เมืองไทย ประเทศไทย เป็นเมืองทฤษฎี เป็นประเทศแห่งความรู้ ใครมีทฤษฎีอะไรที่ไหน ประเทศไทยมีหมด รู้หมด แต่มีทฤษฎีที่คนรู้แต่ไม่สามารถปฏิบัติได้คือ "กาบริหารความขัดแย้ง (Conflict Management)"
คนในองค์กรต่าง ๆ ของเมืองไทยรู้จักและรู้ถึงคุณค่าของการบริหารความขัดแย้ง ทฤษฎีนี้มีสอนกันในมหาวิทยาลัย มีบรรยายในวงประชุมและสัมนา แต่ถ้าใครเสนอหน้าเอามาใช้องค์กรล่ะ "ได้เรื่อง..."
ประสบการณ์ของผมที่เคยทดลองใช้การบริหารความขัดแย้งนั้น ไม่เคยได้รับการตอบรับที่ดีจากองค์กรแบบไทย ๆ เลย เพราะองค์กรไทยนั้นรักสงบ ชอบอยู่แบบง่าย ๆ อยู่สบาย ๆ ไม่ชอบกันหรือไง...?
อย่าไปสร้างความขัดแย้ง อย่าไปสร้างศัตรู อย่าไปสอดส่องคอยดูผู้อื่นเขา
องค์กรไทยชอบทฤษฎี "ไหลตามน้ำ" ใครว่าอย่างไงก็ว่าอย่างงั้น องค์กรไทยจึงที่รักสงบ จะเรื่อย ๆ เฉื่อย ๆ ใครทำอะไรก็ทำ ทำเท่าที่เขียน และเขียนเท่าที่ทำ
บางคนก็บอกว่าคนที่จะนำ Conflict Management จักต้องเป็นผู้ที่มีบารมีมาก คือ มีตำแหน่งสูงมาก ๆ ในองค์กรเท่านั้นที่ทำได้ สมมติฐานนี้ "น่าจะ" เป็นจริง เพราะทำแล้วไม่มีใครกล้าหือ (ต่อหน้า) แต่ลับหลังโดนด่ายับ...
วัฒนธรรมต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโกจะเกิดกับองค์กรที่นำ Conflict Management เข้าไปใช้ เพราะคนไทยตัดบทบาทสมมติในองค์กรกับบทบาทในชีวิตจริงไม่ออก
ในองค์กรต่างประเทศในที่ทำงานเขาเถียงกันแทบตาย แต่ออกนอกห้องประชุม ออกนอกสำนักงานก็จบ แต่คนไทยไม่ได้ "ผูกใจเจ็บ" อาฆาต พยาบาท ตายไปไม่เผากัน
ทฤษฎีนี้ไม่ดีเลยที่จะนำมาใช้กับวัฒนธรรมองค์กรของบ้านเรา องค์กรไทยต้องใช้ Positive Thinking อย่างเดียว หวานหยาดเยิ้มเข้าใส่กันตลอด
ใครจะเจริญก้าวหน้าไปก็ช่างเขา แต่องค์กรเราจะหวานฉ่ำกันอย่างนี้ ใครจะแข่งขันทำเป้า สร้างกำไรกันก็ดี องค์กรนี้ รักสงบ เรื่อยเฉื่อยเอย...
ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ
๒๔ เมษายน ๒๕๕๓
เรียน ท่านอาจารย์
สวัสดีครับท่านอาจารย์หมอ JJ ที่เคารพ
เห็นด้วยกับท่านอาจารย์หมอเป็นอย่างยิ่งครับ
ในปัจจุบันสังคมที่ผมอยู่นี้เผชิญกับความขัดแย้งเป็นอย่างมาก แต่ทว่าทุก ๆ คนนั้นมีความอดทน อดกลั้นสูง ด้วยเพราะมีศีลเป็นเครื่องคุ้มครองรักษาตน และมีข้อวัตรข้อปฏิบัติเป็นกันชนในการกระทบกระแทก
ซึ่งหากเปรียบเทียบองค์กรโดยทั่วไปซึ่งสมาชิกมีศีลจริง ๆ ไม่ถึงห้าข้อ หากแม้นไม่นับรวมถึงข้อวัตร ข้อปฏิบัติที่ไม่มีใครเคยบังคับให้ทำแล้ว หากองค์กรใดนำเทคนิคการบริหารความขัดแย้งไปใช้ก็มีแต่ "พังกับพัง..."
ที่จริงแล้วทุก ๆ ครั้งที่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือส่วนรวมมีประโยชน์มาก หากเรามีความอดทน อดกลั้น เราใช้เวลาพิจารณานั่งมองความเคลื่อนไหวและไม่เคลื่อนไหวตามความขัดแย้งนั้น ความขัดแย้งทั้งหลายก็จะกลายมาเป็นพลัง พลังที่สำคัญที่ชื่อว่า "ปัญญาบารมี..."