09. เมื่อยืนทางขวามือคนอื่น...นินทาย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ


“ถ้าเรายืนทางขวามือคนอื่น(เหนือกว่า) ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องถูกวิจารณ์บ้าง ถ้าไม่อยากให้คนนินทาหรือวิจารณ์ ก็ให้ทำตัวให้แย่ ๆ หรือยืนซ้ายสุด แล้วคนจะไม่นินทา...แต่จะสังเวชใจแทน

       ตอนผมเริ่มเป็นครูใหม่ ๆ ที่หมวดวิชาวิทยาศาสตร์ โรงเรียน    บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ในช่วงปิดเทอม ได้กลับไปเยี่ยมบ้านที่นครศรีธรรมราช  วันหนึ่ง ผมบ่นกับคุณแม่ว่า น่าเบื่อมากเลยแม่ ครูเรา ชอบนินทาจังเลย  อาจเป็นเพราะมีครูผู้หญิงเยอะ จึงชอบนินทา(กล่าวหาครูผู้หญิงแบบไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ)  ต่อไปนี้ คือคำสนทนา ต่อเนื่อง

       ครูที่โรงเรียนลูกหรือ  เขานินทาลูกหรือ....แม่ถาม

       ใช่ครับแม่  มีครูบางคนมาเล่าให้ผมฟัง......ผมตอบ

       ส่วนใหญ่ ครูที่โรงเรียนเป็นอย่างไร จบปริญญากันทั้งหมดหรือยัง  อายุแก่กว่าหรืออ่อนกว่าลูก.....แม่ถาม

        อ๋อ...ส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด ยังไม่จบปริญญาตรีครับ กำลังเรียนปริญญาตรี ภาคค่ำกันอยู่  แต่อายุมากกว่าผมทั้งนั้น  ผมอายุอ่อนที่สุด......ผมอธิบายชี้แจง

       ลูกอายุน้อยที่สุด แต่มีวุฒิสูงที่สุด....แสดงว่าลูกยืนทางขวามือของเขาน่ะลูก....แม่หมายถึงว่า อายุน้อย แต่เหนือกว่าน่ะ...แม่อธิบาย(ยืนทางขวาหมายถึงเหนือกว่า)

       แม่ว่า เป็นเรื่องธรรมดาน่ะ  ถ้าเรายืนทางขวามือคนอื่น  คนทางซ้ายก็ย่อมนินทาเอาบ้าง  วันนี้ลูกยืนเป็นหัวหน้าหมวด คนทางซ้ายก็มีหลายคน คงจะมีอิจฉา หรือนินทาบ้างเป็นธรรมดา เพราะเราอาจทำอะไรไม่ถูกใจเขาบ้าง   สักวันหนึ่ง ถ้าลูกขึ้นเป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน  คนยืนทางขวาของลูกก็จะมีคนเดียว คือ ผอ. แต่อีก 99 คน ยืนทางซ้ายของลูก  คนทั้ง 99 คน อาจต่อว่า วิจารณ์ หรือนินทาบ้าง เป็นเรื่องปกติ  แต่ลูกก็ยังมีโอกาสวิจารณ์หรือนินทาคนทางขวามือได้ 1 คน คือ ผอ.โรงเรียน   แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ลูกขึ้นเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ลูกก็คงจะวิจารณ์หรือนินทารองอธิบดี หรืออธิบดี ที่ยืนทางขวามือ อีกทีหนึ่ง ในขณะที่ คนทั้งโรงเรียน อาจคอยวิจารณ์ หรือนินทาลูกได้...แม่อธิบายยาวเหยียด

       ถ้าเรายืนทางขวามือคนอื่น(เหนือกว่า) ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องถูกวิจารณ์บ้าง   ถ้าลูกไม่อยากให้คนนินทา ลูกก็ทำตัวให้แย่ ๆ เข้าไว้ หรือยืนซ้ายสุด  แล้วคนจะไม่นินทา...แต่จะสังเวชใจแทน   ลูกคิดว่า เราควรยืนตรงไหนล่ะ....การนินทาเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้  เราไม่จำเป็นต้องเครียด หรือเบื่อหน่าย  สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ เมื่อมีคนมาบอกลูกว่า มีคนนินทาอาจารย์นะ  อาจารย์รู้หรือยัง...แม่สอนดังนี้

       สิ่งที่ไม่ควรทำ......อย่าถามว่า ใคร  การรู้จักชื่อ มีแต่ก่อให้เกิดการเพาะบ่มความไม่พอใจ ความแค้น หรือทำให้ใจลูกร้อนรุ่ม หรือตกนรก ได้

       สิ่งที่ควรทำ.....ถามเขาว่า   เขานินทาหรือวิจารณ์ผมเรื่องอะไร หรือ ครับ........หลังจากทราบแล้ว หากเห็นว่าเราบกพร่องจริง ตามคำนินทา เราก็ควรปรับปรุงตนเองให้ดียิ่งขึ้น หรือไม่ปล่อยให้บกพร่องอีกในอนาคต   ...แต่หากเห็นว่า น่าจะเป็นเพราะความไม่เข้าใจ  หรือ คนนินทาเข้าใจเราผิด หรือเข้าใจคลาดเคลื่อน ก็ค่อยหาทางแก้ไข หรือชี้แจงต่อที่ประชุมในโอกาสอันควร  ในลักษณะของการชี้แจงทั่วไป ไม่มีการเจาะจงไปถึงใคร(เพราะเราไม่มีการถามชื่อคนที่นินทาเรา)

       ถ้าลูกคิดและทำได้ดังข้างต้นนี้  คือ ยอมรับความเป็นจริงได้ว่า เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง และเป็นเหตุการณ์ปกติในสังคมไทย  จิตใจลูกจะไม่ร้อนรุ่ม...มีความสุขได้  และ ถ้าถามจุดอ่อนหรือประเมินจุดอ่อนของตนเองเรื่อย ๆ แล้วพยายามหาทางปรับปรุงพัฒนา ชีวิตลูกก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน......แม่สอนต่อ

             คำสอนนี้ เน้นให้เราไม่เครียด และคิดปรับปรุงตัวเองนะครับ

.............คำสอนของ แม่ ป.4 ดังกล่าวเหล่านี้ เป็นเกราะคุ้มกันอีกชั้นหนึ่ง ที่ทำให้ผมเป็นคนใจเย็น  ไม่รู้สึกร้อนรุ่ม เมื่อถูกวิจารณ์หรือนินทา ว่ากล่าว  ....และมีความมุ่งมั่นที่จะมองหาจุดอ่อนของตนเอง เมื่อมีคนวิจารณ์ และเมื่อมีโอกาส ก็พยายามแก้ไข....ตามคำสอนที่ฝังใจของแม่

 

หมายเลขบันทึก: 181640เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2008 21:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 07:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

คุณแม่สุดยอดจริงๆค่ะ ไม่แปลกใจเลยที่ท่านสามารถส่งเสริมผลักดันให้ลูกมาถึงวันนี้ได้

อ่านเรื่องที่คุณแม่สอนแล้วทำให้คิดถึงเรื่องนี้ที่มีคนส่งมาให้อ่าน เอามาเสริมเพิ่มเติมค่ะ

  • ของคุณครับ คุณโอ๋ 
  • ในตัวผมมี 3 คน ก็อ่านแล้วครับ

สวัสดีค่ะพี่ชาย.....ดร.สุพักตร์

  • ครูอ้อย ยืนอยู่ทางขวา  ที่ไม่มีใครเป็นเพื่อนยืนเป็นเพื่อน
  • แต่ครูอ้อย มีเพื่อนอยู่ในหัวใจมากมาย
  • ครูอ้อยไม่เหงา  ไม่เปล่าเปลี่ยว  ไม่โกรธ  เพียงแค่ สงสัยว่า....ทำไมถึงทำกับครูอ้อยได้....
  • ขอบคุณค่ะ  บทความของพี่ชาย  อยู่ในระดับ 5 ภาษาอังกฤษคือ  fantastic

อ่านอีก  ชอบชอบ

 

สวัสดีครับอาจารย์ดร.สุพักตร์

  • เข้ามาอ่านด้วยคนนะครับ
  • ดีมากๆครับ

ขอบคุณครับ

ถึง ครูอ้อย

  • แจ้งให้มาอ่านเพื่อให้ใจเย็นและเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์
  • ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ไร้อคติ แล้วจิตใจจะปรอดดโปร่งครับ

เรียน คุณสะมะนึก

  • ขอบคุณครับที่เข้ามาติดตาม และเสริมแรง

เรียน ท่านอาจารย์สุพักตร์ ที่เคารพ

กรณีที่การคนที่เราอยู่ขวามือคนอืนนั้น เป็นการพูดให้สำนึกว่าคนเราถ้าอยู่เหนือกว่าคนอื่นก็คงเป็นกรณีนี้ แต่พอได้อ่านเรื่องนี้ทำให้หนูใจเย็นและไม่รุมร้อน และไม่สนใจคำนินทา ถ้าไม่ทำให่คนอืนเดือดร้อน เพราะแม่หนูก็จบ ป.4 แต่หนูก็จบ ป.โทได้และดำเนินชีวิตที่เหนือกว่าหลายๆคนไม่ว่าในฐานะทางสังคม และการเป็นอยู่ในการทำงาน

ขอขอบคุณในคำสอนของอาจารย์ที่.....อาจารย์คิดคำว่าอยู่ทางขวามือ แทนว่าเหนือกว่าเป็นคำที่ฟังแล้วน่าฟังและดูดีมากเลยคะ

ด้วยความเคารพ

ลูกศิษย์

เรียน ดร.สุพักตร์

อ่านแล้วหายเครียดเลยค่ะ เดิมเคยน้อยใจว่า เราอุตส่าห์ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ

เพื่อทุกคน ยังโดนว่า ทำไมเขาไม่เห็นเจตนาดีของเรานะ เคยใช้คติว่า คนที่ไม่เคย

ถูกนินทา คือคนที่ไม่ทำอะไรเลย

อ่านแล้ว ชอบแนวคิดของแม่อาจารย์มาก

ทำให้สามารถนำไปใช้ ในการทำงานได้เป็นอย่างดีค่ะ

ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันคำสอน เพราะการมองมุมกลับ ทำให้เราไม่เครียดแถมเกิดการพัฒนาตนเองอีก ขอบคุณจริงๆค่ะ

ขอบคุณ ครูติ้ง ผอ.หญิง คุณกนกรัตน์ และ คุณthip

-ขออภัยนะครับ ที่ไม่ได้ตอบเสียนาน ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น

อภิศักดิ์ จันทร์สนาม

ถ้าเราต่ำกว่าเขา เราก็มักจะโดนเหยีบย่ำ

ถ้าเราอยู่ระดับเท่าๆกับเขา เรามักจะถูกเขาอิจฉา

ถ้าเราสูงกว่าหรือเหนือกว่า เขามักจะอยากเอาเราเป็นพวกด้วย

เรียน ดร.สุพัตร์

    ดิฉันเคยฟังบรรยายของอาจารย์ที่ โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม  เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ส.ค.52  ดีมากๆเลยค่ะและชอบคำสอนของแม่อาจาย์มากเลยค่ะ  เพราะดิฉันถูกนินทาและถูกมองในแง่ลบ  แรกๆก็คิดมากว่าทำไมเขาถึงคิดว่าเราไม่ดีมากมายขนาดนั้น   แต่ตอนนี้ดิฉันรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร ขอบคุณคุณแม่อาจารย์และอาจารย์มากค่ะ  ดิฉันจะทำความดีต่อไปค่ะ

เรียน รศ.ดร.สุพักตร์

นานแล้วครับที่ไม่ได้เจออาจารย์

แต่ผมก็อ่านบทความ/คำสอน ของอ่านเป็นประจำ

บางครั้งนำคำสอนของอาจารย์ไปพูดหน้าเสาธงให้นักเรียนฟังเป็นประจำ

วันนี้รู้สึกสบายใจมากเลยครับ ที่ได้อ่านบทความบทนี้ของอาจารย์

"คนที่เป็นแม่...เป็นเทวดาของลูกเสมอ" นะครับ

ขอบคุณครับ

วัชระ

เรียน รศ.ดร.สุพักตร์

ได้อ่านบทความและคำสอนของท่านแล้ว ได้ข้อคิดที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับนักเรียนได้...จริงๆ

เพราะแม่เป็นพระในบ้าน เป็นแบบอย่างที่เรียนรู้ได้ตลอดชีวิต และเป็นความรู้ที่ฝังแน่น

ศิริพร หย่องบางไทร

ชอบฟังเรื่องเล่าคะ...คิดว่าเป็นทางลัดของการเรียนรู้นะคะ....

ตอนเล็กๆ มีคุณยาย..เล่าให้ฟัง......พอเริ่มเป็นวัยรุ่นพ่อก็เล่าให้ฟัง

ตอนนี้ทำงานแล้วอยู่ไกลบ้าน(คนคอน)..ก็ชอบอ่านเรื่องเล่า...

ติดตามบทความเรื่องนี้ของอาจารย์ทุกตอนคะ

คำสอนดีๆแบบนี้ขอเป็นกำลังใจให้พ่อ...คนเก่งได้มีลูกดี..

ในอนาคตอาจได้อ่าน....พ่อด็อกเตอร์สอนลูก....ลูก(ศิษย์)

เป็นหนังสือวางแผง...ดีไหมคะอาจารย์

ศิริพร(วัดผลรุ่น6)

สุวลักษณ์ รวมจิตร

คุณแม่ของอาจารย์เยี่ยมมาก ดิฉันได้อ่านบทความของอาจารย์แล้วทำให้มีสติและได้ข้อคิดไปใช้

ในชีวิตประจำวัน ขอกราบขอบพระคุณท่านทั้งสองด้วยความจริงใจค่ะ

เป็นสิ่งที่ดีมากครับ

นินทา ภาษาคำเมืองแปลว่า "เล่าขวัญ" ซึ่งมักเป็นเสมือนอาหารว่างของผู้คนที่มีเวลา"ว่าง" ว่างจากการอ่าน ว่างจากการคิด ว่างจากการเขียน....แม้เวลาทำงานการเล่าขวัญหรือการนินทาอาจเป็นออร์เดิฟหนึ่งที่มักอยู่กับคนที่มีมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป เสมอ...แต่ก่อนมักโมโหโกรธาเมื่อได้ยินถึงหูเรา

หลังจากอ่านบทความของอาจารย์แล้วถึงบางอ้อ....เข้าใจสัจธรรมมากขึ้น....ขอบคุณครับอาจารย์

เป็นคำสอนที่ดีมากเลยค่ะ ขออาจารย์นำไปใช้นะคะ และขอไปสอนลูกๆ ด้วยคะ

ขอบคุณมากเลยค่ะ

เพ็ญนภา..จำปาสิทธิ์

เรียน  รศ.ดร.พักตร์

หนูชอบฟังอาจารย์บรรยายมากเลยที่ไทยประกันชีวิตค่ะ...อาจารย์มีทัศนคติดีๆๆให้หนูมีแรงบันดาลใจหลายๆๆอย่าง...เช่นให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ตรงหน้าให้มากๆๆกว่าคนที่โทรมาหาเรา..

เรียนรศ.ดร.พีกตร์หนูชอบบทความนี้ค่ะอาจารย์ อ่านย่อหน้าแรกแล้วรู้สึกเหมือนหนูเจอปัญหาเดียวกับอาจารย์เลยค่ะ พออ่านจบต้องขอบคุณคุณแม่ของอาจารย์และอาจารย์ค่ะ ที่แชร์แนวคิดดีๆในการแก้ปัญหาค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท