...
> [ Wikipedia ]
...
เป็นที่ทราบกันดีว่า ยุคนี้พวกเราคงต้องประหยัดกันมากขึ้น ทีนี้จะจับจ่ายใช้สอยอย่างไรให้ประหยัด ท่านอาจารย์เมลิสซา โกตต์ฮาร์ตแห่งนิตยสาร AARP มีคำแนะนำดีๆ ไว้อย่างเป็นระบบ
ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังในรูปแบบไทย(หลาย)คำอังกฤษ(น้อย)คำ เพื่อให้พวกเราเก่งภาษาอังกฤษครับ
...
(1). Don't be listless = อย่า "ช็อป(ปิ้ง)" โดยไม่มีรายการ (list = รายการ; listless = ไม่มีรายการ)
-
การไปซื้อของโดยไม่มีรายการ "ของต้องซื้อ" มักจะทำให้เสียเวลาอยู่ที่ร้านนานขึ้น ซื้อของมากขึ้น และจ่ายมากขึ้นด้วย
-
ทางที่ดีคือ จดๆๆๆ ไปก่อนว่า ต้องการอะไร ซื้อของตามรายการ และรีบออกไปก่อนที่รายจ่ายจะ "บานปลาย"
...
(2). Study sales cycles = ศึกษา (สังเกต) วงจรการขาย
...
(3). Make a cut = ตัดคูปองลดราคา
...
(4). Don't prejudge = อย่าเพิ่งพิพากษา (pre- = ก่อน; judge = พิพากษา ตัดสิน)
-
ซูเปอร์มาร์เกตมักจะแบ่งเป็น 2 ประเภทได้แก่ ประเภท "ถูกทุกวัน (EDLPs = Everyday low prices)" กับประเภท "ราคาขึ้นๆ ลงๆ (high-lows / ไฮโล)" ซึ่งอาจมองดูหรูกว่าสักหน่อย ทำให้พวกเรามักจะพิพากษา หรือตัดสินไว้ก่อน (prejudge) ว่า "ร้านนี้แพง"
-
ซูเปอร์มาร์เกตประเภท "ถูกทุกวัน (EDLPs)" มักจะตั้งราคาให้ต่ำหน่อยตลอดปี ทำให้เป็นร้านค้ายอดนิยม ทว่า... ถ้าติดตามข้อมูลข่าวสารดีๆ เช่น หนังสือพิมพ์ ฯลฯ ร้านค้าที่ดูหรู (high-lows / ไฮโล) ก็มีช่วงลดราคาเหมือนกัน และมักจะลดราคาต่ำกว่าร้านประเภท "ถูกทุกวัน" เสียด้วย
...
(5). Patrol the border = ตระเวน (ตรวจ) ชายแดน (patrol = ตรวจตรา)
-
สินค้าแพงๆ มักจะตั้งไว้ตรงกลาง หรือที่ๆ เดินเข้าไปแล้ว "เตะตา" หรืออยู่ "พบเห็น" ตั้งแต่แรก ของที่ถูกหน่อยหรือแบรนด์ (brands = ยี่ห้อหลายยี่ห้อ) ที่ไม่ดังเท่าไหร่มักจะอยู่บริเวณ "ชายขอบ" หรือ "บริเวณชายแดน" (ขอบนอก) ของร้าน
-
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะซื้ออะไร... อย่าลืมสำรวจสินค้ากลุ่มเดียวกันให้หมด (ซ้ายสุดจรดขวาสุด) แล้วเปรียบเทียบกันก่อนว่า แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน อย่าเพิ่งซื้อสินค้าชนิดแรกที่ "สบตา" กันพอดี
...
(6). Look high, then low = มองสูง แล้วมองต่ำ
-
สินค้าที่อยู่ในระดับสายตามักจะต้องเสียค่า "ขึ้นหิ้ง" สูงกว่าสินค้าที่อยู่สูงกว่า หรือต่ำกว่าระดับสายตา
-
เวลาซื้อของ... อย่าลืมมองให้สูงขึ้น (สูงกว่าระดับสายตา) และมองให้ต่ำลง (ต่ำกว่าระดับสายตา) เพราะนั่นอาจทำให้พบสินค้าที่มีคุณภาพดี "ในราคาที่ประหยัดกว่า" ได้
...
(7). Take your pick of the litte = (บางที) สินค้าขนาดเล็กประหยัดกว่า
...
-
วิธีที่ดีคือ ให้พกเครื่องคิดเลข โทรศัพท์มือถือที่มีเครื่องคิดเลขไปด้วย แล้วคำนวณดูว่า แพ็คขนาดใดประหยัดกว่า ซึ่งอาจจะพบว่า ขนาดใหญ่ไม่ได้ประหยัดกว่าเสมอไป
-
สินค้าหลายอย่างซื้อทีละน้อยประหยัดกว่า โดยเฉพาะอาหารจานด่วน (ฟาสต์ฟูด) และขนมสำเร็จรูป... เนื่องจากคนเรามีแนวโน้มจะ "กินทีเดียวหมดเลย" แพ็คใหญ่ทำให้อ้วนได้ง่ายกว่า และลดความอ้วนได้ยากกว่าด้วย
...
(8). Get carded = ใช้บัตร (ดีไหม)
...
-
คนที่ "ใช้บัตร (เครดิต)" แล้วคุ้มมักจะเป็นคนที่มีฐานะการเงินมั่นคง (มีเงินเก็บอย่างน้อย 6 เดือนของรายจ่ายประจำ) มีรายได้ประจำสม่ำเสมอ ไม่มีหนี้ และอายุมากกว่า 35 ปี (คนที่อายุเกิน 35 ปีมักจะระมัดระวังเรื่องการเงินมากกว่าคนที่อายุน้อยกว่านี้)
-
คนที่ "ใช้บัตร (เครดิต)" แล้วขาดทุน หรือพอพกบัตรแล้ว "มือเติบ" ใช้เงินเกินตัว... มักจะขาดคุณสมบัติข้างต้น เป็น "คนรวยใหม่ (nouveau riche)" เช่น เพิ่งถูกลอตเตอรี เพิ่งได้รับมรดก เพิ่งมีฐานะดีขึ้น (เช่น อยู่ๆ ก็ขายที่ดินได้เป็นกอบเป็นกำ ฯลฯ) คนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน
...
(9). Find a peel deal = มองหา (มองให้เห็น) ต้นทุนของการบรรจุภัณฑ์หรือการหีบห่อ (peel = เปลือก หีบห่อ: deal = การซื้อขาย การจัดการ)
-
ผักผลไม้และสินค้าที่ซื้อเป็นชิ้นๆ ใส่ถุงมักจะมีราคาถูกกว่าผักผลไม้ที่ปอกเปลือก หรือบรรจุแพ็คพร้อมกิน
-
ทางที่ดีคือ ซื้อผลไม้ทั้งผล หรือซื้อผักไปล้างเอง หั่นเองที่บ้าน และที่ไม่ควรลืมคือ ผลไม้ทั้งผลดีกับสุขภาพมากกว่าน้ำผลไม้ เนื่องจากมีเส้นใย (ไฟเบอร์) ที่ช่วยให้อิ่มนาน ไม่หิวง่าย ดูดซับโคเลสเตอรอล ดูดซับสารพิษ และป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
...
(10). Meat and greet = เนื้อและการต้อนรับ
-
ต้นฉบับท่านว่า ร้านค้าในสหรัฐฯ จะมีกำหนดวันรับเนื้อจากผู้จัดส่ง (logistics / ลอจิสติก) เป็นระยะๆ ทำให้ราคาเนื้อไม่เท่ากัน วันแรกๆ จะแพงกว่าวันใกล้หมดอายุ หรือตอนใกล้ช่วงเปลี่ยนสินค้า
...
-
ราคาเนื้อในร้านเมืองไทยคงจะต่างกันไป ทว่า... การกินเนื้อให้น้อยลงสักครึ่งหนึ่ง หันไปกินโปรตีนอื่นๆ แทนสัก "ครึ่งหนึ่ง" น่าจะดี
-
คำแนะนำสุขภาพในสหรัฐฯ แนะนำให้ใช้โปรตีนเกษตร (ทำจากถั่วเหลือง) ถั่ว ไข่ และนมไขมันต่ำ (หรือนมไม่มีไขมัน) แทนเนื้อครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดได้มากขึ้นกว่ากินโปรตีนจากเนื้ออย่างเดียว และดีกับสุขภาพมากขึ้นด้วย
...
(11). Rethink frozen foods = คิดอีกครั้งก่อนซื้ออาหารแช่แข็ง (rethink = คิดซ้ำ; re- = อีกครั้ง; think = คิด; frozen = แช่แข็ง)
...
-
วิธีที่ประหยัดกว่าคือ การหัดทำอาหารสุขภาพอร่อยๆ กินเองที่บ้านให้มาก ห่อข้าวหรือพกปิ่นโตไปที่ทำงาน กินอาหารสำเร็จรูป-กึ่งสำเร็จรูป และกินข้าวนอกบ้านให้น้อยลง
-
ถ้าเมืองไทยมีโปรแกรมสอนการทำอาหารไทย และขนมไทยที่ดีกับสุขภาพในชั้นเรียนทุกระดับ และมีสถาบันสอนการทำอาหารสุขภาพ (รัฐอาจจะลดภาษีธุรกิจให้ภาคเอกชนที่เปิดสอน)... เมืองไทยเราจะก้าวไปสู่ความเป็นชาติที่มีสุขภาพดี (healthy nation) ได้เร็วขึ้นมากทีเดียว
...
(12). Mind the scanners = ใส่ใจเครื่องสแกน (จุดคิดราคาสินค้า)
...
-
การซื้อของก็เช่นกัน... เวลาพนักงานคิดเงินสแกน ควรใส่ใจราคาสินค้าบนเครื่องสแกนดีๆ เมื่อคิดเงินแล้วให้ตรวจดูรายการสินค้ากับใบเสร็จฯ ว่า ตรงกันหรือไม่ เนื่องจากอาจเกิดความผิดพลาดกันได้ เช่น ร้านค้าบางแห่งอาจโฆษณาไว้ถูกกว่าราคาขายจริง ฯลฯ จะได้ทักท้วงกันให้เรียบร้อย
-
การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นการสร้างนิสัย "รอบคอบ" ซึ่งเป็น 1 ในอุปนิสัยของคนที่ประสบความสำเร็จให้แข็งแกรงเสมอ
...
(13). Eat before you go = กินก่อนไป (ชอป)
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีความสุขกับการอยู่แบบพอเพียง และมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
...
ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา
หัวข้อเรื่องวันนี้คือ 'Slash Your Food Bill' แปลว่า "หั่น (เฉือน ลดราคา) บิลล์ (ใบเรียกเก็บเงิน) ค่าอาหารของคุณ"
ขอให้ย้ำเสียงหนัก (accent) ตรงเสียงตัวอักษรหนา (ขีดเส้นใต้) เสียงอื่นๆ พูดให้เบาลง ส่วนตัวเสียงที่ใช้อักษรเอียงให้พูดเบาๆ คล้ายเสียงกระซิบ
> [ FreeDictionary.com ]
ต้นฉบับพจนานุกรม freedictionary.com แสดงความหมายของคำ 'slash' หรือการเฆี่ยนตีไว้ดังภาพ มีความเป็นไปได้ที่คำนี้จะมาจาก "เสียงธรรมชาติ" คือ เสียงสะบัดของหนังหรือแซ่ที่ใช้ในการเฆี่ยนตี
ภาษาไทยเรานิยมแปลคำนี้ (slash) ว่า "กระหน่ำ! ลดราคา" นั่นเอง
...
ที่มา
-
Thank AARP > Melissa Gotthardt. Slash Your Food Bill > [ Click ] > January & February 2008.
-
ขอขอบพระคุณ > อ.นพ.ศิริชัย ภัทรนุธาพร สสจ.ลำปาง + อ.นพ.โอฬาร ยิ่งเสรี ผอ.รพ.ห้างฉัตร + อ.อรพินท์ บุญเสริม + อ.อนุพงษ์ แก้วมา > สนับสนุนเทคนิค iT.
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง > สงวนลิขสิทธิ์ > ยินดีให้ท่านนำไปใช้เผยแพร่ความรู้ได้ ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > 24 มกราคม 2552.