บทพิสูจน์คุณค่าความเป็นคนที่พอเพียงหลังเกษียณอายุราชการของผม


ชีวิตที่พอเพียงน่าจะเป็นบทพิสูจน์ถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่เหลือ...

         ผมรับราชการมา 37 ปี  มีเรื่องที่ทำสำเร็จและภาคภูมิใจอยู่หลายเรื่อง  แต่ก็มีเรื่องที่ทำไม่สำเร็จอีกหลายเรื่องเช่นกัน  ในการทำงานนั้นบางเรื่องก็จำต้องทำตามใบสั่งในระบบราชการ แม้ไม่ค่อยถูกกับจริตของเรานักก็ตาม  และในบั้นปลายของชีวิตก็ต้องผจญกับความแปรผันจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารของกระทรวง  ทำให้รู้สึกว่า ศน.ด้อยความสำคัญลงไปในทรรศนะของผู้บริหารและชาวโรงเรียน  
   
เลยมานึกทบทวนตนเองว่า เหลือเวลาอีกเพียง 3 ปีก็จะเกษียณอายุราชการ   สุขภาพตนเองก็ไม่ค่อยดีนัก  ขืนรอจนเกษียณอาจไม่สามารถทำอะไรตามใจที่ปรารถนาได้เต็มที่นัก
        ปีใหม่ 2551 ผมเลยตัดสินใจว่าควรต้องขอเกษียณราชการก่อนกำหนด(เออรี่รีไทม์)เสียที  เพื่อจะได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำ  ได้ย้อนยุคกลับไปสู่ชีวิตสามัญ เมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมา   ยอมสละเงินประจำตำแหน่ง ระดับ9 ร่วมสองหมื่นบาท  ที่รับมา 11 ปีอย่างไม่อาลัยอาวรณ์  และตั้งใจว่าเมื่อเกษียณแล้วจะทำในสิ่งที่อยากทำ เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ  สอนหนังสือ หรือเป็นวิทยากร ตามที่เขายังเห็นคุณค่าและเชิญมาบ้างเป็นครั้งคราว  ถ้าไม่อยากทำก็หยุดทำ  ไม่ต้องอยู่ในกรอบข้อบังคับที่คนอื่นกำหนด โดยไม่ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนทำงานหารายได้เพิ่มพูนเงินบำนาญรายเดือนที่ลดลงหลังเกษียณ แต่สิ่งที่จะทำเป็นปกติคือ ปลูกต้นไม้  ปฏิบัติธรรม  ออกกำลังกาย  ไปท่องเที่ยว  และช่วยเหลือสังคมตามโอกาสอำนวย       
    
ชีวิตที่พอเพียง น่าจะเป็นบทพิสูจน์ถึงคุณค่าของความเป็นมนุษย์ในช่วงเวลาที่เหลือ
       ผมตกลงใจภายใต้ความเห็นพ้องต้องกันของครอบครัว  โดยไม่หวั่นไหวในคำทัดทานจากเพื่อนร่วมงานที่เขาพยายามพูดปลอบใจว่า เรายังมีคุณค่า
       มีผู้ใหญ่ในกระทรวงท่านหนึ่งบอกให้ผมลองลาพักผ่อนอยู่กับบ้านสัก 15 วัน แล้วจึงค่อยตัดสินใจ   ผมลองลาไป 3 วัน ก็รู้สึกว่าปลอดโปร่งโล่งสบายใจดี และคิดว่าน่าจะลามากกว่านี้เสียอีก
         ตลอดชีวิตในราชการของผม  จวบจนใกล้เกษียณ  ได้ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ทะเยอทะยานหรือช่วงชิงตำแหน่ง แข่งขันกับใครแม้จะมีโอกาสก็ตาม  พยายามดำรงตนเป็นผู้ให้มาโดยตลอด ใครๆอาจจะมองว่าผมเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่น่าจะมีทรัพย์สินไม่น้อย   แต่ความจริงแล้วผมเป็นข้าราชการโดยอาชีพ ไม่เคยมีอาชีพเสริมอื่นใดเลย  เงินเดือนที่ได้รับก็ทำได้เพียงแค่ส่งเสียลูกเรียนให้ถึงฝั่งถึงฝา และดูแลครอบครัวไม่ให้เดือดร้อนเท่านั้น  ไม่ได้มีสมบัติสะสมพอกพูนมากมายเหมือนข้าราชการอีกหลายๆท่าน  
         พอจะมีเงินเก็บอยู่บ้างไม่กี่แสน  จึงไปซื้อที่ดินแถวอำเภอไทรน้อย เพียงแค่ 75 ตารางวา  ในย่านที่ยังพอมีกลิ่นอายของเรือกสวนไร่นาให้ได้สัมผัส  ผมได้ปลูกบ้านหลังเล็กๆ  คล้ายรีสอร์ท   ริมหน้าต่างด้านหน้าแต่ละช่องที่ติดกับตัวบ้าน ผมทำที่วางกระถางปลูกไม้ดอกเพื่อให้ดูสดชื่นสวยงามคล้ายกับบ้านในยุโรป  และปลูกศาลาพักร้อนอีกหนึ่งหลัง  ปูหญ้าด้านหน้าเขียวขจีเต็มพื้นที่   ใครผ่านไปมาต่างชมเปาะ  ว่าสวยงามน่ารัก  น่าอยู่มาก และไม่เคยเห็นบ้านเช่นนี้มาก่อน  

       
เพิ่งปลูกเสร็จเมื่อเดือนมกราคม 2551 นี้เอง  โดยยังเหลือพื้นที่สำหรับปลูกพืชผัก ผลไม้ที่ชอบได้อีกพอสมควรทีเดียว  เหตุผลที่ซื้อที่ดินเพียง 75 ตารางวา นอกจากจะประหยัดงบประมาณแล้ว ยังคำนึงถึงความพอเพียงของเรี่ยวแรงที่จะดูแลพื้นที่  ซึ่งสอดคล้องกับเงื่อนไขความพอประมาณและการมีเหตุผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วย                                                                                                                                    
       ผมมีความสุขและเพลิดเพลินที่ได้ใช้เวลาว่างหรือในวันหยุดปลูกต้นไม้  พรวนดิน  รดน้ำ  กำจัดวัชพืช  พยายามซื้อต้นไม้ใหญ่ๆมาปลูกเพื่อให้ได้เก็บเกี่ยวผลเร็ววัน ใช้ปุ๋ยชีวภาพและปุ๋ยคอกตลอด จากการแต่งชุดไปปฏิบัติราชการ ก็มาแต่งชุดเกษตรกรแทน  ขลุกอยู่กับสวนทั้งวันโดยไม่รู้สึกร้อน เหน็ดเหนื่อยหรือเบื่อหน่ายแต่อย่างใด       
      4 เดือนผ่านไป ผลผลิตที่ผมสร้างขึ้นก็ปรากฏดอกผลให้ความภูมิใจ
  ผลไม้ก็มี มะม่วง 6 ต้นที่เริ่มทยอยให้ผลแล้ว (น้ำดอกไม้ 2 ต้น เขียวเสวย  มันทวาย  แม่ลูกดก  สามฤดูอย่างละต้น) นอกนั้นก็มี  กระท้อน 3 ต้น มะยงชิด  แอ๊ปเปิลเขียว  มะเฟืองหวาน  มะยม  มะกอก  มะขาม  มะนาว  ส้มโอ มะเหมี่ยว ลิ้นจี่  ฝรั่ง  แก้วมังกร กล้วยน้ำว้า กล้วยเล็บมือนาง เป็นต้น ซึ่งคนที่ปลูกเพื่อธุรกิจก็คงจะดูว่าแน่นไป และออกดอกผลยาก  แต่เป้าหมายของผมคือได้ทั้งร่มเงาและได้ดอกผลพอประมาณ เพื่อได้เห็นความหลากหลายของพืชแต่ละชนิด และหมั่นตัดแต่งกิ่งเอา จะได้มีงานทำไม่เหงา  
          ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผักนานานาชนิด  ที่ผมทำแปลงเล็กๆหลายแปลงปลูกไว้หลังบ้านอย่างเป็นสัดส่วนสลับกันไป แม้แต่บริเวณรอบต้นไม้ใหญ่ผมก็ปลูกเป็นไม้ประดับ คือผักกาด  ผักกวางตุ้ง  คะน้า  กะหล่ำ  ถั่วฝักยาว  กะเจี๊ยบ  ไชเท้า ถั่วพู  แตงโม  แตงกวา  แตงร้าน   ที่บนรั้วจะมีผักตำลึง  ผักปังทอดยอดไสว ยิ่งเก็บยิ่งแตกยอด  ริมรั้วจะปลูกชะอมเป็นแนวยาว  ตรงช่องว่างระหว่างบ้านก็ทำค้างปลูกบวบ  มะระ  และที่น่าทึ่งมากคือน้ำเต้าแข้งควาย จะออกลูกยาวเกือบแขน กลายเป็น
ไม้ประดับของบ้านได้ดีทีเดียว                                                                               
        นอกรั้วหลังบ้านเป็นที่ของคนอื่นที่ขาดการดูแล ปล่อยให้ต้นธูปฤาษีขึ้นรกไปหมด  ผมเลยไปเจรจากับเจ้าของที่  อาสาทำความสะอาดให้  พร้อมทั้งขุดเป็นคลองแนวยาวไปตามริมรั้ว  ปลูกบัวสายหลากสี จนเต็มคลอง  วันดีคืนดี  ก็ทำน้ำพุเปิดให้ดูสวยงามและเย็นชุ่มฉ่ำ
        แม่บ้านผมชอบปลูกไม้ดอก  ส่วนผมชอบปลูกไม้ผล (ไม้แด
)เราเอื้ออาทรแบ่งปันพื้นที่กันอย่างเป็นสัดส่วน  เธอปลูกไม้ดอกหลายชนิดแทรกระหว่างต้นไม้และพืชผักสวนครัว  ออกดอกสะพรั่ง  ช่วยเติมแต่งให้มีสีสันที่งดงามมากขึ้น  เช่น  กุหลาบ  กล้วยไม้  พวงแสด  ชบา  โมก  ฯลฯ
       ผมและแม่บ้านจะมีความสุขมากกับการเก็บพืชผักที่ปลูก  ออกไปแจกเพื่อนบ้านในแต่ละวัน  วันหยุดช่วงสงกรานต์ 5 วัน เราพักผ่อนกันที่บ้านหลังนี้  เก็บผักสดๆมาปรุงอาหารรับประทานกันเองทุกมื้อ แทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย  ทำให้นึกถึงพระราชดำรัสสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ว่า 
เกษตรทำไว้ไม่อดตาย  ขนาดพื้นที่ 75 ตารางวาที่เหลือจากปลูกบ้านและ ศาลาไปแล้ว 1 หลัง ยังสามารถทำการเกษตรเลี้ยงชีวิตครอบครัวเราและสามารถแบ่งปันให้แก่เพื่อนบ้านได้อีก  ทำให้อดปรามาสคนที่งอมืองอเท้า จมปลักอยู่กับความอดอยากยากจนไม่ได้
       ผมลองเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาวิเคราะห์การเตรียมตัวดำเนินชีวิตหลังเกษียณราชการของผมตามแนวทางสายกลาง จาก 3 ห่วง คือความพอประมาณ  การมีเหตุผล  การมีภูมิคุ้มกัน  และ 2 เงื่อนไข คือ  เงื่อนไขความรู้ และ เงื่อนไขคุณธรรม ซึ่งก็น่าจะผ่านการประเมินได้กระมัง...
       
 

หมายเลขบันทึก: 177471เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2008 21:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:57 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ธเนศ

      ผมเป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ โดยท่านอาจารย์ไม่รู้ตัวครับ (แอบเป็น โดยแอบอ่าน  และ นำไปใช้)

      อ่านบทความนี้แล้ว  เป็นแนวคิดที่เป็น "ครู" ของ "ครู"  ได้ดีมากครับ  โดยเฉพาะเรื่อง "ความพอเพียง 

       แบบ     ดีกว่า     บอก

       ตัวอย่างที่ดี    มีค่ากว่าคำสอน

                          ขอบคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์
  • ช่างเป็นชีวิตที่น่าอิจฉา
  • บ้านสวยน่ารัก
  • ป้าแดง ซื้อหนังสือ ทำธรุกิจอะไรดีหลังเกษียณ อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ เพราะแปลจากฝรั่ง
  • หลักเศรษฐกิจพอเพียง น่าจะดีกว่าเป็นไหนๆนะคะ
  • รอบๆบ้าน ป้าแดง ก็พยายาม ปลูกไม้ผลค่ะ แต่ไม่ค่อยรอดค่ะ ยังไม่ให้ผลก็ยืนต้นตายซะแล้ว
  • หวังว่า อาจารย์ คงได้รับการอนุมัติให้ เออรี่นะคะ 

ผลไม้ก็มี มะม่วง 6 ต้นที่เริ่มทยอยให้ผลแล้ว (น้ำดอกไม้ 2 ต้น เขียวเสวย มันทวาย แม่ลูกดก สามฤดูอย่างละต้น) นอกนั้นก็มี กระท้อน 3 ต้น มะยงชิด แอ๊ปเปิลเขียว มะเฟืองหวาน มะยม มะกอก มะขาม มะนาว ส้มโอ มะเหมี่ยว ลิ้นจี่ ฝรั่ง แก้วมังกร กล้วยน้ำว้า กล้วยเล็บมือนาง เป็นต้น

ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผักนานานาชนิด ที่ผมทำแปลงเล็กๆหลายแปลงปลูกไว้หลังบ้านอย่างเป็นสัดส่วนสลับกันไป แม้แต่บริเวณรอบต้นไม้ใหญ่ผมก็ปลูกเป็นไม้ประดับ คือผักกาด ผักกวางตุ้ง คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว กะเจี๊ยบ ไชเท้า ถั่วพู แตงโม แตงกวา แตงร้าน ที่บนรั้วจะมีผักตำลึง ผักปังทอดยอดไสว ยิ่งเก็บยิ่งแตกยอด ริมรั้วจะปลูกชะอมเป็นแนวยาว ตรงช่องว่างระหว่างบ้านก็ทำค้างปลูกบวบ มะระ และที่น่าทึ่งมากคือน้ำเต้าแข้งควาย จะออกลูกยาวเกือบแขน กลายเป็น

ไม้ประดับของบ้านได้ดีทีเดียว

ผมสงสัยว่า ในพื้นที่แค่75 ตารางวา ท่านอาจารย์ ปลูกไม้ผล มากมายขนาดนั้น แล้วมันไม่แย่ง แสงอาทิตย์กันหรือครับ ผมกลัวว่ามันจะไม่มีผลผลิตนะครับ

ผมว่า อาจารย์ ธเนศ ขำเกิด สร้างบ้าน ก็สวยดีอยู่หรอก ผมก็ชอบนะครับ แต่เรื่องการปลูกไม้ผล เช่นมะม่วง 6 ต้นที่เริ่มทยอยให้ผลแล้ว (น้ำดอกไม้ 2 ต้น เขียวเสวย มันทวาย แม่ลูกดก สามฤดูอย่างละต้น) นอกนั้นก็มี กระท้อน 3 ต้น มะยงชิด แอ๊ปเปิลเขียว มะเฟืองหวาน มะยม มะกอก มะขาม มะนาว ส้มโอ มะเหมี่ยว ลิ้นจี่ ฝรั่ง แก้วมังกร กล้วยน้ำว้า กล้วยเล็บมือนาง เป็นต้น

ที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผักนานานาชนิด ที่ผมทำแปลงเล็กๆหลายแปลงปลูกไว้หลังบ้านอย่างเป็นสัดส่วนสลับกันไป แม้แต่บริเวณรอบต้นไม้ใหญ่ผมก็ปลูกเป็นไม้ประดับ คือผักกาด ผักกวางตุ้ง คะน้า กะหล่ำ ถั่วฝักยาว กะเจี๊ยบ ไชเท้า ถั่วพู แตงโม แตงกวา แตงร้าน ที่บนรั้วจะมีผักตำลึง ผักปังทอดยอดไสว ยิ่งเก็บยิ่งแตกยอด ริมรั้วจะปลูกชะอมเป็นแนวยาว ตรงช่องว่างระหว่างบ้านก็ทำค้างปลูกบวบ มะระ และที่น่าทึ่งมากคือน้ำเต้าแข้งควาย จะออกลูกยาวเกือบแขน ผมว่าหวังผลยากครับ ที่ดินแค่ 75 ตารางวา ปลูกมากมายอย่างนี้ ผมว่าปลูกหวัง ร่มเงาอย่างเดียวคงได้ แต่ถ้าหวัง ผลผลิต คงยาก เพราะแย่งแสงกันครับ ส่วน หญ้า ท่อาจารย์ ปลูก ถ้าแสงแดดไม่พอ (เพราะต้นไม้บังแสงแดดหมด)เจริญเติบโตยากมากครับ ต้องเลือกหญ้าชนิดต้องการแสงน้อย ผมว่า อาจารย์ ต้อง ทดลองทำสัก 1 ปีก่อน นะครับ แล้ว จะได้ประสบการณ์ อีกมากมาย ต้นแก้วมังกรก็เหมือนกัน ต้องปลูกโดนแสงแดดจัดนะครับ ถึงจะให้ผลผลิต และต้องรดน้ำใส่ปุยคอก ให้ดีด้วย ถึงจะเป็นลูก แล้วอีกอย่าง ต้องคำนึงถึงพันธุ์ ผมขอฝากบอก อาจารย์ต้องคัดเลือกพันธุ์ที่ดีนะครับ ได้พันธ์ ไม่ดีไปปลูก แล้ว จะเสียดายเวลาเปล่าครับ หรือ อาจารย์ จะปลูก ไว้เอาร่มเงา หรือ ดูใบ อย่างเดียว ก็ไม่บังอาจ ไปบอกกล่าว อาจารย์ หรอกครับ เพราะ อาจารย์ ระดับ ซี 9 ย่อม เป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์มากมายอยู่แล้วครับ ขอบคุณครับ (อีก สัก 1 ปี อยากเห็นรูปภาพอีกครั้งครับ ว่าจะเป็นอย่างไร อยากเห็นครับ ถ้าได้ผลดี จะทำตามบ้างครับ)

คงเป็นอย่างที่ท่านให้ข้อเสนอแนะมา ตอนเล็กๆก็คงดูดี แต่โตขึ้นคงเบียดกัน ก็คิดอยู่เหมือนกัน ตอนนี้กำลังเห่อของใหม่ แต่สรรพสิ่งคงไม่จีรังยั่งยืน ประสบการณ์คงสอนให้มีการปรับเปลี่ยนต่อไป ผมคงไม่ใช่มืออาชีพแต่ทำเพื่อความสบายใจและเพื่อตรวจสอบภูมิคุ้มกันตัวเองไม่ให้ติดยึด ไม่ได้ลงทุนอะไรมากนัก ขอบคุณครับที่ให้ความรู้และข้อคิดมา

  • สวัสดีครับอาจารย์
  • ได้อยู่กับธรรมชาติ
  • คนที่รู้ใจ  เข้าใจ
  • ขอให้ท่านมีความสุข
  • อย่าลืมมาให้ความรู้แก่ลูกศิษย์นะครับ
  • ตัวอย่างที่ดี ดีกว่าคำสอนใดๆ
    น่าจะใช้ได้นะครับ
  • จะติดตามท่านนะครับ

....เยี่ยมมากเลยครับ อาจารย์ธเนศ ผมชื่นชมท่านจริง ๆ ถ้ามีแผนที่บ้าน ผมจะแวะมาเยี่ยมแน่ ๆ มีหลาย ๆ เรื่อง อยากคุยกับท่าน

เพิ่งแวะมาเยี่ยมชม อาจารย์ก็คิดเออรี่แล้ว...ชื่นชมอะไรหลาย ๆ อย่าง..แล้วจะแวะมาอีก

รู้สึกใจหายที่พี่จะเกษียณเพราะเห็นพี่เป็นผู้นำทางวิชาการมานานมากและเป็นแบบอย่างในการทำงานและการดำเนินชีวิตให้กับน้อง ๆ ตลอดมา พี่ได้ทำงานเพื่อราชการมาตลอดเวลาตั้งแต่รู้จักพี่มา.. ผมเองก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานจากพี่หลายอย่างซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถืออย่างมาก..อย่างไรก็ขอให้พี่ธเนศและครอบครัวมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง นะครับ...

รู้สึกใจหายที่พี่จะเกษียณเพราะเห็นพี่เป็นผู้นำทางวิชาการมานานมากและเป็นแบบอย่างในการทำงานและการดำเนินชีวิตให้กับน้อง ๆ ตลอดมา พี่ได้ทำงานเพื่อราชการมาตลอดเวลาตั้งแต่รู้จักพี่มา.. ผมเองก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานจากพี่หลายอย่างซึ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่นับถืออย่างมาก..อย่างไรก็ขอให้พี่ธเนศและครอบครัวมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง นะครับ...

อ่านแล้วมีความสุขไปอาจารย์เลยค่ะ เห็นด้วยกับหลายคนทีเสียดาย"คุณค่าของอาจารย์" แต่คนที่มีคุณค่า ก็ควรได้รับความสุขที่เขาปรารถนา ซึ่งก็ไม่ได้เบียดเบียนความสุขของใคร ขอให้อาจารย์มีความสุขหลังเกษียณ และอย่าลืมแวะมาเยี่ยมน้อง ๆ ใน gotoknow บ้างนะคะ

ขอบคุณในกำลังใจที่ให้แก่ผู้ใกล้เกษียณ คนเราถ้าไม่ติดยึดอะไร (ตัวกู ของกู) ก็คงทำให้ตัวเองเบาสบาย และเย็นไปถึงคนรอบข้างด้วย ผมเองก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพียงแต่เห็นว่าเวลาที่เราไม่อยู่ในกรอบที่ผู้อื่นกำหนด น่าจะช่วยเสริมบรรยากาศให้เราได้พิจารณาตัวเองและคุมสติได้ดีขึ้น ...

นึกถึงหัวหน้ามาโดยตลอดที่ไม่พบกันเกือบ10ปี วันนี้เปิด google พบเรื่องของหัวหน้าโดยบังเอิญ ทั้งดีใจและตกใจที่หัวหน้าขอเกษียณราชการก่อนกำหนด แต่ก็คิดว่าไม่สำคัญ เพราะอยู่ตรงไหนหัวหน้าก็เป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติและวงการศึกษาได้เสมอและอย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิม เร็ว ๆ นี้จะติดต่อกับหัวหน้าเพื่อขอคำ

แนะนำเรื่องศูนย์พัฒนาวิชาการอีกครั้ง (คิดถึง ศน.กรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา1 ทุกคน มาก ๆค่ะ)

ผมก็เป็นลูกศิษย์ท่าน จำได้เรื่อง เต่าแข่งกับกระต่ายหลายครั้ง  ในแต่ละครั้งก็จะมีกลยุทธใหม่ๆๆ จึงชนะกระต่ายทุกครั้ง  ผมก็ขอเกษียณราชการก่อนกำหนด(เออรี่รีไทม์)

 

คิดถึงทุกคนเช่นกัน อ.สุรีย์ จบ ดร.แล้วใช่ไหม? แต่ละคนต่างก็มีวิถีชีวิตและเหตุผลของตนเอง

kmseveral ก็รับราชการเหมือนกัน ตอนนี้กำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับระบบมากเลยค่ะ

ได้อ่านของท่านอาจารย์ธเนศ แล้วอยากเออรี่บ้างจัง แต่ว่าเพิ่งรับราชการมาได้แค่ 10 ปีเองค่ะ มีวิธีไหนที่ทำให้ kmseveral รู้สึกว่า ชีวิตมีคุณค่าเพิ่มบ้างมั้ยค่ะ

  • ท่าน ศน.ธเนศ ครับ ท่านทำได้ตามอุดมการณ์จริงๆ
  • อีก 12 ปี ผมก็คงทำเหมือนๆกับท่านครับ แต่ขณะนี้ ขอทำหน้าที่ ศน.ไปก่อน
  • ขอทำความดีเพื่อความดีก็แล้วกัน ใครจะว่ายังไงก็แล้วแต่เขา
  • ท่านเป็นนักวิชาการที่สมบูรณ์แบบแล้วครับ
  • สุขภาพร่างกายของท่านยังแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเดิมนะครับ

ตอนนี้เกษียณจริงๆแล้ว 2 ปีที่ผ่านมา ผมสามารถทำตามที่ได้วาดหวังไว้ทุกอย่าง

"อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ ปลูกต้นไม้ ปฏิบัติธรรม ออกกำลังกาย ไปท่องเที่ยว และช่วยเหลือสังคมตามโอกาสอำนวย"

ตอนนี้สุขภาพ กาย-ใจ โล่งโปร่งสบาย มีความสุขตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในชีวิตบั้นปลายแล้วครับ

.... ขอบคุณครับที่ยังรำลึกถึงกัน

จันทณีย์ น้อยพรหม

สวัสดีปีใหม่ 2554 ค่ะ ท่าน อ.ธเนศ

มีหลายคนเล่าถึงบ้านที่น่ารักของอ่านให้ฟัง

ว่าง ๆ จะขออนุญาตไปเยี่ยมชมนะคะ

จ๋า + จันทณีย์ น้อยพรหม

สวัสดีปีใหม่ขอให้ทุกท่านมีความสุขสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ ปีใหม่นี้ผมได้ลองประเมินชีวิตหลังเกษียณของผม 2 ปีที่ผ่านมาในบล็อก www.gotoknow.org/blog/tanes/417524

เยี่ยมจริงๆค่ะไม่ทราบว่าบ้านอยู่เมืองใดคงต้องพาครอบครัวไปเยี่ยมชมบ้างแล้วค่ะ

                                                  นันท์

ตอนนี้ต้นไม้น้ำท่วมตายหมกแล้ว และปลูกใหม่อีกแล้ว เพื่อให้เห็นความเป็นอนิจจังไงล่ะ

เมื่อเช้านี้ได้ดูรายการ "ลุย ฯ "  แนะนำท่านแล้วน่าสนใจ จึงต้องรบกวน อ. google  ข่วยให้รายละเอียดเพิ่มเติม   ชื่นชมและยินดีที่ท่านได้พบความสุขที่ต้องการและมีคู่ชีวิตที่พร้อมจะไปดำรงชีพในแนวทางเดียวกัน   มีข้อคิดทำให้ผมต้องมาฉุกใจในชีวิตตัวเองปัจจุบันทั้ง ๆ ที่อยู่ในบั้นปลายของชีวิตแล้ว

ผมเกษียณอายุราชการมา ๑๗ ปีเศษแล้ว  อยากจะออกไปใช้ชีวิตแบบท่านมานานแล้ว แต่ก็ทำไม่ได้ด้วยเหตุหลายประการ  ที่สำคัญก็ คือ ต้องไปอยู่คนเดียว และความปลอดภัยในชีวิต  ฯลฯ


 

สวัสดีคะอาจารย์ หนูเห็นข้อความที่อาจารย์เขียนแล้วชอบคะ แล้วก็มีความคิดเห็นคล้ายๆกับอาจารย์ แต่ตอนนี้หนู อายุ 36 ปี อยากมีบ้านสวน ปลูกพืช ผักไว้กินเอง อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ คงมีความสุขมาก แต่ยังไม่พร้อมในเรื่องงบประมาณ คิดว่าอีกไม่นาน คงจะเป็นไปตามที่ฝัน อีกหลายปีถึงจะเกษียณคะ

ถ้าหนูมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน  แล้วมีแผนดำเนินชีวิตสู่เป้าหมายอย่างต่อเนื่องหนูก็จะมีความสุขที่แท้จริง พยายามใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกำกำการดำเนินชีวิตต่อไปนะหนู

อ่านบทความอาจารย์แล้วชอบ เพิ่งลาออก 59 คิดคล้ายๆอาจารย์ ยอมลดเงินเดือน เพื่อเพิ่มความอิสระ และความสุขนอกกรอบ แต่ยังเป็นมือใหม่ ใจยังไม่ค่อยนิ่ง ดีใจที่ได้อ่านเรื่องราวของอาจารย์ ขอบคุณค่ะ

8 ปีผ่านไป ผ่านน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี54 จนถึงวันนี้ผมก็ยังยืนยันว่าวิธีคิดของผมถูกต้องยั่งยืนครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท