ตามที่ได้เกริ่นไว้ เกี่ยวกับนิทานวิวัฒนาการ นี้เป็นนิทานจากการเล่าของนักเรียนกลุ่มแรกครับ เนื้อหาที่ได้รับมอบหมายให้ไปเขียน และวาดภาพประกอบ เพื่อมาเล่าเป็นนิทาน คือ หลักฐานที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต นักเรียนกลุ่มนี้เตรียมตัวมาดีมาก แกตั้งชื่อเรื่องของแกว่า วิวัฒนาการสุดป่วน ผมคัดลอกมาทั้งหมด มิได้ดัดแปลงอะไร
วิธีการเล่านิทานในชั้นเรียน นักเรียนแทบทุกกลุ่มทำคล้ายๆกัน กล่าวคือ จะแบ่งสมาชิกในกลุ่มให้รับผิดชอบพากย์เสียงตัวละคอนต่างๆที่มีในเนื้อหา จะมีคนหนึ่งคอยเปลี่ยนภาพวาด ซึ่งฉายออกจอทีวี ให้สอดคล้องกับเรื่องที่กำลังดำเนินไป
สำหรับนักเรียนกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของผลงาน ประกอบด้วย ชิษณุ บัวกลอย(นุ) , สราวุฒิ คงสวัสดิ์(ป๊อบ) , ทวีทรัพย์ รอดเขียว(จ๊อด) , นุจรีย์ ยวงปิน(นิด) และ รัตนาภรณ์ พรมสงฆ์(เขียว)ครับ
ณ ซอกหลืบหนึ่งของเมือง มีหมู่บ้านเล็กๆซ่อนอยู่ หมู่บ้านนี้มีชื่อว่า“ชุมชนกลุ่มน้อยบ้านหมื่นจันทร์ที่ 0.001” ซึ่งหัวหน้าหมู่บ้านคนเก่าได้หมดวาระลง และต้องการหาหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ขึ้นมาแทน โดยหัวหน้าคนใหม่ต้องผ่านการคัดเลือกจากหัวหน้าคนเก่า
ซึ่งหัวหน้าคนเก่าได้กล่าวขึ้นมาว่า“โฮะ โฮะ โฮะ นี่ก็ได้เวลาแล้ว ที่ตัวข้านี้หมดวาระลงในการเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ผู้ใดที่จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่ จะต้องหาหลักฐานทางวิวัฒนาการให้ชัดเจนที่สุด ข้าถึงจะให้ขึ้นเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน”
นายดำเกริง เขามีความเชี่ยวชาญในด้านการขุดบ่อน้ำให้แก่คนในหมู่บ้านชุมชนกลุ่มน้อยบ้านหมื่นจันทร์ที่ 0.001 วันหนึ่งเขาได้ไปขุดบ่อน้ำให้กับนายปือจังฮะ
หลังจากได้พูดคุยกับนายปือจังฮะ นายดำเกริงจึงมุ่งตรงไปที่เป้าหมาย ตั้บ ตั้บ ตั้บ และเขาก็ขุดลึกลงไปเรื่อยๆ จนพบซากกระดูกมากมาย เขาจึงอุทานขึ้นมาว่า ฮุ้ย! ซากเหล่านี้น่าจะมีประโยชน์ เขาคิดแล้วคิดอีก และนั่งมองกระดูกเหล่านั้น จนเขาได้ปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า“นี่แหละ คือ หลักฐานที่น่าจะบอกถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้ แฮะ แฮะ แฮะ” จากนั้นเขาได้เดินทางไปหาหัวหน้าหมู่บ้าน และได้พูดคุยกับหัวหน้าหมู่บ้าน ถึงหลักฐานที่ตนเองหามาได้
ส่วนเซฟเป้า ชายผู้มีหน้าที่ทำอาหารเลี้ยงคนในหมู่บ้าน เซฟเป้าได้นำสัตว์มากมายหลายชนิด มาทำอาหาร เช่น วาฬ ซาลามานเดอร์ จระเข้ นก ค้างคาว ตุ่น เป็นต้น จากการแล่เนื้อสัตว์ออก เซฟเป้าได้เห็นกระดูกมากมายหลายชนิด เซฟเป้าได้สังเกตเห็นกระดูกรยางค์คู่หน้าของสัตว์ต่างๆ เซฟเป้าจึงได้ความคิดขึ้นมาว่า น่าจะเป็นหลักฐานที่แสดงถึงวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้ เขาจึงเดินทางไปพบผู้ใหญ่
ส่วนดอกเตอร์ปือ มีหน้าที่เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสัตว์ ซึ่งดอกเตอร์ปือได้เห็นการเจริญเติบโตของตัวอ่อนจากสัตว์หลายๆชนิด ดอกเตอร์ปือนั่งสังเกตสัตว์เหล่านั้นทุกวัน จนเขาได้ความคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการ เขาจึงรีบเข้าพบท่านผู้ใหญ่บ้าน
ทางด้านหมอแหยมเขามีหน้าที่รักษาคนและสัตว์ในหมู่บ้าน และมีความรู้เกี่ยวกับกรดอะมิโน เขาได้สังเกตกรดอะมิโนของสิ่งมีชีวิตต่างๆ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับคน จึงทำให้เขาได้ความคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการ แล้วนำไปเสนอให้ผู้ใหญ่ฟัง
มาถึงตัวเต็งที่สุด ที่จะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน นั่นคือ จอมโจรโม่งแดง ซึ่งเป็นโจรสลัดที่ออกเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อปล้นคนเลว เอาเงินมาให้คนดีได้ใช้ จากการเดินทางของจอมโจรโม่งแดง เขาได้พบสิ่งมีชีวิตมากมายในหลายหมู่เกาะ และเขาได้สังเกตเห็นนกฟินส์ เขาได้นั่งครุ่นคิด จนคิดออกว่า มันน่าจะเป็นหลักฐานทางวิวัฒนาการ เขาจึงเดินเรือกลับหมู่บ้าน เพื่อไปพบท่านผู้ใหญ่
คนสุดท้ายที่นำเรื่องหลักฐานมานำเสนอให้กับผู้ใหญ่ คือ นายรวมมิตร จิตริษยา ซึ่งเขามีนิสัยขี้โกง เขาได้ไปแอบฟังหลักฐานทั้ง 5 คน แล้วนำมาสรุปเป็นของตนเองและได้นำไปเสนอพ่อผู้ใหญ่
เช้าวันที่ 28 สิงหาคม ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศผล
ผลปรากฏว่า ผู้ที่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านคนต่อไป คือ นายรวมมิตร จิตริษยา เพราะหลักฐานของเขาครบถ้วน สมบูรณ์ที่สุด เมื่อนายรวมมิตร จิตริษยาได้เป็นผู้ใหญ่บ้านแล้ว หมู่บ้านนี้จึงเกิดการโกงกินกันทั้งหมู่บ้าน ก่อให้เกิดความไม่สงบสุข
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเห็นกงจักรเป็นดอกบัว
แน่ะ! มีคติสอนใจ ยังกับนิทานของอิสปเลย(ฮา) เห็นเนื้อหา เห็นภาพวาด รวมทั้ง ได้ชมฝีมือการเล่านิทานของนักเรียนกลุ่มนี้แล้ว..ทำได้ดีกว่าที่ครูคิดเยอะครับ
ไชโยมาจองก่อนใคร อาจารย์นำผลงานนักเรียนมาแสดง น่าสนใจมากค่ะ ..เป็นศิลปินได้ทั้งนักเขียนนักจิตรกรน้อยค่ะ
* นี่ถ้าให้ครูมาเล่าเรื่องแข่ง .... สงสัยต้องคิดนานหน่อย Hu Hu Hu !
* ชื่นชมค่ะ... มีการบูรณาการเข้ากับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ อย่างหลากหลายเชียว..
มีข้อคิดดีๆที่แฝงด้านคุณธรรม-จริยธรรมด้วยแฮะ.... เยาวชนรุ่นนี้น่าจะเป็นความหวังของประเทศไทย... แสดงว่า....ผ่านกระบวนการ-การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ได้ผลเกินคาด....เนาะ
* สงสัยอยู่นิดหนึ่งว่า....อาจารย์ธนิตย์ได้ฉายา..จากเด็กๆ บ้างอ้ะปล่าว.... แหม...ก็ชื่อตัวละครแต่ละชื่อล้วนโดนใจ..จริ๊ง-จริง Hu Hu Hu !
ยอดเยี่ยมเลยครับอาจารย์
ผมคิดว่าเด็กต้องการโอกาสและเงื่อนไขสนับสนุนให้เขาได้คิดได้แสดงออก
แต่ระบบการศึกษาในโรงเรียนมักละเลยสิ่งเหล่านี้ครับ
เห็นกิจกรรมดี ๆ แบบนี้อดชื่นใจแทนไม่ได้ครับ
สวัสดีครับอาจารย์ธนิตย์
หากนักเรียนสามารถบูรณาการกับสาระเทคโนโลยีได้ โดยการใช้คอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นได้
ถือว่าขั้นเทพเลยครับ
ขอบคุณครับ