ผมโชคดีมาก ที่ ดร. สีลาภรณ์ บัวสาย รอง ผอ. สกว. เชิญไปร่วมงานนี้ เมื่อวันที่ ๒๔ ก.ย. ๕๑ ผมได้เล่าประเด็นที่ผมจะไปพูดไว้ที่ http://gotoknow.org/blog/thaikm/209843
มหกรรมการจัดการความรู้นครศรีธรรมราช 2551 จัดในชื่อ "สร้างความรู้ สานความร่วมมือ...สู่ดุลยภาพการพัฒนาเมืองนคร" จัด ๒ วัน คือ ๒๔ – ๒๕ ก.ย. แต่ผมอยู่ร่วมประชุมวันเดียว
สังเกตจากนิทรรศการ และเรื่องเล่าจากที่ประชุมแล้ว ผมสรุปกับตัวเองว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชได้เอา KM มาเป็นเครื่องมือพัฒนาจังหวัดทั่วทั้งจังหวัด ที่ใช้ทฤษฎีสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา ใช้หลักสร้างเจดีย์จากฐาน คือเน้นการพัฒนาจากชาวบ้านเป็นหลัก ราชการเปลี่ยบบทบาทเป็น “คุณอำนวย” ได้อย่างน่าชื่นชมมาก ความพิเศษของ KM เมืองนครที่ผมมองเห็น ได้แก่
เกิด “โรงเรียนคุณอำนวยเมืองนคร” แบบรวมตัวกันเอง จัดกันเอง ไม่มีคำสั่งของใครให้ทำ ไม่รองบประมาณจากที่ใดๆ มีการสร้าง “คุณอำนวย” จากคนที่เป็นชาวบ้าน ทำหน้าที่อยู่ในหมู่บ้าน เป็น “คุณอำนวยหมู่บ้าน” เรื่องนี้เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก และน่าจะส่งเสริมให้กลายเป็น สินทรัพย์ทางปัญญา (intellectual capital) ของ KM ประเทศไทย เป็นกลไกขยาย KM ชาวบ้าน ไปทั่วประเทศ ผมจะเขียนถึง “โรงเรียนคุณอำนวยเมืองนคร” ในอีกบันทึกหนึ่ง
มีการใช้เทคนิค “จับภาพ” ผลสำเร็จเล็กๆ ของแต่ละหมู่บ้าน เอามาทำเป็นเอกสารเล่มเล็ก แลกเปลี่ยนความรู้ มีทีม “จับภาพ” ของจังหวัดถึง ๑๒ ทีม ผมไม่มีโอกาสสอบถามวิธีการทำงานของทีมจับภาพเหล่านี้ แต่ตั้งใจไว้ว่าจะส่งคุณ ”อ้อม ลูกเมืองคอน” ไปจับภาพทีมจับภาพอีกต่อหนึ่ง
มีการนำเอาเทคนิค “โมเดลประเทศ” ของคุณทรงพล เจตนาวณิชย์ ผอ. สรส. ไปใช้ ที่จริงเรื่องนี้ผมไม่ได้ยินการพูดในห้องประชุม แต่มีโปสเตอร์ และทีม สสส. รวมทั้ง อ. หมอประเวศ ไปเยี่ยม อบต. ปากพูน ซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองนั่นเอง พบว่า อบต. ปากพูนใช้ KM โมเดลประเทศ ทำให้มีการดำเนินการอย่างเป็นระบบครบด้าน จึงเกิดพลังเสริมความอยู่ดีกินดีของชาวบ้านถ้วนหน้า อ. หมอประเวศตื่นเต้นมาก ที่ได้เห็นการพัฒนาพื้นที่อย่างครบด้าน เป็นระบบที่เชื่อมโยงกัน และเกิดผลดีต่อความอยู่ดีกินดีของชาวบ้านขนาดนั้น
ท่านผู้ว่าฯ วิชม คอยทำหน้าที่สร้าง KV – Knowledge Vision และการมอง “ปลาทั้งตัว” ของ KM โมเดลปลาทู ของ ดร. ประพนธ์ อยู่ตลอดเวลา ทั้งตอนที่ท่านกล่าวเปิด ๒๕ นาที และกล่าวสรุปอีก ๑๕ นาที ของการประชุมวันที่ ๑๔ ก.ย. ความยิ่งใหญ่อยู่ที่ท่านไม่ได้มอง KM แบบมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ คือไม่มองแบบเป็นโครงการ แต่มองเป็นช่วงๆ ช่วงละ ๔ ปี ช่วงที่ ๑ ปี ๒๕๔๘ – ๒๕๕๑ การประชุมนี้เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จของช่วงที่ ๑ และร่วมกันคิดวางแผนช่วงที่ ๒ (๒๕๕๒ – ๒๕๕๕) ซึ่งมี KV คือ “ตำบลแห่งความพอเพียง” ทำเป็นเครือข่ายถักทอกันทั่วทั้งอำเภอ ท่านมอง KV ไปถึงช่วงที่ ๔ ซึ่งจบในปี ๒๕๖๓ หรือ ค.ศ. ๒๐๒๐ พอดี ผมตีความว่า ท่านทำหน้าที่ “ยอดคุณเอื้อ” วิธีทำหน้าที่ “คุณเอื้อ” ของท่านเป็นเรื่องที่น่าเรียนรู้มาก
ผมจับเคล็ดในการทำหน้าที่ “ยอดคุณเอื้อ” ของท่านผู้ว่าฯ วิชม ได้อย่างหนึ่ง คือท่านใช้วิธี ชื่นชม (สมชื่อ) ตามด้วย ท้าทาย ในเวลาเดียวกัน ท่านใช้คำว่า KM เมืองนครฯ ที่ทำมา ๔ ปี ได้ทำให้ชุมชนนครฯ มีความเข้มแข็งแล้ว แต่ยังเข้มแข็งเป็นจุดๆ และเข้มแข็งเพียงบางด้าน ต่อไปในช่วงที่ ๒ จะทำให้เข้มแข็งทุกด้าน ในทุกพื้นที่ ท่านไม่ได้กล่าวเฉยๆ แต่จัดทีมจับภาพไปตรวจสอบความเข้มแข็ง เอามา ลปรร. กัน ส่วนที่ยังไม่เข้มแข็งก็รู้กันเอง
“หัวปลาใหญ่” ของ KM เมืองนคร คือ “๓ อยู่” อยู่ดีกินดี อยู่เย็นเป็นสุข และอยู่รอดปลอดภัย เป็นการตั้งหัวปลาแบบที่ให้อิสระในการตีความและดำเนินการแก่ “คุณกิจ” ของแต่ละพื้นที่ โดยคอยตีความชี้แนะ และให้กำลังใจ เชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์หรือคำขวัญเมืองนครศรีธรรมราช ว่า “นครฯ เมืองพระ” เพื่อประสบความสำเร็จ ต้องใช้ธรรมะ อินทรีย์ ๕ พละ ๕ มาเป็นพลัง
มีการให้รางวัลแก่ความสำเร็จจำนวนมาก ได้แก่รางวัลชุมชนอินทรีย์ รางวัลตำบลแห่งความพอเพียง ประกาศเกียรติคุณคุณอำนวยตำบล ประกาศเกียรติคุณทีมจับภาพในพื้นที่ ประกาศเกียรติคุณบุคลากร อปท. ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการจัดการข้อมูลตำบล ผมมองว่าเป็นวิธีสร้างแรงขับเคลื่อนด้วยความภาคภูมิใจในความสำเร็จ แต่ในขณะเดียวกัน เนื้อหาของการ ลปรร. ก็ช่วยบอกว่า ยังต้องพัฒนาบางด้าน หรืออีกหลายด้าน ผมเสียดายที่ไม่ได้มีโอกาสฟังเรื่องราวของพื้นที่ต้นแบบ (Best Practices) ในวันที่ ๒๕ ก.ย.
มีการวางแนว KM สำหรับการเดินทางไกล (long journey) ของผู้คนทั่วทั้งจังหวัด ไม่ได้มอง KM เพื่อให้ได้ชื่อว่ามีการทำ KM แต่เน้นการเอา KM มาเป็นเครื่องมือบรรลุ ๓ อยู่
ผมคิดว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชน่าจะเป็นตัวอย่างของการนำเอา KM มาใช้เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงสังคมฐานราก จากสังคมรับรู้ เป็นสังคมเรียนรู้ เกิดความมั่นใจตนเอง มีกลไกภายในจังหวัดเอง ทำหน้าที่ส่งเสริมการเรียนรู้ของชาวบ้านโดยการรวมตัวกัน ลปรร. ความรู้ปฏิบัติ
ข้างล่างเป็น “เศษกระดาษบันทึกระหว่างการประชุม” ของผม
วิชม 3 อยู่ ทำมาแล้วช่วงที่ 1 เวลา 4 ปี ต้องมีอีก 3 ช่วง 12 ปี ใช้เครื่องมือ KM
เรื่องเล่าจาก 5 คุณอำนวย
รร คุณอำนวยแห่งแรกของประเทศ ที่จัดตั้งกันเอง
ประเวศ ยืนยันจุดเปลี่ยน ปทท นคร เดินมาถูกทาง
ท้องถิ่นต้องไม่เป็นภาครัฐ ต้องทำงานร่วมกับชุมชน และทำเรื่องความรู้
วิจารณ์ พานิช
๒ ต.ค. ๕๑
สวัสดีครับท่านอาจารย์
คณะของผมจากพัทลุงนำโดยนายหัว แก้ว สังข์ชู อยู่ร่วมทั้ง สอง วัน
ถ้าจะว่าไป นคร พัทลุง-สงขลา ในเรื่ององค์ชุมชน มีเด่นคนละด้าน
นคร KM พัทลุงแผนชุมชน สงขลา องค์กรการเงิน สวัสดิการ น่าสนใจครับอาจารย์
ขอบคุณอาจารย์มากครับที่นำมาเสนอ
สวัสดีค่ะ ท่านอาจารย์
แวะเข้ามาอ่านโชคดีค่ะได้รูในสิ่งที่อยากรู้
เขียนเข้าใจง่าย อ่านเพลินค่ะ จะตามอ่าน km วันละคำค่ะ