43 วิธีพัฒนาบุคลิก + สรรหามิตรภาพ(ตอน 1)


   [ state.md.us ]

ศาสตราจารย์ริชาร์ด ไวส์แมน ผู้เชี่ยวชาญสาขาจิตวิทยา ผู้เขียนหนังสือเรื่อง 'Think A Little Change A Lot' = "คิดเล็กๆ (ที่ทำให้) เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่" แนะนำวิธีทำตัวให้อายุยืนอย่างเป็นสุข ตีพิมพ์สรุปย่อใน 'MailOnline' ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

...

(1). Find Happiness = แสวงหาความสุข                

...

(1.1). keep a diary = เขียนไดอารี

  • แทนที่จะบ่นไปเรื่อยๆ จนคนรอบข้างหนีหายไปหมด ให้ลองเขียนไดอารี หรือบันทึกความจำ ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นทั้งกายและใจ, ถ้ากลัวความลับจะรั่วไหลละก็... เขียนแล้วฉีก แช่น้ำ แล้วเหยียบซ้ำเสียเลยก็ไม่แปลกอะไร

(1.2). smile, sit up and act happy = ยิ้ม นั่งลง แล้วทำตัวให้มีความสุข

  • ถึงใจจะทุกข์ แต่ถ้าอยากให้มีความสุขก็ต้องลงมือทำดู เริ่มจากยิ้ม 2-3 วินาที นั่งตัวเกือบตรง ทำตัวให้ร่าเริง, 
  • อย่าทำตัว "ไหลห่อ-หลังงุ้ม-กุม...-คอตก (โปรดเติมคำในช่องว่าง + ห้ามคิดมาก)" แล้วความสุขมันจะค่อยๆ ซึมซาบเข้ามาเอง

(1.3). buy experiences, not things = ซื้อประสบการณ์, อย่าซื้อของ

  • การไปช็อปปิ้งทำลายความเศร้า สร้อย หงอย เหงาดูเหมือนดี แต่ผลการศึกษาพบว่า คนเราจะรู้สึกดีขึ้นกว่านั้นมาก... ถ้าหยุดช็อป
  • เก็บสตางค์ไปเที่ยว ศึกษาหาความรู้แบบที่ชอบ ฟังเพลงนอกบ้าน ออกไปเดินกับน้องหมา หรือหาอาหารสุขภาพสักมื้อกับเพื่อนที่รู้ใจ
  • การซื้อเสื้อผ้า รองเท้า หรือเครื่องใช้ไม้สอยใหม่ๆ มักจะทำให้คนเรารู้สึกดีขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ หลังจากนั้นก็เหี่ยวลงไปอีก ไม่เหมือนประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น ไปเที่ยวในที่ที่ปลอดภัย ให้เวลากับเพื่อน หรือน้องๆ (แมว แมว ปลา ฯลฯ) แบบนี้ทำให้มีความสุขนานกว่า

...

(2). Become Persuasive = ทำตัวให้ถูกชังจูงไปในทางที่ดี (น้อมไปสู่กระแสแห่งความสุข)

...

(2.1). take centre stage = อยู่ตรงกลาง

  • การศึกษาที่ผ่านมาพบว่า คนสำคัญมักจะนั่งอยู่ตรงกลางมากกว่าอยู่ริมๆ, ถ้าอยากจะหาเพื่อน หาคู่ หรือหาคนที่รู้ใจ... ให้นั่งตรงกลางไว้ก่อน, ถ้าอยากอยู่แบบเดิมๆ ให้นั่งที่เดิม ให้ไกลแสนไกลจากผู้คน

(2.2). ask for a favour = ขอความช่วยเหลือ

  • การศึกษาพบว่า คนที่กล้าออกปากขออะไรเล็กๆ น้อยๆ ในรูป "ขอความช่วยเหลือ" มักจะเป็นที่ประทับใจของผู้ให้
  • ที่สำคัญคือ ให้ขอความช่วยเหลือ "เล็กๆ", อย่าไปขออะไรมากเกิน บ่อยเกิน หรือไปขอของที่คนอื่นแสนหวง เพราะนั่นจะทำลายมิตรภาพแทบจะในทันที 

(2.3). make mistakes = ทำผิดเล็กๆ

  • คนเกือบทั้งหมดไม่ชอบ "คุณสมบูรณ์แบบ (perfection)" เช่น คนสวย หล่อ หรือดูดีไปหมดจากปลายผมจรดส้นเท้า ฯลฯ
  • การกล้าทำอะไรผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ดูเป็นผู้เป็นคน (make your more human) และดูเป็นคนอบอุ่น (warmer) มากขึ้น
  • ถ้าจะให้ดูดีขึ้น... ทำผิดนิดๆ แล้วต้องกล้า "ขอโทษ" ด้วย เพราะคนส่วนใหญ่ชอบคำ "ขอโทษ"
  • และที่สำคัญ คือ อย่าทำผิดเรื่องใหญ่ๆ หรือทำผิดเล็กๆ บ่อยเกิน เช่น ปล่อยให้รังแคร่วงลงบนไหล่เกิน 10 จุด ฯลฯ ในเวลาสำคัญ

(2.4). gossip positively = ซุบซิบอย่างสร้างสรรค์ (เชิงบวก)

  • การศึกษาพบว่า ผู้ฟังมีแนวโน้มจะมองคนนินทาว่า "เป็นพวกเดียวกัน(กับคนถูกนินทา)" เลยเช่น มองคนที่ชอบนินทาความล้มเหลวของคนอื่นว่า เป็นพวกที่ล้มเหลวในชีวิตคล้ายๆ กัน ฯลฯ
  • ทางที่ดีคือ ซุบซิบอย่างสร้างสรรค์ (เชิงบวก) โดยทำเรื่องการทำดี ความสำเร็จ หรือความคิดสร้างสรรค์ของคนๆ หนึ่งไปบอกต่อคนอื่น... แล้วคนฟังจะเริ่มมองว่า คุณเป็นคนดีแบบนั้นเหมือนกัน
  • ที่สำคัญคือ การซุบซิบอย่างสร้างสรรค์มีส่วนทำให้คนเรามีความสุขเดี๋ยวนั้นทันที ไม่เหมือนการนินทาใส่ร้ายที่จะทำลายทุกฝ่ายไปอีกนาน

(2.5). dine out = ออกไปกินข้าวนอกบ้าน

  • อาหารดีๆ มักจะทำให้คนที่กินข้าวด้วยกันรู้สึกดีๆ... ถ้าอยากรู้จักเพื่อน หรือคนที่รู้ใจก็ควรกล้าออกไปกินข้าวนอกบ้านบ้าง
  • แม้แต่คนที่แสนจะพิถีพิถันเรื่องสุขภาพ... ถ้าเตรียมอาหารไปกินนอกบ้านบ้างก็ยังทำให้โอกาสรู้จักใครต่อใครมากขึ้นมากกว่ากินข้าวที่บ้านทุกมื้อ และทุกวัน

...

(3). Get Motivated = สร้างแรงจูงใจ                    

...

(3.1). quit fantisising = หยุดฝันกลางวัน

  • การศึกษาพบว่า การฝันกลางวันทำให้ฝันนั้นๆ มีโอกาสเป็นจริงน้อยลง ทางที่ดีกว่า คือ หยุดฝันกลางวัน แล้วมองว่า จะทำอย่างไรให้ฝันกลายเป็นจริงให้ได้ทีละน้อย

(3.2). make plans = วางแผน

  • ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ทำให้แผนการประสบความสำเร็จได้มีอยู่ 6 ปัจจัยได้แก่ (1). เขียนลงไป (เป็นลายลักษณ์อักษร), (2). บอกเพื่อนๆ หรือคนที่ไว้ใจได้ (ว่าจะทำ), (3). ทำตารางเวลาว่า จะทำอะไรก่อน-หลัง, ...
  • (4). แบ่งงานเป็นขั้นเป็นตอน, ให้รางวัลตัวเองทุกขั้นตอนที่ทำสำเร็จ, และ (5). เตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ประโยชน์ที่ได้จากเป้าหมายนี้คืออะไร

(3.3). sieze the day = เริ่มต้นวันนี้

  • สำหรับนักผลัดวันประกันพรุ่ง... ผลการศึกษาพบว่า ถ้าเริ่มต้นทำเสียแต่วันได้ โดยรีบทำเรื่องที่ไม่อยากทำให้ได้ 2-3 นาทีแรก ตรงนั้นจะยากที่สุด
  • เมื่อทำ 2-3 นาทีแรกได้... จะรู้สึกราวกับทำสำเร็จไปกว่าครึ่ง และทำส่วนที่เหลือเสร็จได้ภายในเวลาไม่นาน
  • เพราะฉะนั้นถ้าจับได้ว่า ตัวเราเป็น "นักวิ่งผลัดฯ" ควรรีบทำตัวให้เป็นนักวิ่งผลัดคนแรกในทีม (starter) หยุดฝัน แล้วฝืนทำไปให้ได้ 2-3 นาที หลังจากนั้น... งานจะง่ายขึ้นแยะเลย

(3.4). write your own eulogy = เขียนคำสดุดีตัวเอง (เป็นคำกล่าวสรรเสริญที่ใช้ในงานศพ)

  • ลองเขียนคำสดุดีตัวเอง จดลงไปว่า คุณอยากได้ยินคำสดุดี หรือคำกล่าวเกียรติคุณว่า คุณประสบความสำเร็จอะไรบ้างในงานศพ
  • การจด 'jot down ('jot' / "จ๊อท - t(ท)  = จด)" งานเขียนบทนี้จะทำให้ความปรารถนาของคุณ "ตกผลึก (crystalise)" และจะจูงใจให้ปรารถนาที่ดีงามประสบความสำเร็จ

(4). Lose Weight = ลดน้ำหนัก                          

...

(4.1). eat fast, then slow down = กินเร็วๆ, แล้วกินให้ช้าลง

  • การศึกษาพบว่า คนที่กินด้วยความเร็วปกติ (ไม่ใช่กินช้าๆ) ในครึ่งแรก (ของมื้อ) แล้วลดความเร็วลงเหลือ 1/2 ในครึ่งหลัง (ของมื้อ)... ลดความอยากอาหาร และลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่กินช้าๆ ตั้งแต่แรก

(4.2). throw away the big plates = ทิ้งจานใบใหญ่ๆ ไป

  • ทิ้งจานและอุปกรณ์กินข้าว เช่น ส้อม ช้อน ฯลฯ ขนาดใหญ่ไป หรือจะบริจาคให้ใครก็ได้... การศึกษาพบว่า คนที่กินข้าวจานเล็กกว่า มีเอวเล็กกว่า

(4.3). put a mirror in the kitchen = ติดกระจกไว้ในครัว

  • คนที่มองเห็นภาพสะท้อนตัวเองก่อนกิน มักจะกินน้อยลง
  • ถ้าวิธีนี้ใช้ได้ผลกับคุณ... อย่าลืมติดกระจกไว้อีกบานที่ห้องกินข้าว และพกติดตัวไว้ดูหน้าก่อนกินอะไรทุกครั้ง

(4.4). say no to TV dinners = ปิด TV กินข้าว

  • คนที่ไม่อยู่กับปัจจุบัน (อาหาร) มัวแต่ดู TV, ฟังโน่นฟังนี่, หรือทำอะไรไปด้วยกินไปด้วย มักจะกินมากขึ้น

(4.5). keep a food diary = จดไดอารีอาหาร 

  • คนที่จดไดอารีอาหารทุกอย่างมีแนวโน้มจะลดน้ำหนักได้มากเป็น 2 เท่าของคนที่ไม่จด เนื่องจากข้อมูลนำไปสู่ความรู้ ความรู้นำไปสู่ความเข้าใจ ความเข้าใจนำไปสู่พฤติกรรมที่ดีขึ้นได้ 

(5). Get Ahead = ก้าวไปข้างหน้า                        

...

(5.1). work alone = ทำงานคนเดียว

  • การศึกษาจำนวนมากพบว่า ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดจากการทำงานเป็นกลุ่ม การพบปะ (meetings) หรือการระดมสมอง (brainstorming) เสมอไป
  • ความคิดสร้างสรรค์ส่วนใหญ่เกิดเมื่อคนเราอยู่คนเดียว และอยู่กับ '3B' ได้แก่ 'bus' = รถเมล์ (= เดินทางท่องเที่ยว หรือไปในที่แปลกใหม่), 'bath' = อาบน้ำ (= เวลาอาบน้ำ หรือทำอะไรที่สดชื่น), 'bed' = เตียง (= เวลาตื่นนอนใหม่ๆ หรือหลังพักผ่อนเต็มที่)

(5.2). buy a plant = ซื้อต้นไม้

  • การศึกษานาน 8 เดือนรายงานหนึ่งพบว่า การเพิ่มจำนวนต้นไม้ในสำนักงาน ทำให้คนทำงานได้ไอเดีย หรือข้อคิดใหม่ๆ มากขึ้น 15%

(5.3). pull = ดึง

  • เทคนิคหนึ่งในการเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ คือ ให้นำเรื่องนั้นมาไว้ใกล้ๆ ตัว กลไกที่เป็นไปได้ คือ คนเรามักจะดึงเรื่องที่เราชอบมาไว้ใกล้ตัว ดันเรื่องที่เราไม่ชอบออกไปไกลตัว
  • ตัวอย่างการนำเรื่องนั้นๆ มาไว้ใกล้ตัว เช่น หากระดานเขียนเตือนว่า วันนี้-อาทิตย์เรากำลังจะสร้างสรรค์เรื่องอะไร, หากระดาษ-ดินสอหรือปากกาไว้ใกล้ตัวเสมอ มีไอเดียอะไรดีๆ จะได้รีบจดทันที ฯลฯ

(5.4). a welcome distraction = เว้นวรรคให้เป็น

  • ผลการวิจัยพบว่า ถ้าแก้ปัญหาอะไรไม่ได้... ให้เว้นวรรค หรือหยุดพักสักครู่ เช่น ออกไปเดิน 5 นาที + ขึ้นลงบันได 1 ขั้น + ล้างมือก่อน แล้วล้างหน้าล้างตา + เดินตากลมสักพัก ฯลฯ มักจะทำให้หาทางออกได้ดีกว่าลุยไปเรื่อยๆ ทั้งที่แสนเหนื่อยและเพลีย
  • บางคนคิดหาทางแก้ปัญหาไม่ออก... พอได้ไปนอนหรืองีบสักพัก คิดออกก็มีมากไป เพราะฉะนั้นอย่าลืมพกกระดาษ ปากกา ดินสอ หรือเครื่องบันทึกเสียง (พูดแล้วบันทึกไว้) ติดตัวเสมอ ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเสียงก็ได้นี่

(5.5). lighten up = เครียดไปก็พักเสีย

  • สมองเราแทบจะหยุดความคิดสร้างสรรค์ หรือแก้ปัญหาเมื่อความเครียดสูงเกิน... ควรหาทางลดความเครียดลง เช่น คุยเรื่องขำๆ กัน ฯลฯ แล้วกลับไปทำงานใหม่
  • หน่วยงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ หรือต้องการปั้นไอเดียออกมามากๆ น่าจะมีห้องอาบน้ำ ห้องนอนช่วงสั้นๆ (งีบ) ห้องออกกำลัง หรือห้องที่มองเห็นสวนสารพัดสี เพราะจะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ง่ายขึ้น

(5.6). talk pets = คุยกันเรื่องน้อง (หมา แมว ปลา ฯลฯ)

  • ถ้าอยากรู้จักบุคลิกภาพคนอื่นแบบเร็ว ให้ถามว่าชอบเลี้ยงอะไร... คนชอบน้องปลามักจะเป็นคนที่มากไปด้วยความสุข; คนชอบน้องหามักจะเป็นคนสนุกสนานร่าเริง;
  • คนชอบน้องแมวมักจะเป็นคนที่เชื่อถือได้-ไว้ใจได้ แต่อ่อนไหว (ต่อความรู้สึก); คนชอบน้องเลื้อยคลาน (สัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู ฯลฯ) มักจะรักอิสรภาพ และเป็นตัวของตัวเองแบบสุดๆ ไปเลย

นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ > [ ต่อตอนที่ 2 - Click ]

หมายเลขบันทึก: 274832เขียนเมื่อ 9 กรกฎาคม 2009 22:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 07:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบคุณมากค่ะ

ขออนุญาตนำไปให้เด็กน้อย ผู้ปกครอง

และเพื่อนครูได้เรียนรู้ด้วยนะคะ

ขอขอบพระคุณ MailOnline / Thank Dailymail.co.uk มากๆ เลย...

ขอขอบพระคุณ / Thank Professor Richard Wiseman มากๆ เลย...

ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างมากนะค่ะ

หนูจะขออนุญาตอาจารย์ให้ผู้ปกครอง และเพื่อนของหนูได้เรียนรู้ด้วยนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท