เหตุผลกับคำคน ... (วิชาความสุข)


นานมาแล้ว นักพรตนิกายเต๋าผู้หนึ่ง ได้ข่าวว่ามีคนผู้หนึ่งรู้เคล็ดลับการมีชีวิตเป็นอมตะ จึงออกเดินทางตามหา หลังจากเสาะแสวงหาเป็นเวลานานก็ไปถึงที่พำนักของคนผู้นั้นจนได้

แต่คนผู้นั้นป่วยตายก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน นักพรตเต๋ารู้สึกโศกเศร้าเสียดายยิ่งนัก ตำหนิตนเองว่า เดินทางช้า เป็นเหตุให้พลาดโอกาสร่ำเรียนเคล็ดลับแห่งชีวิตอมตะ

เพื่อนผู้หนึ่งรู้ข่าวจึงมาเยี่ยมแล้วกล่าวว่า

"ท่านปรารถนาจะเรียนวิชาแห่งความไม่ตาย แต่ผู้ที่ท่านเห็นว่าจะสอนให้ได้กลับมาตายเสียเอง เมื่อเป็นอย่างนี้ แม้ได้พบหน้ากันก็ไม่มีประโยชน์ ทำไมต้องมาโศกเศร้าด้วยเล่า"

 

บางครั้งคนเรามุ่งที่เป้าหมายมากเกินไป

จนละทิ้งวิจารณญาณที่จำเป็นจะต้องไตร่ตรองด้วยเหตุผล

 

นักพรตเต๋าผู้นั้นอาจไม่ใช่คนโง่งม เพียงแต่ภาพของความฝันว่า จะเป็นอมตะไม่ยอมตาย บดบังสติปัญญาจนลืมพิจารณาถึงความเป็นจริง

ปัจจุบันก็มีหลายคนที่มีอาการอย่างนั้น

เพียงเพราะอยากได้เงินอยากรวยเร็ว

ก็หลงเชื่อคำปั้นแต่งถึงกำไรที่มากมาย โดยที่ลงทุนเล็กน้อยในตอนแรกเท่านั้น ของแกงค์แชร์รถเช่า

 

เพราะอยากสวยผิวขาวเป็นประกาย

สุดท้ายเหลือเพียงความเจ็บปวดและร่องรอยดำด่างจากคำอ้างว่า เห็นผลภายใน 7 วัน

 

แค่คำว่า "ฉันรักเธอคนเดียวจริง ๆ"

ก็พร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างเพื่อชายที่ตนรัก

แล้วหัวใจก็สลายเมื่อเขาหายไป ทิ้งไว้แต่ลูกในท้อง กับผลตรวจเลือดว่ามีเชื้อเอดส์

 

ในสมัยที่ข้อมูลข่าวสารไหลผ่านเทคโนโลยีที่แท้จริง

จำเป็นจะต้อง ยับยั้งชั่งใจ ให้ดีเสียก่อน

ไม่รีบร้อนใจเร็ว

 

ยับยั้ง คือ การหยุดก่อนพูด ก่อนทำอะไรลงไปในทันที ที่มีเรื่องอะไรเข้ามากระทบ รั้งใจไว้ก่อน เช่น โฆษณาบอกว่า "ใช้เงินมาโกยเงินกับเราสิครับ...กำไรต่อเนื่องทุกวัน" หากว่า กระโจนเข้าใส่โดยไม่ยับยั้งรั้งใจไว้ก่อน อาจมีผลเหมือนหมาคาบเนื้อ ที่เห็นเนื้อในน้ำใหญ่กว่าเนื้อที่ตนเองมีอยู่ ทิ้งเนื้อแท้ลงไปล่าเนื้อปลอมในน้ำ สุดท้ายก็ไม่ได้อะไร

 

ชั่งใจ คือ การตรึกตรองมีเหตผล ข่าวสารที่ได้รับครบถ้วนหรือไม่ และที่สำคัญจริงแท้แค่ไหน คำนี้ยังครอบคลุมไปถึงสำนวนที่ว่า "คิดหน้าคิดหลัง" คือ คิดไปข้างหน้าว่าจะทำอะไรอย่างไรดี และยังต้องคิดต่อไปอีกว่า "ผลอะไรจะตามมา"

"อะไรที่ทำไปแล้ว จะเดือดร้อนภายหลังอันนั้นอย่าทำ"

 

ทุกวันนี้เรามักได้รับข่าวที่เป็นความจริงส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนที่เหลือก็มักจะเป็นส่วนสำคัญซะด้วยสิ เช่น โปรโมชั่นซิมโทรศัพท์ก็มักจะมีดอกจันท้ายโฆษณา กองทุนหรือโฆษณาขายหุ้นก็จะมีคำเตือนเร็ว ๆ เบา ๆ ว่า "การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนต้องศึกษาให้ละเอียด"

ดูไปก็เหมือน "ลับลวงพราง" ยังไงไม่รู้

 

ฉะนั้น เมื่อรับฟังคำใครมาก็ต้องใช้ปัญญา พิจารณาด้วยเหตุผลดูให้รู้แน่ว่า จริงแท้เป็นอย่างไร ขนาดพระพุทธเจ้า ยังบอกว่า "อย่าพึ่งเชื่อเราโดยที่ยังไม่ได้คิด" แล้วคนอื่นล่ะเป็นใคร ทำไมเราถึงเชื่อใจไปโดยไม่คิด (รวมถึงผู้เขียนด้วย)

 

ชีวิตมีความเสี่ยง แต่เราสามารถเลี่ยงได้ด้วยการวิธีคิดที่มีเหตุผลไม่ประมาท แม้บางทีอาจคิดว่าดูดีแล้ว แต่มันก็ยังผิดพลาดได้

ความจริงของชีวิตอาจมีผิดพลาดกันบ้าง

พลาดแล้วเรียนรู้

ก็จะรู้ว่าทำยังไงถึงจะไม่พลาด

เพราะก้าวต่อไปของชีวิตอาจผิดพลาดไม่ได้อีกแล้ว

 


 

บางครั้งคนเรามุ่งที่เป้าหมายมากเกินไป

จนละทิ้งวิจารณญาณที่จำเป็นจะต้องไตร่ตรองด้วยเหตุผล

 

อ่านจบแล้วคิดถึงเพื่อนจริง ๆ ...

เป้าหมายของคนที่เชื่อเรื่อง "ตัดกรรม" คือ ยกเลิกกรรมชั่วที่เคยทำมาทั้งในอดีตและปัจจุบัน แต่เคยทราบไหมว่า กรรมมันตัดไม่ได้

คิดถึงแต่เป้าหมาย แต่ผลไม่ปรากฎแต่อย่างใด เสียเงิน เสียทอง เสียรู้ อย่างเปล่าประโยชน์

เป็นนักวิจัยที่เก่งกาจ แต่กลับตายด้วยเรื่องชีวิตที่มีแต่การเลือกเส้นทางเดินผิด หรือรู้ว่าผิด แต่คิดว่าใช่ ก็มุมะ มุ่งหน้าไป ถึงแม้จะเป็นเหวร้ายก็ยังจะโดด

หากเป้าหมายคือ ผู้ชายที่จะมาเคียงข้างสัก ก็พยายามทำทุกอย่างให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเสียอะไรไปบ้าง จนหลายครั้งทิ้งพ่อแม่ไว้เพียงแต่ด้านหลัง ให้ความสำคัญกับผู้ชายที่ไม่รู้เหมือนว่า อนาคตจะรักเราอย่างเขาบอกวันนี้หรือเปล่า

บาปกรรมจริง ๆ

 

การไตร่ตรองอย่างมีเหตุผลช่างมีความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ

อย่างน้อย คือ การละความประมาทที่จะเกิดขึ้นกับชีวิต

ในทุกย่างก้าวที่เราเลือกเดิน

 

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)

 


 

ขอบคุณหนังสือธรรมดี ๆ

ธรรมรตา.  วิชาความสุข.  กรุงเทพฯ: ประพันธ์สาสน์, 2552.

 

หมายเลขบันทึก: 325675เขียนเมื่อ 7 มกราคม 2010 16:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

ขอบคุณค่ะ..การมีสติก่อนทำ..ยับยั้งใจว่าคุ้มค่าหรือไม่..จะไม่เสียในภายหลัง..

ขอบคุณพี่ นงนาท สนธิสุวรรณ มาก ๆ ครับ ที่ให้เกียรติเข้ามาเยือนเป็นท่านแรกในบันทึกนี้

สวัสดีปีใหม่นะครับ ;)

แวะมาอ่าน กับข้อคิดดีๆค่ะ

คนเราต้องไตร่ตรองพิจารณากันด้วยเหตุผล โดยเฉพาะอย่ายิ่งอย่าหลงเชื่อตามแฟชั่น

เป็นห่วงก็แต่เยาวชนที่มัวหลงตามกระแสค่ะ

คนเราหลายคนชอบเวียนว่ายอยู่ในกระแสสังคมที่ไปถือว่า ไม่ทำ ล้าสมัย อะไรประมาณนั้นครับ ทั้ง ๆ ที่มันอยู่กับเราเองว่า เรื่องที่เขาทำกันมันดี หรือมันถูกต้องหรือไม่

หน้าที่ของครอบครัว พ่อ แม่ และครูอย่างเรา คือ การให้สติให้เขาได้คิดพิจารณาเองครับ

ขอบคุณครับ น้อง berger0123 ;)

สวัสดีค่ะอาจารย์..

  • เพราะคนเราชอบฟังคำที่ไพเราะ  ฟังแล้วมีสุข...
  • หลายคนเอาจุดนี้มาทำร้ายกัน
  • นอกจากฟังมีสุข  แล้วต้องฟังอย่างมีสติด้วยนะคะ
  • (พูดง่าย บางครั้งทำยากเนอะ)

 

สวัสดีครับ น้องอาจารย์ พิชชา ;)

พูดเพราะ ๆ แต่เคลือบด้วยยาพิษชนิดสะสม ค่อย ๆ ให้ตายไปเรื่อย ๆ

สติไม่มี ความหลงระเริงก็เดินทางมาแทน

ขอบคุณมากครับ ;)

 

"อะไรที่ทำไปแล้ว จะเดือดร้อนภายหลังอันนั้นอย่าทำ"

แต่ที่เห็นทำๆอยู่ ก็ต้องการประโยชน์เฉพาะหน้า ชั่วข้ามวัน ยันข้ามคืน

ทุกสิ่งไม่ใช่ของข้าพเจ้าคนเดียวนี่!!!!

คำนี้เคยได้ยินผู้ใหญ่ของบ้านเมืองกล่าวมาลอยๆ แต่แป๋มจำฝังใจ และชิงชังคนๆนี้เหลือเกินค่ะ... ทำยังไงก็ไม่ลืม..เฮ้อ..

ใจเย็น ๆ ด้วยสติครับ คุณ ครูแป๋ม ;)...

มนุษย์มีกรรมเป็นตน ขึ้นกับว่า กรรมดี หรือ กรรมชั่ว

เหตุปัจจัยเป็นตัวเลื่อนไหลของกรรม

เรามาทำความดีกันนะครับ ;)

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณเรื่องราวเตือนสติดีดีค่ะ

อาจารย์คะ ผิดพลาดไม่เห็นเป็นไร เพราะได้เรียนรู้ค่ะ

ขอบคุณนะคะ

ทานข้าวเย็นรึยังคะ อิอิ

แหม คุณ ♥paula ♥ที่ปรึกษาตัวน้อย✿ ;) ...

บันทึกเพียงให้ได้ "รู้สติ" ดีกว่าต้องเสียใจภายหลัง

แต่ถ้าไม่ทันแล้ว ก็คือ ประสบการณ์ ครับ

แสดงว่า :( คุณ ♥paula ♥ที่ปรึกษาตัวน้อย✿ ไม่ทันแล้วใช่ไหมครับ อิ อิ

เพิ่งสอนเสร็จน่ะครับ กำลังจะเป็นลมแหละ ;)

อิ อิ เริ่มต้นด้วยวิชาความสุข จบลงด้วย ความรัก นะคะท่านอ.เสือ

... การทำงานหนักมากมายอย่างไร้สติ อาจทำให้คนเป็นลมได้ จริงไหมคะ ;)

อิ่มข้าวเปียก คิดถึงเตี๋ยวลีลา รำเผื่อแล้วโตยเจ้า

เรียบร้อยแล้วครับ คุณ poo ;)...

แวะซื้อกับข้าวที่ Tops ใกล้ ๆ มอ

บิดรถ เร่ง แรง เพราะหิวจัด

ซัดซะเกือบหมด อร่อยแต้ ๆ เจ้า คุณ poo ;)

กินข้าวสาย หงุดหงิดหัวใจ มักคิดอะไรไม่ค่อยออกครับ

ขอบคุณมากครับ ;)

สวัสดีปีใหม่ 2553 ตอนดึกๆ ครับ ท่านอาจารย์Wasawat Deemarn

  • ผมมาชื่นชมและศรัทธากับความเป็นเอกลักษณ์ของอาจารย์ด้วยความจริงใจยิ่ง
  • ผมติดตามอ่านบันทึกของอาจารย์ตลอดมา อ่านทุกตัวอักษร ทุกคำ ที่ถ่ายทอดออกมาและทุกครั้งที่อ่านผมไม่เคยผิดหวังเลย มีครบทุกรสชาติ 
  • สุดยอดจริงๆครับอาจารย์ ขอฝากต้วเป็นลูกศิษย์ด้วยคนนะครับ
  • ผมขออวยพรให้ท่านอาจารย์และครอบครัวมีความสุขกาย สุขใจ ตลอดไป
  • ...แวะมาซึมซับรับสิ่งดี
    เป้าหมายที่ขาดปัญญาพาโศกศัลย์
    แก่งแย่งแสวงหาสารพัน
    ที่สุดนั้นวางเปล่าเงามายา...

                                     ดอกไผ่

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ ครับ คุณ ครูจ่อย ;)

คุณ ครูจ่อย ติดตามอ่านงานของผมแบบไม่รู้ตัวอ่ะ เขินครับ

และอยากบอกจังว่า ผมไม่ถึงขั้นอะไรเลยครับ ยังเป็นครูน้อยเหมือนกัน ;)

แต่รู้สึกยินดีที่มีกัลยาณมิตรให้ความสนใจในสิ่งที่ผมถ่ายทอดออกไป

ขอให้ คุณ ครูจ่อย และครอบครัวมีความสุขมาก ๆ เช่นกันนะครับ

ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ ธรรมทิพย์ มากครับ ;)

สวัสดีค่ะ ท่าน Wasawat Deemarn

"หากเป้าหมายคือ ผู้ชายที่จะมาเคียงข้างสัก ก็พยายามทำทุกอย่างให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการ ไม่ว่าจะเสียอะไรไปบ้าง จนหลายครั้งทิ้งพ่อแม่ไว้เพียงแต่ด้านหลัง ให้ความสำคัญกับผู้ชายที่ไม่รู้เหมือนว่า อนาคตจะรักเราอย่างเขาบอกวันนี้หรือเปล่า"

บาปกรรมจริง ๆ

 การไตร่ตรองอย่างมีเหตุผลช่างมีความสำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ

อย่างน้อย คือ การละความประมาทที่จะเกิดขึ้นกับชีวิต

ในทุกย่างก้าวที่เราเลือกเดิน


(เพิ่มเติม)

อ่านแล้ว ทำให้มีความคิดดีค่ะ

"ชอบ คำว่าเป้าหมาย ค่ะ แต่คำนี้ใช้ได้กับ บางเรื่องเท่านั้นค่ะ"

ขอบคุณบันทึกดีดีค่ะ

ขอบคุณค่ะอาจารย์  ^ _ ^

  คงเป็นเรื่องเตือนสติได้ดี  และคงไม่ทำให้คนกลัวการสละโสดนะคะ่

 

ชอบๆ หัวข้อ วิชาความสุข

ยินดีและขอบคุณมากครับ คุณ ครูจิ๋ว ;)

สวัสดีครับ คุณ ครูเอ ;)

แหม ไม่ได้พบกันที่ gotoknow นานแล้วนะครับ แต่ไปพบที่อื่น ... ;)

การมีคู่คิดสักคน คงต้องใช้ความจริงใจทั้งสองฝ่าย ไม่น่ากลัวครับ

แต่ไม่ใช้ ... คงลำบากเข้าสักวัน

ขอบคุณนะครับ มีความสุขในวันเด็กนะครับ อิ อิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท