ไปดูงานอินเดียซะหลายวัน สัดส่วนประชากรอินเดีย นับถือพุทธน้อยมากๆ ท่านทูตพลเดช วรฉัตร ให้ข้อมูลว่า เมื่อท่านไปอยู่อินเดีย ท่านได้พยายามส่งเสริมกิจกรรมด้านศาสนา และก็โชคดีที่มีคนไทยช่วยสนับสนุนให้ดำเนินการไปได้
ถามคนอินเดียที่ฉันได้เจอ ปรากฏว่าเขาก็ไม่มีความรู้เรื่องพุทธศาสนา เรียกว่าไม่สนใจเลยก็ว่าได้
คำตอบที่เขาบอกมามีว่า วิธีคิดของคน ความเชื่อของคน ความเป็นสังคม กับ การนับถือศาสนาเป็นคนละเรื่องกัน
เขาเห็นว่าศาสนาเป็นเครื่องมือที่ทำให้คนมีจิตใจเป็นมนุษย์ มิใช่หลักในการดำรงชีวิต ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเขามองว่ามันเป็นแค่อัตลักษณ์หนึ่งเท่านั้น
ไปแล้วก็มีข้อกังขาว่าอะไรทำให้พุทธศาสนาในอินเดียถูกกลืนหายไป กลับมาแล้วก็เลยถือโอกาส นำสิ่งที่ท่านว.วชิรเมธีเคยคุยกับคนรุ่นใหม่ไว้มาทบทวน ใครไม่เคยได้ยินได้ฟัง ชวนฟังไปด้วยกันค่ะ
คุณภาพของประชาชนขึ้นกับคุณภาพของปัญญา แล้วคุณจะเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวคุณได้บ้าง
ก้าวข้ามรูปลักษณ์ภายนอกจ่อไปที่เนื้อหาสาระจะได้ไหม - คนอยู่ข้างเวทีเห็นชัดกว่าคนถูกชก
สวดมนต์แล้วได้ปัญญา-พระพุทธเจ้าอยู่ในใจ
วัฒนธรรมไทย เป็นวัฒนธรรมความเชื่อ มากกว่าวัฒนธรรมความรู้ - ไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้
ฟังแล้วก็ยังไม่สามารถตอบได้ว่า ทำไมพื้นที่ของศาสนาพุทธในอินเดียจึงถูกกลืนหายไปอยู่ดี
๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๓
หมอเจ้ คนสวยแซ่เฮครับ
ขอแก้ข้อความนะครับ "ท่านทูตพลเดช วรฉัตร ให้ข้อมูลว่า เมื่อท่านไปอยู่อินเดีย ท่านได้พยายามฟื้นฟูพื้นที่ของพุทธศาสนิกชนขึ้นมาใหม่ โดยการสร้างวัดพุทธคยา ..."
ผมพยายามส่งเสริมกิจกรรมด้านศาสนาครับ แต่การสร้างวัดพุทธคยานั้นสร้างมาตั้งแต่ปี 2500 ที่อินเดียจัดฉลองกึ่งพุทธกาลที่เรียกว่าพุทธชยันตี และได้เชิญประเทศพุทธรวมทั้งไทยให้ไปสร้างวัดที่เมืองคยาครับ ซึ่งมีมหาเจดีย์พุธคยาและต้นพระศรีมหาโพธิ์ตั้งอยู่ครับ จึงเป้นที่มาของวัดไทยวัดแรกในอินเดียคือวัดไทยพุทธคยาโดยมีพระธรรมทูตไทยไปประจำและดำเนินงานครับ
ติดตามอ่านตอนที่จะไปถึงเดลีครับ