"สองแขนที่กอดโลก" หนังสือเสริมกำลังใจเล่มใหม่ของ วินทร์ เลียววาริณ


ภาระการทำงานมันสร่างซาลงไปบ้าง ภายหลังสิ้นภาคเรียนที่ 1/2553

ร้านหนังสือ คือ พลังแห่งการเพิ่มปัญญาอันน้อยนิดที่พอมีอยู่

หนังสือใหม่ออกกันมากในเดือนนี้ กรุงเทพฯอาจจะออกมานานแล้ว

แต่เชียงใหม่เพิ่งปรากฎได้ไม่นาน

นักเขียนที่ผมชอบอ่าน มีหนังสือใหม่ ๆ ออกมา เช่น วินทร์ เลียววาริณ, นิ้วกลม, หนุ่มเมืองจันทร์, วาสนา นาน่วม ฯ

จริง ๆ แล้วเงินก็มีไม่มากนักในช่วงนี้ แต่เมื่อเหลือบเห็นหนังสือหน้าปกเล่มหนึ่ง

 

เพียงแค่เห็นสไตล์ของตัวเล่ม ตัวอักษร การจัดวาง ก็จำได้แล้วว่าเป็นของผู้แต่งคนใด สำนักพิมพ์ใด

"สองแขนที่กอดโลก" หนังสือเสริมกำลังใจ ชุด 5 เล่มล่าสุดของวินทร์ เลียววาริณ

เห็นแล้วก็อดใจไม่ได้ที่จะต้องซื้อมาอ่านทันที 190 บาท ไม่เป็นไร

ตอนนี้หนังสือชุดนี้ ผมมีครบถ้วนแล้ว ชุดนี้ชื่นชอบที่สุด

 

ผมยกตัวอย่างเรื่องราวจากปกหลังดีกว่า

 

สองแขนที่กอดโลก

 

มนุษย์เราเป็นพวกที่ชอบรับมากกว่าให้ ภาพจากสื่อและคนรอบตัวตอกย้ำเราเสมอว่า ความสุขคือเป้าหมายของชีวิต และการรับความสุขก็คือการ "ตักตวง" มันใส่ตัว นี่คือ การมองว่า ตัวเองคือศูนย์กลาง

ปรัชญาพุทธสอนในสิ่งที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิง นั่นคือ มองออกไปจากตัวเอง คริสตศาสนาก็สอนให้รักเพื่อนร่วมโลก เพราะความสุขคือการแบ่งปันกัน คือการให้

แต่ในโลกแย่ ๆ ใบนี้ การแบ่งปันให้คนอื่นเป็นเรื่องยาก การรักคนอื่นก็เป็นเรื่องยาก ทว่ามองให้ดี เราจะเห็นเรื่องเล็ก ๆ ที่สวยงาม : ชาวบ้านตำบลหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ประกาศคืนเงินให้รัฐที่ให้ความช่วยเหลือมากเกินไป, เจ้าหน้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งเก็บเงินแขกที่มาพักได้และส่งคืน, คนขับรถรับจ้างคืนของที่ผู้โดยสารลืมทิ้งไว้บนรถ, หมอบางท่านเปิดคลินิกสำหรับคนยากไร้โดยไม่คิดเงินค่ารักษา บางคลินิกคิดค่ารักษาแค่บาทเดียว ฯลฯ

เพียงเปลี่ยนค่านิยมจาก "รับ" มาเป็น "ให้" เอาใจแขกมาใส่ใจเรา น้ำใจใสบริสุทธิ์หยดเล็ก ๆ แต่ละหยดสามารถรวมตัวเป็นสายน้ำแห่งความเมตตา ชะล้างฝุ่นละอองที่จับเปื้อนโลกมานาน นี่ก็คือ การกอดโลก! กอดโลกได้เมื่อไร ใจก็เป็นสุข แล้วโลกก็สวยงามขึ้นทันที

 

 

ผมเป็นคนชอบมุมมองของคุณวินทร์มาก เหมือนเขานั่งคิดอยู่ตลอดเวลา โดยไม่หยุดพัก ในขณะนี้ที่ตัวผมเอง กลับเหมือนมองโลกไม่ครบ 360 องศา พักมากกว่าคิด

เมื่อมีคนคิดให้ เราจึงขอทำหน้าที่ในการคิดต่อ เพื่อหวังว่า เราจะเป็นคนเริ่มต้นคิดเองบ้างใน..สักวัน

 

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)

 

 

 

แหล่งอ้างอิง

วินทร์ เลียววาริณ.  สองแขนที่กอดโลก.  กรุงเทพฯ: 113, 2553.

 

หมายเลขบันทึก: 404276เขียนเมื่อ 23 ตุลาคม 2010 21:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 22:57 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

ร่วม ส่งสองแขนช่วยกอดโลก (แม้ไม่ค่อยมีแฮง ๕ ๕ ;)

สวัสดีค่ะ

ไม่ได้ออกนอกบ้านเป็นเวลา ๒ สัปดาห์แล้วค่ะ หนังสือประเภทนิตยสารประจำฝากเขาซื้อ  แบบนี้มาล่อใจอีกแล้ว  ขอขอบคุณนะคะ

พรุ่งนี้ต้องรีบไปร้านหนังสือเสียแล้ว 

จริงค่ะ  เหมือนเขาเห็นอะไรก็เกิดแนวคิด มีมุมมองที่สร้างสรรค์ได้ตลอดเวลา คิดได้ทุกก้าวเดินเลยนะคะ

บ่มีแฮงก็กอดโลกได้ครับ คุณ poo ;)

ขอบคุณครับ

หนังสือใหม่ ๆ ยั่วยวนใจเป็นสุดในเดือนนี้ครับ พี่ครูคิม ยายคิม ;)

เสียอย่างเดียว กะตังค์น้อยไปหน่อย ... ไม่งั้นวันนี้ได้หลายเล่มกว่านี้ครับ

ขอบคุณครับ ;)

สวัสดีค่ะอาจารย์....

อ่านแล้วพลอยให้นึกถึงคุณยายท่านหนึ่งซึ่งจะเดินถือถุงสีคล้ำๆใส่เสื้อผ้ามอมๆเดินเก็บขวด เก็บพลาสติค หรือของเก่าต่างๆที่พอจะขายนำเงินไปเลี้ยงชีวิตตนเองได้ตามถนนทุกวันจนชินตาตา

วันนี้หนูก็เห็นภาพเดิมเพียงแต่เปลี่ยนสถานที่จากริมถนนเป็นที่วัด ตอนแรกหนูก็เข้าใจว่าคุณยายท่านนั้นคงมาปฏิบัติหน้าที่เลี้ยงปากท้องตนเองตามปกติด้วยชุดเดิมๆ แต่เมื่อผู้คนเริ่มทยอยกันเข้าไปภายในศาลาวัดเพื่อเตรียมทำบุญตักบาตรสิ่งที่หนูเห็นคือ คุณยายท่านนั้นกำลังหย่อนธนบัตรฉบับละยี่บาทลงในตู้รับบริจาค แล้วก็เดินกลับไปนั่งหลังๆผู้คนที่มาทำบุญด้วยท่าทางสงบเสงี่ยม

หนูมองด้วยรอยยิ้ม..คุณยายที่แม้จะหาเงินมาด้วยความยากลำบากและก็ไม่ได้มีเงินมากมายนัก แต่แรงศรัทธาของคุณยายกลับมากมายกว่าเงิน 20 บาทนั้น

และหนูก็สะท้อนกลับถึงตัวเองว่าไม่ได้ใส่คิดจะหยิบเงินสักบาทติดตัวไปวัดปล่อยให้หน้าที่นี้เป็นของญาติที่ไปด้วยกัน หนูเห็นแล้วก็รู้สึกละอายใจมาก เห็นทีแขนหนูคงจะสั้นกว่าคุณยายแน่ๆหากจะโอบกอดโลกใบนี้..

อิ..อิ..เล่ามาซะยาว ขอบคุณค่ะที่นำเรื่องราวจากหนังสือดีๆมาแบ่งปัน ..^____^..

สวัสดีครับ คุณ ครูตุ๊กแก…ตัวดำๆ… ;)

สบายดีนะครับ ...

ถึงแขนสั้น ก็โอบกอดโลกได้ครับ เพียงแต่อาจจะต้องหาใครสักคนมาช่วยกันต่อแขนให้ยาวเท่าความกว้างของโลกครับ

ขอบคุณครับ ;)

ป.ล.เรื่องราวดีจัง

สวัสดีค่ะอาจารย์

ขอบคุณที่นำหนังสือมาเกริ่นให้ฟัง

ชอบงานเขียนของคุณ วินทร์ เลียววาริณ เหมือนกัน

ต้องแวะไปชวน (หนังสือ) มาอยู่ที่บ้านด้วยกันแล้ว...

ขอบคุณและขอให้มีความสุขในเช้าวันอาทิตย์ค่ะ...

อาจารย์ครับ พอหมดงานก็หาหนังสืออ่านเลย เยี่ยมจริงๆๆ

อาจารย์ครับ

คร้ังเมื่ออ่านหนังสือใหม่ ๆ

มีนักเขียนสองคนที่ผมชอบ คือวัฒน์ วรรยางกูร กับ วินทร์ เลียววารินทร์

เพราะอะไรไม่รู้จึงคิดว่าสองคนนี้คือคนคนเดียวกัน

ได้อ่านหนังสือของทั้งสองคนก็งง

ว่าทำไมอีตาคนนี้จึงเขียนหนังสือสองเล่มได้แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว

เพิ่งมารู้เมื่อไม่กี่ปีนี่เองว่าคนละคน

เชียงใหม่น้ำท่วมไหมครับ...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก อ.เสือ นึกได้แล้ว มีเวลา ๒ วัน เหลืองปรีดิยาธร .. รออ่านต่อไป .. ฟ้าใสขึ้นหรือยังคะ ;)

ขอบคุณอาจารย์ ...ปิริมารจ ทัดบุปผา... ที่แวะมาเยี่ยมเยือนครับ

ชวน (หนังสือ) ไปอยู่เลยครับ อิ อิ ดีจริง ;)

สงสัยจะเป็นเวลาที่ประจวบเหมาะล่ะมั้งครับ ท่านอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ;)

หนังสือของผู้เขียนที่อยากอ่านออกมาพอดีเวลา

ขอบคุณครับ ;)

สวัสดีครับ ท่าน หนานเกียรติ ;)

สงสัยจะ "ว" เหมือนกันครับ อิ อิ

เชียงใหม่น้ำเยอะ แต่ไม่ท่วมนะครับ

สงสัยกำลังจะไหลไปทางใต้ (ภาคเหนือ) กันแล้ว

ลำพูนสิครับ ท่วมไปหลายอำเภอเลย

ขอบคุณครับ ;)

ฟ้าธรรมชาติใสขึ้นแล้วครับ แต่ฟ้าส่วนตัวยังไม่ค่อยใสเลย

รอเวลาฟ้าใสดีก๋า ;)

ขอบคุณครับ คุณ poo ;)

*** ต้องติดตามหาหนังสือดีๆมาอ่านบ่อยขึ้น เพราะเมได้หอมกลิ่นหนังสือเหมือนอาจารย์

*** ดิฉันก็ชอบงานของวินทร์ เลียววารินทร์ และติดตามตลอด

*** ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

อ่านหน้าคำนำก็กอดโลกแล้วนะคะ  นั่งกินกาแฟ ๑ แก้ว ที่ร้านหน้าโรงหนังอ่านหนังสือ "ค่าเวลา" เหมือนวินทร์ฯ รอดูหนัง ๑ รอบ นักฆ่าดาบเทวดา

หัดกอดโลก...ไปตลอดเวลา  ได้เรื่องมาเล่าในบันทึกต่อไปค่ะ

ขอบคุณครับ พี่ครูคิม ยายคิม ... ช่างฉับไวไร้กาลเวลาจริง ๆ ครับ

โปรโมทชั่นให้คุณวินทร์ตะวาเอง ... พี่ครูคิมก็จัดการ "ค่าเวลา" เสียแล้ว

คุ้มครับ คุ้มที่สุด ;)

อ.หนอนเสือ คนชอบแมว เชิญไปมอง ของโปรด ค่ะ;)

http://gotoknow.org/blog/somdejmas/403274

ผมแค่อยากจะบอกว่า จริงๆแล้ว อ้อมกอดที่ดีๆของคนไทยมันยังมีอยู่อย่างมากมายในสังคมปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นในกรุงหรือชนบท เพียงแต่ว่า สื่อต่างๆ ที่พยายามยัดเยียดอะไรมิอะไรให้เรามากว่า มักจะนำสื่อในด้านร้ายๆมานำเสนอกันมากว่า หากจะแย้งว่า ก็คนเสพสื่อชอบเรื่องราวแบบนี้ ผมว่าเป็นเหตุผลที่พูดได้นะครับแต่พิจารณาดีๆดูซิว่า คุณเคยนำเสนอสิ่งดีๆให้เสพมากน้อยเพียงใดแล้วคุณถึงบอกว่าคนชอบเสพร้ายๆ...ก็แค่มุมมองหนึ่งของคนที่ต้องการอ้อมกอดที่ดีๆเช่นกันครับ

ขอบคุณสำหรับข้อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ คุณ ครูแทน ;)

จิตที่คิดจะให้นั้นเบา...
จิตที่คิดจะเอานั้นหนัก..

สองแขนนี้นอกจากจะกอดโลก
แล้วยังช่วยกันสร้างโลกด้วย

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท