พา"นางสาวเมืองปาย"ไปพบแพทย์วินิจฉัยโรคครั้งที่ 1


การสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการนำ"นางสาวเมืองปาย"เข้ารับการตรวจวินิจฉัยรักษาโรค

เมื่อวานตื่นนอนด้วยอาการมึน ๆอาจเพราะเหนื่อยจากงานเมื่อวันก่อนแต่ก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่วันนี้ได้นัดพบกลุ่มนายแพทย์ทั้งท้องถิ่น แพทย์เฉพาะทางและ แพทย์จิตอาสาที่ผ่าน G2k มาร่วมด้วย

บ่ายสามโมงกว่า ๆที่อาจารย์เอกจตุพรเดินทางมาพบที่ห้องทำงานของผม ก่อนหน้านี้ผมเดินไปดูคุณหมอสุพัฒน์ที่ OPD ปรากฎว่าผู้มารับบริการลำดับคิวสุดท้ายอยู่ที่ 194 ที่ตรวจไปแล้ว 156 รายแสดงว่ายังเหลือผู้ป่วยที่ต้องตรวจอีก 38 คน แพทย์ออก OPD 2 ท่าน เห็นหน้า เห็นทรงผมแพทย์ทั้ง 2 ท่านแล้ว เหนื่อยแทน

ผู้มารับบริการวันนี้เยอะจริง ๆไม่น่าเชื่อว่าอำเภอเล็ก ๆที่มีประชากรเพียง 29,500 คน ตามทะเบียนราษฎร์แต่สัดส่วนการเจ็บป่วยจะมากขนาดนี้ ซึ่งความจริงเท่าที่ทราบข้อมูลแบบไม่เป็นทางการ โรงพยาบาลปายน่าจะมีหน้าที่ดูแลประชาชนมากกว่า 40,000 คนนะครับ คนปายจริง 29,500 คนโดยประมาณ จากตำบลวัดจันทร์อีกประมาณ 6,000 คน ที่เหลือคือผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ปายโดยไม่ได้โอนย้าย รวมผู้อพยพชาวไทยใหญ่ด้วยครับ

เข้าเรื่องที่นัดหมายกันไว้กับอาจารย์เอกจตุพร คือการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการนำ"นางสาวเมืองปาย"เข้ารับการตรวจวินิจฉัยรักษาโรค ก่อนเดินทางไปบ้าน"ป้าแหลง"ได้คุยประเด็นกันเล็กน้อย แล้วจึงไปรับคุณหมอสราวุธ(ผอก.รพ.ปาย)ที่บ้านแล้วจึงเดินทางไปพร้อมกัน

ดีใจจริง ๆที่พอไปถึงบ้านป้าแหลงปรากฎว่าได้พบกับหลาย ๆท่านที่มารออยู่ก่อนแล้ว พ่อจันทร์มาแล้ว พี่บัวมาแล้ว แม่ครูดวงจันทร์มาแล้ว อาจารย์สมพรก็มา พ่อหลวงนันต์ น้องอ๋อง อาจารย์เอกของเรานั่งรออยู่แล้ว

เราเริ่มเปิดวงสนทนาประมาณ 4 โมงกว่า ๆ มีผู้สนใจเข้าร่วมอีกท่านอาจารย์เพ็ญศรี เริ่มต้นด้วยการที่ป้าแหลงได้ขอให้พ่อจันทร์ซึ่งทั้งอาวุโส และเป็นปราชย์ชุมชนได้เปิดการสนทนาและตามด้วยการเล่าความเป็นมาของประเพณีต่าง ๆของอำเภอปาย เสร็จแล้วจึงมีการแนะนำตัวกันจนครบท่านสุดท้ายคือ ท่านอาจารย์เอกชัย  ศรีวิลาศ ที่แนะนำตัวผ่านโทรศัพท์มือถือของเอกจตุพร

จากวงสนทนาพูดกันหลากหลายประเด็นมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ทั้งสิ้น สุดท้ายก็มีการหยิบเอาประเด็นเรื่องประพณี วัฒนธรรม ของอำเภอปาย ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็น "กาดหลู่" ที่ผ่านมา มองเห็นถึงการเปลี่ยนไปในเชิงธุรกิจมากขึ้น โดยจะมองเห็นว่ามีการนำเอาประเพณี วัฒนธรรมไปปะปนกับธุรกิจมากเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากความไม่เข้าใจของผู้เกี่ยวข้องทั้งหลาย มีเรื่องเงิน เรื่องการเมือง เรื่องราชการเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ซึ่งหาเรามองสิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาคงยากในการที่จะฝ่าฟันไป

สิ่งที่ดี ๆก็มีมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มชมรมธุรกิจท่องเที่ยว(คนปาย)พยายามจัดให้มีปฏิทินงานประเพณีท้องถิ่นเอาไว้ ความหลากหลายเผ่าพันธ์ คนท้องถิ่นเองส่วนหนึ่งก็ยังรักและหวงแหนประเพณีดั้งเดิมอยู่

ผมเองที่นั่งฟังอยู่นานก็เลยลองเสนอว่าที่ผ่านมาไม่เป็นไร แต่ในระยะเวลาเร็ว ๆนี้ที่จะมีประเพณีท้องถิ่นอีกหลายงานจะทำอย่างไรในการรักษาประเพณีท้องถิ่นเอาไว้ไม่ให้"เปลี๊ยนไป๋"จากเดิม

คุณหมอสราวุธ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปาย ได้เสนอให้มีการ"กอบกู้วัฒนธรรม"ขึ้นโดยการจัดโซนธุรกิจ โซนวัฒนธรรม จัดงานประเพณีที่เป็นของเดิมควบคู่ไปกับงานธุรกิจที่กำลังเจริญไป ต่างคนต่างพัฒนาให้เหมาะสมกับพื้นที่และวัฒนธรรม ซึ่งก็เป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง

ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทั้งนักท่องเที่ยว ชาวบ้านรู้ว่างานประเพณีแบบดั้งเดิมยังมีอยู่และชาวอำเภอปายต้องร่วมด้วยช่วยกัน และต้องทำให้เห็นว่ามีคนรักษาประเพณีอยู่ และประเพณีต่าง ๆยังอยู่ตามเทศกาล วัน เวลาที่ถูกต้องจริง ๆ

 เร็ว ๆนี้พ่อจันทร์ได้เสนอให้ร่วมจัดงาน"ตานส่างกานเคือ"  ซึ่งจัดในวันที่ 23 พฤศจิกายน นี้

สุดท้ายได้รับคำแนะนำจากท่านอาจารย์เอกชัยมากมายหลายข้อ

;- ต้องไม่โทษใคร  ยังไม่สาย 

:-พยายามเผยแพร่ความรู้ด้านวัฒนธรรมให้กว้างไกลออกไป โดยเฉพาะเด็ก ๆและเยาวชน

:-รักษาความหลากหลายทางวัฒนธรรมเอาไว้เพราะถือว่าเป็นเสน่ห์

:-ศึกษาค้นหาประวัติ สาระ ความเป็นมา ค้นหาตัวตนของปายอย่างแท้จริง และเมื่อได้มานอกจากรักษาไว้ต้องเผยแพร่ด้วย ประวัติสถที่สำคัญ เช่น เจดีย์ สะพานประวัติศาสตร์ ควรมีคำอธิบายไว้ คนท้องถิ่นสามารถบอกเล่าได้

:-สร้างสรรค์  ฟื้นฟู พัฒนา

;- จัดทำปฏิทินวัฒนาธรรมท้องถิ่น

:-ใช้วัด เป็นศูนย์กลาง

:-วัด โรงเรียน ท้องถิ่นต้องเข้ากันได้ สนับสนุนกัน

:-ค่อย ๆทำไป อย่าแข่งขันกัน ใช้ยุทธศาสตร์ป่าล้อมเมือง

 สุดท้ายผมต้องรีบออกมากับคุณหมอสราวุธ เพราะท่านนัดทำผ่าตัดผู้ป่วยเอาไว้ตอน 1 ทุ่มครับ ก่อนกลับฝากวงสนทนาเรื่องชื่อเครือข่ายและจะสนทนากันอีกเมื่อไรแจ้งด้วยจะเข้าร่วมครับ

 

 

หมายเลขบันทึก: 144529เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2007 11:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

นั่งอ่านบันทึกพี่หมอรอนด้วยความสุข ผมเห็นความตั้งใจ "จิตสาธารณะ" ของทุกคนในวงน้ำชาเมื่อวานแล้ว เกิดกำลังใจขึ้นมามาก และผมก็คิดว่าทุกคนก็ได้กำลังใจเช่นเดียวกัน

บันทึกนี้ ไปเชื่อมบรรยากาศ สรุปจากบันทึกของผมได้ดีครับ

พี่หมอรอนเป็นบุคคลสำคัญมากในการขับเคลื่อนครั้งนี้ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของปาย "หลวงพ่ออุ่นเมือง" ดลบันดาลให้ท่านมีความสุข ปลอดภัย สบายกาย ใจ ทำงานสำเร็จด้วยเทอญ

 

Pน้องรัก

ขอบคุณครับที่ AI พี่มา ขอบคุณคำอวยพรด้วยครับ

ทุกคนเลยครับ ดูมีความตั้งใจกันทุกคน ทุกคนยิ้ม ทุกคนมีความสุข

คำอวยพรคืนสู่เอกด้วยนะ เพราะเอกคือ Keyman บุคคลสำคัญของพี่และของปายด้วยครับ

  • ตามมาทักทายและให้กำลังใจ
  • น้องนั่งฟังเงียบๆๆ
  • เชื่อมั่นในความตั้งใจดีของคนปายครับ
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีค่ะ
  • มาให้กำลังใจ  นางสาวปาย
  • คนเมืองปายใจดีจังเลย  ขอให้ปายหายป่วยไวไวนะคะ
  • ขอบคุณค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท