พวกเราคงจะอยากอยู่ในประเทศที่มีความสุขไม่มากก็น้อย วันนี้มีผลการศึกษาว่า ประเทศที่คนมีความสุขมากที่สุด การศึกษาเรื่องพวกนี้อาจทำให้เราได้ข้อคิดในการพัฒนาเมืองไทยต่อไปได้ครับ
ท่านอาจารย์เรโนลด์ อินเกลฮาร์ท และคณะนักวิจัยด้านรัฐศาสตร์ แห่งสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยมิชิแกน ทำการศึกษากลุ่มตัวอย่างจาก 52 ประเทศ รวมประชากรประมาณ 350,000 คน
...
ผลการศึกษาพบว่า สวีเดนเป็นประเทศที่คนมีความสุขมากที่สุด ตามด้วยประเทศที่แสนสุข (จากการวิจัย) ได้แก่ เปอร์โตริโก โคลัมเบีย ไอร์แลนด์เหนือ ไอซ์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และแคนาดา
การศึกษานี้ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และจัดทำโดยเครือข่ายนักรัฐศาสตร์ทั่วโลก
...
ข่าวดีคือ การศึกษาพบว่า คนเราส่วนใหญ่มีความสุขมากขึ้นในปี 2007 หรือ พ.ศ. 2550 เมื่อเทียบกับปี 1981 หรือ พ.ศ. 2524 (สงสัยจะวิจัยก่อนน้ำมันขึ้นราคา และก่อนกลุ่มพันธมิตรประท้วงกลางกรุงเทพฯ)
อาจารย์อินเกลฮาร์ทกล่าวว่า ประเทศที่คนมีความสุขมากๆ มักจะมีลักษณะ 5 ข้อดังต่อไปนี้
...
(1). มีความสุขสงบ > ไม่มีกลุ่มก่อการร้าย หรือแบ่งแยกดินแดน
(2). มีความมั่งคั่ง > ไม่ใช่ประเทศยากจนแบบสุดๆ
...
(3). มีความเท่าเทียมกันระหว่างเพศ (ชายและหญิง)
(4). สังคมยอมรับความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ และสังคม > ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา หรือแบ่งขั้วแบ่งฝ่าย (ไม่รู้ท่านพูดกระทบเมืองไทยหรือเปล่า)
...
(5). มีอิสระ เสรีภาพทางการเมือง
ตัวอย่างคือ ประเทศซัมบับเวในอาฟริกา ซึ่งได้คะแนนความสุขน้อยที่สุด จะไม่มีลักาณะ 5 ข้อดังกล่าว
...
เสียดายที่แหล่งข่าวคือ สำนักข่าวรอยเตอร์ไม่ได้รายงานว่า เมืองไทยเราได้คะแนนลำดับที่เท่าไร ทว่า... ถ้าเดาจากบ้านเมืองไทยเราทุกวันนี้ เมืองไทยคงจะได้คะแนนไม่สูงนัก
เรียนเสนอให้พวกเรานำข้อคิดจากเรื่องนี้ไปพัฒนาบ้านเมืองของเรา... ให้เป็นสยามเมืองยิ้มต่อไปครับ
...
ที่มา
ไม่มีความเห็น