สวัสดีปีใหม่คะทุกคน สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง ร่ำรวยความสุขกันนะคะ  ห่างหายหายไปนานเลยคะ เนื่องด้วยภาระกิจรัดตัว (ตอนนี้ตัวเล็กมากกกก ) แต่ก็ไม่ลืมที่จะเล่าเรื่องราวที่ได้เรียนรู้มานะคะ อาจจะช้าไปหน่อยแต่คิดว่ายังไม่สายเกินไปคะ  เรื่องมีอยู่ว่า..............

เมื่อวันที่15-16 ธันวาคม 51 เตรียมตัวเดินทางเข้าร่วม dialogue (ครั้งก่อนเคยไปในฐานะ ผู้แลดูบริการการจัดการ)

แต่คราวนี้ต่างจากครั้งก่อน กิ๊กเตรียมตัวไปเรียนรู้อย่างเต็มที่ พร้อมฝึกปฏิบัติ 

ขั้นตอนการฝึก เริ่มจากการฟังบรรยายในช่วงต้น แลกเปลี่ยนข้อสงสัย จากนั้นก็ฝึกปฏิบัติ สลับกันไปอย่างนี้ทั้งวัน

บรรยากาศการฝึกวิทยายุทธ์  เริ่มต้นด้วย ความเคอะเขิน ใคร่รู้ สงสัย ตั้งแง่ และห่างเหิน  แต่จบลงด้วย มิตรภาพ รอยยิ้ม ความสุข ความเห็นใจ การชื่นชม แลกเปลี่ยนเรียนรู้  ฯลฯ แต่สิ่งที่กิ๊กสังเหตุเห็นได้จาก workshop ครั้งนี้ ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม ความจริงใจ พร้อมที่จะรับฟังกันมากขึ้น มีความเป็นตัวของตัวเอง  ทั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ ลักษณะของการทำ Dialogue การทำ Dialogue นั้นเหมือนเป็นการเปิดใจยอมรับฟังความเห็นของผู้อื่น ตั้งใจฟัง ไม่ใส่ชุดความคิดของตัวเองเข้าไป เป็นการ ฟัง-ไตร่ตรอง-ฟัง-ไตร่ตรอง-ฟัง-ไตร่ตรอง-พูด  ยิ่งเราฟังมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งได้รับประโยนช์มากเท่านั้น  กิ๊กมองว่า Dialogue เป็นเครื่องมีที่ช่วยเยียวยาความรู้สึกของคนเรามากขึ้น ทุกคนต่างสนใจเรื่องของตนเอง เราทุกคนก็ต่างแสวงหาการยอมรับจากคนอื่น การทีมีใครตั้งใจฟังเรื่องราวของเรา อย่างจริงจัง อย่างตั้งใจ ทำให้กิ๊กรู้สึกว่า วงสนทนานี้ ให้ความสำคัญกับเรา เรื่องที่เราเล่มมีคุณค่า  คนฟังตั้งใจฟัง คนถ่ายทอดก็มีความสุข บรรยายในวงจึงไปในทิศทางที่ดี ทุกคนสนิทกันมากขึ้น ความสุขก็มาเยือนคะ

ความแตกต่างระว่างการเฝ้ามองกับลงไปปฏิบัติเอง  เคยไปยืนดูเพื่อนว่ายน้ำ แล้วเราก็พอจะรู้ว่า คนนี้ว่ายน้ำเป็น คนนี้ว่ายน้ำไม่เป็น คนนี้ว่ายเก่ง คนนี้ว่ายไม่เก่ง แต่พอลองกระโดดลงสระไปเอง ถึงรู้ว่าจะว่ายให้เก่งให้ดี มันไม่ง่ายแบบที่คิดหรอก Dailogue ก็เหมือนกันคะ กิ๊กมีโอกาสได้เป็นผู้สังเกตุ ตอนนั้นคิดเอาเองเลยว่า เราดูออกนะว่ากลุ่มไหนพูดแลวเป็น Dailogue หรือเปล่า แต่ตอนที่เข้ากลุ่มนี้สิ ยากกว่าที่คิดเยอะเลยคะ มันอยากคะที่จะห้ามชุดความคิดไม่ให้ไหลพรูออกมา แค่ได้ยินชุดความคิดก็เริ่มทำงาน แต่ทุกคนที่เข้าร่วมก็พยายามและให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีคะ นี่ถ้านำไปฝึกใช้อย่างต่อเนื่อง ทั้งตัวเอง ทั้งองค์กร คงได้รับประโยชน์จาก Dailogue ไม่มากก็น้อยคะ

หลายคนคงสงสัยใช่ไหมคะว่า เจ้าDialogue นี้มันอะไรกัน มีประโยนช์ยังไงนะ แล้วมีประโยชน์กับฉันหรือเปล่านะ  กิ๊กขอตอบข้อสงสัยเบื้องต้นให้ทุกคนทราบนะคะ (เท่าที่ตัวเองพอจะทราบ และที่เคยฝึกมา)    

 น้องได๋ หรือ Dialogue แปลว่า การสนทนา (ให้ความสำคัญในส่วนของการฟัง -ไตร่ตรอง -ฟัง-ไตร่ตรอง-แล้วจึงพูดคะ) สิ่งสำคัญคือการร่วมกันคิด เพื่อให้เกิดพลัง เกิดความสร้างสรรค์ขึ้น  Dialogue  เป็นเครื่องมีที่ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกันในกลุ่ม ในหมู่ผู้ใช้  สำหรับประโยชน์ที่จะได้กับตัวเองนั้น ช่วยเพิ่มทักษะการฟัง การไตร่ตรอง การนำเสนอความคิด ลุ่มลึกและมีสมาธิมากขึ้น

เอาเป็นว่า ขอแลกเปลี่ยนเรื่อง Dialogue เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ  เรื่องราวจะเป็นจริงอย่างที่กิ๊กนำเสนอหรือไม่นั้น ต้องพิสูจน์เองนะคะ แล้วคุณจะรู้คะว่า Dialogue เป็นมากว่าที่คุณคิดคะ  ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ www.kmi.or.th นะคะ

ข่าวสารถึงผู้เข้าร่วมคะ ...จากข้อเสนอแนะจากรุ่นก่อน กิ๊กได้ปรึกษากับอาจารย์มนต์ชัย(วิทยากร)ว่าเราน่าจะจัดพบปะ กันระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง มีการเชิญผู้ที่เคยนำไปใช้มาแลกเปลี่ยนเรื่องราว ประสบการณ์ เกี่ยวกับ Dailogue โดยใช้ Dailogue  แต่ยังติดตรงสถานที่นะคะ ไม่ทราบพอจะแนะนำสถานที่ โรงแรม ที่บรรยายเหมาะกับการทำ Dailogue ให้หน่อยนะคะ (คราวนี้จะได้ช่วยกันลดคชจ.ทุกคนคะ ตามที่ขอมา) รบกวนแนะนำมาให้หน่อยนะคะ