(เจ้าเป็นไผ ..ข้อยเป็นคนแซ่เฮ)
คุณconductor ได้ช่วยให้เราทราบถึงที่ไปที่มา การก่อเกิดG2Kตั้งแต่สมัยอยู่อเมริกา จนกระทั้งย้ายมาอยู่เมืองไทย ได้มีสถิติตัวเลขการใช้G2Kอย่างไร และได้เล่าถึงงานด้านเทคนิคอย่างจะแจ้ง ว่าที่ผ่านมาได้แก้ไขวิกฤติแต่ละครั้งอย่างไร..โฮ! ยิ่งกว่าคนตาบอดสีเสียอีก เพิ่งทราบว่าพฤติกรรมการใช้G2K.ตามอำเภอใจ ไม่ปราณีปราศรัยของพวกเราทำให้ระบบทำงานแบกปัญหาเป็นร้อยเป็นพันเท่า ตัวปัญหานั่งหน้าสลอนอยู่นี่เอง อิอิ..
มะปรางเปรี้ยว และหนุ่มกล้า ในฐานะผู้ช่วยดูแลเจ้าG2Kอย่างใกล้ชิด ได้เล่าถึงการทำงานในส่วนของทีมงานของอาจารย์ธวัชชัย-จันทรวรรณ ปิยะวัฒน์ ได้ทำการวิจัยเรื่องการสร้างโปรแกรม สร้างเว๊ปไซด์ การบริหารระบบให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ดังที่เราเห็นว่ามีการปรับปรุงพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง พัฒนาวิธีการให้ใช้สะดวก และมีเรื่องใหม่เข้ามาสม่ำเสมอ ซึ่งจุดนี้ถ้าไม่ได้คนที่มีความสนใจอย่างแรงกล้า และทำงานด้วยความคันในหัวใจ G2Kคงก้าวเดินไปไม่ถึงจุดที่เป็นเครื่องมือสร้างปัญญาให้กับสังคมไทย ดังที่มะปรางเปรี้ยวสรุปมาในเอกสารแจกท่านผู้เข้าร่วมงาน ให้ทราบว่าG2K ทำอะไรได้บ้าง
: เจ้าของบล็อกสามารถจัดกลุ่มบันทึกและละบันทึกด้วยคำสำคัญ(Tag) และในหมวดหมู่ตามเนื้อหาของบันทึกนั้น เช่น หมวดหมู่วิทยาศาสตร์ และสังคมเทคโนโลยี และหมวดหมู่สังคมครอบครัว ชุมชน เศรษฐกิจ เป็นต้น
อาจารย์ไร้กอบ โยนเรื่องการมองอนาคตข้างหน้าว่า5-10 ปี G2K.ต้องเผชิญอะไร และจะยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคงอย่างไร คุณหมอชอบวิ่ง ท่านอาจารย์พิชัย ท่านอาจารย์แพนด้า อาจารย์แสวง อาจารย์แฮนดี้ ได้ให้แง่คิดในการที่จะวางแผนแบกภาระร่วมกัน ว่าจะต้องเตรียมคน เตรียมองค์กร เตรียมปัจจัยในอนาคตกันอย่างไร
ตามสไตล์คนแซ่เฮ คุณหมอชอบวิ่ง อาจารย์แป๋ว อาจารย์ขจิต และหนูมะปรางเปรี้ยว ได้ช่วยกันประมูลภาพเพื่อนำรายได้สมทบเข้ากองทุนG2K ท่านไร้กรอบได้มาประมูลอย่างสนุก หลังจากนั้นการปรับเปลี่ยนบรรยากาศกระชุ่มกระชวยขึ้นจากเสียงร้องหนุ่มสาวชาวเฮ กลุ่มย่อยก็แลกเปลี่ยนความเห็นกันแบบพี่น้อง มีคนถามconductorก็ตอบให้ความกระจ่าง เมื่อได้เวลาอันควร เราก็แยกย้ายกันกลับโรงแรม
ช่วงสายๆวันนี้ ชาวแซ่เฮมาพบปะกัน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันตามจังหวะที่มีผู้สนใจแวะเวียนมาหารือกัน ทำให้เราได้ประเด็นคมชัดยิ่งขึ้น จนกระทั่งบ่ายคล้อยเราต่างทยอยเดินทางกลับ เว้นแต่ผมต้องตกค้างอยู่โยงกทม.อีกคืนหนึ่ง ผมจึงชวนอาจารย์สุกับอาจารย์ราณีมาเป็นเพื่อน โดยติดสินบนว่าจะพาไปชิมยำปลาทูที่ร้านเจ้าประจำ
(สวยพอดู กับ ดูยังไงก็สวย อิ.อิ.)
หลังจากนั้นพากันไปถ่ายภาพแสงสีริมถนนราชดำเนิน แล้วพาข้ามไปเที่ยวถนนข้าวสาร แหล่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จัก ที่นี่เราไปเจอเรื่องเด็ดมากมาย มีเรื่องฟ้องด้วยภาพมาฝากคนชอบวิ่งด้วย อิ..อิ..บันทึกยาวอีกแล้วครับท่าน คงจะขอยกยอดไปเล่าในคราวหน้า
ในงานKM.วันสุดท้ายนี้
แอบได้ยินพวกเราล่ำลาในบล็อกว่า..
ไปละนะ..แล้วค่อยเจอกันในบล็อก
น้องขจิต
พี่ conductor เพิ่งบอกว่า ใส่รูป ซ้อน เปลืองๆ ....
อิ อิ
เรียนท่านครูบาครับ
พ่อไม่ยอมกลับสวนป่า อิอิ พ่อหลงแสงสีถนนราชดำเนิน เพราะมีสาวๆพาไปเที่ยวถนนข้าวสารนี่เอง
อิอิ
แอบมาถามว่า เสื้อตัวข้างหลังเหมาะกับหนิงมากเลยค่ะ อิอิอิ FAT
สวัสดีค่ะพ่อครูบาฯ
เสียดายไม่ได้อยู่ชิมยำปลาทูอีกมื้อหนึ่ง พักที่ กทม 2 คืน ได้ไปทานข้าวต้มที่ สกายไฮทั้ง 2 วัน อร่อยมากๆค่ะ ...ขอบคุณพ่อครูบาฯมากๆค่ะ ...
สวัสดีค่ะพ่อครู
มาแซวออต ว่าจะไม่หนาวได้ไงลืมเสื้อกันหนาวไว้ที่กรุงเทพนี่เอง อิอิ
ใครว่าไม่สวยแต่พอดูได้.....
ต้องบอกว่าต้องดูให้สวยให้ได้ต่างหาก อิอิ