18 วิธีดูแลสุขภาพยามวิกฤต(ติดคุก/พบคนใจร้าย)
...
ภาพที่ 1: แผนที่ความชุกนักโทษต่อประชากร 100,000 คน เรียงตามแถบสีในล้อมกรอบทางซ้าย จะเห็นว่า สหรัฐฯ รัสเซีย แอฟริกาใต้ เอเชียกลาง และยุโรปตะวันออกมีความชุกสูงสุด > Thank [ Wikipedia ]
...
ภาพที่ 2: แผนที่ความชุกนักโทษต่อประชากร 100,000 คน > Thank [ Wikipedia ]
สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจด้านจำนวนคนคุก หรือนักโทษอันดับ 1 ของโลก มีค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อนักโทษสหรัฐฯ = $65.41/วัน = 2,289.35 บาท/วัน; $23,876/ปี = 835,660 บาท/ปี [ Wikipedia ]
...
ปี 2545 นักโทษสหรัฐฯ 93.2% เป็นผู้ชาย, กลุ่มที่ติดคุกมากที่สุด คือ คนผิวดำ (อาฟริกัน-อเมริกัน) ซึ่งติดคุกมากถึง 10.4% ในช่วง 25-29 ปี มากกว่าคนฮิสพานิค (อพยพจากทางใต้ คือ เม็กซิโก อเมริกากลาง-ใต้) = 2.4% และคนผิวขาว = 1.3%
สรุปคือ คนสหรัฐฯ ในช่วงวัยเบญจเพส 25-29 ปี ถ้าผิวดำ 10 คนมีโอกาสติดคุก 1 คน, ถ้าผิวขาว 100 คนมีโอกาสติดคุก 1 คน
...
ปี 2548 คนสหรัฐฯ 1 ในทุกๆ 136 คนติดคุก ขยันติดคุกกันจนมียอดรวมนักโทษ 2,320,359 คน
...
ภาพที่ 3: ประเทศในกลุ่มอาเซียน... พี่ไทยมีความชุกของคนคุกมากที่สุด กลไกที่เป็นไปได้ คือ มีนักโทษคดียาเสพติดสูงกว่าประเทศอื่นๆ > Thank [ Wikipedia ]
ลักษณะที่ไทยกับสหรัฐฯ มีความคล้ายกัน คือ อยู่ติดประเทศเพื่อนบ้านที่ประชาชนมีฐานะเฉลี่ยยากจน และมีการนำเข้ายาเสพติด
...
ภาพที่ 4: ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านฐานะ (คนรวย-คนจน) น้อย ไม่มีประเทศเพื่อนบ้านที่ยากจน (เป็นส่วนหนึ่งของปัจจัยที่ทำให้เกิดการค้ายาเสพติด) และยาเสพติดน้อย เช่น ยุโรป แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฯลฯ มีสัดส่วนคนติดคุกน้อย > Thank [ Wikipedia ]
ตรงกันข้ามกับสหรัฐฯ, รัสเซีย, อาฟริกา ซึ่งมีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวเพียบ มีสัดส่วนคนติดคุกมาก
...
ภาพที่ 5: ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา... สหรัฐฯ มีประชากรนักโทษเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
...
ภาพที่ 6: ปี 2549 คนสหรัฐฯ ที่ได้รับการลงโทษด้วยการภาคทัณฑ์หรือทัณฑ์บน (parole), ติดคุก (prison / jail), และการคุมประพฤติ (probation) มากกว่า 7.2 ล้านคน คิดเป็น 2.4% ของประชากรทั้งหมด หรือ 1 ใน 42 ของประชากรผู้ใหญ่
สมมติว่า เราอยู่ในหมู่บ้านหนึ่งในสหรัฐฯ ที่มีประชากร 100 คนจะมีคนคุกประมาณ 2 คนครึ่ง
...
ภาพที่ 7: ไม่ว่าจะเทียบกับประเทศอะไร... ประชากรสหรัฐฯ ก็ติดคุกในสัดส่วนสูงผิดปกติ > Thank [ AustrianAddiction ]
...
ภาพที่ 8: ประเทศมหาอำนาจด้านคนคุกได้แก่ สหรัฐฯ จีน รัสเซีย อินเดีย บราซิล และ... ไทย
...
ภาพที่ 9: ประเทศมหาอำนาจด้าสัดส่วนคนคุกสูง (คิดเป็นหัวต่อประชากรแสนคน) ได้แก่ สหรัฐฯ, รัสเซีย, เบลารุส, ปาเลา(หมู่เกาะแปซิฟิค), เบลิซ, ซูรินัม
ไทยอยู่อันดับที่ 17 สัดส่วนคนคุกแพ้สิงคโปร์ซึ่งอยู่อันดับ 12
.............................................................................
กรมราชทัณฑ์จัดการสัมมนาเรื่อง "นักโทษล้นคุก วิกฤตสังคมไทย" ซึ่งอาจารย์กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า จำนนผู้ต้องขังของไทยสูงเป็นอันดับ 4 ในเอเชีย รองจากคาซัคสถาน ไต้หวัน และสิงคโปร์
สถิตินี้น่าจะเป็นสัดส่วนคนติดคุกต่อประชากร (ภาพที่ 9)
...
นักโทษแต่ละรายมีค่าใช้จ่ายในการควบคุม 16,000 บาท/ปี ในจำนวนนี้เป็นนักโทษที่รอการพิจารณาคดี 28%, ติดคุกต่ำกว่า 5 ปี 55%
คาดว่า อีก 2 ปีข้างหน้าจะมีนักโทษเกิน 200,000 ราย (สถิติต่างจาก [ NationMaster ] เล็กน้อย)
...
ถ้านำตัวเลข 16,000 บาท/ปี คูณ 200,000 ราย = 16,000 x 200,000 = 3,200 ล้านบาทต่อปี เงินจำนวนนี้ก็จะมาจากภาษีอากรของคนไทย
ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะใช้วิธีการคุมประพฤติแบบเข้มข้น ให้ทำงานรับใช้สังคม ใช้เทคโนโลยีไฮเทคในการติดตามตัวหรืออะไรทำนองนี้แทนการจำคุกเป็นบางส่วน หรือยกเลิกค่าปรับบางส่วน เนื่องจากนักโทษส่วนหนึ่งติดคุกจากการไม่มีเงินค่าปรับ
...
สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อนักโทษสหรัฐฯ = $65.41/วัน = 2,289.35 บาท/วัน; $23,876/ปี = 835,660 บาท/ปี [ Wikipedia ]
ส่วนอาจารย์อิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวเปิดโครงการ "พลังแม่ พลังครอบครัว เป็นรั้วป้องกันยาเสพติด" (24 มิย. 52) ว่า
...
ปี 2550 มีอาชญากรรมเพิ่มขึ้น โดย 85% มาจากครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น แตกแยก ใช้ความรุนแรงต่อกัน (ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการดื่มเหล้า หนี้สินเกินตัว)
ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจประมาณ 36,687 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.5% GDP (ผลผลิตมวลรวมในประเทศ)
...
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกปี 2549 พบหญิงไทยถูกทารุณกรรมจากสามีติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกได้แก่ บังกลาเทศ บราซิล เอธิโอเปีย ญี่ปุ่น นามิเบีย เปรู ซามัว เซอร์เบีย ไทยและแทนซาเนีย
ทีนี้สมมติว่า พวกเราท่านใดท่านหนึ่งเกิดพลาดพลั้งตกระกำลำบาก เข้าไปในคุก หรือชีวิตพบวิกฤตรุนแรงจะทำอย่างไร เรื่องนี้อาจารย์นิค คลาร์ค (Nick Clarke) แนะนำวิธีดูแลสุขภาพท่ามกลางวิกฤตไว้
...
ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังแบบ "ไทย(มาก)คำ-อังกฤษ(น้อย)คำ" เพื่อให้พวกเราได้เรียนภาษาอังกฤษไปพร้อมกัน
ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นคำแนะนำสำหรับน้องใหม่เรือนจำ(คนคุก) ทว่า... เรื่องนี้ให้ข้อคิดดีๆ สำหรับชีวิตในโลกจริงได้มาก
...
ชีวิตทุกวันนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีคนที่พร้อมจะหาความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น ซึ่งเราจะต้องแกร่งพอ จึงจะไม่
...
(1). Be respecful to other prisoners = จงนอบน้อม (เคารพ) ต่อผู้ต้องขังรายอื่นๆ
-
เรื่องนี้อาจารย์กังฟูในหนังเรื่องหนึ่งสอนไว้ว่า "หลีกเลี่ยงดีกว่าต้านทาน" เพราะถ้ากร้าวแกร่งมากเกินไปจะยิ่งสร้างศัตรูในหมู่โจร ซึ่งบางที่บางถิ่นอาจทำให้พิการ หรือตายได้
(2). Don't stare at a fellow prisoner = อย่ามองหน้าขาใหญ่
-
การมองหน้าคนอื่นในท่ามกลางวิกฤตอาจทำให้ได้ศัตรู หรือบางทีอาจจะเกิดปิ๊งกัน กลายเป็น "เพื่อนรักที่ไม่ธรรมดา" หรือกิ๊กของขาใหญ่ในคุก ซึ่งขนพองสยองเกล้าทั้งสองทาง
(3). Don't become a target = อย่าตกเป็นเหยื่อ (เป้านิ่ง)
-
ไม่ว่าจะเป็นคุกหรือชีวิตจริง เช่น ที่ทำงาน ละแวกบ้าน ฯลฯ... คนเราจะมีการ "จัดอันดับ" อยู่เสมอ ยิ่งแสดงความอ่อนแอออกมามาก... ยิ่งถูกรังแกมาก
-
ถ้ามีการเผชิญหน้ากันขึ้น และถูกทำร้าย อาจจะต้องสู้ เพราะถ้าครั้งนี้เจ็บจะหมายถึงเจ็บครั้งต่อๆ ไป เนื่องจากในคุก
...
-
โลกเรามีคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นมากมาย (นอกคุกก็มาก)... อาจารย์คลาร์คจึงแนะนำให้สู้ถ้าจำเป็น เรื่องนี้จะสมควรหรือไม่อย่างไร ขอให้ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์
-
อาจารย์มวยไทยท่านหนึ่งกล่าวว่า โอกาสแพ้ชนะของนักมวยขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญ 3 ประการได้แก่ แรง, ความมั่นใจ และไหวพริบ (รวมทักษะทางการต่อสู้)
...
-
ไม่ว่าจะสู้ หนี หรือยอมเจ็บไปเรื่อยๆ... คนที่ฟิตมากกว่า (แรงดี แข็งแรง) มีแนวโน้มจะได้เปรียบเสมอ
...
(4). Don't be a snitch = อย่าเป็นสาย ฟ้องนาย หรือทำตัวเป็นคนขี้ฟ้อง
-
ถ้าเห็นอะไรไม่ถูกต้อง เช่น การค้ายา การทุบทำร้ายกัน ฯลฯ ให้รีบเดินไปให้ไกล ถ้าไม่อยากถูกเก็บหรือปิดปาก
(5). Assess who you can trust = แยกแยะว่า ใครไว้ใจได้
-
ถ้ามีคนบอกจะให้ความคุ้มครอง... อย่าเพิ่งโผไปทางนั้น ให้รอดูดีๆ ก่อนสัก 2-3 วัน เพราะโลกนี้ไม่ใช่โลกที่ตรงไปตรงมา
(6). Take nothing on credit = อย่าใช้เครดิต
-
การใช้เครดิตหยิบยืมอะไร ไม่ว่าจะเป็นยา อาหาร นิตยสาร กระดาษชำระ หรืออะไร... จะทำให้คุณเป็นหนี้
-
การเป็นหนี้นอกระบบ (ไม่ว่าจะในคุกหรือนอกคุก) มักจะต้องใช้หนี้ราคาแพงพร้อมดอกเบี้ยสุดโหด เช่น อาจจะต้อง "ขายตัว" ใช้หนี้ไปเรื่อยๆ ฯลฯ
-
จำไว้ว่า "คุก (หรือแม้แต่ที่ทำงาน หรือสถานที่นอกคุกอีกหลายๆ แห่ง) ใช้เกมส์แห่งอำนาจ" เพราะฉะนั้นต้องอยู่แบบพอเพียงให้ได้... ไม่พอก็ต้องพอ
(7). Avoid becoming a fellow inmate's "girlfriend" = หลีกเลี่ยงการเป็นแฟนหรือกิ๊กของคนคุก
-
การเป็นแฟนกันไม่ว่าจะที่ไหนก็เอาแน่เอานอนได้ยากทั้งนั้น ยิ่งในคุกนี่... ใครเป็นแฟนหรือกิ๊กของขาใหญ่อาจจะถูกขายทอดตลาดไปเรื่อยๆ เช่น ขาใหญ่อาจจะขายคุณแลกกับบุหรี่สักซอง ฯลฯ
(8). Passing the time = ให้เวลามันผ่านไป (อย่างมีค่า)
-
ถ้ามีโอกาส... อย่าทำตัวให้ว่าง เพราะยิ่งว่างยิ่งฟุ้งซ่าน หาอะไรทำ เช่น อ่านหนังสือ ฯลฯ และถ้ามีโอกาสเรียนหรือฝึกงาน ให้เรียนและฝึกงานอย่างจริงๆ จังๆ
-
ความรู้ความสามารถ และความใฝ่รู้อยู่เสมอจะช่วยรักษา "ความเป็นคน" ไว้ และทำให้ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ ได้ดีกว่าคนที่ทำตัวเรื่อยเปื่อย หรือ "อยู่ไปวันๆ"
...
-
คนจำนวนมากปล่อยให้เวลาผ่านไปด้วยการนอนกับดู TV... เมื่อพ้นโทษหรือพ้นช่วงวิกฤตในชีวิตจะทำอะไรต่อไปไม่ถูก
-
จำไว้ว่า เวลามีค่า ไม่ว่าจะในคุกหรือนอกคุก
...
(9). Preserving your mental health = รักษาสุขภาพจิต
-
คนในคุกมักจะมีปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าคนนอกคุก คนนอกคุกที่พบวิกฤตชีวิตก็เช่นเดียวกัน...
-
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีคนประเภท "หน้าปราศรัย น้ำใจเชือดคอ (ปากหวาน ใจร้าย)" หรือคนประเภท "ปากร้าย-ใจร้าย" ที่พร้อมจะใช้คำพูดทำลายคนอื่นเสมอ
...
-
ชีวิตคนเราไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกคุก... หนีคน 2 พวกนี้ไม่พ้น พวกหนึ่งพูดดี (ใจร้าย), อีกพวกหนึ่งปากร้าย (แถมใจร้ายกว่าปาก)
-
อาจารย์คลาร์คกล่าวว่า "It’s little wonder why some prisoners are put on suicide watch; after days of being told they’re useless, they come to believe it."
...
-
แปลว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมนักโทษบางคนถึงได้ฆ่าตัวตาย เพราะมีคนรอบข้าง (ทั้งนักโทษด้วยกัน และผู้คุม) พูดย้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า เป็นคนไม่มีค่า (useless) จนกระทั่งวันหนึ่งนักโทษก็เชื่อ (และฆ่าตัวตาย)"
-
ชีวิตจริงนอกคุกก็เป็นแบบนี้ คือ มีคนที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นที่จะพูดบอก และตอกย้ำว่า "คุณไม่มีค่า"... ถ้าเชื่อเมื่อไหร่ คุณจะเป็น 1 ในคนที่เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
...
-
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เราจะต้องฝึกคลายเครียดให้ได้ และต้องมีดีของเราเก็บไว้ในใจเสมอ เช่น ก่อนนอนทุกวันให้ทบทวนว่า วันนี้-สัปดาห์นี้-เดือนนี้-ปีนี้-สิบปีนี้-ชีวิตนี้เราได้ทำความดีอะไรไว้บ้าง ฯลฯ
-
ถ้าเราไม่ทบทวนประวัติการทำดีของเราบ่อยๆ... ใจเราอาจจะหลงเชื่อคารมพวกใจร้าย เริ่มซึมเศร้า และเริ่มเสี่ยงฆ่าตัวตาย
...
(10). Believe in yourself = เชื่อมั่นในตัวเอง
-
ความคิดในด้านลบภายในมักจะทำให้คุณสงสัยตัวเอง แต่อย่าปล่อยให้มันผลิดอกออกใบ และกัดกินตัวคุณแบบพยาธิ มะเร็ง หรือต้นไทรที่ยิ่งโตยิ่งกลืนกินต้นไม้ที่มันอาศัย
-
อธิบายกับตัวเองให้ได้ว่า เรามีอะไรดี (ไม่มีใครที่ไม่เคยทำอะไรดีๆ มาเลยแม้แต่ครั้งเดียวตลอดชีวิต)... เราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่เราก็ทำตัวเราให้ดีเวลานี้ได้ และใช้อนาคตดีๆ ได้ด้วย
...
-
ลองมองย้อนกลับไปในอดีตว่า เราอยากจะเป็นคนดีแบบไหน คนดีแบบไหนเป็นคนดีในหัวใจของเรา
-
ถึงเวลานี้เราจะยังมีดีแบบนั้นไม่ได้... แต่ถ้าคิดถึงคนดี คิดถึงการทำดีบ่อยๆ เราจะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะ "คนเรามักจะทำอะไรดีๆ ได้มากกว่าที่คิดไว้เสมอ"
...
-
เรื่องที่ไม่ควรลืมคือ คนเกือบทุกคนในโลกเป็นที่รักของคนอื่นเสมอ ถ้าไม่มีใครรักจริงๆ... คนเกือบทุกคนก็ยังมีแม่มีพ่อที่รักเรา
-
หรือถ้าเกิดมากำพร้าจริงๆ ก็ต้องรักตัวเองให้เป็น เพราะ "ไหนๆ ก็ไหนๆ" แล้ว จนตรอกแล้ว ถึงตรงนี้ต้องรักตัวเองให้เป็นด้วยการทำตัวให้ค่าให้ได้
...
(11). Try not to worry about anything you can't control = พยายามอย่าไปกังวลกับเรื่องที่คุณควบคุมไม่ได้
-
อาจารย์คลาร์คยกเพลงตอนหนึ่งที่ว่า 'What will be, will be.' = "อะไรจะเกิด (ถ้าเหตุปัจจัยพร้อม), มันก็จะเกิด"
-
ชีวิตคนเราแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านที่เราควบคุมได้กับควบคุมไม่ได้ ซึ่งเราจะต้องเลือกทางเดินให้ได้
...
-
คนที่ประสบความสำเร็จและมีความสุข มักจะพยายามเต็มที่ในด้านที่เรา "ควบคุมได้" ด้านเดียว
-
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จและมีความทุกข์ มักจะพยายามเต็มที่ในด้านที่เรา "ควบคุมไม่ได้" ด้านเดียว
...
-
คนที่ประสบความสำเร็จและมีความทุกข์ มักจะพยายามเต็มที่ทั้ง 2 ด้าน
-
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จและไม่ค่อยมีความทุกข์ มักจะไม่พยายามทั้ง 2 ด้าน (ไม่ค่อยมีความทุกข์ระยะสั้น แต่จะมีความทุกข์ระยะยาว เช่น ยากจน เป็นหนี้ ติดเหล้า ติดยา อดตาย ฯลฯ)
...
(12). Keep up prayer and meditation = สวดมนต์และทำสมาธิ
-
ไม่ว่าชีวิตจะโหดร้ายหรือไม่เพียงไร... ขอให้พยายามหาความสุขง่ายๆ จากภายในให้ได้ เช่น สวดมนต์ ทำสมาธิ ฯลฯ (ถ้าทำได้ และไม่ถูกหมั่นไส้)
(13). Preserving your physical health = ใส่ใจสุขภาพทางกาย
-
ออกกำลัง ทำตัวให้แข็งแรงเข้าไว้ จะได้มีแรงไว้สู้กับโลกอันชั่วร้ายต่อไป
-
ไม่ว่าจะทำอะไรดีๆ หรือต่อต้านการก่อการร้ายๆ ของใครสักคน... คนที่แข็งแรงและแข็งแกร่งพอเท่านั้นที่จะอึด ฮึดสู้กับมัน (และพวกมัน) ได้
...
(14). Look after your personal hygiene = ดูแลอนามัยส่วนตัวให้ดี
-
ถ้ามีโอกาส... อาบน้ำ แปรงฟัน ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ โกนหนวด หวีผม เพราะนี่จะเป็นการสื่อสารว่า เรายังไม่ยอมแพ้
-
แต่ถ้าปล่อยตัวหดหู่ ซึมเซา เน่าในเมื่อไร... มันจะดูเหมือนคนขี้แพ้ และนั่นจะนำไปสู่ร่องแข้งของพวกคนใจร้าย (หมายถึงพวกคนใจร้ายจะได้ใจ และยิ่งแกล้ง รังแกหนักข้อขึ้นไปอีก)
...
(15). Make sure your living quarters are clean = ทำให้แน่ใจว่า ที่อยู่ของเราสะอาด
-
ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกคุก... ที่อยู่ของเราควรจะสะอาดพอประมาณ เพื่อป้องกันไม่ให้ป่วยจากสัตว์ร้าย เช่น ฉี่หนู ฯลฯ
-
เพราะการเจ็บป่วยแต่ละครั้งมักจะทำให้เราอ่อนแอไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งพวกใจร้ายจะมองเห็นช่องทาง และถือโอกาสกลั้นแกล้งเราทันที
...
(16). Give up your vices = กำจัดจุดอ่อน
-
ถ้ารู้ว่า วิกฤตชีวิตกำลังใกล้เข้ามา เช่น จะติดคุก ฯลฯ ต้องกำจัดจุดอ่อนให้ได้ โดยเฉพาะต้องเลิกเหล้า ยา(เสพติด) บุหรี่ก่อนเข้าไป
-
การเสพติดอะไรสักอย่างจะเป็นจุดอ่อน และเปิดโอกาสให้พวกใจร้ายกลั่นแกล้งได้ง่าย หรือไม่ก็อาจจะหาเงินมาไม่พอซื้อหาในคุก ใช้เครดิต (ข้อ 6) และกลายเป็นคนของใคร (เจ้าของเครดิต) หรือทาสกามของคนอื่นได้
(17). Keep eating habits to a minimum inside prison = กินพอประมาณ อย่าให้อ้วน
-
อาหารในคุกมักจะมีไขมัน และมีกำลังงานสูง เพื่อให้คนคุกดูอ้วนท้วนเวลาผู้ใหญ่มาตรวจ
-
ดื่มน้ำให้พอ กินผัก และผลไม้ทั้งผล (ถ้าทำได้)
(18). Release date = วันพ้นโทษ
-
ถ้าวันพ้นโทษของคุณใกล้จะมาถึง... อย่าบอกใคร เพราะคนใจร้ายบางคนกำลังมองหาความสุขจากการทุบตี หรือทำอะไรสะใจเป็นการสั่งลา แม้แต่เพื่อนก็อย่าบอก
-
อาจารย์คลาร์คแนะนำว่า...
...
-
"Remember: Nobody is your friend inside prison. More to the point, don’t say any emotional goodbyes to anyone -- you certainly don’t want to maintain friendships with them on the outside and have them turning up on your doorstep when they’re released."
-
จำไว้ว่า "ในคุกไม่มีใครเป็นเพื่อน" จุดนี้คือ อย่าไปร่ำลาใคร -- ถ้าไม่อยากให้ (คนที่คุณไปร่ำลา) แวะไปที่บ้านตอนพ้นโทษ"
...
อาจารย์คลาร์คกล่าวว่า 'There is no life inside jail -- just survival.' = "ในคุกไม่มีชีวิต -- มีแต่การเอาตัวให้รอด"... ถ้ารอดมาได้โดยไม่ช้ำในหนักก็ถือว่า เก่งมากๆ แล้ว
ชีวิตจริง... ไม่ว่าจะในหรือนอกคุก... คนส่วนใหญ่ต่างมีวิกฤตชีวิตกันมาทั้งนั้น รอดพ้นจากวิกฤตมาจนถึงลมหายใจนี้ได้ก็เก่งมากแล้ว
...
ขอให้พวกเราทำอะไรดีๆ ให้ได้ทุกวัน ก่อนนอนจะได้มีเรื่องดีๆ ไว้คุยกับตัวเองว่า วันนี้-เดือนนี้-ปีนี้-สิบปีนี้-ชีวิตนี้เราได้ทำอะไรดีๆ มาแล้ว และไม่ว่าพวกใจร้ายจะบอกว่า "เราไม่มีค่า" อย่างไร เราก็จะยัง "มีค่า" ต่อไป
คนส่วนใหญ่เลือกเกิดไม่ได้ เลือกอดีตไม่ได้ แต่เลือกที่จะอยู่กับปัจจุบันได้ เลือกที่จะทำอะไรดีๆ กับตัวเราได้ และเลือกที่จะมุ่งมั่น ใฝ่ฝันถึงอนาคตที่ดีได้
...
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
> [ เนชั่นทันข่าว ]; [ NationMaster ]; [ NationMaster ]; [ AskMen ]; [ ไทยรัฐออนไลน์ ] นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง 24 มิถุนายน 2552.
ที่มา
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น