การประชุมวันที่ ๒ (๒๙ ต.ค. ๕๑) เน้น ลปรร. SS (Success Stories) ของการสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพ กับระดมความคิดกลุ่มย่อยเรื่อง “กลไกระดับสถาบัน” ที่ทำหน้าที่เชื่อม ระหว่าง demand-side กับ supply-side ของการสร้างและพัฒนา systems expert ของระบบสุขภาพ การ ลปรร. SS มี ๒ ช่วง คือช่วง SS ระดับประเทศ หรือระดับสถาบัน กับช่วง SS ของกลไกแบบเครือข่าย ช่วง SS ของการสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพ ระดับประเทศหรือสถาบัน มีผู้นำเสนอ ๓ คน ผม AAR กับตัวเองว่า เขาคิดค้นหาวิธีเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อทำบทบาทสร้างคนให้แก่ระบบสุขภาพโลก อยู่ตลอดเวลา บทบาท ที่ ๒ คือ ร่วมมือวิจัย และส่งอาจารย์ไปตั้งมั่นในต่างประเทศ เขามีศูนย์วิจัยมาลาเรีย และมีความร่วมมือกับประเทศอัฟริกาใต้ และไทย เขาส่งอาจารย์มาประจำอยู่ที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน ๑ คน เพื่อทำวิจัยมาลาเรียร่วมกัน ในอนาคต เขาจะเน้นความร่วมมือระดับสถาบันมากกว่าระดับบุคล 1. Primary Health Care led 2. Equity targeted 3. District focus โดยทำในระดับภูมิภาคของทวีปอัฟริกา คือร่วมมือกัน ๑๕ ประเทศ ทำมาแล้ว ๑๒ ปี การนำเสนอของหมอสุวิทย์มีสีสัน และมีความชัดเจนสร้างความประทับใจอย่างยิ่ง ที่จริงเวลานี้หมอสุวิทย์เป็นนักวิชาการผู้นำระดับโลกในเรื่อง International Health เป็นเกียรติแก่ประเทศไทยอย่างยิ่ง PowerPoint ของการนำเสนอดูได้ที่นี่
เพื่อให้ที่ประชุมเห็นภาพของการสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพ ระดับสถาบัน หมอสุวิทย์โยนต่อให้ผลเล่าเรื่อง สกว., ทุนเมธีวิจัยอาวุโส, และทุนปริญญาเอกกาญจนาภิเษก โดยหมอสุวิทย์ได้บอกให้ผมเตรียมไว้ล่วงหน้า และผมได้เตรียม PowerPoint ๘ แผ่น ประกอบการนำเสนอในเวลาสั้นๆ ไม่ถึง ๑๐ นาที ผู้เข้าร่วมประชุมจึงชมเปาะของกรณีตัวอย่าง SS ของประเทศไทย ดู PowerPoint ของผมได้ที่นี่
ช่วง SS ของกลไกแบบเครือข่าย มีการนำเสนอ · Management Education and Research Consortium, www.mercnetwork.org และ Association of African Business School, www.aabs.com · INCLEN ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ของ RF มานานมาก · Fogarty International Center, NIH · Leadership Initiative for Public Health in East Africa, www.liphea.org ทำหน้าที่สร้างความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในสหรัฐกับในอัฟริกาตะวันออก สนับสนุนโดย USAID ผม AAR กับตัวเองว่า เจ้าระบบสุขภาวะ ที่มีเป้าหมายแท้จริงเพื่อสุขภาวะของผู้คน นั้น ในความเป็นจริงแล้ว มันถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อผลอีกหลายอย่าง เช่นเพื่อสร้างความใกล้ชิดระหว่างประเทศ เพื่อให้สถาบันวิชาการได้สร้างสรรค์ผลงาน และอื่นๆ นักวิชาการในประเทศที่มีรายได้ปานกลางและต่ำ หากไม่รู้เท่าทัน ก็จะไม่ได้ทำงานเพื่อ เป้าหมายปลายทางที่แท้จริง แต่โดนชักชวนให้ทำเพื่อเป้าหมายรายทาง และมีความสุขอยู่กับผลประโยชน์ที่เขาหยิบยื่นให้ในรูปของทุนช่วยเหลือ วิจารณ์ พานิช ๓๐ ต.ค. ๕๑ ห้อง CA 4 ศูนย์ประชุม มูลนิธิ ร็อกกี้เฟลเล่อร์ เบลลาจิโอ
รูปผู้เข้าร่วมประชุม
ขอบคุณมากครับ น่าสนใจมากครับ เช่นข้อความทิ้งทาย "แต่โดนชักชวนให้ทำเพื่อเป้าหมายรายทาง และมีความสุขอยู่กับผลประโยชน์ที่เขาหยิบยื่นให้ในรูปของทุนช่วยเหลือ"
ขอบพระคุณครับ