เราเคยแต่เอาสบู่ถูกาย แต่ไม่เคยเอาสบู่มาถูที่ใจสักครั้งเดียว การที่เรามาเจริญ"สติ"นี้ ก็คือการเอาสบู่ คือ"กรรมฐาน" มาถูใจให้ขาวสะอาดจาก กิเลส ตันหา อุปปาทาน นั่นคือล้าง โมหะ โทสะ และ โลภะ ในใจเราให้หมดไปนั่นเอง
(คำของหลวงพ่อ พระครูปลัด วีระนนท์ วีรนนฺโท ครั้งหนึ่งที่ท่านออกธุดงค์..)
พระครูปลัดวีระนนท์ วีรนนฺโท http://www.veeranon.com/
เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2505 ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11 ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 6 ตำบลเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
การศึกษา
จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ม.ศ.5) ที่โรงเรียนจันทรุเบกษานุสรณ์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
จบปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาศาสนศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
จบปริญญาโทศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาไทยศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
อุปสมบท ศึกษาพระธรรมวินัยและวิปัสสนากรรมฐาน
อุปสมบทประมาณปี 2525 จนถึงปัจจุบัน (ปีพ.ศ 2551) 26 พรรษา เป็นลูกศิษย์หลวงปู่พิมพา โกวิโท (หลวงปู่พิมพา เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)
พระครูปลัดวีระนนท์วีรนนฺโท ได้จาริกธุดงค์อยู่ในป่าและศึกษาการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจากครูบาอาจารย์สายพระปฏิบัติในป่า เป็นเวลา 11 ปี
ต่อมาได้รับนิมนต์จากพระครูไพบูลย์สมุทรสารเจ้าอาวาสวัดศิลป์วิเศษศรัทธารามให้มาช่วยสอนกรรมฐานที่วัดนี้ ซึ่งพระครูไพบูลย์สมุทรสารเป็น ลูกศิษย์หลวงปูศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ขณะนั้นพระครูไพบูลย์สมุทรสารอายุได้ 87 พรรษา และเป็นพระอาจารย์รูปหนึ่งที่ พระพิมลธรรม (สมเด็จพระพุฒาจารย์ อาจ อาสภมหาเถระ) วัดมหาธาตุฯ กรุงเทพฯ ให้ความเคารพเป็นอย่างมากในข้อวัตรการปฏิบัติของท่าน และนอกจากนี้ท่านยังเป็น พระอภิธรรมมหาบัณฑิตในยุคนั้นด้วย พระครูปลัดวีระนนท์ได้เป็นลูกศิษย์ของพระครูไพบูลย์สมุทรสาร ในด้านการปฏิบัติและศึกษาพระอภิธรรมอย่างเคร่งครัด พระครูไพบูลย์สมุทรสารจึงพาไปฝากเป็นลูกศิษย์ของพระพิมลธรรมและได้ศึกษาสติปัฏฐาน 4 โดยวิธีกำหนดพองหนอ ยุบหนอ จากพระพิมลธรรม (สมเด็จพระพุฒาจารย์ อาจ อาสภมหาเถระ)
หลังจากนั้นได้ไปศึกษาการปฏิบัติธรรมกับพระมหาสีสยาดอ (โสภณมหาเถระ) อดีตพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาแห่งประเทศพม่าเป็นเวลา 1 ปี (เดินธุดงค์ทั้งไปและกลับ )โดยได้ศึกษาปฏิบัติที่ประเทศพม่า เมื่อกลับมาประเทศไทยก็เข้าศึกษาปฏิบัติธรรมกับพระราชสิทธิมุนี(โชตกมหาเถระ) ที่วิหารหลวงวัดมหาธาตุฯ เป็นเวลา 3 เดือน และในเวลาต่อมาได้รับการแนะนำให้ช่วยเหลือในการสอนกรรมฐานในสถานที่ต่างๆจนถึงปัจจุบันนี้
ผลงาน ด้านสาธารณประโยชน์และด้านเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ท่านเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดปทุมคงคา อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
อดีตรักษาการตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดธาตุ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
เป็นพระวิทยากรอบรมนักโทษประจำจังหวัดสมุทรสงครามในปี พ.ศ.2537-2540
พระวิทยากรอบรมค่ายพุทธบุตรต่างๆ
เป็นพระวิทยากรในโครงการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย
เป็นพระวิทยากรโครงการโรงเรียนสีขาวประจำศูนย์วิปัสสนาเคลื่อนที่แห่งประเทศไทยวัดสุวรรณประสิทธิ์ กรุงเทพฯ
เป็นพระวิทยากรอบรมพระวิปัสสนาจารย์ประจำศูนย์วิปัสสนาเคลื่อนที่แห่งประเทศไทยปี พ.ศ. 2530-2540
เป็นพระวิทยากรไทยรูปแรกที่ได้รับนิมนต์ให้ไปสอนที่ประเทศสเปนเป็นเวลา 5 เดือน ทั้งภาคปริยัติและภาคปฏิบัติ
เป็นพระสงฆ์ไทยรูปเดียวที่ได้รับนิมนต์ไปสวดมนต์แผ่เมตตาและนั่งสมาธิภาวนาเพื่อสันติภาพโลกที่ประเทศทิเบต ในครั้งนั้นมีพระสงฆ์เข้าร่วมเจริญภาวนาจากประเทศ ทิเบตจีน และที่อื่นๆ จำนวนกว่า10,000 รูป โดยมีพระทิเบตระดับสูงคือระดับรินโบเช (RinPoche)ที่ 2 (รองจากองค์ดาไล ลามะ) จำนวน 12 รูป ซึ่งเก่งทางฌาณสมาธิ เข้าร่วมเจริญภาวนาในครั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ 2549 ฯลฯ
ปัจจุบัน
ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าเจริญราช อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และทำหน้าที่เป็นพระวิปัสสนาจารย์ผู้อบรมให้ความรู้ด้านการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานทั้งแก่พระสงฆ์และฆราวาสทั้งที่วัดและในหน่วยงานต่าง ๆ มากมายตลอดทั้งปี
ผลงานด้านหนังสือ
คู่สร้างคู่สม @ The happy couple , พยากรณ์นอสตรานามุส,โลกลี้ลับในเมืองมนุษย์ , ธุดงค์ข้ามแดน , วิปัสสนาชีวิต , ธรรมทวนกระแส , พุทธทำนาย 16 ประการ @ 16 Buddha's Predictions , อิสระแห่งจิต เป็นต้น
ปณิธานของหลวงพ่อ
พระครูปลัดวีระนนท์ได้ตั้งปณิธานแน่วแน่จะสร้างวัดเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสำหรับพุทธบริษัท ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อเผยแผ่หลักคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเน้นการสอนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฎฐานสี่ ท่านได้ให้ความสำคัญกับโครงการค่ายพุทธบุตร เพื่อให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นชาวพุทธที่ดีมีคุณธรรม เพื่อเป็นกำลังของประเทศชาติต่อไป
วัตรปฏิบัติ
พระครูปลัดวีระนนท์สอนปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานและสอบอารมณ์ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทุกวัน โดยหลวงพ่อจะสอนกรรมฐานให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรมหลังทำวัตรเย็นหรือบางวันสอนกรรมฐานเพิ่มในรอบบ่าย ซึ่งหากไม่มีกิจธุระใดๆหลวงพ่อจะรับแขกเวลา 9.00-10.30 น. หรือช่วงบ่ายเวลา14.00-16.00 น. กัลยาณมิตรท่านใดต้องการเสวนาธรรมกับหลวงพ่อหรือต้องการรับหนังสือธรรมะเป็นธรรมทาน ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่วัดป่าเจริญราช
http://gotoknow.org/blog/veeranon/259730 ทุกวันค่ะ
วัดป่าเจริญราช ( ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน ) http://www.veeranon.com/
๑๒ / ๑๙ คลอง ๑๑ ( สายกลาง ) ต. บึงทองหลาง อ. ลำลูกกา จ. ปทุมธานี ๑๒๑๕๐
โทรศัพท์ ๐๒ - ๙๙๕ - ๒๑๑๒ และ หมายเลขโทรสาร ๐๒ - ๙๙๕ - ๒๔๗๗
email . [email protected]
ขอเชิญเข้าร่วมโครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ เพื่อพิสูจน์ธรรมของพระพุทธเจ้า เพื่อสร้างสมบุญบารมีจากทาน ศีล ภาวนา และเพื่ออบรมพัฒนาจิตใจให้ผ่องใส ซึ่งวัดป่าเจริญราช ได้จัดโครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ เพื่อฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “วิปัสสนากรรมฐาน” ตามหลักสูตร พระครูปลัดวีระนนท์ วีรนนฺโท ในทุกวันที่ 1 - 8 ของทุกเดือนค่ะ รับจำนวน 100 คน โดยผู้เข้าอบรมทุกท่านต้องใส่ชุดขาวและถือศีล 8 ค่ะ อบรมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ แล้วแต่ศรัทธาจะบริจาคค่ะ
เพื่อนๆที่สนใจ จะไปแสวงบุญภาวนา ในโครงการนี้ นะคะ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและประสบการณ์ต่างๆจากการปฏิบัติธรรมได้ จากเรื่องต่อไปนี้ค่ะ
1. อ่านวิธีการเตรียมตัว เตรียมสัมภาระ ได้ที่นี่ค่ะ
เตรียมตัวบวชเนกขัมมะ ที่วัดป่าเจริญราช
http://gotoknow.org/blog/makingmeditation/181268
2. อ่านรายละเอียดของวัดป่าเจริญราชและระเบียบปฏิบัติธรรม ได้ที่นี่ค่ะ
วัดป่าเจริญราช ( ศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน )
http://gotoknow.org/blog/veeranon/259730
3. อ่านประสบการณ์บวช 15 วัน ได้ที่นี่ค่ะ
บวชที่วัดป่าเจริญราช
http://gotoknow.org/blog/makingmeditation
4.อ่านประสบการณ์เข้าร่วมปฏิบัติธรรมตามหลักสูตรหลวงพ่อ 8 วัน 7 คืน ได้ที่นี่ค่ะ
ปฎิบัติธรรม ณ ยุวพุทธิกสมาคมฯ
http://gotoknow.org/blog/gotoybat
สำหรับท่านที่สนใจ ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการนี้ โทรสอบถามรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒ - ๙๙๕๒๑๑๒
แล้วไปภาวนาด้วยกันนะคะ เจอกันที่วัดป่าค่ะ
บุญรักษา ธรรมคุ้มครองค่ะ
เพิ่งไปมาสดๆร้อน 1-8 มิ.ย.52 โครงการพัฒนาจิตเพื่อพ่อ
ไปฝึกวิปัสสนา กรรมฐาน มาแล้วกับท่าน ครั้งแรกนึกอย่างเดียวว่า คนเราใครจะบรรลุกิเลสได้หมด ..แต่...เมื่อไปอยู่แล้ว...ไม่คิดมาก่อนเลยว่า..จะได้อะไรมากมายขนาดนี้ ชีวิตคนเราในชีวิตจริงไม่ได้มีแต่ความสุข หรือไม่ได้มีแต่ความทุกข์ หรือความสุขที่แท้จริง ก้อไม่เคยอยู่กับเรานานเลย...
จิตใจมนุษย์ทุกคน มีความอดทนไม่พอ /ไม่พอใจ/ โกรธ / เหนื่อย / ไม่ชอบใจ/
อยากได้ / รัก/ หลง/ สาระพัดฯลฯ สิ่งเหล่านี้เรารู้ แต่ไม่ใครมาเตือนสติเรา และไม่มีใคร มาล้างใจให้เรา รู้ทันจิตเราว่าเราคิดอย่างไร แต่ การฝึกวิปัสสนาที่นี่ทำให้เรารู้เท่าทันจิตของเรา
มีพระอาจารย์ที่คอยพร่ำสอนเราว่า..ให้เราฝึกล้างจิตใจเราให้ผ่องแผ้ว...(มิได้หมายความว่าจะให้เราไปบวช ถือศีลกิจเจตลอดหรือเป็น มหา เหมือนที่คนบางคนอาจจะประชดประชันว่า..ก้อไปบวชซะซิ ) แต่...เพื่อให้เราออกมาอยู่ในสังคม ของคนทุกวันนี้ที่มีแต่ความวุ่นวาย ให้รู้จักให้ทันความคิดของตัวเราเองว่า ...จิตเรากำลัง ..คิด...คิดอะไร คิดดี หรือคิดไม่ดี และการแผ่เมตตาเผื่ออโหสิกรรม สิ่งนี้แหละ สำคัญที่สุดสำหรับสังคมในยุคปัจจุบันที่มีแต่ความแก่งแย่งชิงดี เป็นเวรเป็นกรรมต่อกัน ท่านฝึกให้เรารู้จักแผ่เมตตาเผื่อ ..อโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรของเราทั้งใน อดีตภพชาติ และ ปัจจุบันภพ ท่านไม่ปิดกั้นผู้ใดไม่ว่า..ผู้ที่จะเคยปฎิบัติ หรือไม่เคยปฎิบัติ จะมาอยู่กี่วัน ไม่กำหนด วันรับ วันปิด เปิดโอกาสสร้าง .คนให้เป็นคนตลอด. ขอบอกว่า..ท่านมีเมตตาสูงมากๆๆ ใครได้อ่านขอให้ได้รับผลบุญอนุโมทนาส่งถึงท่านขอให้ดวงตาเห็นธรรม ...ด้วยเทอญ อนุโมทนา
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ คุณมุกดา
ขอคอนเฟริ์มค่ะว่า หลวงพ่อท่านมีเมตตาสูงมากๆๆๆจริงๆๆ
อย่าเพิ่งเชื่อนะคะ ต้องลองไปอยู่วัด ฝึกปฏิบัติธรรมกับท่านดูก่อนนะคะ
แล้วจะรู้สึกว่า เราโชคดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา
มีศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
และมีโอกาสได้เจริญภาวนา ทั้งสมถและวิปัสสนากรรมฐาน
ได้พบครูบาอาจารย์ที่ดีและเก่งมาก อบรมสั่งสอน ชี้นำแนวทางที่ถูกต้อง
จะรู้สึกได้เลยค่ะว่า เรามีบุญมากนะ ชาตินี้จะได้มีโอกาส มีดวงตาเห็นธรรม
จบสิ้นชาติ สิ้นภพสักที
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ