ห้องสมุด คือ สถานที่ที่ผมไปอยู่เป็นประจำในทุก ๆ สัปดาห์ ไม่ว่า การสอนจะยุ่งแค่ไหน
วันนี้ (9 ก.ค.51) ตั้งใจแวะไปหายืมหนังสือ Super Richie ให้กับรองคณบดีที่สนิทกัน
เดินไปที่ล้อพักหนังสือ พบหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ "หัวใจทองของยอดคน" เขียนโดย คุณ ทศ คณนาพร พิมพ์ครั้งที่ 3 ... เอ ! หนังสืออะไร ทำไมพิมพ์เยอะครั้งจัง
ปกหลัง ... เล่าให้ฟังเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่าง ยอดคน กับ คนธรรมดา อย่างน่าสนใจว่า
"...โชคชะตาและฟ้าดินนั้นมิได้แบ่ง "ยอดคน" กับ "คนธรรมดา" ออกจากกันในโลกของเรานี้
ยอดคนเกิดขึ้นมิใช่เพราะ โชคชะตาหรือฟ้าดินกำหนด แต่เพราะเขาผ่านการ "ฝึกฝน" และ "เรียนรู้" ที่สำคัญเขาเป็นคนธรรมดา แต่หัวใจทองของเขาจะเป็นผู้กำหนดเองว่า ใครคือ "ยอดคน"
ผู้เขียนเขียนไว้ 23 บท ... ผมเปิดสารบัญ เห็นบทที่ 23 ชื่อ "ใจแห่งอารยะ" อืมม ดูน่าสนใจ เหมือนมีความนัยบางอย่าง ตรงกับสภาวะในปัจจุบันหรือไม่
ผม ... ชวน ... อ่าน ... หาความนัยแฝงที่ซ่อนอยู่ ... ไปด้วยกัน
"Do what you can, with what you have, where you are."- - Theodore Roosevelt - -ทำในสิ่งที่คุณสามารถจะทำได้ พร้อมกับสิ่งที่คุณมีและที่ที่คุณอยู่ |
เกือบ 30 ปีก่อนมีหนังทีวีกึ่งสารคดี เรื่อง ทาส หรือ Root ในชื่อภาษาอังกฤษ ทำให้หลาย ๆ คนทั้งโลกที่ไม่เคยทราบได้
รับรู้ความเป็นมา และพอที่จะเข้าใจความเป็นคนที่มีเชื้อชาติอเมริกัน-แอฟริกา
ว่าเมื่อก่อนเกือบ 200 ปี ที่ทวีปแอฟริกา คนพวกนี้เขามีชีวิตตามอารยะของเขาในบ้านเกิดเมืองนอนอยู่ดีมีสุข ตามท้องทุ่ง
ตามไร่นาที่เป็นวิถีชีวิตของเขาที่เขารักและเป็นสุข
วันดีคืนดีก็เกิดมีพวกคนผิวขาว ที่ใจละโมบเห็นแก่ตัวและเห็นแก่ได้ไม่เคยคิดถึงหัวใจคนอื่น ไปไล่จับต้อนพวกเขาใส่
กรงเหมือนสัตว์ เหมือนวัว เหมือนควาย
ลงเรือฝ่ามรสุมทะเลมาถึงในทวีปอเมริกา และบางประเทศในยุโรป
และกดขี่บังคับให้ศักดิ์ศรีของพวกเขาต่ำลงเป็นทาสต่ำเตี้ยติดดิน
ทาสที่ต้องทำงานรับใช้ในไร่ฝ้ายแบบไม่มีค่าแรง มีเพียงเศษอาหารที่เหลือ
เป็นคนรับใช้ที่บำบัดความจองหอง พองขนของคนที่เรียกตัวเองว่า คนผิวขาว
ที่หลงคิดไปเองว่า ศิวิไลส์เหนือกว่าคนอื่นบนโลกใบนี้
มีการแบ่งแยกผิว แบ่งแยกชนชั้น แบ่งแม้กระทั่งความเป็นคน
คนผิวดำมีค่าน้อยกว่าหมาที่คนผิวขาวเลี้ยงในสมัยนั้น
ในร้านค้าหรือแหล่งชุมชนของคนผิวขาวมีป้ายเล็ก ๆ แขวนไว้ที่หน้าประตูทางเข้าว่า
คนผิวดำเจ็บแค้นและอับอาย มีการลุกฮือ ต่อต้าน ขัดขืน การต่อสู้ด้วยกำลังแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน เป็นหลายพัน
หลายหมื่น ๆ ครั้ง
แต่ก็พบกับความพ่ายแพ้ซ้ำซาก จนสวรรค์มีตาส่งประธานาธิบดีของอเมริกาที่ชื่อ ลินคอลน์ มาช่วยให้คนดำหลุดพ้นจาก
ความเป็นทาสตามกฏหมาย
แต่ทว่าในความเป็นจริงยังไม่ใช่
อเมริกันนิโกร ก็ยังคงเป็นไอ้มืด เหมือนเดิม
จนเวลาต่อมามีคนดำที่ชื่อ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (Martin Luther King, Jr. 15 มกราคม พ.ศ.2472 - 4 เมษายน
พ.ศ.2511)
ว่ากันว่าพระเจ้าส่งเขาเกิดมาเป็นคนดำ และเพื่อคนดำอีกครั้ง
เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวอเมริกันแอฟริกาที่มีชื่อเสียง
เป็นผู้นำขบวนการเรียกร้องสิทธิเสมอภาคของชาวผิวดำเนื่องจากนโยบาย และแนวทางการต่อต้านที่ใช้ความนุ่มนวล
ตามแนวทางของมหาตมะคานธี
ที่เรียกกันว่า อหิงสา หรืออีกนัยว่า อารยะขัดขืน
และจากทักษะการพูดต่อสาธารณะที่เป็นที่เลื่องลือ
คิงได้เป็นผู้นำในการคว่ำบาตรไม่ยอมรับการแบ่งแยกคนผิวดำในทุกเรื่องที่ไม่สมควร
ในปี พ.ศ.2506 คิงเป็นผู้นำในการเดินขบวนอย่างสันติที่อนุสาวรีย์ลิงคอล์นในวอชิงตัน ดี.ซี. โดยมีผู้เข้าร่วมเดินมากถึง
200,000 คน มากที่สุดตั้งแต่มีประเทศอเมริกาบนแผนที่โลก
ในการประชุมครั้งนี้เองที่คิงได้แสดงสุนทรพจน์ที่มีชื่อเสียง คือ
ในอเมริกาจะต้องปราศจากความลำเอียงและไม่มีอคติต่อคนผิวสี
ในระหว่างนี้เขาถูกจับขับคุกหลายครั้ง แต่เขาไม่เคยกลัวการอยู่ห้องแคบ ๆ แต่ประการใด
หนังสือที่ชื่อ "จดหมายจากคุกเบอร์มิงแฮม" คือ คำตอบแบบอารยะขัดขืนของคิงและกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคน
ผิวดำนับล้าน ๆ คนต่อมาจนถึงทุกวันนี้
เขาไม่เพียงต่อต้านเพื่อให้คนผิวดำเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งเท่านั้น เขายังต่อต้านการนำความเป็นคนไม่ว่าผิวสีใดมากดขี่
อีกทั้งชักนำไปทางที่ผิดที่คนที่มีจิตสำนึกไม่ทำกัน
ในครั้งที่นักการเมืองอเมริกาไม่กี่คนบ้าอำนาจหลงตัวเองเปิดศึกในเวียดนาม ก่อความเดือดร้อนระรานไปทั่วทั้งในบ้าน
ของตัวเองและทั่วโลก มีการต่อต้านอย่างดุเดือด
ด้วยเหตุผลที่ว่าทำไมต้องส่งคนจำนวนมากไปตายเพราะความบ้าอำนาจของคนไม่กี่คน
ทำไมต้องดึงเอาลูก เอาผัว เอาพี่น้องของเขา ออกจากบ้านที่อบอุ่นของพวกเขาไป
ข้อความหนึ่งในจดหมายที่ท่าน ติช นัท ฮันห์ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลในเวลาต่อมาที่เขียนถึง มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ผู้นำขบวนการต่อต้านการเหยียดผิวในสหรัฐฯ เมื่อ พ.ศ.2508 ท่านบอกว่า
"พระที่เผาตัวเองเพื่อประท้วงสงคราม ไม่ได้ต้องการชีวิตของผู้กดขี่ข่มเหง
แต่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายของผู้รุกราน
ศัตรูของพวกท่านเหล่านั้น ไม่ใช่ มนุษย์
แต่คือ ฐิติ ความคลั่งลัทธิ เผด็จการ ความโลภ ความเกลียดชัง และการเหยียดหยามทางเชื้อชาติ"
มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้อีกรูปแบบหนึ่ง ที่เป็นพลังขับดันทำให้คนดำมีสิทธิในความ
เป็นคนเทียมเท่าคนอื่นในโลกใบนี้ในที่สุด
วันนี้สังคมเล็ก ๆ ของบ้านเราก็มีสงครามรูปแบบใหม่ที่ถูกครอบงำด้วยอารยะที่ไร้ราก ทั้ง ๆ ที่บ้านเรานั้นสร้างบ้านเมือง
น่าอยู่สวยงาม มาก่อนตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตายาย
แต่ตอนนี้เราก็รับทุกอย่างที่เขายื่นให้แบบปราศจากเงื่อนไขเป็นยุคแห่งการบริโภคนิยมจนก่อความวุ่นวาย
เสื่อมโทรมไม่รู้จบโดยเฉพาะเยาวชนและสถาบันครอบครัว
ซึ่งมาจากการเป็นทาสทางวัฒนธรรมชาติตะวันตกและการไม่รู้เท่าทัน
อีกครั้งกับการไล่ล่าทาสของคนผิวขาวที่เปลี่ยนรูปแบบใหม่ ไม่ต้องพาขึ้นเรือไปไกลที่ไหนอีก
แต่เอาความเป็นทาสมาส่งให้ถึงที่แบบเดลิเวอรี่
จริง ๆ แล้วเราทุกคนล้วนมีสิทธิ์ในการรับและขัดขืน
แต่พวกเราเป็นอะไรไปกันแล้วในวันนี้
***********************************************************************
ข้อเขียนมีนิดเดียว แต่ผมคิดเยอะจัง ... กัลยาณมิตรทั้งหลาย ท่านคิดอย่างไรกันบ้างครับ ?
บันทึกนี้ ... เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ... ไม่ได้เป็นบันทึกล่อเป้าให้คนเข้ามาโจมตี ถ้ารักประเทศไทยมากกว่าที่รักตัวเอง คงทราบด้วยตัวเองครับ
บุญรักษา คนไทย ครับ
***********************************************************************
แหล่งอ้างอิง
ทศ คณนาพร. หัวใจทองของยอดคน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: บุ๊คสไมล์, ม.ป.ป.
เป็นประเด็นที่น่าสนใจครับ
แต่ไม่กล้าวิจารณ์นัก ครับ
คนไทยหรือเปล่า ??
คนไทยคนไหนยอม??
ผมไม่ยอม....ผมไม่ยอมรับ...
"Do what you can, with what you have, where you are." - - Theodore Roosevelt - - ทำในสิ่งที่คุณสามารถจะทำได้ พร้อมกับสิ่งที่คุณมีและที่ที่คุณอยู่
เข้าหลักเศรษฐกิจพอเพียงรึป่าวคะ ....
เราสามารถทำเท่าที่มีความสามารถทำได้ ด้วยสิ่งที่มีอยู่รอบตัว ในสถานที่ที่เราพำนักอยู่
ความเห็นยาวๆ ของคุณหลายประเด็นนัก ขออนุญาตได้ออกความเห็น
อยากบอกแต่ว่า ...หนังสือเล่มนี้ น่าหามาอ่านบ้างค่ะ ...ขอบคุณที่แนะนำ
พักหลังผมสนใจและอยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับการเสื่อมสลายของอินเดียแดง ..รู้สึกจะมีวรรณกรรมทำนองนี้บ้าง แต่กลับไม่เคยหยิบมาอ่าน
และนั่นก็เป็นเพราะไม่มีเวลาที่นิ่งพอที่จะอ่านได้
...
ขอบคุณครับ
ขอขอบคุณ ...
อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ... ที่แวะมาเยี่ยมเสมอ ๆ :)
คุณ panik ... ประเด็นอ่อนไหว ไม่กล่าวสิ่งใด ก็ไม่โกรธกันครับ :)
คุณ Mr. Kraton Pai ... มันเป็นความเจ็บปวดและเสียใจ เหมือนกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งที่ 2 ด้วยฝีมือคนในเอง
คุณ นัทธ์ ... ขออภัยที่ประเด็นแยกย่อยเยอะเกินไปครับ เพราะไม่ได้ตั้งใจและวางแผนการเขียนที่ดี แต่เขียนตามความรู้สึกจริง
คุณ แผ่นดิน ... ความล่มสลายของอินเดียนแดง ผมพบมีหนังสือเล่มหนึ่งครับ แล้วก็บทความของคุณวันชัย ตัน อีก 1 บทความ ครับ :)
ขอบพระคุณครับ :)
มาทักทายครับ นายแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้มาทักทายอาจารย์
ไม่วิจารณ์และแลกเปลี่ยนเรื่องหนังสือได้ไหมครับ อิอิอิ
วันศุกร์นี้จะขึ้นไปทำธุระที่เชียงใหม่ ไปที่อำเภอเมือง กับ อำเภอดอยสะเกดครับ
เสียดายที่ไม่ได้เจอกัลยาณมิตรที่ดีอย่างอาจารย์
ขอบคุณมากครับ ;-)
สวัสดีค่ะ อาจารย์ Wasawat Deemarn
เคยอ่านถึงเรื่องของท่านมหาตมะคานธีถึงการกระทำหลายอย่างที่แสดงถึงสิ่งที่เรียกว่า "อารยะขัดขืน"นี้ค่ะจำได้ไม่ชัดเจนนัก เช่น ขัดขืนการที่อังกฤษผูกขาดการขายเกลือ ห้ามคนอินเดียผลิตเกลือเอง ท่านนำคนเดินไปที่ชายฝั่งทะเลแล้วใช้หม้อเล็กๆตักน้ำทะเลมาเคี่ยวทำเกลือ ทำเอาอังกฤษอึ้ง และได้ประจานความกดขี่ของผู้มายึดครอง ตอนอ่านรู้สึกอินมากๆเลยค่ะ
ผู้ที่สามารถทำการฝืน ขัดขืน ยึดมั่นในสิ่งถูกต้องอย่างมีสติ และทำอย่างสงบ มีหัวใจที่ยิ่งใหญ่เหลือเกินนะคะ
ขณะอ่านบันทึก คิดถึงท่านมหาตมะคานธีตลอดเลยค่ะ
ขอขอบคุณ ....
คุณ ครูข้างถนน ... ที่แวะมาให้กำลังใจผมเสมอ
อาจารย์ Jeed ครูแก้วตา อาณาจักร์ ... ลูกศิษย์ที่เป็นครูที่เด็กรัก แห่ง ขุนยวม แม่ฮ่องสอน .. ขอให้อาจารย์สร้าง "จิตร ภูมิศักดิ์" คนต่อ ๆ ไป
อาจารย์ คุณนายดอกเตอร์ ... ท่านมหาตมะคานธี กล่าวถึง อหิงสา หรือเรียกว่า ...
"สัตยาเคราะห์ (Satyagraha) หมายถึง การต่อสู้บนรากฐานของความจริง หรือ สัจจะ"
คุณหมอ จริยา ... ที่แวะมาเยี่ยมบันทึกของผมเสมอ
อรุณสวัสดิ์อากาศดี๊ ดีค่ะ ท่านอ. เสือ :)
* ....
* Be what you want to be ....
* .... Dare to Dream
* .... Dare to Free
* and Dare to Fly ....
* ....
* ขอบคุณค่ะ ชอบมากๆ ค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ
* ช่วงนี้ fly ตลอด จนจะ fried ตัวเองแล้วคะ :)
สวัสดีครับ ท่าน Wasawat Deemarn
เราต้องสูญเสียอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายแค่ไหน
ผมเห็นข้อความนี้ ยังดีใจว่ายังมีคนคิดเหมือนผม
วันนี้สังคมเล็ก ๆ ของบ้านเราก็มีสงครามรูปแบบใหม่ที่ถูกครอบงำด้วยอารยะที่ไร้ราก ทั้ง ๆ ที่บ้านเรานั้นสร้างบ้านเมือง
น่าอยู่สวยงาม มาก่อนตั้งแต่ครั้งปู่ย่าตายาย
แต่ตอนนี้เราก็รับทุกอย่างที่เขายื่นให้แบบปราศจากเงื่อนไขเป็นยุคแห่งการบริโภคนิยมจนก่อความวุ่นวาย
เสื่อมโทรมไม่รู้จบโดยเฉพาะเยาวชนและสถาบันครอบครัว
ซึ่งมาจากการเป็นทาสทางวัฒนธรรมชาติตะวันตกและการไม่รู้เท่าทัน
อีกครั้งกับการไล่ล่าทาสของคนผิวขาวที่เปลี่ยนรูปแบบใหม่ ไม่ต้องพาขึ้นเรือไปไกลที่ไหนอีก
แต่เอาความเป็นทาสมาส่งให้ถึงที่แบบเดลิเวอรี่
จริง ๆ แล้วเราทุกคนล้วนมีสิทธิ์ในการรับและขัดขืน
แต่พวกเราเป็นอะไรไปกันแล้วในวันนี้
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณด้วยความจริงใจ
สวัสดีครับ
โลก(ธรรม) นั้นเป็นมีของคู่ๆ กันเช่น สุขทุกข์ ได้ลาภเสื่อมลาภฯลฯ
เมื่อมี อารยะขัดขืน ก็ย่อมมี อนารยะขัดขืน ด้วยนะครับ
I have a dream -- Martin Luther King, Jr.
ขอขอบพระคุณ ...
คุณ poo ครับ ที่ให้เวลากับบันทึกนี้
ท่าน สิทธิรักษ์ ... ที่แสดงความชื่นชมและให้กำลังใจ ครับ
คุณ กวิน .. ที่เปิดคำว่า "อนารยะขัดขืน" อีกคำหนึ่ง
คุณ Conductor .. กับคำว่า "I have a dream"