กู้เงินเพื่อซื้อที่ดินเพื่อการเกษตร เห็นเลขหนี้สิน แล้วเหนื่อยแทน เหมือนภาษิตที่เคยได้ยิน "การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ" ผมเองก็ยังเป็นหนี้อยู่ดี ยังผ่อนไม่หมดเหมือนกัน ^^
พี่ชนันท์คะ
อ่านบันทึกนี้เลยแอบสงสัยนิดนึงว่า ที่ดินแถวภาคเหนือสามารถปลูกยางได้แล้วหรือคะ คือว่าที่ถามเพราะตอนแรกคิดว่าสภาพอากาศแถวภาคใต้น่าจะเหมาะกับการปลูกยางมากที่สุด แต่ต่อมาทางภาคอีสานก็ปลูกได้แล้วเช่นกัน
ก็เลยต้องรบกวนสอบถามพี่ผ่านทางบันทึกนี้นjะคะ :)
โหดจังเลย ดีนะได้ภรรยาช่วยเป็นข้ออ้าง ไม่อย่างนั้นเสร็จแน่ ขืนหลวมตัวไปกุ้เข้า เดือนละ 3 หมืนกว่า ผ่อนกันตัวตั้งเชียว
เห็นความตั้งใจคุณชนันท์แล้ว ขอคารวะครับ ...
มีบทความดี ๆ มาแบ่งกันอ่านครับ
http://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=4941.0
คิดว่าน่าจะครบ ทุกเรื่องครับ
ตามไปดูเป็ดมาหรือยังครับ
http://gotoknow.org/blog/supersup300/423183
ตอบความเห็นของท่านข้างบน ทุกท่าน (รวมๆนะครับ)
เจตนาที่ผมเอาบันทึกนี้มาลง เพื่อให้คนที่ไม่เคยเดินไปคุยกับธนาคาร ได้เห็นภาพครับ โดยเฉพาะกับเกษตรกรรายย่อย ที่โอกาสเข้าถึงเงินทุนนั้นยากเย็นแสนเข็ญซะจริงๆ ผมไม่เถียงนะครับว่า การปล่อยกู้เสี่ยง NPL นั่นน่ะ จะทำให้แบงค์เสียหาย แต่กฏกติกาที่ออกมานั้นตั้งกำแพงให้ผู้สุจริตไปด้วย
สำหรับคำถามว่า ภาคเหนือปลูกยางพาราได้หรือ ผมไปดูมาแล้วครับ ที่ห่างจากที่ผมจะซื้อไม่ถึง 10 กม. เขาปลูกยางพาราเจ้าเดียวร่วม 200 ไร่ ผมถ่ายรูปมาด้วยแหละ วันหลังจะเอามาลงให้ชม ยางที่กรีดแล้วก็มี อาจจะให้ผลผลิตไม่เท่าภาคใต้ แต่ต้นทุนทั้งที่ดินและแรงงานที่ถูกกว่า ก็สามารถดำเนินการให้คุ้มทุนและมีกำไรได้ครับ อย่างน้อยที่เชิงเขาหัวโล้นที่เป็นไร่ข้าวโพด อีก 4-5 ปีหลังจากปลูกยางพารา ก็จะเขียวขจี แม้ไม่ใช่ป่า แต่เป็นไม้ยืนต้นไร่ละ 70-90 ต้น ก็สามารถเก็บกักคาบอนไดออกไซค์ได้ปีละเป็นล้านตันนะครับ เผื่อเอาไปขาย Carbon Credit ได้ครับ
นโยบายรัฐ ปี 2553 -2555 มีนโยบายส่งเสริมฯ ผ่าน สกย. ภาคอีสาน สามแสนไร่ ภาคเหนือสองแสนไร่ ภาคใต้+กลางหนึ่งแสนห้าหมื่นไร่ ครับ ต่อไปทุกภาคจะอุดมสมบูรณ์ กินดีอยู่ดีกันหมดแน่เลย
เอามาฝากทั้งตัว (ข้างบน) และไข่ข้างล่าง ครับ