เมื่อ "คนเป็นครู" สอนเด็ก แล้วกลัวเด็กเกลียด


"คนเป็นครู" ทำหน้าที่อบรมสั่งสอนความรู้ คุณธรรม จริยธรรมให้กับนักศึกษาที่มาลงเรียนในวิชาที่ตัวเองรับผิดชอบ ไม่ว่าสถานะของวิชานั้นจะเป็นอย่างไร ครูบังคับ เอกบังคับ ครูเลือก เอกเลือก หรือ เลือกเสรี ก็ตาม

ในภาคเรียนหนึ่ง ๆ ครูอยู่กับนักศึกษา ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา ถึง 4 เดือน ตั้งแต่ชั่วโมงแรก ยัน เกรดออก

ณ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ผมเห็น ...

  • อาจารย์หลายคน ไม่สนใจเรื่องความถูกหรือความผิดระเบียบของเด็ก ปล่อยไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าผิด ซึ่งมหาวิทยาลัยต้องการนำระเบียบเหล่านี้มาเป็นสถานการณ์จำลองให้เด็ก เมื่อเด็กจบไป เด็กจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคม หรือ สถานประกอบการ บางแห่งไล่ออกไปเลยก็มี เวลาไปถามอาจารย์เหล่านี้ อาจารย์เหล่านี้จะบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวจบไปก็ปรับตัวได้เอง
  • อาจารย์หลายคน ไม่กล้าให้เกรด D หรือ E หรือ F ต่อเด็กที่ทำคะแนนไม่ผ่านตามเกณฑ์ แต่อาศัยช่วยโดยใช้ปากกาของตนเองเปลี่ยนเกรดให้เด็กไปเลย โดยที่ไม่สนใจว่า จะได้ไม่ต้องมาเรียนใหม่อีก ช่วย ๆ ไป แล้วเมื่อไหร่เด็กจะประเมินศักยภาพของตัวเองได้ว่า ตัวเองเป็นอย่างไร หรือ ต้องพัฒนาอะไรเพิ่มขึ้น พอจบ ผลเสียก็เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัย และรุ่นน้องที่จะจบตามมา เพราะสถานประกอบการนั้น ไม่ขอรับนักศึกษาที่มาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีก
  • อาจารย์หลายคน ไม่กล้าให้เกรด I หรือ ร กับเด็ก เพราะขี้เกียจต้องตามแก้เกรดให้อีกครั้งในภาคเรียนต่อไป หรือ ไม่อยากตามไปจ้ำจี้จ้ำไชในงานที่ไม่ถึงเกณฑ์ของเด็ก ให้ถึงเกณฑ์มาตรฐานให้ได้ จึงปล่อยเกรดไปมั่ว ๆ แบบไม่สนใจว่า เด็กจะได้รับความรู้ หรือไม่
  • อาจารย์หลายคน ไม่ตรวจงานนักศึกษา แต่คะแนนของชิ้นงานมันออกมาได้ อาจารย์ขี้รำคาญ กลัวเด็กไม่ได้ A B เวลาตรวจงานก็มีแต่ "ดี" กับ "ดีมาก" ความคิดเห็นต่อชิ้นงานก็ไม่มี เด็กเค้าจะคิดว่า แค่นี้อาจารย์ก็ว่าดีแล้ว แสดงว่า ไม่มีข้อบกพร่อง จะทำดีกว่านี้ไปทำไม
  • ฯลฯ (ไว้คิดออกจะมาเพิ่มให้นะครับ)

 

ท่านทั้งหลายครับ ผมไม่ได้มีเจตนาจะโจมตีคนประกอบวิชาชีพเดียวกันนะครับ แต่ผมเชื่อว่า ครูลักษณะแบบนี้มันมีทุกระดับ แต่ที่ผมเล่าให้ฟังนี่ ระดับมหาวิทยาลัยท้องถิ่น ที่มีแต่คำว่า "อาจารย์" นำหน้า แต่คำว่า "จิตสำนึกของความเป็นครู" ไม่มี ครับ

อาจารย์ที่นักศึกษาไม่ชอบนะครับ คือ "ดุ เนื้อหาวิชายาก ระเบียบวินัยสูง ยุติธรรม ประจบขอเกรดไม่สำเร็จ งานเยอะและยาก จู้จี้จุกจิกในชิ้นงาน ฯลฯ"

ส่วนอาจารย์ที่กลัวนักศึกษาเกลียด ไม่รัก จะมีพฤติกรรมการสอนที่ตรงข้ามกับที่กล่าวมาครับ

"โอ๋ นักศึกษาที่รักของครู"

"โอ๋ ถ้าเธอทำแค่นี้นะ ครูก็ให้คะแนนเยอะ ๆ แล้วล่ะ"

ฯลฯ

เท่าที่ผมสังเกต อาจารย์พวกนี้จะไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง ศักยภาพในวิชาชีพต่ำ และไม่ค่อยพัฒนาตนเอง สอนมา 10 ปีอย่างไร ปัจจุบันก็สอนแบบนั้น ให้ไปเข้าสัมมนา อบรม เสริมความรู้ ก็ไม่ค่อยไป อ้างโน้นอ้างนี่

ดังนั้น การทำให้อาชีพครูของตัวเองคงตัว คือ ปล่อยเกรดง่าย ๆ สอนง่าย ๆ งานไม่ต้องสั่งเยอะ นักศึกษาจะชอบมาลงเรียนกับอาจารย์พวกนี้เยอะจนล้นหมู่เรียน

ยิ่งถ้ามีการเปรียบเทียบครับ เช่น วิชาเดียวกัน 5 หมู่เรียน อาจารย์ผู้สอน 2 คน เด็กจะเลือกไปลงกับอาจารย์ที่ให้เกรดง่าย ๆ แต่ไร้คุณภาพการสอน ส่วนอาจารย์ที่ให้เกรดยาก ๆ งานเยอะ เด็กจะไม่เลือกลง

แต่ต้องบอกว่า หากเด็กเลือกลงกับอาจารย์ที่ให้เกรดยาก เด็กคนนั้นมักจะเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน และมั่นใจว่า สามารถเรียนผ่านอาจารย์ท่านนั้นได้ เรียกว่า ศักยภาพของเด็กจะสูงกว่าที่หนีไปเรียนกับอาจารย์ที่ให้เกรดง่าย ครับ

เล่าจากประสบการณ์ตรงครับ

เด็ก ๆ มักจะไม่รักผม พาลไม่อยากพบหน้า แต่ผมก็ไม่สนใจมากนัก เพราะผมเชื่อมั่นว่า ผมมี "ความเป็นครู" และพร้อมจะให้ความรู้เด็กเหล่านี้เสมอ ถ้าพวกเขาต้องการ และผมเชื่อว่า ผมมี "ความเป็นครู" มากกว่าครูที่กลัวเด็กเกลียด แน่ ๆ

ผมเองก็เคยเสียใจ กับพฤติกรรมที่เด็กมีต่อผม แต่ผมไม่เสียใจเลยในความตั้งใจสอนที่ผมมี

อาจารย์พวกนั้น มักจะบอกผมว่า "ในสาขาวิชาเดียวกัน ก็มีอาจารย์ใจดี กับอาจารย์ที่ดุ สลับกันไป เด็กจะได้พบอาจารย์หลากหลาย"

"อืมม ครับ"

แต่บังเอิญสาขาผมมีอาจารย์อยู่ 6 คน "ใจดี ซะ 5 คน ที่เหลือดุ คือ ผมคนเดียว"

แถมเวลาอาจารย์คนนี้ไปพูดกับเด็กเอก บอกเด็กว่า "เวลาอาจารย์เค้าสั่งงานอะไร เธอก็ทำไปสิ ไม่ต้องบ่น ไม่ต้องพูดมาก ไม่งั้นเธอก็ติด E"

คำพูดแค่นี้ ควรคิดยังไงได้บ้างครับ โยนความผิดว่า ทำ ๆ ไป จะได้ไม่ตก พูดเหมือนผมไม่มีเป้าหมายในการสอนเขา

ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า "ต้องมาทำตามผมทุกอย่าง แต่อยู่ที่ว่า นักศึกษาเข้าใจวัตถุประสงค์ที่ผมอยากให้เขาได้รับความรู้นั้นหรือไม่"

 

เหนื่อยครับ .. และเบื่อคนพวกนี้ ที่คิดแต่จะสร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนดีในสายตาใคร ๆ

พูดได้คำเดียวว่า "สู้ต่อไป" ครับ ผมไม่แพ้คนแบบนี้หรอก

ขอบคุณครับ

หมายเลขบันทึก: 232047เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2008 15:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

ในโรงเรียนบางโรง้รียน ทั้งครูและ ผู้บริหาร ก็กลัวเด็กเกลียดครับ

จึงต้องเอาใจเด็ก ห้ามดุ ห้ามตี

เพราะเขาหวัง "ผลประโยชน์" จากเด็กครับ โดยเฉพาะ Money

ในฐานะที่เราเคยเป็น นักเรียน,นักศึกษา

ผมไม่ได้สนใจว่า อาจารย์ท่านดุ หรือ ไม่ดุ แต่ดูว่าอาจารย์จริงใจกับศิษย์ขนาดไหน และอาจารย์มีความพยายามให้ศิษย์ได้รับสิ่งที่ดีๆ เพื่อพัฒนาตนเองหรือไม่

ที่ผ่านมา ผมก็เป็นศิษย์โปรดของ อาจารย์ดุๆทั้งนั้นเลยครับ

 

  • เห็นด้วยครับ
  •  น่าจะยึดความถูกต้องมากกว่าถูกใจ ถูกระเบียบวินัย ดีกว่าถูกใจถูกคน
  • ขอให้สุขสมหวังตลอดปี 2552

ว่าแล้ว อ. เสือพันธุ์ดุ :)

... นั่นไง เธอ อ. ระเบียบวินัยสูง

... มาแล้ว พวกเรา อ. หนุ่มไฟแรง ผู้รักความยุติธรรม 

... อ้ายหยา อ. จู้จี้จุกจิก ... ถอยดีกว่า

แหม อ. เสือขา แต่สุดท้าย ตอนจบ

นักเรียน ทั้งหลาย ก็จะจด จะจำ อ. ดุ แม่น มิใช่หรือคะ

...

มาชื่นชม ส่งเสริม อ. ผู้ จริงจัง จริงใจ ไม่เสแสร้ง

เป็น กำลังใจ ให้ นะคะ ปีใหม่ ก็ ดีขึ้น และ อ. ก็ดุขึ้น เท่ห์ดีออกค่ะ :)

"อ. หนุ่มน้อย ดุ๊ ดุ เหมือนหนุ่มสูงวัย .. จุ๊กจิ๊ก เหมือนอ. ป้า

เจ้าระเบี๊ยบ ระเบียบ เหมือนฝ่ายปกครอง " เท่ห์ ไม่เหมือนใคร  ทรีอินวัน ไงคะ ...

... ด้วยปรารถนาดี จาก แฟนพันธุ์แทะ ... แทะจริง แทะจัง เพื่อยัง :) แยะ ...

กราบสวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒ ท่าน Wasawat Deemarn ครับ

@ "คิดแต่จะสร้างภาพให้ตัวเองเป็นคนดีในสายตาใคร ๆ" เป็นทฤษฎี Moral Development ของ Kohlberg

@ คุณภาพการศึกษา ความแตกต่างทั้งตัวครูและตัวนักศึกษา

@ การเข้าถึง ความเท่าเทียม ของการจัดการศึกษา

@ นานาจิตตัง ครับอาจารย์ แต่..ทุกคนต้องช่วยกัน..

ขอบคุณครับ ท่านรองฯ small man :)

ท่านให้ COMMENT ได้ตรงประเด็นครับ ประเด็น MONEY เป็นประเด็นหนึ่งที่เขาหวังผล เพราะการสอนในภาคที่ได้ค่าตอบแทน เช่น SUMMER ยิ่งจำนวนหัวของเด็กเยอะเท่าไหร่ จะได้ค่าตอบแทนสูงเท่านั้นครับ ดังนั้น ยิ่งแสดงความใจดี เกรดง่าย เด็กที่ไม่มีหัวคิดทั้งหลาย จะเลือกเรียนกับอาจารย์ท่านนั้นครับ

ประสบการณ์ตรง ๆ แบบนี้ได้รับมาแล้วครับ :)

  • ธุ  อาจารย์วสวัตดีมารค่ะ..

แถมเวลาอาจารย์คนนี้ไปพูดกับเด็กเอก บอกเด็กว่า "เวลาอาจารย์เค้าสั่งงานอะไร เธอก็ทำไปสิ ไม่ต้องบ่น ไม่ต้องพูดมาก ไม่งั้นเธอก็ติด E"

อาจารย์ท่านนี้ดุจัง  แต่ต้อมเห็นด้วยนะคะ   ที่นักศึกษาก็ควรจะต้องทำงานที่ได้รับมอบหมาย..เพราะเป็นหน้าที่

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^   วันไหนวางมวยกะเด็กๆ ก็เก็บมาเล่าให้อ่านบ้างนะคะ  อุ๊บ!

คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร ครับ :)

นักเรียนนักศึกษาที่เลือกเรียนเพื่อพัฒนาตนเองมีไม่เยอะในมหาวิทยาลัยท้องถิ่นนะครับ เด็กเดี๋ยวนี้ยังคงมีวิธีคิดเหมือนนักการเมือง หรือ นักกฏหมายที่วัน ๆ คอยแต่จะหาช่องทาง ช่องโหว่ เพื่อให้ตัวเองจบไว ๆ เกรดง่าย ๆ

ถ้าครูเลือกสอนลูกศิษย์ได้ ก็อยากได้วิธีคิดแบบคุณเอกสักครึ่งนึงของห้องนึงก็พอแล้วครับ อิ อิ

แต่ในความเป็นจริง ทุกคนคือ ลูกศิษย์เราทั้งหมด :)

ขอบคุณครับ

ขอบคุณ ท่าน ผอ.ศรีกมล ครับ

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒ เช่นกันครับ

หูย คุณ poo ... บรร - ระ - ยาย เสียผม ดุ๊ ดุ เลย อิ อิ

สมแล้วเป็นแฟนพันธุ์แทะ รู้ใจเจง ๆ เลย

จริงนะครับ ... ดุวันนี้ เฮี๊ยบวันนี้ ผลดีไม่ได้ออกวันนี้ครับ

ต้องรอให้พวกเขาเรียนจบไปก่อนจึงจะทราบว่า เหตุผลกลใดอาจารย์ถึงได้เคี่ยวเข็ญพวกเขาเหลือเกิน ครับ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจแฟนพันธุ์แทะ ครับ

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒ ครับ ท่าน ไทบ้านผำ :)

บันทึกดูเคร่งเครียดไปหน่อยนะครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ "ทฤษฎี Moral Development ของ Kohlberg" รู้สึกชอบใจ และจะไปหาอ่านดูนะครับ

นานาจิตตัง ครับ แต่คงต้องหา "ระบบมาตรฐาน" มากำกับเหมือนกันครับ เพราะคำว่า นานาจิตตัง นี่แหละครับ :)

ขอบคุณมาก ๆ ครับ

ดีจ้า หนูต้อม เนปาลี :)

ไม่วางมวยแน่ ๆ ล่ะ เพราะครูได้เปรียบรูปร่างและช่วงชกครับ 555

"การทำ ๆ ไปสิ" ดูเป็นคำพูดที่ไม่ตั้งใจ หรือใส่ใจครับ

ทำสิ่งใดต้องเข้าใจเหตุผล จึงจะสมเป็น "ปัญญาชน" ที่สังคมคาดหวัง

ขอบคุณครับ

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒ ค่ะ

  •  แวะมาทักทายและให้กำลังใจอาจารย์ (ดุ) แต่หน้าตาใจดี
  •  ครูมัธยม ต้องเคี่ยวเข็น  เข้มงวด เพื่อส่งต่อให้อาจารย์มหาวิทยาลัย เหนื่อยน้อยลง...แต่คงจะยากค่ะ ไม่ทราบว่าเหมือนกันทั่วประเทศหรือเปล่า   บางครั้งกายไม่ไหว แต่ใจยังสู้ เพื่อทำหน้าที่ส่งเขาให้ถึงฝั่ง  
  • เมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัย นับว่าโชคดีค่ะ พบเจออาจารย์ที่เป็นครูด้วยจิตวิญญาณ ใจดีและน่ารักทุกท่าน ...ให้โดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทน
  • ไม่ว่าเมล็ดพันธุ์ จะเป็นเช่นไร ถ้าพวกเราช่วยกันรดน้ำ  พรวนดิน ใส่ปุ๋ย  ตกแต่งทรงต้น และเฝ้าดูการเจริญเติบโต ต้นไม้เหล่านั้นคงสวยสดงดงาม  ถ้าครูทุกคนไม่ช่วยกัน ต้นไม้เหล่านั้นคงแคระแกร็น  และยืนต้นตายในที่สุด  

   Dsc02241

   ดอกวาสนาริมรั้ว...บานอวดโฉม ส่งกลิ่นหอม รับวันปีใหม่ ๒๕๕๒

 

ไม่มีสิ่งใดคัดค้านเลยครับ คุณ สายนที"๑๙ :)

ครูหลาย ๆ คน มักมองปัญหาของตัวเองมาอันดับหนึ่งไงครับ

เมื่อทำหน้าที่สอน ก็มีอาการเรรวน เฉไฉ จนบางครั้งใกล้เคียงที่ต้องใช้คำว่า "ผิดจรรยาบรรณครู" ได้เหมือนกัน

มีการแสวงหากำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เอา

รมต.เดิม ๆ มานั่ง ปัญหาแรกที่จะแก้คือ "ปลดหนี้" "ยืดเวลาผ่อนชำระหนี้" เพราะเห็นว่า หากครูมีหนี้ ครูจะไม่มีกำลังใจในการสอน

ผมไม่แน่ใจว่า วิธีคิดแบบนี้ถูกหรือเปล่า ระบบคิดควรเป็นเช่นนี้หรือเปล่า

ดังนั้น อาการอยากให้เด็กรัก ไม่ให้เกลียด ตีเป็นปัญหาทั้งจากสภาพจิตของตัวเอง สภาพเศรษฐกิจของตัวเอง ฯลฯ

ครูมหาวิทยาลัยมีจรรยาบรรณนะครับ แต่ไม่เคยเปิดใช้เท่านั้นเอง

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๒ ครับ ... ขอบคุณมาก ๆ ครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

หายไปหลายวัน...(กลับบ้านเกิด)

กลับมาอีกที เกือบไม่เกาะติดสถานการณ์เลยนะคะ

มาช้ายังดีกว่าไม่มา  เลยตั้งใจมาให้กำลังใจอาจารย์ด้วยอีกคนค่ะ

กลายเป็นหลายๆคน ที่ให้กำลังใจกองโต...  ต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าของครูน้อย

   -  เห็นด้วยกับอาจารย์ค่ะที่เราไม่สามารถเลือกศิษย์ได้ คนเก่งลูกศิษย์ฉัน คนไม่เก่งไม่พูดถึง

มันไม่ใช่  (หลายคนเป็นแบบนั้น) หากเพราะว่าทุกคนคือศิษย์ จะเก่งจะอ่อนก็พัฒนาตาม

ศักยภาพทุกวันนี้นโยบายหลายที่สอนให้เด็กเก่ง สอบเข้มมหาวิทยาลัยดังให้ได้มากๆ

แสดงว่าครูดี ครูเก่ง (มันไมใช่)  เอาสิ่งนี้มาเป็นตัวชี้วัดระดับคุณภาพการศึกษา

แต่ไม่ได้มองว่าเด็กเราลูกเราดีไหม (คิดดี พูดดี ทำดี)

   -  เวลาให้เกรด  บอกว่าเขตปลอด 0  อ่าถ้าเด็กไม่รับผิดชอบเลย ไม่เข้าเรียน เราตามแล้ว

จี้แล้ว เคี่ยวเข็ญแล้ว  ยังจะให้ผ่านได้หรือ? (สุดท้ายเด็กๆก็พูดว่า ไม่ต้องเข้าเรียนก็ได้ สอบ

ผ่านเหมือนเดิม )

  - เวลาคุมสอบสักแต่คุมให้เสร็จๆไป  เห้อ... ไม่รู้จะรีบไปไหน อ่านหรือเปล่าไม่รู้....(แต่ก็ไม่

ยอมปล่อย จนกว่าจะครบตามกำหนดกติกาเวลาในการสอบ)

  -  สุดท้าย ความจริงใจและหวังดีกับเค้าช่วยได้จริงๆค่ะ  เคยสอนเด็ก ม.5 ที่คนอื่นไม่อยาก

สอน แบบว่าทุกอย่างมารวมกันทั้งผู้ชายผู้หญิง (คิดเอานะคะ)  ว่ามันหนักขนาดไหน แต่ด้วย

ความแบบว่าครูกะลูกศิษย์ดื้อ รั้น พอกัน เลยเอากันอยู่  มายังไงตามให้ทัน(ทันบ้างไม่ทันบ้าง

ส่วนมากไม่ค่อยทัน หุหุ)  ด้วยวิชาที่สอนยาก (คณิตศาสตร์) เด็กๆจึงไม่ชอบ และเป็นเด็ก

อ่อนถึงอ่อนมาก แต่เมื่อได้ใจอะไรๆที่ว่ายากมันก็ง่ายขึ้น เจาะไปรายบุคคล (แต่อาจารย์นัก

ศึกษาเยอะคงทำได้ยาก) จนอาจารย์เก่าๆท่านบอกว่าขนาดคาบสุดท้ายห้องนี้ยังมาเรียน

วิชาคณิตศาสตร์ครบอีกนะ  ทุกวันนี้แม้ผ่านไปแล้วสองปี เด็กกลุ่มนี้ยังติดต่อ โทรหา ปรึกษา

เราตลอดเลย  ครูเลยเป็นปลื้ม  จะบอกกับลูกศิษย์ทุกรุ่นตั้งแต่คาบแรกที่เข้าสอนเลยว่า

ลูกศิษย์ครูไม่จำเป็นต้องเก่ง แต่ขอให้ดี (ให้คิดดี พูดดี ทำดี) แล้วสักวันเราจะได้ดีเอง

    ขออภัยนะคะอาจารย์พล่ามยาวไปหน่อย เรื่องเกี่ยวกับครูทีไร  ความคิดเห็นมันพรั่งพรู

ไม่รู้ออกมาจากไหน  คงไม่ใช่ที่อื่น นอกจากที่หน้าอกด้านซ้าย...ของครูน้อยๆคนหนึ่ง

เท่านั้นเอง...เป็นกำลังใจให้อาจารย์ค่ะ  สู้ๆและอดทนค่ะ : )  :)

รับกำลังใจเต็มดวงของคุณครูในดวงใจ คุณครู เทียนน้อย :)

ขอให้กำลังใจกลับเช่นกันครับ น้องคุณครูทำดีแล้วครับ ผลกว่าจะปรากฎต้องอาศัยเวลาหลายปี

ขอบคุณมากครับสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จริง ๆ :)

อืม...เป็นคุณครูนี่ไม่ง่ายเลยนะคะ...

มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ..สู้ สู้..ค่ะ ..ท่าน Wasawat Deemarn

ความอดทนเป็นสิ่งที่ขมขื่น...แต่สดชื่นภายหลัง..อิ อิ

เป็นครู...ง่ายครับ แต่เป็นครูที่ดี...ไม่ง่ายครับ

กรรมดีแสดงผลระยะยาวน่ะครับ ไม่เห็นผลวันนี้แน่นอน

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ :)

  • สวัสดีค่ะ
  • แถวนี้มีครูคนนึงที่ดุมากถึงมากที่สุดค่ะ
  • เจอบ่อยค่ะทุกๆเช้าที่หน้ากระจก... อิๆ

อ้าว ฮาเลย อาจารย์ naree suwan :) ...

ผมเริ่มกลัวแล้วล่ะตอนนี้ อิ อิ

สวัสดียามเย็นค่ะ อาจารย์น้องชาย

  • รัฐ ไม่ให้ตีนักเรียน รัฐ ต่างหากที่กลัวนักเรียนจะเกลียด
  • เอิ๊กเอิ๊ก  คิดออกเพียงเท่านี้
  • นอกนั้น  มองกระจกทีไร น่ารักทุกที

ชิกกระดุ๋ย.....มีความสุขมากๆๆนะคะ

ขอบคุณครับ พี่ ครูอ้อย ... รัฐคิดอะไรตามตะวันตกมากเกินไปหรือเปล่า ก็ไม่ทราบนะครับ :)

ผมเป็นผลงานส่วนหนึ่งของประโยคที่ว่า

"เด็กได้ดีเพราะครูด่า"

แต่ไม่ต้องต่อนะ ไอ้ท่อนต่อไปที่ทำลายกำลังใจ ที่เด็กมันผูกกลอนเข้าด้วยกัน ^^

 

ผมไม่กล่าวคำต่อไปอย่างเด็ดขาดครับ ท่านอาจารย์ตี๋ ครูgisชนบท ;)...

ขอบคุณครับ

สู้ๆค่ะ กำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่ตักเตือนนักเรียนที่พลาดพลั้งไปในบางเรื่องว่าไม่เหมาะสม แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือความเกลียดชัง หาว่าครูเหน็บแหนม ทั้งที่ชี้ให้เห็นถึงทางที่เหมาะสมได้ไม่ทำอีกให้คนรอบข้างเบื่อหน่าย เด้กสมัยนี้ถือความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ครูหลายท่านแทนที่จะกล่าวตักเตือน กลัวเด็กโกรธ หลายทีผสมโรงไปกับเด็กด้วย หาว่าเราเรื่องมาก บ่นๆก็ฟังไปอย่าไปถือสา เด็กทำผิดชัดๆแต่กลับโยนว่าเราทำเป็นสอน

ผมขอให้กำลังใจแด่คุณครู ม.ปลาย เช่นกันครับ

ความดีสวยงามเสมอครับ ;)...

รู้สึกมีกำลังใจและมีจุดยืนในการทำงานมากขึ้นหลังจากได้อ่านบล้อกนี้ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ

เป็นกำลังใจให้คุณครูนะครับ ;)...

อย่ากลัวเด็กเกลียดครับ ยิ่งคุณมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเด็กมากเท่าไหร่ แรงเสียดทานและความเกลียดที่คุณได้รับจะเพิ่มมากขึ้น เด็กประถม มัธยม หรือมหาวิทยาลัยในยุคนี้ เอาตัวไม่รอดแน่ ถ้าเจอครูที่กลัวเด็กเกลียด ประเทศชาติต้องการครูที่กล้าต่อสู้กับความเกลียด กล้าลำบาก กล้าสวนกระแส ซึ่งแรงเสียดทานต่างๆที่ครูเหล่านั้นได้รับ มันกลั่นออกมาจากความเสียสละ ความหวังดีต่ออนาคตเด็ก และเป็นการเสียสละตัวเองเพื่อประเทศชาติ และที่แน่ๆ ครูประเภทนักเรียนเกลียด(เกลียดเพราะความมุ่งมั่นในเป้าหมายไม่ใช่ประพฤติชั่วจนเด็กเกลียด) ในสังคมไทยเหลือน้อยลงไปทุกที จนประเทศไทยกลายเป็นอันดับสุดท้ายของอาเซียนในเรื่องประสิทธิภาพด้านการศึกษา จงสู้ต่อไป จนกว่าจะเกษียณ หว่านความรู้และแรงขับที่ดีให้กับเด็ก ผมเชื่อว่าเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ เขาจะศรัทธาในครูที่เขาเกลียด ที่ทำให้เขาคิดได้และประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งนั่นก็คือสิ่งที่ครูทุกคนคาดหวังเอาไว้ เพียงแต่ผลของมันจะช้าและใช้เวลานาน ซึ่งต้องใช้ความอดทนในการใช้ชีวิตครูอย่างแท้จริง

ขอบคุณ คุณ yooelaoshi ครับ ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท