"วางใจ" วิธีคลี่คลายเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี ... (ท่านชุติปัญโญ)


"... หากรู้จักวางใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้เท่าทันความจริงด้วยปัญญา ทุกอย่างย่อมมีทางคลี่คลาย แม้ปัญหาที่เคยรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ก็จะกลับกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ได้ด้วยความลงตัว ปัญหาที่น้อยนิดก็อาจเป็นได้แค่เรื่องกระจิริด ที่ทำให้ชีวิตมีรสชาติเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ..."

นับตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.51 ผมเองก็ยุ่ง ๆ กับการเป็นห่วงน้องที่ต้องติดค้างอยู่ที่เซียงไฮ้ ถึง 10 วัน อันเนื่องจากปัญหาการเมืองในประเทศไทย (จากบันทึก น้องผมกลับถึงสุวรรณภูมิ ตี 1 วันนี้ ... ร้อนใจครับ (เซี่ยงไฮ้ ถึง เชียงใหม่ ... ติดค้าง 5 วัน 5 พันกิโล กว่าจะถึงบ้าน) ) ... หลังจากนั้นก็มีความเจ็บป่วยฟันขึ้น ทำให้ต้องเดือดร้อนไปหาหมอฟันให้รักษา (จากบันทึก ผมไป "รักษารากฟัน" ในวันที่ "อากาศหนาวเหน็บ" ) ... ทำให้ผมไม่มีช่วงเวลาได้พูดคุยกับเพื่อนฝูงที่ทำงานมากนักในระยะดังกล่าว

วันนี้คงเป็นวันแรกที่ได้มีโอกาสพบปะเพื่อนฝูงบ้าง โดยทำหน้าที่รับฟังเรื่องราวที่ผ่านมา เรียกว่า การอัพเดทข่าวสารการเมืองภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย รวมถึง ความนึกคิดส่วนตัวของเพื่อนคนนี้ด้วยเป็นอย่างไร

เพื่อนผมเป็นคนหน้าตา "ร้าย" มาตั้งแต่เกิด เก็บรายละเอียดของชีวิตคนอื่นเก่ง ปากเป็นอาวุธร้าย มีความอ่อนไหวสูง ปากกับใจไม่ค่อยตรงกัน ขี้ระแวง และ คิดมาก

ทัศนะในชีวิตที่มันพรั่งพรูออกจากปาก ก็แสดงออกถึงความใจร้อนในการตัดสินคน กลุ่มคน โดยไม่ได้ไตร่ตรอง หรือ วิเคราะห์สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้ครบด้านเสียก่อน แต่ดันทะลึ่งสรุปซะก่อน ไม่ต่างอะไรที่รับสื่อด้านเดียวแล้วตัดสินทันที (เป็นกันเยอะ)

ผมต้องคอยเตือนเพื่อนคนนี้เสมอว่า "ใจเย็น ๆ คิดให้ครบด้านก่อน อย่าเพิ่งตัดสินใจด่วนสรุป"

เพื่อนผมเป็นคนออสโมซิสง่ายกับคนใกล้ตัว เช่น พี่ชายที่รัก เพื่อนที่รัก ฯลฯ ได้ยินอะไรเขามาก็จะรับเขามาหมด คิดหมด ไม่ปล่อย ไม่วาง ทุกข์อยู่คนเดียว คิดอยู่คนเดียว หน้าดำอย่างเห็นได้ชัด

คิดถึงเพื่อนคนนี้ ... อยากหาข้อคิดเชิงธรรมบอกให้เพื่อนลองฟังนี่หน่อย จึงเปิดหนังสือ "มองโลกให้งาม ชีวิตก็งาม" ของ ท่านชุติปัญโญ ที่อ่านอยู่แต่ยังไม่จบเล่ม

จึงได้ข้อคิดดี ๆ มาบทหนึ่ง ... จึงขอเชิญชวนท่านอ่านไปพร้อมกัน ดังนี้

 

***************************************************************************

 

โดยธรรมชาติของคนเรานั้น มักจะสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองมีความรู้สึกสบายเป็นหลัก ทุกวิธีคิดและการลงมือทำ จึงพยายามสร้างกรอบให้ตัวเองดำรงอยู่ แล้วให้ความลงตัวมากกว่าใคร

แต่ความจริงก็มักตรงกันข้ามเสมอ เพราะทุกอย่างไม่สามารถที่จะหมุนไปตามใจของเราได้ทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดการเหนี่ยวรั้งที่จะให้สิ่งที่หวังอยู่กับตัวเองนาน ๆ หรือให้หลุดลอยไปน้อยที่สุด เท่าที่กำลังการหยุดยั้งจะสามารถรั้งได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเราจะสร้างเงื่อนไขให้เป็นไปตามที่ชีวิตต้องการมากเพียงใด แต่หากใจไม่พร้อมที่จะรับมือกับความผิดหวังที่จะตามมา วันหนึ่งเราก็จะต้องประสบกับความทุกข์เช่นเคย

จึงมีคำถามตามมาว่า แล้วทำอย่างไร ชีวิตจึงจะไม่ทุกข์จนเกินไป ? และทำอย่างไร จึงจะปลดปล่อยความทุกข์ให้หลุดออกไปจากใจได้ ?

คำตอบอาจดูง่าย แต่ถ้าทำได้ทุกอย่างก็ลงตัว นั่นก็คือ "แค่วางมันลง หรือปล่อยวางอย่างรู้เท่าทัน"

 

มีชายคนหนึ่งถูกเสือไล่ล่าเพื่อกินเป็นอาหาร เขาวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนกระทั่งไปเจอบ่อลึกแห่งหนึ่ง จึงตัดสินใจที่จะรักษาชีวิตไว้ ด้วยการไต่เถาวัลย์เพื่อลงไปหลบที่ก้นบ่อ

เผอิญสิ่งที่อยู่ก้นบ่อ กลับเป็นงูพิษตัวมหึมาที่รอทำร้ายเขาเช่นกัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกลัวมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะจะลงไปในบ่อก็จะถูกงูกัด จะปีนขึ้นไปเสือก็กำลังรอกินอยู่

ในขณะที่เริ่มหมดหวัง และต้องโหนตัวอยู่ที่เถาวัลย์นั้น ก็มีน้ำผึ้งหยดลงมาตรงที่เขาห้อยโหนอยู่พอดี ชายหนุ่มจึงอ้าปากรับรสชาติอันหอมหวานของน้ำผึ้งอย่างคนที่รู้จักวางใจ และพร้อมจะรับมือกับปัญหาที่จะตามมาในทุกกรณี

ชายผู้เคยกลัวสุดขีดได้ปรับใจให้รู้จักยอมรับ ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากเดิม เขาวางใจให้รู้สึกสบาย ๆ คิดว่า แล้วแต่เหตุปัจจัยที่จะเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน ก็อ้าปากเพื่อรับหยดน้ำผึ้งไปด้วยเป็นระยะ ๆ เหมือนกับว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องยุ่งยากและน่ากลัวอีกต่อไป

ฝ่ายเสือเมื่อรอให้ชายหนุ่มปีนขึ้นมาจากบ่อไม่ไหว ก็ขยับตัวเองเข้าไปให้ใกล้ปากบ่อ ในที่สุดก็พลัดตกลงไปในบ่อลึก พร้อมกับทับงูที่อยู่ข้างล่างตายทั้งคู่ในทันที

ชายผู้โหนเถาวัลย์ด้วยความหวังและรู้จักวางใจเป็นถึงกลับอุทานด้วยเสียงที่โล่งอก และขอบคุณปัญหาที่ทำให้ตัวเองเกิดปัญญาชนิดใหม่ว่า

"แค่วางมันลงและทำใจให้สบาย ทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง"

 

บางครั้งชีวิตของเราก็เหมือนกับชายผู้นี้ ที่หนีความกลัวหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของตน พยายามที่จะสร้างทุกอย่างเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย ทว่ากลับกลายเป็นภาระให้ต้องแบกหามอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เมื่อวันหนึ่งที่สั่งสมสิ่งต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน ก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่แสวงหามาได้ ช่างก่อให้เกิดความยุ่งยากเสียนี่กระไร แต่จะทิ้งแล้วหนีไป ก็รู้สึกว่าขาดความรับผิดชอบ ทุกอย่างเสมือนหนึ่งว่า มารุมเร้าให้ชีวิตกลัดกลุ้ม จนยากที่จะหาทางออกให้กับตัวเองได้

เพราะหากจะเปรียบไปแล้ว บางครั้งการแสวงหาที่เราเฝ้าไขว่คว้าอยู่นี้ ก็เสมือนหนึ่งว่ามีความเป็นมิตร และพร้อมจะก้าวไปกับเราทุกเมื่อ

ทว่าเมื่อต้องออกแรงแสวงหา สิ่งที่เคยรู้สึกว่าเป็นมิตรก็กลับกลายเป็นเสือร้ายมาไล่ล่าตัวเรา จนทำให้ต้องดิ้นรนเพื่อหาทางออกจากสิ่งนั้น ๆ เมื่อหนีไปแล้ว การหลบหนีนั้นก็เป็นประหนึ่งบ่อลึก ที่มีงูพิษรอทำร้ายเราอยู่เช่นเดิม

 

แต่ครั้นรู้จักไตร่ตรองปัญหา ด้วยปัญหาที่ผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดี สิ่งที่ได้รับกลับคืนมา ก็เปรียบเสมือนน้ำผึ้งที่หยดลงมาให้เราได้ลิ้มรส และช่วยกระตุกให้จิตได้หยุดคิดทบทวน เพื่อหาทางออกจากปัญหาที่มี

ทำให้ได้เรียนรู้ที่จะฉลาดขึ้น ทั้งจากปัญหาและจากการวางใจที่จะยอมรับ เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน

เพราะเมื่อรู้จักนิ่งคิดและทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น บางครั้งท่ามกลางปัญหา ก็มักซ่อนปัญญาไว้เป็นคู่มือสำหรับแก้ไขเรื่องยุ่ง ๆ เสมอ ทำให้มองเห็นสิ่งที่เข้าไปช่วยแก้ไขเรื่องหนักให้กลายเป็นเบาได้

 

จากที่เคยมองว่างานก่อให้เกิดเป็นปัญหา กลับเห็นคุณค่าของชีวิตโดยมีงานช่วยแต่งเติมให้มีชีวา ทำให้เปลี่ยนจากความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ให้กลับกลายเป็นมูลค่าเพิ่มด้วยการรู้จักแบ่งปัน

จากความรู้สึกที่เป็นความทะยานอยาก กลับเห็นคุณค่าด้วยการได้มาแล้วรู้จักเสียสละ และรู้จักต่อยอดทรัพย์นั้น ให้เป็นคุณค่าที่สูงส่งมากกว่าเดิม

ดังนั้น หากรู้จักวางใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และรู้เท่าทันความจริงด้วยปัญญา แม้ปัญหาที่เคยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ก็จะกลับกลายเป็นเรื่องง่าย ๆ ได้ด้วยความลงตัว

 

ปัญหาที่น้อยนิด ก็อาจเป็นได้แค่เรื่องกระจิริด ที่ทำให้ชีวิตมีรสชาติเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง

 

แค่วางมันลงหรือรู้จักปล่อยวางอย่างรู้เท่าทัน ทุกอย่างที่เราเคยมองว่าเป็นภาระ ก็จะก่อให้เกิดคุณค่าที่ทำให้เราฉลาดขึ้นเสมอ

 

**************************************************************************

 

"วางใจ" วิธีคลี่คลายเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี ...

สถานการณ์บ้านเมือง เรื่องเคร่งเครียดอาจทำให้คนไทยไม่มีความสุขเหมือนกับประเทศที่สงบสุข

การเลือกที่จะ "ปล่อยวาง" ความทุกข์ เป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถเลือกปฏิบัติได้ หากใจต้องการ

ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า ถือสัมภาระที่ไม่มีประโยชน์ต่อการเดินทางไว้ รั้งแต่จะทำให้เหนื่อยยากมากกว่าการเดินทางโดยปราศจากมัน ... "โยนมันทิ้ง" เถอะครับ

เพื่อน ... เธอ "โยนมันทิ้ง" ได้นะ แล้วเธอจะรู้สึกดีขึ้น

ลองฟังเพลงนี้สิ  ขอมอบเพลง "ก้อนหินก้อนนั้น" ให้กับผู้ที่ท้อถอย..หมดกำลังใจ ...

แล้วเธอน่าจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้น

 

***************************************************************************

 

แหล่งอ้างอิง

ชุติปัญโญ.  มองโลกให้งาม ชีวิตก็งาม.  พิมพ์ครั้งที่ 2.  กรุงเทพฯ: ใยไหม, 2551.

 

หมายเลขบันทึก: 227182เขียนเมื่อ 3 ธันวาคม 2008 23:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:57 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ตามกลิ่นหนังสือมาค่ะ เล่มนี้หอมเหมือนน้ำผึ้งที่หยดเข้าปากชายผู้โหนเถาวัลย์เลยค่ะ

"แค่วางมันลงและทำใจให้สบาย ทุกอย่างก็ดีขึ้นเอง"

ขอบคุณครับ พี่หม่อม ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี :) ...

เล่มล่าสุดของท่านชุติปัญโญ ครับ

ขอคัดลอกบทความดีๆไปไว้ เตือนสติตัวเองนะค่ะ

ยินดีครับ คุณ  ครูเอ :)

สุขสันต์วันพ่อ ครับ

ปัญญาจะเกิดต่อเมื่อเรามีสติจริงๆค่ะ

ขอบคุณกับบันทึกดีๆนะคะ

สวัสดีครับอาจารย์

อากาศหนาวดูแลสุขภาพด้วยนะครับ

  • สวัสดีครับ
  • เข้ามา blog นี้เหมือนได้เปิดเข้ามาในห้องสมุดขนาดใหญ่
  • ห้องสมุดที่มีความรู้มากมาย
  • ขอบคุณครับสำหรับเรื่องราวดีดี
  • ระลึกถึงเสมอครับ

ขอบพระคุณ คุณพยาบาล เต้าเจี้ยว ต.ที่2 ทีมเลขา 3 ต. มาก ๆ ครับที่แวะมาเยี่ยมเยือน :)

สวัสดีครับ คุณครูเฉลิมศักดิ์ ครูดอย :)

ครูยังไม่สามารถนำ "สื่อ" เดินทางไปถึงแม่ฮ่องสอนเลยครับ

แต่ครูตั้งใจอยากให้ไปยังโรงเรียนของคุณครูเฉลิมศักดิ์นะครับ

จะลองหาหนทางใหม่

ขอบคุณมาก ดูแลสุขภาพเช่นกันครับ :)

สวัสดีครับ เสธ.Col.boonyarit :)

ราชบุรีหนาวหรือยังครับ ...

BLOG นี้เหมือน "คลังความรู้" ที่ผมได้ประทับใจและเก็บเอาไว้ตามสถานการณ์ต่าง ๆ

เวลาผมไปพบบันทึกที่มีเรื่องคล้าย ๆ แบบนี้ ผมสามารถอ้างอิงได้จากบันทึกเหล่านี้ครับ

ผมเชื่อว่า คงช่วยสามารถทำให้หลาย ๆ คนได้ฉุกคิดในสิ่งบางสิ่งที่เราได้หลงลืมมันไปบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ

ขอบคุณสำหรับความระลึกถึงของ เสธ.Col.boonyarit นะครับ :)

ยินดีมาก ๆ

-ขอบคุณบทความดีๆในวันดีๆเช่นนี้ค่ะ

  • แค่วางมันลงหรือรู้จักปล่อยวางอย่างรู้เท่าทัน ทุกอย่างที่เราเคยมองว่าเป็นภาระ ก็จะก่อให้เกิดคุณค่าที่ทำให้เราฉลาดขึ้นเสมอ

ขอบคุณและยินดีมาก  ๆ ครับ คุณพยาบาล nussa-udon :)

-ครูต้อยหอมกลิ่นหนังสือ เพราะมีคนเปิดให้กลิ่นมาแตะจมูก เหมือนกลิ่นกาแฟที่โชยมากับสายลม แต่นั่นก็เพียงกลิ่น สูดดมเพียงใด ก็มิอาจรับรสสัมผัสที่ลิ้นได้ จึงตัดสินใจตามเก็บหนังสือจากแผง มาเป็นเพื่อนบ้าง ขอบคุณค่ะ ที่ส่งกลิ่นหอมฝากลมมา

ขอบคุณครับ คุณ krutoi ... กลิ่นหนังสือสำหรับผม เป็นนามธรรมและความรู้สึกที่เกิดขึ้นทุกครั้งในการเข้าห้องสมุด หรือ ร้านหนังสือ ครับ

จึงได้ชื่อมาด้วยเหตุฉะนี้ :)

แอบเดินตามกลิ่นของหนังสือมาอีกครั้งค่ะ

ปล่อยและวาง จริงๆสินะคะเราจึงจะหลุดพ้น

จากสิ่งที่ทำให่เกิดทุกข์ ถือไว้ก็หนักเปล่าๆ

ระหว่างเดินทาง ไม่ใช่เจออะไรก็เก็บใส่เป้

แบกไว้จนหมด เก็บไปมากแม้กระทั่งก้อนหินที่หนักๆ

แบกจนหลังค่อม ระหว่างเดินทาง ก็ให้เอาก้อนหิน

เหล่านั้นสิ่งที่แบกไว้เกินความจำเป็นออกไปเสียบ้าง

เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่งท่านได้ให้แง่คิดไว้อย่างดี

เมื่อไม่นานมานี้เจอเหตุการณ์แบบไม่คาดคิด

ถูกวางยาโดยไม่รู้ตัว ด้วยความเข้าใจผิดของคนอื่น

ที่มองเรามองอะไรเพียงด้านเดียว รับข้อมูลข่าวสาร

จากฝ่ายเดียว แล้วก็ตัดสินเราโดยที่เราไม่มีสิทธิ์อุทรณ์

ครั้งแรกที่ได้ยินอึ้งไปเหมือนกัน เสียใจจนร้องไห้ไปเหมือนกัน

สุดท้ายคนต้นเรื่องต้องมาเคลียร์ให้เข้าใจ

ก่อนหน้านั้นเลยตัดสินใจวางและปล่อย

จัดการใส่บาตร กรวดน้ำ อุทิศกุศลผลบุญ

อโหสิ เลิกแล้วต่อกัน

แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น กรรมของใครก็ของใคร อิอิ

สุดท้ายแอบขอคัดลอกบทความดีๆไปฝากใครหนึ่งคนที่ยังไม่วางให้หายเศร้า

หายเหงา ให้คลายทุกข์ ไม่ยึดไม่ถือ ไม่หนัก หัวใจอีกต่อไป

ใจเป็นใหญ่จริงๆสินะคะ

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้สำหรับการเขียนบันทึกที่เขาเรียกว่า BLOG เป็นเรื่องสำคัญมาก เป็นเรื่องการจัดการความรู้อีกต่างหาก

คุณครู เทียนน้อย ทำตัวอย่างให้ดูแล้วล่ะครับ

ยินดีนำข้อคิดธรรมไปฝากเพื่อนได้ครับ แต่ห้ามแอบครับ เดี๋ยวผิด พรบ.ลิขสิทธิ์ฯ น่ะครับ อิ อิ

ขอบคุณครับ :)

สวัสดีค่ะ พอลล่า"ปล่อยวาง"....รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ยินดีด้วยครับ คุณ ♥.·° ♥paula ·° ..✿ :)

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยือนบันทึกนี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท