ต่อจาก บันทึกการเดินทาง 4-10 ธ.ค.51 ภาคเหนือ ตอนที่ 1

ตอนที่ 2
ศ.5 ธ.ค.51 6โมงเช้านาฬิกาปลุกก็ได้ทำงานอีกครั้ง ดังจนต้องเอาตัวออกจากผ้าห่ม อากาศเย็นมากเลย ก็รีบอาบน้ำอุ่นๆ และออกเดินทางต่อ
แต่ตั้งใจไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมกว๊านพะเยา ไปถึงริมกว๊าน พบว่าปิดถนน เพื่อให้คนในเมืองใส่บาตรทำบุญวันพ่อ เลยเดินไปดูบรรยายกาศการจัดงาน เล็กน้อย

แต่อยู่ได้ไม่นาน เพราะกลัวว่าจะเดินทางไปร่วมกับกลุ่มเฮฮาฯ6 ไม่ทัน
จึงรีบบึ่งไปเมืองเชียงรายใช้เวลาไม่นาน โทรประสานกับหมอเบิร์ดอยู่เป็นระยะๆ ที่แรกที่คณะเดินทางไปคือ รอยพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
แต่ก็ไม่ทันกลุ่ม โทรประสานอีกครั้งได้ความว่าอยู่วัดพระแก้ว ก็ตามไปทันใด
และแล้วก็มาทักมาทายมากอดกันในวัดเลย คนแรกที่เดินมาทักทายด้วยเสียงอันได้ยินกันครึ่ง มิใช่ใครอื่น น้องจิ
ทักทายกันนิดหน่อย ก็เยื่ยมชมบรรยายกาศของวัดที่สวยงามของอาคาร ความสงบร่มเย็น

ใช้เวลาดื่มด่ำกับความสวยงามของวัดนี้อยู่พักใหญ่ ก็เคลื่อนย้ายคณะกันไปที่ อนุเสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย
ใช้เวลาเยื่ยมชม ไม่ถึง 8 นาที คณะทั้งหมดก็เคลื่อนย้ายไปวัดร่องขุ่น ที่อยู่ทางใต้ของเมืองเชียงราย ที่วัดร่องขุ่น ผู้คนเยอะมาก เหมือนมีของแจกฟรี และผมก็เป็นผู้ร่วมรับของแจกเหมือนกัน 5555

ใช้เวลาอยู่ที่นี่ 40 นาทีก็เคลื่อนย้ายคณะไปที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านสันกอง อ.แม่จัน ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของตัวเมืองเชียงรายใช้เวลาเดินทางกัน ประมาณ 45 นาที เมื่อไปถึง
ก็ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน และเดินชมกิจกรรมของกลุ่มสมาชิกชุมชนบ้านสันกอง

เมื่อแดดเริ่มแรงขึ้นคณะทั้งหมาย ก็เคลื่อนย้ายไปยัง ศูนย์ประวัติศาสตร์ อ.เชียงแสน ซึ่งที่นั้น ก็มี อาเหลียง หนวดงาม พร้อมครอบครัว ครูมิติ รอให้การต้อนรับ กอดทักทายพอหอมปากหอมคอ ก็ขึ้นรถไฟฟ้า ชมเมืองเชียงแสนแดนวัฒนธรรมเก่าแก่ ที่ในอดีตมีวัดอยู่ในเขตเมืองมากมาย

ต่อมาก็เดินทางไปยังท่าเรือ ล่องลำน้ำโขง ชม3ดินแดน พร้อมรับฟังความคิดเห็นในด้านธุรกิจท่องเที่ยวย่านสบรวก สามเหลี่ยมทองคำ จากนักธุรกิจไทยไฟแรง

ขึ้นฝั่ง ก็รวมรถ ขึ้นดอยสะโง๊ะ ซึ่งผมก็ขอร่วมรถพี่บางทราย ที่เป็นรถขับเคลื่อน4ล้อ เมื่อถึงก็มีเด็กๆชาวเขามาให้การต้อนรับ

ดูการแสดงการต้อนรับของน้องๆแล้วก็ขึ้นเขาไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวเขาป่าชุมชน
จากการที่แสงบนท้องฟ้าแทบจะหมดสิ้น การเดินในเข้าป่าที่ค่อยข้างหนาทึบ ก็ยิ่งทำให้การมองเส้นทาง ก็ต้องระวังการเดินเหยียบย่ำบนพื้นดินที่ไม่แน่ใจว่าเบื้องหน้าจะมีอะไร
เดินไปชมแหล่งน้ำที่ชาวเขาใช้กัน

เมื่อหมดแสงบนฟ้า คณะทั้งหมดก็เดินทางกลับมายังศูนย์ประวัติศาสตร์ อ.เชียงแสนร่วมรับประทานอาหารเย็น ในรูปแบบขันโตก พร้อมชมการแสดงของน้องๆเยาวชนในเชียงแสน
หลังจากชมการแสดงแล้วก็เป็นการส่งหัวใจให้คนที่เราอยากให้ เมื่อส่งให้แล้วก็พูดความรู้สึกถึงการได้มาเฮฮาฯ6 ครั้งนี้

จน3ทุ่มกว่า ก็เดินทางไปยังวัดพระธาตุผาเงา ที่อยู่ทางใต้ของเขตเมืองเชียงแสน เมื่อไปถึงยอดเขาที่มีโบสถ์ พร้อมพระธาตุจอมจันอยู่เบื้องหน้า ณ จุดนี้ ทั้งคณะก็ร่วมกันปล่อยโคมไฟ

หลังจากนั้น คณะ ก็แบ่งกลุ่มชายหญิง นอนกันคนละอาคาร สำหรับอากาศบอกได้ว่าเย็นและน้ำค้างแรง
ก่อนนอน ร่วมสนทนากันเรื่องเกี่ยวกับภูมิภาคทางเหนือ และเมื่อปิดไฟเพื่อพักผ่อน ก็เหมือนปิดเสียงร่างกาย ปิดตาพักผ่อนกันทุกคน
หลับไปตอนไหนไม่รู้

ติดตามต่อที่ บันทึกการเดินทาง 4-10 ธ.ค.51 ภาคเหนือ  ตอน 3