จากอัมพวา .. ถึงเพลินวาน ^___^ ภาคจบค่า อิอิ


จากบันทึก ภาค 5 ในที่สุดก็ถึงภาคจบซะที อิอิ

เช้าวันที่ 18 ต.ค. 52 เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อจะเก็บบรรยากาศทะเลหัวหินค่ะ แต่รอกันไปรอกันมา พระอาทิตย์รีบขึ้นก่อนที่พวกเราจะเดินไปถึงชายหาดซะแล้ว 555

แอบเห็นเมฆกระต่ายน้อยด้วยนะคะเนี่ย ต้องรีบรายงานพี่ชิวซะแร้วววว 555

เราเดินกันไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะข้ามไปถ่ายรูปกะเรือลำนั้นค่ะ อิอิ ระหว่างทางเดินเราพบกับสิ่งนี้ แมงกะพรุนค่ะ ตัวนึงตายแล้ว อีกตัวยังมีชีวิต แต่คิดว่าคงได้รับบาดเจ็บด้วยค่ะ พวกเราเลยช่วยกัน CPR เอ้ย!! ม่ใช่ค่ะ ช่วยกันหาวิธีให้น้องแมงกะพรุนกลับลงทะเลไปได้เหมือนเดิม แต่ดูเหมือนจะช่วยไม่ค่อยได้เท่าไหร่ เนอะ เฮ้อ!!! สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

รูปนี้สังเกตน้องหมาให้ดีนะค้า 555 แย่งซีนกันเห็นๆ

หุหุหุ ลอยเลยเป็นไงล่า...555

เห็นภาพครอบครัวใหญ่ๆใส่บาตรริมทะเลแบบนี้รู้สึกดีจังเลยนะคะ

ในที่สุดพวกเราก็ตัดสินใจลุยน้ำข้ามมาที่เรือลำนั้นจนได้ค่ะ เย้!!!

โดดหมู่ 555

รูปนี้โดดเดี่ยวค่า ^___^

หัวหินจริงๆนะคะ อิอิ

ในที่สุดเรือลำนี้ก็เป็นของพวกเรา 555

"สุมหัว" อิอิ

เมื่อเราถ่ายรูปกันจนเต็มอิ่มแล้ว ท้องก็ชักจะเริ่มหิวซะแล้วค่ะ เมนูเช้านี้เราฝากท้องกันที่ 7/11 ค่า

แล้วก็ออกเดินทางกันต่อจุดหมายต่อไปคือวัดห้วยมงคลค่ะ เป็นที่สุดท้ายของทริปนี้ที่เราจะแวะนะคะ ใกล้จะได้กลับบ้านแล้ว อิอิ

วัดห้วยมงคล...เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือน หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต” ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามใหม่จากห้วยคต เป็น "ห้วยมงคล" ค่ะ

ประวัติหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

หลวงพ่อทวด หรือ สมเด็จพะโค๊ะ มีนามเดิมว่าปู เป็นบุตรนายหู นางจัน วัน เดือน ปี เกิดของเด็กชายปู บ้างว่าเป็นเดือน 4 ปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ. 2125 บ้างว่าปี พ.ศ. 990 ฉลู สัมฤทธิศก บ้างว่า พ.ศ. 2131 โดยอนุมาน เข้าใจว่าคงเป็นปลายสมัยมหาธรรมราชา อาจเป็นปี พ.ศ. 2125 หือ 2131 ตอนเด็กชายปูยังเป็นทารก มีเรื่องเล่าเป็นปฏิหาริย์เอาไว้ว่าหลังจากนางจันเลิกอยู่ไฟก็ออกเกี่ยวข้าวทันที วันหนึ่งนางไปเก็บข้าวก็เอาบุตรให้นอนในเปลใต้ต้นหว้างูบองสลาขึ้นมานอนบนเปลนั้น มารดา บิดาเห็นตกใจ งูก็เลื้อยหายไป แต่ได้คายแก้ววิเศษเอาไว้ให้ เมื่อเด็กชายปูอายุได้ 7 ขวบ บิดาได้นำไปฝากกับท่านสมภารจวงซึ่งเป็นพี่ชายของนางจันผู้เป็นมารดา (หลวงลุง) วัดกุฏิหลวง (วัดดีหลวง) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือ เด็กชายปูมีความเฉลียวฉลาดมากสามารถเรียนหนังสือขอมและไทยได้อย่างรวดเร็ว ครั้นอายุได้ 10 ขวบ ก็บวชเป็นสามเณรและบิดาได้มอบแก้ววิเศษให้เป็นของประจำตัว ต่อมาสามเณรปูได้ไปศึกษาต่อกับพระชินเสนที่วัดสีหยัง (สีคูยัง) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงมากมาจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อได้อายุ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่นครศรีธรรมราช ณ สำนักพระมหาเถระปิยทัสสี ต่อมาก็ได้เข้ารับการอุปสมบท มีฉายาว่า “ราโมธมฺมิโก” แต่คนทั่วไปเรียกว่า “เจ้าสามีราม” เจ้าสามีรามได้ศึกษาอยู่ที่วัดท่าแพ วัดสีมาเมือง และวัดอื่นๆอีกหลายวัด

    เมื่อเห็นว่าการศึกษาที่นครศรีธรรมราชเพียงพอ จึงได้ขอโดยสารเรือสำเภาเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา ขณะเดินทางถึงเมืองชุมพรเกิดคลื่นลมทะเลปั่นป่วนเรือไม่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมไปได้ ต้องทอดสมออยู่ถึง 7 วัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำหมด บรรดาลูกเรือจึงตั้งข้อสงสัยว่าการที่เกิดอาเพศในครั้งนี้เป็นเพราะเจ้าสามีราม จึงตกลงใจส่งเจ้าสามีรามขึ้นเกาะ ได้นิมนต์ให้เจ้าสามีรามลงเรือมาดขณะที่นั่งอยู่ในเรือมาดนั้นท่านได้ห้อยเท้าแช่ลงไปในน้ำทะเล ก็บังเกิดอัศจรรย์น้ำทะเลบริเวณนั้นเป็นประกายแวววาวโชติช่วงเจ้าสามีราม จึงบอกให้ลูกเรือตักน้ำขึ้นมาดื่มก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืดจึงช่วงกันตักไว้จนเพียงพอ นายสำเภาจึงนิมนต์ให้ขึ้นสำเภาอีก และตั้งแต่นั้นเจ้าสามีรามเป็นชีต้น หรืออาจารย์ของเจ้าสำเภาอิน สืบมา

อภินิหารที่ท่านสามีรามเหยียบน้ำทะเลจืดเป็นที่โจษขานมาถึงบัดนี้และเหตุการณ์ตอนนี้เล่าเสริมพิสดารขึ้นว่า ตอนแรกนายอินเชื่อมั่นว่าพระสามีรามเป็นกาลกิณีเรือจึงต้องพายุเพราะก่อนมาไม่เคยเป็น เมื่อคลื่นลมสงบจึงคิดจะเอาเจ้าสามีรามปล่อยเกาะ แต่ครั้นเห็นปาฏิหาริย์จึงขอขมาโทษ

    ในยุคนี้และสมัยนี้ เกือบจะไม่มีชาวไทยคนใดเลย ที่จะไม่เคยได้ยินชื่อหรือได้ฟังกิติศัพท์เล่าลือเกี่ยวกับ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ความศักดิ์สิทธิ์อันนี้ บ้างก็เป็นเรื่องของความคลาดแคล้วจากอุบัติเหตุสยองจากไฟไหม้หรือจากภัยพิบัติ นานัปการ และหลวงพ่อทวดมิใช่จะคุ้มครองเฉพาะด้านอุบัติเหตุเท่านั้น แม้แต่ในทางโชคลาภ ก็ให้ผลอย่างดีที่สุด ดังที่ได้ประจักษ์แก่ผู้เลื่อมใสมาแล้ว

(คัดลอกจากเอกสารวัดห้วยมงคล ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

ทราบประวัติคร่าวๆกันแล้ว ไปกันเลยค่ะ ตรงทางเดินไปที่ลานหลวงปู่ทวดค่ะ

ตรงทางเดินไปก็สวย ขอเก็บภาพไว้นิดนึง 555

สังเกตดู พบว่าที่นี่มีช้างเยอะจังเลยนะคะ ตรงนี้ก็น้องช้างพ่นน้ำ

ลอดท้องช้าง

มุมนี้ขอเล่าเล็กน้อยค่ะ คือเค้าจะมีการให้โยนเหรียญเข้าปากช้าง หนึ่งก็เลยโยนกะเค้าบ้าง โยนไปครั้งแรก เข้าปากช้างเลยค่ะ (นักบาสเก่าก็งี้อ่ะ 555 เอ้ย!! ไม่ใช่ค่ะ) แต่เหรียญมันกะเด้งออกมาตกลงบนพื้นค่ะ ทีนี้ไอ้เราก็เดินก้มหน้าก้มตาตามหาเหรียญที่ตกลงมาเพื่อจะเอามาดยนใหม่ให้เข้าไปอยู่ในปากช้าง แต่ทว่าขณะที่เอื้อมมือไปหยิบเหรียญที่ตกอยู่ที่พื้นนั้น .. ก็มีมือเล็กๆเอื้อมมาคว้าเหรียญตัดหน้าไปซะงั้น และมือเล็กๆนี้ก็ตามไปเก็บเหรียญที่หล่นลงมาทุกๆเหรียญค่ะ อารมณ์ประมาณลอยกระทงอ่ะค่า ที่พอลอยไปยังไม่ทันไรก็มีมือดีมาคว่ำกระทงเพื่อหาเงินในกระทงอ่ะค่า 555

มองเห็นความยิ่งใหญ่ขององค์หลวงปู่ทวดรึยังคะ

ทำบุญรับดอกไม้ธูปเทียนมาแล้ว ขึ้นกันไปเลยค่ะ

ตรงนี้ขอบอกว่าเค้ามีทองคำเปลวจัดให้หลายใบใช่ป่าวคะ อย่าลืมปิดทองให้ครบทุกองค์ใต้ฐานของหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่นะคะ เดินรอบๆเลยนะคะ

เก็บภาพท้องฟ้าที่วัดห้วยมงคลมาฝากค่ะ

แดดแรงมากจริงๆค่ะ สังเกตผมหนึ่งเปียกเหมือนเพิ่งอาบน้ำสระผมมาเลยค่ะ อิอิ มุมนี้มีที่นั่งพักเย็นสบายค่ะ เราเลยพักหลบร้อนกันนิดนึง ด้วยการแอ๊คชั่นถ่ายรูปกันอีกแร้วววว 555

อีกซักหลายรูป 555

เดินมาอีกหน่อยเป็นศาลาเจ้าแม่ตะเคียนทองค่ะ

เจ้าแม่ตะเคียนทองทริปนี้เราเจอที่วัดโพธิ์ปรกด้วยค่ะ

อืม..ตากล้องคงหิวจนมือสั่นค่ะ หรือไม่ก็เป็นพาร์กินสัน ภาพเลยเบลอๆ 555

 ออกจากวัดห้วยมงคลก็มุ่งหน้าสู่กทม.กันเลยค่ะ

เป็นไงบ้างคะทริป จากอัมพวา  ..  ถึงเพลินวาน ไปแค่ 3 วัน แต่เล่ายาวถึง 6 ภาคด้วยกันทีเดียวค่า 555 จบเอาดื้อๆแบบนี้เลยนะคะ

 

หมายเลขบันทึก: 308691เขียนเมื่อ 26 ตุลาคม 2009 17:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)
  • แต่ละภาพฮามากเลยน้องหนึ่ง
  • จำได้ว่า
  • ไม่ได้ส่งงานคืนเลย
  • จะส่งคืนไปไวๆๆนี้
  • แก้ไขเสร็จนานแล้ว
  • เพิ่งเคยเห็นรูปปั้นหลวงพ่อทวด
  • องค์ใหญ่มาก
  • อิจฉาคนได้ไปเที่ยวนะเนี่ย
  • ตามไปเที่ยวตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงตอนจบเลยจ้ะน้องหนึ่ง
  • แต่ละภาพฮามากๆ เหมือนที่ อ.ขจิตบอก

นี่ค่ะ...ตอนนี้ชอบภาพนี้มาก...ดูดู๋...แต่ละคนซะ....อิอิ

มาอีกแล้วค่ะน้องหนึ่งขา...พี่ๆ กะว่าจะไปอุดร (งานแต่งน้องเดย์) 15 พ.ย. 52 จะมาชวนน้องหนึ่งอีกคน  นี่ค่ะข้อความของพี่สุ  ว่าไงตอบด้วยนะคะ

น้องครูอรวรรณ ตกลงพี่สุไปด้วยนะคะ งานแต่งงานน้องเดย์  ที่โรงแรมบ้านเชียง ไม่รู้อยู่ทางไหน ไปถามเอาข้างหน้า เป็นวันอาทิตย์ว่างอยู่แล้ว  เขาเริ่มงาน 6 โมงเย็นคะ เราไปซักบ่ายหนึ่งบ่ายสอง แต่พี่สุจะถามคือ จะมาแวะบ้านพี่สุไหม ที่อำเภอกระนวน เราไปทางกุมภวาปี มันเป็นทางลัดไปอุดรคะ  จะมานั่งรถกับพี่ ก็มาหาที่บ้าน หรือจะไปรถคนละคัน ก็แล้วแต่นะคะ พี่สุจะนั่งรถจิ๊บแคริบเบียน มันคล่องมือ และคล่องทางดี ไม่เอาเก๋งไป เพราะกลัวที่จอดแออัด เลี้ยวออกเลี้ยวเข้า มันไม่ทันใจกลัวมันบุบบู้บี้คะ

ตกลงเอาอย่างไร บอกผ่านทางเมลย์ก็ได้นะคะ เบอร์โทรศัพท์พี่ก็เคยให้ไว้แล้ว

ตกลงว่าไปนะคะ เดี๋ยวจะไปบอกน้องแดง บอกคนอื่นๆด้วยคะ มีอะไรบอกได้นะคะ

เมลย์  [email protected] ได้เลยคะ คนดี ไปหละ  เย้วๆๆๆๆจะได้พบกันอีกแล้ว

พี่หนึ่ง

สามล่ะไม่เข้าใจเวลาlog in ทำไม ต้องพิมพ์ ฟหกด

ก่อนทุกครั้งเลยเนี่ย

เป็นการตรวจสอบว่า คนไทยหรือป่าวใช่ป้ะคะ หรือตรวจสอบทักษะ การพิมพ์สัมผัสของสาม

ซึ่งก้อแน่นอน สามใช้จิ้มดีด ไม่ได้พิมพ์ พริ้วไหวแต่อย่างใด

จะว่าไปพี่หนึ่งก้อเก็บรายละเอียดในการท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว

หรือแอบมาsearch ข้อมูลเพิ่มเติม บอกมานะ

เพราะว่าเท่าที่ สังเกต ตอนเที่ยวอ้ะ

ถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่งเลยนี่นา อิอิ อ้ะล้อเล่น

แต่ช่วงตอนโยนเหรียญเข้าปากช้างอ้ะ

สามโยนสามครั้งถึงจะลงอย่างสวยงาม

ตอนแรกก้อกะจะslam dunk แต่เกรงจะไม่งาม ก้อเลย โยนแบบที่คนอื่นๆเค้าทำกัน

แต่ก้อพบว่าเหรียญไม่ได้เด้งไปไหนไกล แต่เด้งมาปะทะกับหน้าผากบ้าง มือบ้าง

เหมือนหลวงปู่ทวดจะพยายามใช้ปริศนาธรรมให้สามคิดและพยายามใช้สติและปัญญาในการโยนเหรียญ

และสามก้อเดินลอดท้องช้างผิดด้วย

ซึ่งถ้าคุณป้าคนข้างๆไม่วิ่งกรี๊ดมาเตือน

ก้อคง วิ่งลอดท้องช้างด้วยความเร็ว 120kmต่อชม ไปแว้ว(เนื่องด้วยอากาศที่ร้อนเหลือเกิน)

อืม แต่ก้อถือเป็นประสบการณ์ดีๆที่น่าจดจำ

ไว้โอกาสหน้าเราไปเที่ยวกันอีกนะพี่สาว

(เอิ่มเม้นท์ซะห่างเหิน) ปกติก้อไปทุกทริปนี่เนอะ ^__^

สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต

เรื่องงาน ขอบคุณมากๆๆเลยค่า ^___^

ใช่แล้วค่ะ ที่นี่หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศเลยค่ะ

ยังไงมีโอกาสเมื่อไหร่แวะไปเที่ยวได้นะคะ

เห็นเค้าบอกว่าถ้าไปหน้าหนาวจะมีทุ่งทานตะวันด้วยค่ะ คงสวยน่าดูเลยค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ครูอรวรรณ

ขอบคุณค่า อิอิ

เรื่องถ่ายรูปนี่ไม่มีใครยอมใครจริงๆค่า 555

ส่วนเรื่องไปงานแต่งน้องเดย์เหรอคะ ได้เลยค่ะ

โรงแรมบ้านเชียงหนึ่งรู้จักค่ะ พี่ครูอรวรรณจะมายังไงคะ

ให้หนึ่งไปรับป่าวคะ

อ่ะนะคะคุณน้องสามขา...

เม้นยาวกว่าบันทึกได้ไงค้า 555

พี่ก็คิดว่างั้นนะ

ถ้าไม่ใช่คนไทยเนี่ย สงสัยจะเข้า G2K ไม่ได้จริงๆ 555

เรื่องถ่ายรูปอย่างบ้าคลั่งนี่เป็นกันทั้ง 5 คนมิใช่เหรอค้า อิอิ

แบบว่า ภาพมันฟ้องอ่ะนะค้าคุณน้องขา 555

อ่านะ ก็ไปด้วยกันทุกทริป อิอิ ทำเป็นๆๆ

ปล.เมื่อไหร่จะเขียน บันทึกซักทีล่ะคะคุณน้อง รออ่านๆๆๆนะจ๊ะ

  • มาฟ้องน้องหนึ่งว่า
  • น้องสามไม่ยอมเขียนบันทึก
  • เลยให้ความคิดเห็นไม่ได้
  • ฮ่าๆๆ
  • แจ้งน้องสามเขียนบันทึกเลย
  • โอโห งานนี้น้องมีบล็อกเกอร์มาแบบสองศรีพี่น้อง
  • ว่าแต่ว่าเปิดเทอมเมื่อไรเนี่ย
  • http://gotoknow.org/profile/sa3amsa3am

อาจารย์ขจิตคะ

หนึ่งบังคับสามแล้วค่ะ

สามบอกว่าของงี้ต้องสร้างอารมณ์ค่ะ ถึงจะเขียนได้ 555

แต่หนึ่งคอนเฟิร์มว่าสามเป็นนักเขียนที่มีพรสวรรค์มากๆค่ะ

เขียนบันทึกเมื่อไหร่เป็นอันแจ้งเกิดแน่ๆๆ อิอิอิ

หนึ่งบอกสามให้แล้วค่าว่ารีบเขียนบันทึกด่วน

เรื่องเปิดเทอมหนึ่งเปิดเทอมเสาร์นี้ล่ะค่า

เครียดเล็กน้อยกะ thesis งือๆๆๆ

ขอบคุณน้องหนึ่งมากครับ นี่ขนาดเครียดนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

อิอิ เครียดค่าเครียด อิอิ

  • กลัวเจ้าแม่ตะเคียนทอง
  • เหวอๆๆ
  • H118

ของเค้าแรงจริงๆค่าอาจรย์ขจิต

หุหุหุ ดูสิคะสามเป็นตากล้องให้หนึ่งถ่ายสองครั้งเบลอสองครั้ง 555

แอบเล่านิดนึง คือพอหนึ่งถ่านรูปตรงต้นตะเคียนต้นนี้เสร็จ เราก็ผลัดกันมานั่งถ่ายรูปที่เดียวกันนี่ล่ะค่ะ

แล้วแอ๊คชั่นเราก็จะคล้ายๆกันคือจับ หรือ ชี้บริเวณที่เห็นในรูป

พอเราไปกันยังไม่ทันออกจากศาลา ก็มีคนเข้ามามุงดูตัวเลขบริเวณนี้กันเต็มเลยค่า อิอิ

เสียดายตอนเราแอ๊คชั่นถ่ายรูปทามมายไม่เห็นเลขน้อ 555

  • ฮาตรงที่คนมุงดูเลขนี่ละ
  • แต่ถ่ายไม่ติดนี่แปลกดี
  • เบอลๆๆ
  • ลองไปสร้างเว็บศูนย์มะเร็งที่นี่ดีไหม
  • ทำเป็นเว็บหน่วยงานครับ
  • ตัวอย่าง
  • http://portal.in.th/kha-ku/pages/4815/
  • ที่นี่ http://portal.in.th/main/pages/start/
  • ใช้รหัสเดียวจาก gotoknow ก็ได้
  • ถ้าสใจลองดูนะครับ
  • ลืมเอาportal อันนี้มาให้ดู
  • http://thastro.org/pages/pedbone/
  • ที่คุณหมอเต็มศักดิ์ทำงาน

อาจารย์ขจิตคะ

สนใจค่ะๆๆๆ แต่ว่าจะทำได้รึเปล่าไม่แน่ใจ แหะๆ

คงต้องเรียนรู้อีกเยอะเลยค่ะ

ขอบพระคุณมากๆค่า ^___^

วิวสวยทุกรูปเลยนะ ครับ

น่าไปเที่ยวมากๆ

เห็นแล้วอยากไปเลยซะตอนนี้(แต่ติดอย่าเดียวไม่มีตัง)

อยากไปมั้งจังพี่Hana ถ้ามีโอกาสพาผมไปหน่อยนะครับ 555+

ทั้งอัมพวา ทั้งเพลินวานเลย ยังไม่มีโอกาสได้ไป ^^

สวัสดีค่ะ นาย ก่อเกียรติ ( กอล์ฟ ) พงศ์พันธุ์

อิอิ ใช่ค่ะ พี่ว่านะคะ เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ค่ะ

ช่วงนี้จะเห็นได้ว่าพี่จะเก็บตัวเงียบๆ ไม่ไปเที่ยวไหนอีกหลายเดือนแล้วจ้า

อ้างว่าทำ thesis แต่เหตุผลเจงๆนั้น เพราะตังค์หมดแย้ววว เหมือนกัน 555

สวัสดีค่ะน้องเอิร์ท

จะไปจริงๆป่าวคะ พี่กะลังจะได้ไป OD ที่ปราณบุรี เพลินวาน และอัมพวาค่ะ

เป็นกิจกรรมของศูนย์มะเร็งอุดรฯจ้า

มี 2 รุ่น รุ่น 1 ไปช่วง 24-26 กพ.นี้

ส่วนพี่จะได้ไปรุ่น 2 ช่วงวันที่ 3-5 มี.ค.นี้จ้ะ อิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท