คำประกาศเจตนารมย์ "การต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติดของภาคประชาชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง"


คนที่ปกปิดโดยทำเป็นไม่รูไม่ชี้ต่อปัญหายาเสพติด คือผู้ร่วมกระทำผิด และต้องได้รับโทษทางสังคม

 

     จากการไปประชุมกับทีมงานภาคประชาชนที่กำลังเตรียมการประกาศเจตนารมย์ในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดที่หาดใหญ่ ซึ่งเขียนไว้คร่าว ๆ แล้วที่ คิดอะไรได้ก็เขียน ๆ เดินทางไปตาม "คำสัญญาที่หาดใหญ่" วันนี้จะได้นำเสนอผลกรยกร่างนั้นไว้ ณ ที่นี่ โดยที่ประชุมวันนั้นตั้งใจจะนำเสนอ (ร่าง) เจตนารมย์การต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติดของภาคประชาชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ฉบับนี้ต่อสาธารณะในทุกช่อทางไม่ว่าจะเป็นวิทยุชุชน วิทยุท้องถิ่น โทรทัศน์ท้องถิ่น หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น โดยเปิดสายรับข้อมูลย้อนกลับด้วย แล้วทังหมดจะนำไปประมวลผลกันอีกครั้งในค่ำคืนวันที่ 25 มิ.ย.52 ที่จะถึงนี้ ก่อนจะยกเป็นฉบับจริงแล้วจะสังเคราะห์เป็นภาพรวมของประเทศ เพื่อมอบต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่ท่านจะมาเปิดงานวันต่อต้านยาเสพติดโลก (อ่านต่อสาระควรรู้) ที่ Impact เมืองทองธานี 

    ต่อไปนี้จึงเป็นข้อความฉบับร่างที่ยังอยากได้ข้อเสนอแนะเพื่อเติมเต็มจากผู้ที่เป็นเจ้าของปัญหาทุกท่าน ณ ที่แห่งนี้ด้วยครับ

          (ร่าง) เจตนารมย์การต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติดของภาคประชาชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง

          ในนามของประชาชนที่ต้องเผชิญกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างซับซ้อนยิ่งในปัจจุบัน ปัญหาต่าง ๆ เป็นต้นเหตุของปัญหาอีกหลายปัญหา แล้ววนกลับมาส่งผลต่อปัญหาเดิมให้มีอิทธิพลรุ่นแรงขึ้น ปัญหาหนึ่งที่ปรากฎชัดคือปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด จากความซับซ้อนของปัญหาที่กล่าวมา คนที่ต้องได้รับผลกระทบจากสภาพปัญหานี้ ก็หนีไม่พ้นพวกเราที่เป็นประชาชน ครอบครัวของเรา ลูกหลานของเราในชุมชน และสังคมของเราโดยรวม เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราทั้งหลายล้วนสำนึกว่าปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด และผลกระทบที่ตามมาเป็นลูกโซ่นี้ เป็นปัญหาของพวกเราเอง ที่พวกเราเองต้องลุกขึ้นมาจัดการเป็นการเร่งด่วน พวกเราจึงขอประกาศเจตนารมย์การต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติดของภาคประชาชน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ดังต่อไปนี้

          1. พวกเราถือว่าหน้าที่ในการจัดการกับปัญหายาเสพติดต้องเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคน รัฐต้องมีกฎหมายเป็นการเฉพาะเพื่อการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนต่อสู้กับปัญหานี้ได้เต็มที่ และเพื่อคุ้มครองความชอบธรรม ความปลอดภัย และความสำนึกดีของประชาชนในฐานะเจ้าของปัญหาที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเอาชนะปัญหายาเสพติด

          2. พวกเราที่เป็นประชาชนในสังคมนี้จะร่วมใจกันให้โอกาสแก่ผู้เสพหรือใช้สารเสพติดในการกลับเข้ามาอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เพราะเขาเหล่านี้แท้ที่จริงแล้วคือผู้ที่ถูกกระทำจากทุกด้าน พวกเราถือว่าเขาเป็นผู้ป่วยที่ต้องให้การบำบัดรักษา ให้ได้รับการฟื้นฟูสภาพในทุกมิติ เขาจะได้รับความเมตตาจากพวกเราอย่างที่เราความรู้สึกต่อ ลูก หลาน ญาติ หรือมิตรที่เจ็บไข้ได้ป่วย ซึ่งเราจะร่วมกันดูแลเอง 

          3. พวกเราที่เป็นประชาชนในสังคมนี้จะต้องไม่ให้โอกาสแก่ผู้ผลิต หรือผู้ค้าโดยเด็ดขาด เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่สมาชิกของสังคมเรา จึงไม่ใช่ประชาชนหมู่เราที่เราจะต้องร่วมกันปกป้องเขาเหล่านั้นไว้ให้คอยบ่อนทำลาย และทำร้ายพวกเราต่อไปอีก และพวกเราจะช่วยกันในทุกวิถีทางตามกฎหมาย ที่จะทำให้คนเหล่านี้ได้รับการพิจารณารับโทษตามประบวนการยุติธรรมของรัฐ

          4. พวกเราได้ตระหนักร่วมกันว่ากลุ่มเสี่ยงของปัญหายาเสพติดและผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือกลุ่มอายุใดอายุหนึ่ง แต่ทุกคนมีความเสี่ยงเหมือนกันตั้งแต่แรกเกิดจนตาย กระบวนการจัดการกับปัญหานี้ในส่วนของภาครัฐจึงต้องเป็นภารกิจที่มีอยู่ในกลไกรัฐตามปกติ โดยมีกลไกการทำงานของภาคประชาชนเพื่อการต่อสู้เอาชนะปัญหายาเสพติด เป็นกลไกหนึ่งที่รัฐยอมรับในการทำงานไปพร้อม ๆ กัน

          5. พวกเราเชื่อมั่นในวิธีการจัดการกับปัญหายาเสพติดของภาคประชาชนที่มีความหลากหลายและยืดหยุ่นไปตามบริบทสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่หรือชุมชน รัฐจึงต้องให้โอกาสในการจัดการกับปัญหานี้โดยใช้วิถีชุมชนนำ และใช้วิถีรัฐเสริมหนุนอย่างต่อเนื่อง

          6. พวกเราอยากเห็นการจัดการกับปัญหายาเสพติดเป็นวาระของประชาชนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง ที่ไม่ใช่เป็นเพียงประเด็นทางการเมืองที่ถูกเชื่อมโยงไว้กับผลประโยชน์ในทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นคะแนนเสียง เงินสนับสนุน งบประมาณ หรือผลประโยชน์ซ่อนเงื่อนอีกมากที่เราไม่เข้าใจในตอนนี้ แต่เรารู้ว่ามีแอบซ่อนอยู่

          7. พวกเราเชื่อมั่นว่าการวางรากฐานเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติดในระยะยาวคือการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ในทุกขั้นของพัฒนาการเรียนรู้ โดยเริ่มตั้งแต่แรกเกิดดำเนินต่อเนื่องไปจนตลอดชีวิต โดยถือว่าเป็นหน้ที่ของพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน สถาบันทางศาสนา สถาบันการศึกษา และทุกหน่วยย่อยอื่น ๆ ของสังคม อย่าละเลยว่าเป็นหน้าที่ใครเป็นการเฉพาะ

          8. พวกเราเชื่อมั่นว่าแท้ที่จริงแล้วปัญหายาเสพติดเกิดที่ชุมชน จึงต้งแก้ปัญหากันที่ชุมชนเป็นหลัก สังคมโดยรอบ และรัฐต้อสนับสนุนกระบวนการแก้ไขปัญหานี้มาที่ชุมชน

          9. พวกเราเชื่อมั่นกันมาตลอดว่าปัญหายาเสพติดไม่ใช่ปัญหาของพื้นที่ที่พบผู้เสพ จับผู้ค้า หรือทราบสถานที่ผลิต แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาของทุกพื้นที่ หากยังมีพบที่ใดที่หนึ่งในโลกนี้อยู่

          10. พวกเราเข้าใจว่าการสื่อสารสาธารณะเป็นเรื่องสำคัญ จำเป็น และต้องว่องไว แต่การสื่อสารใด ๆ ที่เกี่ยวกับปัญหายาเสพติดมักจะมีผลสองทางเสมอ พวกเราจึงอยากเห็นความระมัดระวังของสื่อในเรื่องนี้ เช่น การนำเสนอวิธีการหรือสาเสพติดชนิดใหม่ (กรณี 4 คูณ 100 หรือการใช้ยาแก้ไขบางชนิด) ทำให้กลุ่มใหม่ไปลองเสพตามที่ได้รับทราบไป

          11. พวกเราเข้าใจว่าสิ่งที่จะประกาศเป็นเจตนารมย์นข้อนี้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากที่สุด แต่เราจะมุ่งมั่นที่จะทำ และจะทำต่อไปอย่างต่อเนื่อง คือการเปลี่ยนวิธีคิดของคนเราในสังคมต่อปัญหายาเสพติด เช่น การเชื่อว่าคนที่ปกปิดโดยทำเป็นไม่รูไม่ชี้ต่อปัญหายาเสพติด คือผู้ร่วมกระทำผิด และต้องได้รับโทษทางสังคม เป็นต้น

หมายเหตุท้ายบันทึก: อยากได้ข้อเสนอแนะเพื่อเติมเต็มครับ
ขอให้ถือว่าเราทุกคนต้องช่วยกันช่วยเหลืองานของภาคประชาชนในประด็นนี้
เพราะเขาก็กำลังทำเพื่อเราทุกคนกันอยู่ครับ

 

หมายเลขบันทึก: 267938เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2009 20:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)
  • อนุโมทนา สาธุ

เจริญพร

สวัสดีค่ะ

  • มาเชียร์..คำสัญญาที่หาดใหญ่ค่ะ
  • เป็นกำลังใจให้นะคะ
  • ขอแนะนำคนของสื่อค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/sarannapat/267931

คุณชายขอบ คะ

แม้จะเป็นคนภาครัฐ  แต่สำหรับปัญหายาเสพย์ติด ดิฉันก็มีฐานคิดเดียวกันกับประชาชน

และเป็นพลังภาคประชาชน คนหนึ่ง...

ตามมาเป็นกำลังใจครับอาจารย์เรื่องทุกเรื่องเราต้องช่วยกันครับ http://gotoknow.org/blog/fuad1011/267844 แม้กระทั่งเรื่องที่เกิดขึ้นในสังคมตอนนี้ครับอาจารย์

นมัสการครับหลวงพี่ (BM.chaiwut) 

  • ดีใจครับที่หลวงพี่มา "โมนาสาธุ" ด้วย

สวัสดีครับครูคิม

  • ขอบคุณครับ สำหรับกำลังใจคนใต้ล่าง ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดีครับ โดยเฉพาะเขต 3 จังหวัด 
  • แต่การทำงานของเรา เรายังรักกัน ศรัทธาและไว้ใจกันเยอะครับ

สวัสดีครับคุณอรทัย

  • เราไม่ได้แบ่งแยกคนขอรัฐ คนของใครหรอกครับ
  • เราเชื่อว่าทุกคนเป็นประชาชน นะครับ
  • ดีใจนะครับที่คุณอรทัยเข้าใจพวกเรา มีฐานคิดแบบประชาชนในเรื่องยาเสพติด
  • ทางใต้บน ก็มีการขับเคลื่อนเหมือนกันครับ ปปส.ภาค 8 และ มภท. ที่สุราษฎ์ธานี จะเป็นเจ้าภาพอยู่ครับ
  • ช่วย ๆ กันนะครับ

สวัสดีีครับคุณเสียงเล็ก ๆ

  • ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ
  • ขอแสดงความศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ สำหรับพื้นที่ 3 จว.นะครับ
  • คุณเสียงเล็ก ๆ ระวังตัวบ้างนะครับ อย่าประมาทไป
  • ขอให้ ศานติสุข กลับมาโดยเร็วครับ

สวัสดีค่ะคุณชายขอบ

เห็นด้วยที่ว่าการร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องทำให้คนในสังคมคิดว่าคือ “หน้าที่” ต้องร่วมด้วยช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย เพราะทุกวันนี้ตราบใดที่ยาเสพติดยังไม่ย่างกรายเข้ามาถึงตัวหรือคนใกล้ชิด ก็มักจะคิดว่า “ธุระไม่ใช่” ก็อาจละเลย ไม่สนใจ ทั้งที่จริง ๆ แล้วทุกคนมีโอกาสก้าวพลาดเข้าไปในวังวนของยาเสพติดได้เท่า ๆ กัน เป็นเรื่องยากหากจะเปลี่ยนแปลงวิธีคิดที่ว่า “คนที่ปกปิดโดยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ต่อปัญหายาเสพติด คือ ผู้ร่วมกระทำผิดและต้องได้รับโทษทางสังคม” ทุกคนย่อมมีเหตุผลที่จะทำหรือไม่ทำ ไม่อย่างนั้น เราคงไม่เห็นภาพการชี้ตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ต้องปกปิดหน้าตาพยาน ต้องคลุมผ้า ปิดหน้า ปิดตา บางคนอยากจะมีส่วนร่วม อยากจะช่วย แต่ก็กลัว

สิ่งหนึ่งในความเห็นส่วนตัวที่จะทำได้ทันที คือทำตัวเราให้เป็นคนปลอดสารเสพติดทุกประเภทเสียก่อน ...ยังไงก็ดีค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้คุณชายขอบและทุก ๆ คน ที่คิดดี ทำดี เพื่อสังคม และขอเป็นอีกหนึ่งพลังภาคประชาชนที่จะร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดนะคะ

ธนพัฒน์ อนันทพิทักษ์

การรณรงค์เรื่องยาเสพติดนั้นไม่ใช่ว่าขึ้นคนใดเพียงคนเดียวต้องขึ้นอยู่คนส่วนใหญ่

ต้องทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เรื่องนี้เข้าไปอยู่ในจิตสำนึกของคนเราให้ได้

หากมีจิตสำนึกที่ดีแล้วทุกอย่างก็จะดีไปด้วย

ผมคิดว่าไม่มีปํญหาใดที่จะแก้ไม่ได้มันก็ขึ้นอยู่กัยเวลาและการทำงานด้วยว่ามันจะได้ประสิธทภาพแค่ไหน

หากทุกส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยกัน ช่วยกันอย่างสุดกำลังที่จะทำได้ทุกอย่างก็จะดีเอง

ในส่วนของผมอยากปลูกจิดสำนึกให้คนในปัจจุบันว่าอย่าเห็นเป็นเรื่องธรมดาเราจะต้องช่วยกันครับ

ขอบคุณที่อาจารย์แนะนำกระทู้ดีๆมาน่ะคับ

ทักทายรอบที่ 2 ค่ะ

ดิฉันสนใจและอยากเห็นการต่อสู้กับปัญหายาเสพย์ติดอย่างจริงจัง จึงวางมือจากหน้างานมาหน้า blog นี้อีกหน ด้วยอยากเห็นการแลกเปลี่ยนประเด็นนี้จากหลายๆท่านที่แวะเข้ามา...

  • ดิฉันชอบ คห.ของคุณ  ฟ้าใส เพราะเป็นความคิดเห็นที่สอดคล้องกันแต่ต้นที่ได้อ่านร่างเจตนารมย์ฯ ครั้งแรก และขอชื่นชมที่คุณ ฟ้าใส ถ่ายทอดความคิดนี้ออกมา
    "ต่อปัญหายาเสพติด คือ ผู้ร่วมกระทำผิดและต้องได้รับโทษทางสังคม” ทุกคนย่อมมีเหตุผลที่จะทำหรือไม่ทำ ไม่อย่างนั้น เราคงไม่เห็นภาพการชี้ตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ต้องปกปิดหน้าตาพยาน ต้องคลุมผ้า ปิดหน้า ปิดตา บางคนอยากจะมีส่วนร่วม อยากจะช่วย แต่ก็กลัว"
  • ความคิดเห็นส่วนตัวต่อเจตนารมย์นี้ หากเป็นเจตนารมย์ของประชาชน  อันดับแรก คือ พวกเราจะตั้งปณิธานว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพย์ติดทุกประเภทต่อการเป็นผู้เสพ ผู้ผลิตและผู้ค้า แต่จะถือเป็นหน้าที่ที่จะปกป้องประชาชนทุกคนและต่อต้านกับปัญหายาเสพย์ติดทุกกรณี..

 

ใต้ตอนบน ออกความเห็นได้มั้ยคะ

สวัสดีครับคุณฟ้าใส

  • ประเด็น "กลัว" นี่แหละครับทีเราต้องการขจัดออกไป ตามร่างประกาศฯ ข้อที่ 1 ภาคประชาชนเขาจึงเสนอให้รัฐคุ้มครองโดยการออกกฎหายให้เป็นการเฉพาะครับ
  • ขอบคุณครับเป็น คห.ที่เติมเต็มได้ดีทีเดียว
  • เรากำลังหาวิธีการอื่น ๆ อีกครับที่จะช่วยขจัดความกลัวนี้ หากนึกอะไรออก ก็ขอให้เสนอมาด้วยนะครับ เพิ่มเติมในคราวหลังก็ได้นะครับ

สวัสดีครับคุณธนพัฒน์ อนันทพิทักษ์ (ศิษย์รัก)

  • ต้องขอชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ธนพัฒน์ อนันทพิทักษ์ นี่เขาเป็นศิษย์ของผม ตอนนี้กำลังขึ้นปีสอง เขาเรียนสายครู 5 ปี 
  • ตอนที่สอนก็เคยได้เห็นน้ำจเขาช่วยเพื่อน โดยการนำส่งที่พัก เพราะเพื่อนป่วย เสรร็จแล้วเขารีบกลับมานั่งเรียนต่อ ไม่โดดหายไปเสีย ซึ่งก็คงไม่นึกจะว่าอะไรเขาหากเขาจะโดดไปเลย
  • จาก คห.นี้ยอมรับว่าเขาคิดได้ดี มองว่าวันข้างหน้า คงจะป็นครูที่ดีคนหนึ่งต่อไป อาจารย์ขอเอาใจช่วยให้เธอคนนึงที่จะกู้ศักดิ์ศรีของ มรภ.ให้ได้นะครับ อย่าให้เขาคลนอย่างตอนนี้ที่ผู้ใหญ่ในวงการศึกษาท่านแคลนเราอยู่มาก อ่านได้จากบันทึกหลาย ๆ บันทึก ณ ที่แห่งนี้
  • ขอให้ตั้งใจเรียน และเป็นคนดีนะครับ

สวัสดีครับคุณอรทัย

  • ครับผมเห็นด้วยวว่าควรจะเพิ่มเรื่องการเริ่มต้นที่ตัวเองก่อนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการใช้ การเสพ การค้า การผลิต หรืออื่นใดที่เป็นการสนับสนุนให้การแพร่ระบาดของยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น
  • ส่วนเรื่องการแก้ปัญหา "กลัว" จะพยายามคิดทบทวนต่อ หากมีวิธีการใดเสนอแนะมา ก็เพิ่มมาได้นะครับ
  • ขอบคุณครับสำหรับ คห.ที่มีค่ายิ่ง

งานยาเสพติดจากประสบการณ์การทำงานเป็นผู้ให้การบำบัด ถ้าผู้มารับการบำบัดเลิกได้1รายในฐานะที่ทำหน้าที่ตรงนี้เราก็เป็นสุขค่ะ เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะค่ะ

สวัสดีครับคุณ kai

  • ดีใจจังเลยที่เพื่อนร่วมรุ่นมาให้ คห.นี้ด้วย รูไหมเป็น คห.แรกเลยนะครับ จะเอาไปโม้ใน class 
  • ว่าแต่มี Blog แล้ว เขียนเลยครับ เข้าไปดูแล้วยังไม่มีสักบันทึกเลย
  • ขอบคุณนะครับทีทำให้เข้าใจความรู้สึกของนักบำบัด
  • อยากแนะนำให้อ่านบทเรียนที่ทีมงานผมช่วยกันสรุปที่นี่ครับ http://gotoknow.org/post/tag/บทเรียนการต่อสู้กับปัญหายาเสพติด%20ภาคใต้ล่าง 

สวัสดีครับคุณ βεη βεη

  • ด้วยความยินดีครับ
  • ทั้งหมดจะถูกอาไปสังเคราะห์ใหม่่ในภาพรวมของประเทศครับ 
  • คุณ  βεη βεη จะเสนอให้เพิ่มเติมส่วนไหนอีกบ้างครับ

มาช้าก็ดีกว่าไม่มาจริงมั๊ยครับ

ปัญหาเรื่องนี้ ถ้าทุกคนดูแลสถาบันครอบครัวให้ดีที่สุดสร้างความเข้าใจให้หลุดพ้นจากยาเสพติดก็คือช่วยเหลือสังคมโดยรวมแล้วครับ เตือนคนใกล้ตัว ส่วนคนไกลตัวครอบครัวเขาก็เตือนเอง ต่างคนต่างทำเหมือนกัน พลังต่อสู้ที่ไม่ต้องใช้กำลังก็เกิดขึ้นในระดับสังคมใหญ่ครับ

สวัสดีครับพี่ชาญวิทย์

  • ด้วยความยินดีครับ ช่วงนี้ติดงานส่งความคืบหน้า ไม่ได้เข้ามาตอบโดยเร็วครับ
  • เห็นด้วยกับข้อเสนอของพี่ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท