เรื่องที่ (๓๗) สอนพราน (เรื่องสั้นวันพ่อ)
“พร้อมแล้วใช่ไหม” พ่อถาม
เจเรมีพยักหน้ารับ เอื้อมมือเทอะทะด้วยถุงมือและคว้าปืนมาถือไว้ แล้วเดินตามพ่อออกจากกระท่อมที่ป้องกันความหนาวไปสู่อากาศเย็นยะเยือกภายนอก ทิ้งความอบอุ่นของเตาผิงและกลิ่นคุ้นเคยของเบคอนและกาแฟไว้เบื้องหลัง
ทั้งสองหยุดยืนหน้ากระท่อมครู่หนึ่ง พ่นลมหายใจไปไอขาวออกมาในอากาศยะเยือก เบื้องหน้ามีเพียงบึงน้ำกว้างใหญ่สุดหูลูกตาไปจนจรดขอบฟ้า แสงสีเงินทาบท้องฟ้าและแผ่นน้ำเป็นสีเทาและดำ ปกติแล้วเจเรมีจะต้องขอให้พ่อรอจนกว่าเขาจะเก็บภาพบรรยากาศเช่นนี้ ด้วยกล้องถ่ายรูปของเขาเสียก่อน แต่ไม่ใช่เช้าวันนี้ เช้าวันที่พิเศษและสำคัญยิ่งที่เจเรมีในวัย ๑๔ ปี จะได้เริ่มเข้าสู่พิธีการอันน่าหลงใหลของการล่าเป็ดป่า
แต่เขาเกลียดมัน เกลียดตั้งแต่พ่อซื้อปืนให้เขา สอนให้เขายิงเป้าดินเหนียวรูปนกพิราบ พร่ำสัญญาว่าจะพาเขามาที่เกาะกลางทะเลสาบแห่งนี้ แต่เขาก็ทำตามที่พ่อสอนทุกอย่างเพราะเขารักพ่อ ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้อีกแล้วที่เขาต้องการมากกว่าให้พ่อรักและยอมรับเขา และเขารู้ว่าถ้าเขาผ่านขั้นตอนในวันนี้ด้วยดี พ่อจะต้องรักและภูมิใจในตัวเขา
สองพ่อลูกเดินไปที่ซุ่มยิง ซึ่งเป็นหลุมแคบ ๆ กลางพงหญ้าหันหน้าสู่บึง ในหลุมมีเพียงม้านั่งกับชั้นวางกระชุนปืนเท่านั้น เจเรมีนั่งลง สมองเครียดขณะรอให้พ่อเอาฝูงนกต่อไปวางในที่ เพื่อล่อเป็ดป่า ท้องฟ้าสว่างขึ้น ลิบ ๆ เบื้องหน้าฝูงเป็ดป่ากำลังกำลังบินเข้ามามองเห็นเป็นทาง เจเรมีเครียดมากขึ้น จนรู้สึกว่าท้องเกร็งเขม็ง
เจเรมีต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเงาดำ ๆ ของพ่อทาบบนแผ่นน้ำสีเงินระยับ เพื่อบรรเทาความเครียด ก่อนจะจำใจวางกล้องแล้วคว้าปืนมาถือไว้
พ่อกลับมาย่อตัวแอบอยู่ข้าง ๆ เขา รองเท้าบูตของพ่อชุ่มน้ำ หนาวจนมือเขียว “บรรจุกระสุนได้ ฝูงเป็ดอาจจะมาบินเหนือหัวเราเมื่อไรก็ได้” พ่อมองดูเจเรมีบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิง “พ่อจะให้แกยิงก่อนนะ” พ่อพูด พลางยัดกระสุนปืนแล้วสะบัดเข้าที่อย่างคล่องแคล่ว “ลูกรู้ไหม” พ่อพูดอย่างมีความสุข “พ่อรอเวลาอย่างนี้มานานแล้ว มีเพียงเราสองพ่อลูก...”
พ่อชะงักคำพูด หยีตาเพ่งมองไปข้างหน้า “บินมาแล้ว เจ้าเป็ดฝูงน้อย ๆ ก้มหัวลงเร็ว แล้วคอยทำตามที่พ่อบอก”
เบื้องหลังของทั้งสอง ดวงอาทิตย์สาดแสงจ้าขึ้น ท้องฟ้าแจ่มใสเหนือพื้นน้ำ เจเรมีมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ชัดเจน ใบหน้าอันเครียดและตื่นตัวของพ่อ เขาภาวนาขอให้พวกมันบินไปเสียทางอื่น อย่าบินมาทางนี้เลย
แต่ฝูงเป็ดน้ำยังคงบินตรงมาหาเขา “ดำ ๔ ตัวกับตัวผู้อีกหนึ่ง” พ่อบอก
เจเรมีได้ยินเสียงหวีดหวิวของปีกยามแหวกอากาศอยู่เหนือหัว เป็ดป่าเริ่มบินเป็นวงกลม “เตรียมพร้อม” พ่อกระซิบเบา ๆ
หมู่เป็ดค่อย ๆ ร่อนลงช้า ๆ ตัดแสงแดดมาเป็นแถว หัวเชิดระแวงไพร ปีกกางกว้างสง่างาม เจ้าตัวผู้เป็นจ่าฝูง ขนคอและอกเป็นเงาระยับสะท้อนแสงอาทิตย์ มองดูเป็นประกายวาว ตีนเป็ดสีส้มเจิดจ้า พยายามคว้าหาแผ่นน้ำเรียบเป็นเงาเบื้องล่างใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา...
“เอาละ” พ่อระเบิดเสียงคำรามลั่น พร้อมกระโจนลุกขึ้นยืนประทับปืนมั่น “จัดการเลย”
เจเรมีรู้สึกตัวหนักอึ้ง เขาลุกขึ้นยืนพร้อมยกปืนประทับบ่า อย่างที่พ่อเคยสอน แก้มที่แนบอยู่กับปืนรู้สึกเย็น ตาเพ่งมองผ่านปลายกระบอกปืนแฝด ปลายนิ้วสัมผัสอยู่กับความโค้งของไกปืน มันเรียบและเย็นพร้อมจะนำมาซึ่งความตาย
ในขณะเดียวกันนั้น เป็ดป่าก็มองเห็นนักล่า ทันใดนั้น เจ้าจ่าฝูงก็เปลี่ยนทิศทาง พุ่งตัวถลาขึ้นราวถูกกระชากด้วยเชือกที่มองไม่เห็นจากเบื้องบน ชั่วเสี้ยววินาทีมันทรงตัวอยู่กลางสายลมกับแสงแดด เลี้ยงตัวอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย “ยิงซิ !” เสียงสังเฉียบขาดเหมือนจะดังขึ้นในหัวใจเจเรมี เขารอฟังเสียงปืนที่จะระเบิดขึ้น
แต่ว่าไม่มีเสียงปืน เป็ดป่าบินสูงขึ้นสูงขึ้น จนกระทั่งปลายปีกกินลมอย่างเต็มที่แล้วบินไกลออกไป เกินรัศมีการยิงในที่สุด
เงียบกริบจนได้ยินเสียงใบหญ้าต้องลม เจเรมียืนนิ่ง กำปืนแน่น
“แล้วกัน เป็นอะไรไปล่ะ” พ่อพูดทำลายความเงียบ
เจเรมีนิ่ง ริมฝีปากเม้มแน่น
“ทำไมถึงไม่ยิง” พ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมไม่ให้โกรธ
เจเรมีเข้าเชฟปืนด้วยหัวแม่มือ แล้วค่อย ๆ วางปืนพิงไว้ที่มุมหนึ่ง “มันสวยเหลือเกินครับ” เขาตอบก่อนน้ำตาจะไหลเป็นทาง
เขานั่งลง ซุกหน้าลงกับฝ่ามือแล้วร้องไห้ ความหวังที่จะทำให้พ่อมีความสุขและภูมิใจในตัวเขาพังทลายลงหมดสิ้น เขามีโอกาสแล้วเชียว แต่ว่าเขากับล้มเหลวไม่เป็นท่า
พ่อเงียบไปนานทีเดียว ในที่สุด เจเรมีรู้สึกว่าพ่อทรุดนั่งลงข้างเขา “โน่นมาอีกตัวแล้วแน่ะ ลองใหม่อีกทีซิ”
เจเรมีก้มหน้า “ไม่มีประโยชน์หรอกพ่อ ผมทำไม่ได้”
“เร็วเข้า” พ่อเร่งเสียงดุ “เดี๋ยวก็พลาดอีกหรอก เอ้า นี่”
“เขาสัมผัสกับโลหะเย็นชืด เมื่อมองไป เจเรทีแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง พ่อกำลังยื่นกล้องถ่ายรูปมาให้เขา “เร็วซิ” พ่อพูดเบา ๆ “มันคงไม่แกร่วอยู่แถวนี้ทั้งวันหรอกนะ”
เป็ดป่าหางจุดตัวใหญ่ตัวหนึ่งค่อย ๆ ร่อนปัดไปปัดมา ก่อนสัมผัสผิวน้ำอยู่กลางกลุ่มนกต่อพอดี พ่อของเจเรมีตบมือเสียงดังราวกับเสียงปืนลั่น เจ้าเป็ดตัวงามทะยานขึ้น ขาหดเข้า หัวเชิดสูง ปีกกระพือสุดแรง อกขาว ๆ พะเยิบพะยาบ แล้วบินลับหายไป
“เจเรมีลดกล้องถ่ายรูปลง “ผมได้ตัวมันแล้ว” ใบหน้าเขาแช่มชื่น
“ได้แน่นะ” พ่อตบบ่าเขาเบา ๆ “เก่งมากลูก” เขาจ้องมองดูลูกชาย เจเรมีมองเห็นแววตาเปี่ยมด้วยความรัก ความอาทรระคนความภูมิใจ ไม่มีวี่แววความผิดหวังเจือปนอยู่บนใบหน้าพ่อเลย “ไม่เป็นไรลูก ถึงอย่างไรพ่อก็คงยังรักการยิงปืนอยู่ แต่ไม่ได้แปลว่าลูกต้องชอบมันด้วย บางทีการที่เราไม่ทำ ก็ต้องอาศัยความกล้ามาก ๆ เท่ากับการที่เราจะทำมันลงไปเหมือนกัน” พ่อเงียบไปนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “ลูกคิดว่าจะสอนวิธีใช้ไอ้เจ้ากล้องนั้นให้พ่อบ้างได้ไหม”
จากเรื่อง Jeremy’s First Hunt ของ Arthur Gordon
ไม่มีความเห็น