำให้เราสะดวกขึ้น แต่เงินไม่ใช่พระเจ้า เพราะเงินไม่ได้ทำให้เรามีความสุข หากเราใช้มันไม่เป็น

กราบสวัสดีค่ะ ท่านอ.ดร.แสวง

.. ได้ชมรายการคืนนั้นเช่นกันค่ะ ฟังแล้วรู้สึกแปร่งๆ แปลกๆ ...

สื่อต่างๆ มีบทบาทสำคัญ ต่อความคิด ส่งผลต่อพฤติกรรมของประชาชน

โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน .. ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ..

.. ทำอย่างไร ให้การศึกษาไทยสามารถปรับ ทัศนคติ ค่านิยม ต่างๆส่วนบุคคล ให้สอดคล้องกับเป้าหมายส่วนรวม .. ค่ะ ท่านอาจารย์

.. ณ ปัจจุบัน นโยบาย วงการศึกษา กำลังเน้นประเด็นไหนมากที่สุดค่ะ ในขณะที่บรรดาครูผู้สอน ต่างแสวงหา เพื่อบรรลุเป้าหมายส่วนตัว ในการก้าวไปสู่ความเป็นเลิศในเชิงวิชาการ ... เวลา ความทุ่มเท เป้าหมายในการสอนก็ผกผันกันมากขึ้นตามลำดับขั้น

... เห็นด้วยกับนายเม้ง นะคะ เคยคิดเล่นๆ เช่นกันว่า ...

... อยากให้คนทำงาน ทำงานโดยมิต้องสนใจเรื่องเงิน .. อยากเห็นสังคมในอุดมคติ ที่ไม่มีการคอรับฉัน

... สมมุติค่ะ สมมุติ สมมุติท่านอาจารย์เป็นผู้มีอำนาจ สามารถกำหนดนโยบายรัฐด้านการศึกษาได้ ท่านอาจารย์จะเจาะประเด็นไหนก่อนดีคะ ...

.. ขอบพระคุณค่ะ ...

... ทานอาหารเย็น ท่ามกลางธรรมชาติ ให้อร่อยนะคะ ...

.. ฝันดีล่วงหน้าค่ะ .. ด้วยเคารพ ปู ณ ปรางค์กู่

  • สวัสดีค่ะ
  • มีคนเคยบอกว่า
  • " เงินไม่ใช่พระเจ้า แต่พระเจ้าคือเงิน" เพราะสามารถซื้อความสะดวกสบาย ซื้อ...ที่อยากได้ ...
  • ...........- า..........!.......
  • ขอบคุณค่ะ

ถ้ามีเงินมากๆ จะลองซื้อผีมาโม่แป้งดูบ้าง

คงสะใจพิลึกค่ะ

  • ถ้าเงินสามารถซื้อสันติสุขให้กับโลกใบนี้
  • ก็อยากจะมีเงินค่ะ

 

  • อย่าเชื่อเขาเลยครับ  ฝันจะเลิศหรูแค่ไหน  ถ้ายังต้องอาศัยจมูกเขาหายใจ .. หาทางยืนบนขาตัวเองให้ได้ดีกว่า
  • เคยมีให้เห็นบ้างไหม  ที่นักธุรกิจหน้าเงิน  คิดโครงการช่วยเหลือคนแล้วไม่วางแผนกวาดต้อนไปดูดซับเอาผลประโยชน์ให้พวกเขา
  • มีไหมครับที่อภิมหาเศรษฐี คิดช่วยให้คนฉลาดจริง และพึ่งพิงตนเองได้โดยไม่ต้องอิงอาศัยธุรกิจของพวกเขา
  • ใครพบช่วยบอกที ผมจะชวน ดร.แสวงไปกราบด้วยกัน

อาจารย์ครับ

ถึงกึ๋นจริงๆครับ    มาปรบมือและยกมือครับ

                                                                                               รวมตะกอน

  • เคยมีให้เห็นบ้างไหม  ที่นักธุรกิจหน้าเงิน  คิดโครงการช่วยเหลือคนแล้วไม่วางแผนกวาดต้อนไปดูดซับเอาผลประโยชน์ให้พวกเขา
  • มีไหมครับที่อภิมหาเศรษฐี คิดช่วยให้คนฉลาดจริง และพึ่งพิงตนเองได้โดยไม่ต้องอิงอาศัยธุรกิจของพวกเขา

                                Handy

     ชัดเจนมากครับ   ขอปรบมือให้ครับ

  • แม่เคยสอนไว้ตั้งแต่เด็กว่า "คนสบาย" คือ "คนตายแล้ว"

    คิดไม่ออกว่ามีเงินเกินกว่าจะใช้แล้วจะเอาไปทำอะไร ฝากธนาคารไว้กินดอกเบี้ยก็กลัวพนักงานธนาคารแอบโกง เอาไปเล่นหุ้นก็ไม่รู้เรื่อง เอาไปเที่ยวเดี๊ยวก็เบื่อ ซื้อเครื่องประดับก็ไม่รู้จะใส่ไปไหน ที่สำคัญมีเงินมากกว่าที่ต้องใช้ก็กลัวโจรปล้นอีก......เหนื่อยเนาะ คิคิ

    เรายังมีลมหายใจให้ทำงาน ทำโน่นทำนี่ อย่าหยุดเฉยๆ ถ้าหยุดจะขาดทุนเพราะต้องกินต้องใช้ตลอดเวลา ถ้าไม่ทำก็ขาดทุน

    มีบางวันขี้เกียจหยุดเรียน หยุดทำงานนอนหายใจ ลืมตา ฟังเพลง ดูทีวี อยู่เฉยๆ เพราะคิดว่า หยุดบ้างเค้าก็ไม่หักเงินเดือน

    ก็จะโดนแม่จิกๆๆๆๆๆ หาว่าทำตัวไม่ต่างจาก"คนตาย"เสียดายออกซิเจน อ่ะค่ะ หุหุ

    เก็บไว้แต่งงานก็ดีนะครับ

    อิอิ

    เงินซื้อความสะดวกสบายได้ และคนไทยก็ชอบความสบาย จึงเห็นการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยของคนไทยโดยไม่นึกถึงผลที่ตามมา

    คนไทยเป็นหนี้บัตรเครติดเยอะน่ะผมว่า

    สำหรับผมยังไงเงินก็คือพระเจ้าครับ ซื้อได้แม้กระทั่งจิตใจคน

    ดูข่าวเศรษฐกิจก็อดขำไม่หาย ประเทศไทยจีดีพีขึ้น แต่รวยเฉพาะพวกเค้า พวกเค้าทำให้จีดีพีขึ้น บริษัทพวกเค้ารายได้มากขึ้น กำไรมากขึ้น ถ้าเจาะลึกจริงๆ เงินในกระเป๋าประชาชนเห็นแล้วอนาถยิ่งนัก

    วันก่อนผมก็ดู พูดซะซึ้งเลยน่ะเนี่ย เห็นสวรรค์บนดินเลย 555

    ผลแห่งความสำเร็จทุนนิยมในประเ้มทศไทย

    เครือข่ายคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่เสวยสุข

    แต่รากหญ้าทั่วแผ่น กำลังกลายเป็นเพียงเผ่าพันธ์ู้เฝ้าแผ่นดิน

    เพื่อรอคนไทยพันธุ์ใหม่ที่กำลังเพาะฟัก

    สุดท้ายคนเฝ้าแผ่นดินก็เป็นเพียงตำนาน ดัง ขอญ มอบ จาม ละว้า

    คนไทยรากหญ้าได้อะไร จากการพัฒนา

    ได้เพียงเป็นผู้หลงไหลในกระแสที่เขาปั่นขึ้นเพื่อผลธุรกิจ

    แล้วลืมค่าความเป็นคน ลืมบทบาทดังเดิม หลงติดในกระแสใหม่อันเป็นปลายทางธุรกิจ

    เขื่อนน้ำพองสร้างขึ้น เพื่อการฃลประทาน

    ชลประทานที่เป็นเพียงผลพลอยได้จากเศษทิ้งจากการปั่นไฟฟ้า

    ถือว่ามีผลดีกว่าผลเสีย เพื่อสอดคล้องกับการเกื้อหนุนระบบเศณาฐกิจใหม่

    หากมีใครพยายามขอให้มีการจัดระบบชลประทานท้ายเขื่อน

    การไฟฟ้าจะยอมไหม แถวเขต.โนนสัง ศรีบุญเรือง ภูเวียง

    เพราะจะกระทบต่อความมั่นคงของการผลิตไฟฟ้าของประเทศ

    อันมีผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ประชาชนหวังลืมตาอ้าปากด้วยวิธีใหน

    ส่งเสริมการศึกษา ขายไร่นา เพื่อลงทุนให้คนของประเทศ

    บางส่วนเท่านั้น ที่บรรลุ ส่วนใหญ่ระบบทุนพลิกเป็นโอกาศให้เกิดแก่กลุ่มทุน

    จนประชาชนรากหญ้าล้มละลาย

    จบป.ตรีแล้ว ตกงานเกลื่อนแผ่นดิน

    ความซับซ้อนของแผผ่นดิน หากไม่มีการจัดสรรที่สอดคล้องกับปัญหา

    วันหนึ่ง คงหนักกว่าวันนี้

    ตนเองอยู่ได้ โดยอาศัยการตายของชีวิตอื่น

    รากฆย้ามีที่ดิน 50 ไร่ว่าเกินกำลัง

    สร้างระบบขึ้นรองรับ 2000 ไร่ว่าดี อะไรกันครับอาจารย์

    ขอบคุณอีกครั้งครับ สำหรับความเห็นที่

    • ถึงแก่น
    • ให้ความรู้
    • จริงใจ
    • มีสาระ
    • เป็นประโยชน์ต่อสังคม

    นับว่าการเปิดประเด็นนี้คุ้มมากๆ เลยครับ

     

     

    ท่านคุณครู ดร.แสวง ครับ

    • หลายคนกะลังหาทางหลบ ไซ ลอบ โพงพาง ฉมวก ตาข่าย แห ฯลฯ   อยู่ครับ
    • ภัยธรรมชาติส่วนใหญ่สร้างความแกร่งให้กับมนุษย์
    • ส่วนภัยกิเลสทั้งในตัวตนของตนเองและของเพื่อนมนุษย์ "ผู้เกิด แก่ เข็บ ตาย  ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น"  กลับส่งผลในทางตรงข้าม
    • โลกของเรากะลังสาวเท้าก้าวสู่หายนะอย่างเร่งรีบและร้อนรน
    • โดยมีกิเลส(อันเป็นธรรมชาติ)ของมนุษย์เป็นตัวเร่งเร้า
    • แม้คนที่อยู่แบบเศรษฐกิจแบบพอเพียงก็ยังต้องเดือดร้อน
    • สภาพภูมิอากาศแปรปรวน
    • น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วกว่าที่คิด
    • ฯลฯ
    • มีเงินมากหรือเงินน้อย  ก็น่าจะรับผลไม่แตกต่างกัน
    • แต่หลายคนก็บอกว่า  ถ้ามีมาถมหลุมหนี้ให้ตื้นขึ้นบ้างก็ดีนะครับ
    • สวัสดีครับ

    สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ  ขอให้มีความสุขมากๆ  สุขภาพแข็งแรง  สดชื่นแจ่มใสครับ

    • มีการ์ตูนฝรั่งแซวรัสเซียเมื่อหลายสิบปีก่อน
    • เป็นการ์ตูนรูปเดียว เป็นสามีใช้ภรรยาเทียมแอกไถนา และไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้พูดอะไรกัน แต่สามีทำหน้าเริงร่า พูดทำนองนี้ว่า "แต่ประเทศของเรามีแสนยานุภาพที่ดีที่สุดในโลก(เชียว)นะ"
    • อ่านแล้ว เดาว่า ก่อนหน้านี้ ภรรยาคงบ่นว่า ทำไมชีวิตช่างรัดทดระทมทุกข์ปานนี้หนอ แล้วสามีก็เลยยกจีดีพี เอ๊ย แสนยานุภาพของประเทศมาปลอบใจ


    สรุป:

    • มีเงินมาขึ้นก็ดีครับ จะได้กระตุ้นจีดีพี
    • จีดีพีสูงก็ดีครับ จะได้ออกรายการได้บ่อย ๆ...

     

     

    เเนวคิด2สูงมีข้อเสียที่ต้องระวังดังนี้ครับ 1.เมื่อราคาข้าวสูงลิ่ว คิดหรือว่าจีนเเละประเทศอื่นๆที่ปลูกข้าวได้น้อยจนไม่พอส่งออกจะไม่หาทางปลูกข้าวไว้กินเองแทนการนำเข้า ดูประเทศอิสราเอลสิครับ 2.การพัฒนาแบบก้าวกระโดดโดยการกู้เงินมาลงทุนอย่างมหาศาล นั้นสวนทางกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อาจนำพาประเทศไปเป็นหนี้อย่างมหาศาลจนยากจะเยียวยา

    ครับ บางทีเราคิดเอาแต่ได้

    คิดแบบนี้แหละ ล่มจมมามากมายแล้วครับ

    ถ้าเป็นนักวิชาการ ฝรั่งเขาเรียก

    "Blue sky scientist"

    คนไทยเรียกว่า "นักฝันเฟื่อง"

    แต่อาจจะดีกว่าไม่ฝัน ครับ

    แต่ฝันมากไปก็อันตราย

    แล้วพอดีอยู่ตรงไหน

    นั่นนะซิ.....

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท