หวัดดีคับ คูรลุง ผอ.ทนัน
กู๊ดดี้ได้มาบล็อตคุณลุงทีไร รู้สึกซาบซึ้งไปกับบทกลอนด้วยทุกที
แต่ภาษานี่ ต้องอ่านไป แปลไปคับ เพราะไม่ค่อยสันทัดซะเท่าไหร่
แวะมาเรียนเชิญ คุณลุง ไปเที่ยว วัดพระแก้ว คับ อากาศเปลี่ยนแปลงรักษาสุขภาพด้วยนะคับ
สวัสดีเจ้าพ่อครูทนัน สบายดีกะเจ้า หื้อคิดถึงค่าว มาอ่านกำเมืองหลาย
เมื่อคืนตี้เวียงพิงค์คงม่วนอกม่วนใจ๋กันแต้เน้อเจ้า พ่อครูได้ไปลอยกระทงโตยไหมเจ้า
ทางใต้เดี๋ยวนี้เริ่มมีปล่อยโคมลอย ว่าวไฟเยอะขึ้นเจ้า หื้อพ่อครูมีความสุขเจ้า
ยินดีเจ้าป้อครู ได่เฮียนฮู้เฮียดฮอยบ่เก่า
หลานgoody krub มากับมาต๋า แม่ลูกแวะมา แอ่วหาข้าเจ้า
มาอ่านค่าวสอน คำกล๋อนแบบเบ้า วรรณก๋รรมเฮา นาล้าน
อ่านยากนักแก แต่ก็บ่คร้าน แวะมาแอ่วบ้าน บ่อยไป
ขอgoodyนั้น สุขสันต์ก๋ายใจ๋ ขอหื้อสบาย แม่แลลูกหน้อย.
พิชชามาแล้ว หลานแก้วอยู่ไกล๋ บ่ได้ขึ้นไป เจียงใหม่กาเจ้า
ยี่เป็งเวียงพิงค์ ระมิงแบบเบ้า เจียงใหม่บ้านเฮา ม่วนล้ำ
นำฮีตภาคกล๋าง มาวางเตื่อมก๊ำ ลำน้ำที่หั้น แม่ปิง
แห่กระทงนั้น จากวัดพระสิงห์ มาลอยลงปิง ระมิงใหญ่กว้าง.
อ่านแล้วอยากเป็นคนเมืองจังเลยคะ
ภาษาพูดสำเนียงฟังแล้วไพเราะมากคะ
ยี่เป็งปี๋นี้ ยินดีนักหนา คุณpooเปิ้นมา แอ่วหาข้าเจ้า
ยี่เป็งมาศศรี วิถีแบบเบ้า เจียงใหม่ของเฮา ม่วนล้ำ
ส่วนลอยกระทง ลอยลงแม่น้ำ แห่งไทยกล๋างก้ำ เฮาแซม
สองฮีตสองก๊ำ สองย้ำสองแถม เดือนยี่หนึ่งแฮม ระมิงสืบสร้าง.
เตชะวรรณวุฒิ น้องนุชมาหา ครูกิติยา เปิ้นมาจ๋าถ้อง
ลอยกระทงไทย ใผใผก็จ้อง มาจับมาจอง แอ่วแวะ
ไทยภาคไหนไหน เหมือนกั๋นนั่นและ แห่กระทงหน้อย ใหญ่ฮาม
เสียงสาไหว้นบ บอกถบโต๋มต๋าม วัดวาอาราม อร่ามแสงไต้.
ราตรี ยามนี้ กระทงใหญ่ ให้ครึกครื้น
ให้ตะลึงตื่นตาใจ ในใจใครทั้งผอง
ฟ้าราตรี มีจันทร์เพ็ญ แสงเรืองรอง
ดาราส่อง ระยิบระยับ เกินสุดห้ามใจ
...
หื้อพ่อครูฯ ฝันดี ณ ราตรีแสนสุขนี้นะคะ
เห็นพระจันทร์แย้ม เดือนยี่แฮมสอง ค่ำแล้วยังมอง ส่องใสสว่างแจ้ง
จันทร์แย้มเพิ่นมา แต่ว่าเหมือนแกล้ง เพราะบ่ยอมแจง ที่พัก
ผมไปแอ่วหา กะว่าทายทัก แต่ต้องสำลัก คืนมา
เพราะปานชนก จันทร์แย้มนั้นหนา ปิดบังอัตตา ต๋นตั๋วเพิ่นเจ้า.
สวัสดีครับอาจารย์ ทนัน สืบสานประเพณีไทยครับ
สืบสานตำนานพระร่วงเจ้า
เพื่อคัดดาวดวงเด่นเป็นสักขี
เพื่อสร้างความรู้รักสามัคคี
เพื่อประเพณียังอยู่คู่ชุมชน
ลอยกระทง ลอยเคราะห์กระเทาะโศก
ลอยกระทงเสี่ยงโชคปีละหน
อธิษฐาณริมธารผ่านสายชล
อภิบาลผู้คนฉ่ำอุรา
กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม
เคยเหยียบย่ำหยามหลู่มิรู้ค่า
อภิวันท์กรานต์กราบขอขมา
แม่คงคาแม่แสนดีแม่มีคุณ
คุณpooมาแล้ว มาแจ้วขับขาน เป๋นกลอนตำนาน แสนหวานรสถ้อย
บรรยายหื้อหลง กระทงใหญ่หน้อย กำลังล่องลอย ในน้ำ
แสงเดือนสดใส แสงไฟส่งย้ำ สว่างทั่วก้ำ ราตรี
เสียงดังครึกครื้น ตื่นตลึงสี แสงระยับมี เกินที่ใจห้าม.
แวะมาทักทายคะอาจารย์ทนัน
วอญ่ามาแล้ว เจ้ยแจ้ววาจ๋า ชื่อเต๋มเพิ่นนา วอญ่า-ผู้เฒ่า
มาเอ่ยคำสอน เป๋นกล๋อนแบบเบ้า ยกพระร่วงเอา เก่าก๊ำ
ก๋ารปล่อยกระทง ไหลลงแม่น้ำ เป๋นฮีตทั่วก้ำ ไทยแลนด์
ขมาแม่น้ำ คุณล้ำเหลือแสน ทดแทนนาบุญ คุณแม่น้ำเจ้า.
สวัสดีค่ะ
นึกถึงสมัยเด็กๆ ชอบบทกลอนในวิชาภาษาไทย
"เห่เอย วันเป็ง
พระจันทร์ก็เปล่งปลั่งลอย...."
งามแฉล่มแช่มช้อยขึ้นมาในใจเลยค่ะ
ขอบคุณ
ยินดียิ่งแล้ว มิตรแก้วมาหา คุณณัฐรดา เพิ่นมาแอ่วอู้
หัวอกหัวใจ๋ ปายในชอบสู้ เพิ่นถือเป๋นครู ธัมมะ
เพิ่นอุทิศต๋น สืบศาสนะ พุทธศาสน์เจ้า ยาวไป
สุขะพละ วรรณะผ่องใส ปรารถนาใด ล้วนได้เน่อเจ้า.
สวัสดีค่ะ ท่านผอ. ปิดเทอมแล้วตามมาเยี่ยม มากับดอกไม้เช่นเคย ค่ะ
กล้วยไม้ป่าที่หาดูยากค่ะ
สวัสดีค่ะ มาเยี่มท่านผอ. อากาศที่เชียงใหม่คงเย็นลงมากนะคะ
ที่ขอนแก่น...อากาศเย็นจนต้องหาเสื้อกันหนาวมาใส่แล้วค่ะ
สวัสดีเจ้า..ท่านผอ. หนูมาเยี่ยมแล้วค่ะนานๆเข้ามา..เดือนยี่ผ่านไปแล้ว...ก็จะถึงวันที่หยุดยาวนั่นก็คือวันปีใหม่ไทยเฮาน้อ..ท่านสบายดีน้อเจ้า
ครูธรรมทิพย์ หยิบยกสรรเสริญ เกินความเป๋นจริง ที่อ้างอิงข้า
ว่าเขียนค่าวดี ข้านี้เก่งกล้า จึงขอสูมา เต๊อะครับ
กำลังหัดเขียน หัดเฮียนหากนับ เท่ากับเด็กหน้อย อนุบาล
ขอบคุณเน่อครับ สำหรับคำขาน ว่าชอบตำนาน วันยี่เป็งเจ้า.
ข้าขอเคารพ นบครูเจ้าขา คุณครูrinda แม่หอพระห้อง
เปิ้นแวะมาหา มาจ๋าไถ่ถ้อง ยี่เป็งครรลอง ผ่านแล้ว
แถมบ่กี่วัน เติงตันบ่แคล้ว เถิงปี๋ใหม่แก้ว สากล
หยุดยาวแถมแล้ว บ่แคล้วสักหน สุขเน่อหน้ามน คนแม่แตงเจ้า.
บุษราเว้า แบบเบ้าภาษา ถิ่นเมืองล้านนา แลภาษาใต้
ศัพท์บ่เหมือนกั๋น แต่อ่านพอได้ และซาบซึ้งใน อรรถะ
คนใต้คนเหนือ เชื้อสายไทยะ ประเทศไทยหั้น หนึ่งเดียว
สามัคคีไว้ ไร้แดงเหลืองเขียว สยามเมืองเดียว ยึดเหนี่ยวไว้หมั้น.
เห็นสระบ่อน้ำ สีคล้ำเงาใส เงาไม้เรียงราย ที่ไหนหนองหน้อย
bergerส่งไป บ่บรรยายถ้อย บ่มีบัวลอย นิ่งน้ำ
เยี้ยะหื้อส่งสัย ปายในยิ่งล้ำ สระน้ำที่นี่ เป๋นใด
น้ำสีคล้ำคล้ำ เหมือนน้ำบ่ใส มีสัตว์อยู่ใน ใต้น้ำก่อเจ้า.
ตามมาเยี่ยมคุรลุงทนัน ด้วยความระลึกถึงค่ะ
ดูแลสูขภาพด้วยค่ะ
คารวะคุณครูฝึปากคมค่ะ
หลานม่อนมาเยี่ยมครับ
ยอมือวันทา นบไหว้พ่อครู ทนัน หรรษา
ห่างหาย ไปมา หลายเพลา คิดถึงเจ้า
เหมันต์ ผันมา ลมหนาว พัดโบกเช้า
เย็นย่ำ จำนรรจา หื้อรักษา สุขภาพโตย เจ้า
...
พ่อครูทนัน งานยุ่งกะเจ้า มาอ่านค่าวได้หายคิดถึง
เวียงพิงค์ ถิ่นเหนือ เป็นไฉนเล่า ให้คำนึง
อยากจะอ่าน คำรำพึง รำพัน พรรณนา ... ค่ะ
คุณลุงหายเงียบไปค่ะ สบายดีไหมค่ะ
หลานม่อนมาแล้วครับ
สวัสดีค่ะ หัวบล๊อกเก๋จังเลยน่ะค่ะ เท่ห์อีกตะหาก ทำอย่างไรค่ะ อยากสวยบ้าง แหล่ม! เลย
แต่งเติมหัวใจ
ใฝ่ทางสร้างสรรค์
รู้คิดทำจำนรรค์
ไม่หวั่นแม้ต้องทุกข์ทน
แต่งเติมหัวใจ
มุ่งมั่นฝึกฝน
พัฒนาตัวตน
ผ่านพ้นก้าวไป
แต่งเติมหัวใจ
ยามทดท้อโหยให้
เข้มแข็งเข้าไว้
สดใสรื่นรมย์
ปีใหม่นี้ของให้มีความสุขตลอดไป
สวัสดีครับ
bergerเจ้าน้อง ศูนย์หนึ่งสองสาม มาฝากถ้อยความ ถามหาตั๋วข้า
ขอไขวะจี๋ ข้านี้เนอหล้า ไปบรรพชา บวชพระ
เฉลิมราชัน หลายวันวาระ เลยละที่นี่ หายไป
กลับมาแล้วครับ คำนับจากใจ๋ คำพรน้องนาย ข้ารับไว้เจ้า.
ขอคารวะ แด่ท่าน อผ. ประจักษ์ ผอ. ข้าขอน้อมไหว้
ท่านมาเยี่ยมหา ข้าอยู่ไจ้ไจ้ มาอวยพรชัย ข้าน้อม
ขอท่านอาจ๋ารย์ ลูกหลานแวดล้อม มีสุขโอบอ้อม อารี
ที่หายไปนั้น บ่ได้หลบหนี บวชหื้อภูมี จักรีองค์เจ้า.
ขอบคุณเน่อครับ สำหรับคำขาน คุณpooเพิ่นจาร คำหวานฝากถ้อย
รำพันรำพึง ฝากถึงข้าหน้อย อ่านถ้อยแล้วเรา ระลึก
ต้องขออภัย บ่ไวดั่งนึก ข้าสึกมาหล้า ช้าไป
จึงมาตอบเว้า ที่เจ้าขานไข ตอบเจ้าช้าไป อภัยเน่อนเจ้า.
กลับมาวันนี้ ยินดีนักหนา พี่กิติยา แวะมาฝากถ้อย
นำกล่องของขวัญ มาปั๋นข้าหน้อย ฝากถ้อยพรชัย วาทะ
สุขก๋ายสุขใจ๋ เนื่องในก๋าละ ปี๋ใหม่เหมือนอั้น กั๋นดี
สุขะพละ วรรณะผ่องศรี โภคะมากมี ทีฆายุมั่น.
ปี๋ใหม่แล้วนั้น ปี๋ขาลมาเถิง New.ครูบันเทิง สำเริงเน่อเจ้า
ความสุขความดี ที่นายใฝ่เฝ้า ขอหื้อสมเอา ดั่งคิด
สุขสามประก๋าร สำราญชีวิต ดั่งคิดแลได้ ทุกอัน
ปี๋ใหม่แล้วน้อ ขอหื้อสุขสันต์ ทุกเมื่อเชื่อวัน หรรษาเน่อเจ้า.
กลับมาวันนี้ ดีใจ๋นักหนา ศิรประภา มาจ๋าเอ่ยถ้อย
คำแสนดอย ลูกศิษย์ตั๋วหน้อย เพิ่นเป๋นคนดอย ล้ำยุค
เฮียนโทแล้วหนอ บ่รอรีบรุก บุกเถิงแม่โจ้ มหา'ลัย
ทุกวันทุกมื้อ ขอหื้อสมใจ๋ ประสบโชคชัย ไจ้ไจ้เน่อเจ้า.
ยินดียิ่งเน้อ เธอดั่งบุหงา นามบุษรา มาแอ่วหาข้อย
มาแวะเยี่ยมเยียน มาเขียนตอบถ้อย มาร้อยคำงาม ถามทัก
ขอบคุณเนอศรี ยินดีนักนัก ที่มาถามทัก แถมรา
จงมีพละ มีเสน่หา จงมีโภคา จงผาสุกมั่น.
จะถามว่าอาจารย์ได้เม็ดบวบหอมลูกยาวหรือยังครับ ส่งไปนานมากๆๆแล้วครับ
ด้วยความระลึกถึงครับ
กราบสวัสดีเจ้าพ่อครูทนัน
ยินดีจ๊าดนัก พ่อครูกลับมาแล้วนะคะ
ซำบายดีบ่กะเจ้า ฝันดีนะคะ ยังระลึกถึงเสมอค่ะ
นายประจักษ์ ปานอินทร์
ผอ.นายประจักษ์ มาทักมาจ๋า อะหังวันทา ข้าขอน้อมไหว้
เพิ่นมาแอ่วหา ข้านี้ไจ้ไจ้ ขอรับเอาไม- ตรีครับ
อวยท่าน ผอ. ขอหื้อมัทรัพย์ นับจ๋นบ่ถ้วน เนอนาย
เจริญโภคะ วรรณะผ่องใส อายุยืนไป ได้ร้อยซาวห้า.
ยินดีเจ้นล้ำ หันกำอาจ๋าร ไปสอนถึงลาน เขียนจารตั๊ดนี้
ป้อช่วยแก้ไข ใส่ใจ๋จะอี้ ลูกศิษย์คนดี ยังง่าว
กู้เรื่องตี้สอน ค่าวกลอนค่ำเจ๊า หัดเฮียนฮู้เข้า ใส่ใจ
ล่ะอ่อนเขียนผิด บ่คิดแก้ไข ป้อมาทันใด เขียนใหม่หื้อแล้
สวัสดีค่ะอาจารย์
ศรีสวัสดิ์เจ้าพ่อครูทนัน
ดีใจที่ได้ทราบข่าวคราวและอ่านค่าว โคลง บ่อยๆ ที่อนุทินค่ะ
มาเรียนเชิญ พ่อครู ไปรดน้ำมนต์ ครบ ๓ ปีที่บ้านบันทึกปูเจ้าค่ะ
มีความสุขมากมายนะคะ ไม่ดื่มกาแฟแล้วใช่ไหมคะ ยินดีด้วยค่ะ
สวัสดีครับ คุณลุง ผอ.ทนัน..
กู๊ดดี้แวะมากราบสวัสดี และมาเยี่ยมคุณลุงครับ ((หลังจากหายหน้าไปจากวงการเป็นพักๆ))
ตามมาอ่านกลอนที่คุณลุงเขียนถึงทุกคน ชอบมากครับ..ทำได้ไงเนี่ย...
"การ์ดgoodykrub สำหรับคนผม พิเศษนิยม ของผมว่าอั้น
ได้อ่านคำดี ใจ๋นี้ตื้นตั้น ตั๋นตื้นภายใน ยิ่งล้ำ
goodyคนดี ข้านี้ขอย้ำ ขอย้ำว่าเจ้า เด็กดี
เจริญโภคะ วรรณะผ่องศรี goodyคนดี จงมีสุขถ้วน. "
กู๊ดดี้จะ copy และเก็บไว้อ่านตอนโตด้วยนะครับ..ขออนุญาตก่อนนะครับ Copy Copy...
ช่วงนี้อาการเปลี่ยนแปลงบ่อย คุณลุงรักษาสุขภาพด้วยนะครับ.. :)
สวัสดีเจ้า ท่าน ทนัน..ไม่ได้มาเยี่ยมนานมากค่ะ..ยังระลึกกึดเติ่งหาเน้อเจ้า..ท่านนอนดีกคงจะเชียร์บอลด้วยเนาะ..
ผอ.ทนันครับ แวะเข้ามาอ่าน ชุ่มฉ่ำด้วยภาษางาม รับรู้ความเป็นมา ชื่นใจแท้ครับ
กราบสวัสดีเจ๊าพ่อครูทนัน สบายดีกะเจ๊า ช่วงนี้ทางเมืองเหนือ เป็นไงบ้างเอ่ยคะ ทางใต้ฝนตกได้ทุกวี่วันค่ะ
หื้อพ่อครูทนันรักษาสุขภาพนะเจ๊า คิดเติงหาโตย ดอกเหลืองปรีดิยาธร คงบานสะพรั่งไหมคะ มีความสุขนะคะ
ไหว้สาอ้ายน้อย..แดงลืมระหัสตัวเองบ่ได้เข้ามาเมินแล้ว..
มาอ่านปะบทความของน้อยโดยบังเอิญ " มีคุณค่าแต้ๆ ทั้งเขียนค่าว และข้อคิด "
แดงมีเพื่อนเขียนหัวข้อธรรมะ และศิลปอยู่บล็อกนี้ตวยชื่อคุณณัฐรดา
เข้ามาcomment บ่ดาย....อ้ายน้อยสบายดีน้อ
ไหว้สาอ้ายน้อย...เมื่อวานแดงพาครอบครัวไปถวายเทียนพรรษาที่วัดดอยผาตั้ง..โชคดีที่ท่านพระครูอยู่พอดี ได้อู้ถึงเรื่องแม่ออนเก่าๆ...และคงไว้ซึ่งป๋าเวณีของคนบ่ก่อน...และลูกชายแดงเขาจะทำโปรเจคความเป็นไปได้ในการอนุรักษ์อำเภอแม่ออนเป็นศูนย์เรียนรู้เชิงธรรมชาติ วิชาชีพและวัฒนธรรม...อาจารย์ที่ปรึกษาบอกว่าถ้าเขียนดีจะส่งฮื้อจังหวัด....
ตัวแดงเองก็ชอบวัฒนธรรมล้านนา. พุทธศาสนา กฎธรรมชาติ รวมทั้งวรรณกรรมอินเดีย และชาติอื่นๆอยู่พ้อง ช่วง 1ปีมานี้เลยเดินตามฮีตฮ้อยของบรรบุรุษตั้งแต่สมัยระมิงค์นครขุนหลวงวิลังคะ หริภุญไชย นครพิงค์เชียงใหม่ จนถึงปัจจุบัน...และพึ่งฮุ้ความหมายของบ้านเมืองออน ตี๋มาตี๋ไปของคนเมืองออน และเป็นจะได ถึงมีสำเนียงฮุ้บ่เหมือนกั๋น... และปู่ก๋อง ย่าคำเป็นต่องสู้เจ้า
แดงโชคดีตี๋ลูกสาวได้เฮียนภาษาเมือง เขียนได้ อ่านได้ ...และแดงมาอยู่ที่คุ้มเจ้าดารารัศมี...ได้มีโอกาสซึมซับวัฒนธรรมล้านผสมผสานกับความทรงจำตอนเป็นล่ะอ่อน... และมีโอกาสได้นำเพลงของเจ้าดารารัศมีมาฮือละอ่อนลูกน้องที่โรงพยาบาล ฟ้อนเทิดพระเกียรติเจ้าดารารัศมีเป็นครั้งแรก โดยขออาจารย์นาฎศิลป์เป็นคนออกท่าฟ้อนฮื้อตอนนี้ทุกงานจะมีรำเทิดพระเกียรติ"เจ้าแม่ดารารัศมี อย่างแผ่หลาย และเวลาจัดกิจกรรมแดงจะอิงเอาวัฒนธรรมล้านนาไว้การดำหัว การแต่งตัว และการทำตุงต่างๆ
และเมื่อตะวาไปวัดเห็น "ตัวมอม"..ทำให้คิดถึงค่าวที่น้อยเขียนไว้..ทำให้นึกเทพบุตรแห่งฝน..ตี๋มีตัวมอมเป็นพาหนะคือ"เทพปัชชุนนเทวบุตร" เป็นเทวะบริวารของท้าววรุณ...แดงมีฮูปตี๋เปิ้นถ่ายที่วาดพระสิงห์...อ้ายน้อยคงเห็นแล้ว.
ส่วนตัวแดงคิดว่าสักวันจะปิ๊กไปอยู่ตี๋แม่ออนเจ้า
ขอฮื้ออ้ายน้อยและครอบครัวมีความสุข และสุขภาพดีเน้อเจ้า
(ขอบคุณรูปภาพจากInternet)
สวัสดีค่ะอ้ายทนัน
*** ระลึกถึงเสมอค่ะ หายไปนาน งานยุ่งใช่ไหมคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์
สวัสดีค่ะ
คิดถึงเสมอค่ะ
ไหว้สาอ้ายหนาน..ขอสูมาเตอะเจ้าฮ้องผิด
แดงได้ก๊อปข้อมูล"เทพปัชชุนนเทวบุตร"จากเวบต่างๆมาฮื้ออ้ายหนานกอยเน้อส่วน"ม่อมลองคลิ๊กเข้าไปดูในhttp://www.oknation.net/blog/sitthi/2009/05/14/entry-1/comment
ปัชชุนะเตวบุตร กับ วิรุณหเตวบุตร
เรื่องราวของพระวรุณ หรือ พระพิรุณ เทพเจ้าแห่งสายฝนของไทยเรานั้น มีคติความเชื่อด้วยกัน ๒ ทาง คือ ความเชื่อตามศาสนาพราหมณ์ หรือ ฮินดู และความเชื่อในทางพุทธศาสนา ถ้าในทางพุทธศาสนาแล้ว เชื่อว่า พระพิรุณเทพนั้นอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทพบริวารของพระอินทร์ ที่เป็นเทพแห่งสายฝน สภาพดินฟ้าอากาศ มีหน้าที่รับคำบัญชาจากพระอินทร์อีกทอดหนึ่ง และยังมีเทพรองลงไป เพื่อทำหน้าที่ต่าง ๆ เช่น เทพปรชันยะ (ผู้ประทานฝน) เทพปัชชุนนะ หรือ วัสสวลาหกเทพ (เทพแห่งเมฆฝน),สีตวลาหกเทพ(หนาวเย็น) อุณหวลาหกเทพ(ความร้อน) อัพภวลาหกเทพ(เมฆหมอก) วาตวลาหกเทพ(ลม) ซึ่งบรรดาเทพเหล่านี้ จะทำงานประสานกัน หรือผสมกลมกลืน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อให้เกิดฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล
ประเพณีขอฝนของชาวล้านนา ได้กล่าวถึงเทพผู้ประทานฝน ถือเป็นคติทางพุทธ องค์หนึ่ง คือ ท่านปัชชุนนะเทพบุตร “ปัชชุนนะ” แปลว่า เมฆฝน ผู้ที่ครองเมฆ ก็คือผู้ที่ครองฝน ด้วยฝนเกิดจากเมฆ ทำให้เทพปัชชุนนะ มีบทบาทสำคัญในการร้องขอฝน เมื่อบ้านเมืองขาดน้ำฟ้าในการทำนา แม้แต่พระพุทธเจ้าในกาลเสวยพระชาติเป็นพญาปลาช่อน ก็ยังได้ร้องขอฝนต่อเทพปัชชุนนะ ที่จริงแล้ว “ปัชชุนนเทวบุตร” น่าจะเป็นเพียงตำแหน่ง เหมือน ๆ กับตำแหน่งรัฐมนตรี หรืออธิบดีว่าการกระทรวงเกษตรฯ อันจะให้เทพองค์ไหนมาดำรงตำแหน่งและหน้าที่นี้ เพราะพระอานนท์ก็เคยเกิดมาเป็นปัชชุนนเทวบุตรมาแล้วครั้งหนึ่ง
สรุปก็คือ พราหมณ์-ฮินดูเชื่อว่า เป็นเทพคนละองค์ ส่วนล้านนา เชื่อว่า มีเพียงองค์เดียวและน่าจะเข้าใจว่าเป็นองค์เดียวกันดังนั้นการที่จะศึกษาให้เข้าใจและถ่องแท้ ต้องมีการทดสอบพิสูจน์พิเคราะห์หาเหตุผล แต่ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นความเชื่อ (ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจะเป็นจริงหรือเป็นไปได้ มากน้อยประการใด) โดยจะอธิบายได้ดังนี้ว่า ในทางภาษาศาสตร์และอักษรศาสตร์ ก็จะให้ข้อสรุปว่า เป็นภูมิปัญญาของมนุษยชนในด้านอักษรศาสตร์ที่บันดาลให้เกิด ความงามทางภาษา อันไทยเรานี้ได้รับอิทธิพลมากต่างชาติ ซึ่งในเรื่อง เทพแห่งสายฝนก็เช่นกัน เป็นสิ่งที่เราได้รับมาพร้อมกับอารยธรรมต่างๆ อาทิ ศาสนา ความเชื่อ และภาษาศาสตร์ ตลอดจนถึงการมีวัฒนธรรมประเพณี พิธีกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน คำว่าพิรุณ เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า ฝน,น้ำ,ความชุ่มเย็น ส่วน ปัชชุนะ ก็เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า เมฆฝน,ฝน,น้ำค้าแข็ง,น้ำเย็น,ไอน้ำ เป็นต้น ซึ่งคำที่รูปต่างกันแต่ก็มีความหมายเหมือนกันก็มีมากในภาษาบาลีสันสกฤต อย่างคำที่แปลว่า ท้องฟ้า ก็มีหลายคำ เช่น โพยม ฑิฆัมพร นภา เวหา เป็นต้น คงจะไม่แตกต่างระหว่างความเชื่อที่อาจจะทำให้เราสับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้แต่สัตว์พาหนะทรงของเทพในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู แต่ละองค์ก็ยังมีซ้ำบ้างไม่ซ้ำบ้าง เทพแต่ละองค์ก็ยังมีหลายชื่อ แม้แต่เทพผู้ยิ่งใหญ่ อย่าง พระศิวะ ไทยเรายังเรียกอีกอย่างว่า อิศวร ราเมศวร สีหนาท และมีอีกหลายชื่อมาก ดังนั้นจะสรุปได้โดยรวมในตอนท้ายนี้ว่า ทั้งหมดในความเชื่อล้วนเป็นความงดงามและจินตนาที่กลั่นกรองออกมาจาก ประสบการณ์สิ่งแวดล้อมของมนุษยชาติในด้านภาษาศาสตร์+ความเชื่อ ถึงทำให้ พระวรุณ วิรุณ พิรุณ เทพปัชชุนะ หรือเทพอื่นๆที่กล่าวถึง ก็อาจจะเป็นความเชื่อเดียวกัน คือเป็นผู้มีหน้าที่บันดาลฝนฟ้านั่นเอง หรือ ก็อาจจะกล่าวไปถึงว่า ท้งหลายล้วนแล้วแต่ อวตาร+อนิจรางค์ คือการแปลเปลี่ยนผัน หรือแม้แต่กระทั่งความเชื่อของมนุษย์ปุถุชนก็ตามก็ยังแปลเปลี่ยนผิดเพี้ยน ไม่คงที่เลย
อ้างอิงจากข้อความในรายงานวิจัยเรื่อง อิทธิพลภาษาและอักษราในสุวรรณภูมิ (บางส่วน)ของคณะนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ รายวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร อ.ปฏิญญา บุญมาเลิศ ( ภาควิชาภาษาไทยคณะมนุษยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ )ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๒
ชอบคุณข้อมูลจากhttp://www.songsakarn.com/forum/archiver/?tid-1646.html
และมีกล่าวในบนสวด"มหาติงหลวง"โตยเจ้า
๒๒๙. สะทามัตตา หาระคะชา มิสสะกา จะ ยะสัสสิโน ถะนะยัง อาคะปัชชุโน โย ทิสาสวะภิวัสสะติ. สทามัตตเทพ หาระคะชะเทพ มิสสะกะเทพ ผู้มีบริวารก็มา ปัชชุนะเทพ ผู้ทำให้ฝนตกทั่วทิศก็มา.
ปัชชุนเทวบุตร : เทพแห่งสายฝนจากหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์เจ้า
พอย่างเข้าสู่ฤดูฝนซึ่งเป็นฤดูกาลที่ชาวนาจะเริ่มทำนา ปีใดที่ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล มักจะมีการเซ่นสังเวยเทพเจ้าที่เชื่อกันว่าจะสามารถดลบันดาลให้ฝนตกได้ เทพเจ้าดังกล่าว ได้แก่ "ปัชชุนเทวบุตร"
ปัชชุนเทวบุตร เป็นเทวบุตรที่สถิต ณ สรวงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิก มีธิดาชื่อ "โกกะนะทะ" และ "จุลโกกะนะทะ"
พิธีกรรมในการเซ่นสรวงบูชา จะจัดเตรียมปราสาทจำลอง โดยสร้างหอบูชาขึ้นเป็นแท่นบูชาเสาเดียวมีเครื่องมุงหลังคาประดับธงทิว พร้อมมีที่ตั้งวางเครื่องสักการบูชา
เครื่องสักการะบูชาปัชชุนเทวบุตร ประกอบด้วย
- กรวยดอกไม้ ๒ กรวย
- กรวยหมากพลู ๒ กรวย
- ฉัตรเงิน ฉัตรทอง
- ขนมต้มขาว ขนมต้มแดง
- เทียนขี้ผึ้งแท้ ๑ คู่
- มะพร้าวอ่อน ๑ คู่
- อาหารคาวหวาน ๑ สำรับ
- หมาก พลู บุหรี่และเมี่ยงอย่างละ ๑ คู่
- ข้าวตอกดอกไม้ตามสมควร
นอกเหนือจากนี้ ยังต้องเตรียมเครื่องคำนับครูสำหรับ "ปู่อาจารย์" ผู้ประกอบพิธี ซึ่งประกอบด้วย
- กรวยดอกไม้ ๔ กรวย
- กรวยหมากพลู ๔ กรวย
- ข้าวเปลือก ข้าวสาร อย่างละ ๑ กระทง
- ผ้าขาว และผ้าแดง อย่างละ ๒ ชิ้น
- เงิน ๓๖ บาท
- เหล้าโรง ๒ ขวด
ในการประกอบพิธี ปู่อาจารย์จะทำพิธีชุมนุมเทวดา กล่าวคำนมัสการครู จากนั้นจึงกล่าวคำโองการดังนี้
สุระณันตุ โภนโต ปัชชุนนะเทโว
ข้าแด่เทพไธ้ ตนเปนใหญ่แก่เทวา
เปนเจ้าแก่เฆมะธาราฟากฝ้า กาละบัดนี้ก็เป็นระดูวัสสา
อันควรมีน้ำฟ้าสายฝน หยาดตกจากบนสู่ลุ่มใต้
ชุ่มเย็นแก่มวลหมู่ไม้รุกขา บัดนี้นาก็ยังว่าไป่เปนดั่งอั้น
โขงชมพูนั้นก็ขาดกลั้นสายฝน น้ำจากพายบนบ่ตกลุ่มใต้
ฝูงข้าไธ้จิ่งจักน้อมนำมา ยังเครื่องสักการะปูชามวลมาก
หากประกอบด้วยธุปะบุปผา มาลาดวงดอกเข้าตอก
ดอกไม้เทียนงาม สักการะตามมักใผ่
แล้วตั้งไว้ฐาปะนา ขอท่านมาปฏิคะหะรับเอาไว้
จุ่งผายโผดได้เมตตา หื้อฝนเมฆะธาราตกหล่น
สู่สกนธ์โลกหล้า ในทีฆากาละบัดนี้
นั้นจุ่งจักมี เที่ยงแท้ดีหลี แด่เต๊อะ ฯ
กล่าวเสร็จแล้วก็ยกเครื่องพลีบูชาไปวางบนแท่นบูชาเป็นเสร็จพิธี
ด้านรูปร่างลักษณะของปัชชุนเทวบุตร พบว่าตามวัดต่างๆ มีรูปปั้นหรือภาพแกะสลักเทพบุตรยืนเหยียบบนหลังสัตว์ในจินตนาการที่เรียกว่า "มอม" รูปปั้นหรือภาพแกะสลักดังกล่าวเข้าใจว่าเป็นปัชชุนเทวบุตรนั่นเอง
ปีใดเกิดฝนแล้ง ชาวล้านนาจะทำพิธี "แห่มอมขอฝน" ด้วยเชื่อว่า มอมเป็นสัตว์ที่คอยรับใช้หรือเป็นพาหนะของปัชชุนเทวบุตร ย่อมอยู่รับใช้ใกล้ชิดปัชชุนเทวบุตรตลอดเวลา สามารถนำความทุกข์ร้อนของมุนษย์ โดยเฉพาะเรื่องฝนแล้งไปแจ้งและขอให้ปัชชุนเทวบุตร ช่วยดลบันดาลให้ฝนตกได้
ดังนั้น นอกจากจะมีพิธีกรรมบูชาเซ่นสังเวยปัชชุนเทวบุตรแล้ว อาจมีพิธีแห่มอมขอฝนตามมาอีก เพื่อตอกย้ำสำทับให้ฝนหลั่งเม็ดลงมาให้ได้.
สนั่น ธรรมธิ
สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แดงสนใจ๋งานปั้นดินอยู่จะไปเฮียนเร็วๆนี้...กะว่าจะไปเฮียนปั้นเทพองค์นี้โตยเจ้า
"ขออยู่ตี๋ใดก็ม่วนอกม่วนใจ๋เน้อเจ้าอ้ายหนาน"
แดงลืมให้ดูรูปเจ้าแบบนี้เป็นรูปวาดของอินเดียส่วนรูปข้างล่างเป็นรูปปั้นที่อยู่ด้านหน้าวิหารและเป็นภาพจิตรกรรมผนังวัดเจ้า
กราบสวัสดีงามๆเจ้าอ้ายหนาน....
กะลังเข้ามาอ่านปะใส่กำค่าวกำเครือบ้านเฮา...ดีใจ๋ขะหนาด
เฮ้อ...กำอู้กั๋บกำเขียนนี่มันบ่าเหมือนกันเนาะเจ้า
กำเขียนยากกว่าจ้าดนัก
มีความสุขกั๋บวันฝนต๋กเน้อเจ้า...
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์เมินนานมาเยี่ยมแอ่วหาก็ได้สาระน่ารู้ที่เสริมสร้างความแน่นหนาของคำเมือง ขอบคุณจ้าดนักเจ้า
มาแหมเตื้อเจ้า ม่วนขนาดนักกับค่าวฮ่ำ ..มาขอเก็บไปไว้เน้อเจ้า ขะเจ้าเปิ่งใจ๋ขนาด
สวัสดีเจ้าค่ะพ่อครูทนัน
สบายดีไหมคะ ที่เวียงพิงค์อิงดอย ฝนตกไหมคะวันนี้ อิ่มรำมื้อเย็นกะเจ้า
สวัสดีครับป้อลุงอาจ๋าร
ขอบคุณจ้าดนัก มาเล่าไขจ๋า เล่าความเป็นมา ยี่เป็งว่าอั้น
กระทงบ่มี ป๋าเวณีเฮานั้น อย่ามัวสุขสันต์ เฮฮา
เข้าวัดฟังธรรม บุญจะรักษา ต๋ามโกมบูชา งามต๋าบ่น้อย
อย่าม่วนเกิ๋นดี สาวจี๋ดอกสร้อย อย่าลืมฮีตฮอย ดีดีเน้อน้อง
- ขอบคุณครับตี้แวะเข้าไปเยี่ยมบันทึกของผม เลยแวะมาอ่านบันทึกนี้ได้ความฮู้ดีครับ ขอบคุณครับ (แต่งไปจะอั้นครับ อยากจ้วยฮักษาของดีบ้านเฮาครับ)
มาอ่านเรื่องกระทงเป๋นคำค่าวดีงาม...
กระทงเป๋นคำภาษาไทย ล้านนาเฮาว่า "สะตวง" เมื่อก่อนคนเฮาแป๋งสะตวงแล้วเอาเครื่องสังเวยใส่ลงไป ต๋ามธูปเทียน นำไปลอยน้ำถือว่าลอยเคราะห์ แต่ถ้าปล่อยโคมขึ้นฟ้า ฮ้องกั๋นว่า "ปล่อยเคราะห์" มักจะทำในเดือนยี่เป็งล้านนา
ส่วนคนเกิดปีเส็ด(ปีจอ) จะปล่อยโคมขึ้นไปปู่จาพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี เพราะเป๋นพระธาตุประจ๋ำปีเกิด เปิ้นว่าอั้นเนอเฮา...
เข้ามาแอ่วแสดงกำกึ๊ดบ่ดายเน้อ..ท่านหนานทนันครับ..หากบ่ถูกบ่แม่นก็ขอสุมาอาภัยกั๋นเต๊อะหมู่เฮา....
ด้วยความปรารถนาดีจาก..หนานพรหมมา
ไหว้สาท่านหนานทนันครับ...
"อันว่าส่งเคราะห์ นั้นส่งตางทิศไหน ส่งไปตางใดจักวางทิศหั้น
พ่อหมอโหราจักบอกว่าอั้น หื้อส่งไปตาง ทิศนั้นเนอนาย
ส่งเคราะห์นั้นนอมีทิศเป๋นหมาย ตกออกเนอนายทิศเหนือทิศใต้.....
หากส่งเคราะห์ดี จักหมดป่วยไข้ กลับคืนคิงดีแม่นตั๊ก
จักเป๋นคนดีมีโชคมากนัก เพราะส่งถูกอั้น ทิศเนอ
บอกต่อกั๋นเต๊อะ หมู่เฮาอย่าเผลอ ส่งเคราะห์นั้นเนอ ถูกทิศว่าอั้น...ถูกทิศว่าอั้น.."
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน...พรหมมา
สวัสดีพ่อครูทนันเจ้า
สบายดีเน้อเจ้า หายเงียบไปหลายเพลา
มาถึงเทศกาลยี่เป็ง ปีนี้เป็นไงบ้างเจ้า
สุขสันต์ใกล้วันส่งท้ายปีเก่า รฤกเจ้า