ปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสดูรายการทางช่อง 3 รายการหนึ่ง เขาสัมภาษณ์คุณอ้อม พิยดา ซึ่งเป็นขวัญใจผมเอง
มีเนื้อหาอยู่ตอนนี้ที่ว่า คุณอ้อมนั่งรถไปกับเพื่อนแล้วระหว่างทางพบหมาตัวหนึ่งถูกรถชนกลางถนน คุณอ้อมบอกให้เพื่อนหยุดทันทีแล้วเปิดประตูไป เดินไปกลางถนนที่หมาตัวนั้นนอนอยู่ แล้ววิ่งไปขวางรถ เพื่อจะนำหมาตัวนั้นไปโรงพยาบาลฯ แต่ไม่ทัน หมาตัวนั้นตายแล้ว ซึ่งยังความเสียใจมาที่คุณอ้อมมาก เพราะถ้าเร็วอีกนิด มันก็ไม่ตาย
เมื่อผมฟังเรื่องนี้แล้ว มันสะกิดใจให้ผมนึกไปถึงตอนที่ผมกำลังศึกษาต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยช้าง ประมาณปี 2538
คืนวันนั้น ผมขี่จักรยานออกจากหอพักไปตามถนนสุเทพ (หลังมอ) เพื่อจะไปหาอะไรกิน เพราะหิวจัด ผมขี่รถเลยคณะเภสัชศาสตร์ ทันตะ ไปนั่งกินอะไรสักอย่าง (ผมจำไม่ได้)
ขากลับ...ผมแวะกดเงินที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับคณะเภสัชศาสตร์ ช่วงนั้นสักประมาณ 5 ทุ่มกว่าแล้ว ไฟกลางถนนตรงนั้น ไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่
ขณะที่ผมกดและรอเงินออกมาจากตู้ ATM ผมก็ได้ยินเสียง "เอ๋ง ๆๆๆๆ" หลายครั้ง ผมหันกลับไปพบว่า มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งชน "หมา" สีดำที่กำลังข้ามถนนจากธนาคารกรุงเทพฯ ไปยังฝั่งคณะเภสัชศาสตร์ แต่ข้ามมาถึงแค่เส้นขีดกลางถนน
รถคันนั้นวิ่งมาด้วยความเร็วสูงโดยไม่สนใจใคร เพราะช่วงนั้นถนนว่างมาก เหมือนจะเมาอีกต่างหาก
หมาสีดำตัวนั้น นอนพะงาบ ๆ ตรงกลางถนนนั้นแหละ ตัวขยับไม่ได้แล้ว ได้แต่ร้องด้วยความเจ็บปวด
เวลานั้น ใจผมร้อนมากเพราะจะวิ่งออกไปช่วยหมาสีดำตัวนั้นทันที แต่เจ้าเงินกับบัตรมันกำลังจะออกมา ผมชะล่าใจเห็นรถว่างอยู่ จึงหันหลังกลับไปเพื่อรับเงินและบัตร แต่ขณะที่ผมกำลังจะวิ่งจากตู้ ATM นั้น ปรากฎว่า มีรถตู้สีขาวคันหนึ่งวิ่งมาเหยียบเจ้าหมาโชคร้ายตัวนั้นซ้ำ คาตาผม ...
ไม่มีเสียงร้องใด ๆ จากหมาสีดำตัวนั้นอีก
ใจผมตกลงมาที่ตาตุ่มแล้ว วิ่งเข้าไปที่เส้นกลางถนนที่หมาตัวนั้นนอนอยู่ มันหายใจช้าลงเรื่อย ๆ แล้วหยุด ต่อหน้าต่อตาผม
ผมเสียใจที่ช่วยชีวิตมันไม่ได้ ผมได้แต่โมโหตัวเอง โมโหไอ้รถทั้งสองคันนั้นที่มันวิ่งมาไม่ดูอะไรเลย โมโหโชคชะตา ในใจแต่คิดว่า "ถ้าเร็วกว่านี้ ถ้าเร็วกว่านี้"
ผมอึ้ง พูดไม่ออก ไม่อยากให้มันแย่ไปกว่านี้ จึงได้ยกร่างไร้วิญญาณของหมาสีดำตัวนี้ โดยมือซ้ายจับขา 2 ข้างหน้า มือขวาจับขา 2 ข้างหลัง แล้วยกพร้อมกัน มาวางไว้หน้าธนาคารกรุงเทพฯ โดยที่มันตายแล้ว ผมทำได้แค่นี้ แล้วก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป
วางมันไว้ โดยหวังแค่ตอนเช้าจะมีคนจากเทศบาลนำศพมันไปฝัง ผมขี่จักรยานออกมาเหมือนคนไร้ชีวิต ผมทำผิดหรือทำถูก ผมตอบตัวเองไม่ได้ มากเกินไปหรือน้อยเกินไปกันแน่
นับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ มันเป็นภาพที่ผมไม่เคยลืมเหตุการณ์ในวันนั้น มันฝังใจอย่างบอกไม่ถูก คิดถึง ภาพก็ออกมาให้เห็นเลย
"ถ้าผมมาเร็วกว่า ถ้าผมมาเร็วกว่านี้" มันก้องในหัวผมทุกครั้งที่คิดถึง
มันเป็นเรื่องเสียใจเรื่องหนึ่งในชีวิตของผม บางท่านอาจคิดว่า "แค่หมาตัวเดียว" สำหรับผม "นี่คือสิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึกเหมือนกับเรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละ" แล้วมันจะเป็น "แค่หมาตัวเดียว" ได้ยังไง
ชีวิตใคร ใครก็รัก ... จะขับรถยามค่ำคืน มีสมาธิให้มากนะครับ ระมัดระวังอย่าไปชนมันเข้าอีกเลยครับ สงสารเขานะครับ
บุญรักษา ทุกท่านครับ :)
สวัสดีครับท่าน ผมขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานั้น ผมว่าแค่ท่านมีจิตเมตตาต่อหมาตัวนั้น มันก็เป็นกุศลยิ่งแล้วครับ
หลายครั้งเวลาเราขับรถจะเห็นหมา หรือ แมวนอนตายกลางถนน โดยไม่มีใครมาเก็บเอาไปไว้ข้างถนนเลยเป็นหลายจนเหม็นก็มี
อีกอย่างอาจจะเป็นกรรมของหมาตัวหมา ที่สร้างบารมีมาแค่นั้น ก็ได้ครับ สวัสดีครับขอบคุณครับ
ใช่ค่ะ ชีวิตใคร ใครก็รัก เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับใคร ใครไม่รู้ จริงๆ
ทุกครั้งที่รู้หรือเห็นว่ารถชน จะผวา กลัว ไม่กล้าขับรถ ...อยากให้ ... เขาปลอดภัย ....
มีอยู่ครั้งหนึ่งขับรถกลับจากบ้านไปโรงเรียน เจอคนบ้า เดินกลางถนน คือ เห็นเขาเดินเส้นกลางถนนมา 2-3 วันแล้ว ทุกคนก็จะหลบเขา แต่บังเอิญว่า เขาน่าจะเดินตอนมืดๆ ทำให้ถูกรถชน...ตาย ครูเอ บังเอิญขับรถกลับบ้านผ่านมาเจอ ตอนแรกๆมองไม่เห็น เพราะฝนตก พอมาใกล้ๆ..เห็นสภาพ ขับรถไปไม่ได้ จอดรถ ร้องไห้อยู่บนรถ จนพวกหน่วยกู้ภัยมาดูว่าทำไม ไม่ไป เขาก็มาขับรถให้ ผ่านออกมาสักระยะหนึ่ง ตลอดทางก็ บอกว่า ..ไม่มีอะไร คนบ้าถูกรถชนตายเท่านั้นเอง ไม่มีอะไร หัวใจหล่นกองอยู่ที่พื้นแล้ว น่าสังเวท หากเป็นญาติใครเขาคงเสียใจมาก
สวัสดีค่ะ..
ตัวเองก็เคยเห็นเหตุการณ์อย่างนี้..แต่ไม่โหดร้ายแบบว่าต่อหน้าต่อตาอย่างที่อาจารย์เจอนะคะ..มันเป็นความเศร้าที่ทำใจยากมากๆ..ดิฉันพยายามบอกตัวเองว่า..เมื่อเราไม่สามารถช่วยเค้าได้แล้วก็ต้องทำใจปลง..แต่ความรู้สึกนั้น..มันไม่ดีขึ้นเลย..ปลงยากมากจริงๆ..เคยสงสัยว่า..จะมีใครรู้สึกเหมือนเรามั๊ย..การปลง.กับการไม่ใส่ใจ..มันคงไม่เหมือนกัน..
อ่านแล้วน้ำตาซึม.มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ให้มีการตายบนท้องถนนอย่างนี้..ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์..ก็ชีวิตหนึ่งเหมือนกัน..แต่การที่ได้เห็นภาพการตาย..บนท้องถนนอย่างนี้..มันทำให้วันทั้งวันของดิฉันหดหู่ไปได้จริงๆ..แม้จะพยายามคิดปลงอย่างไร..มันก็ดูเหมือนไม่ดีขึ้นเลย..
เป็นคนเซ้นซิทิฟมากมันก็ไม่ดีเลยนะคะ..อาจารย์มีวิธีปลงอย่างไรได้ผลก็บอกกันบ้างนะคะ..ทุกวันนี้ขับรถเจอแมวหมาตายก็เศร้า.บางทีก็กลัวว่าเกิดมันยังไม่ตายจะเข้าไปช่วย.แต่หลายคนก็บอกว่า.มันตายแล้วล่ะ..หัดปลงบ้าง..ไม่งั้นชีวิตจะมีแต่ความทุกข์ ..ดิฉันเข้าใจทุกอย่างที่คนอื่นพยายามปลอบเรา ..แต่ทำตามยากมากๆเลยค่ะ.เฮ้อ..
ขอบคุณนะคะ..ที่ทำให้รู้สึกว่าโลกใบนี้ยังมีคนที่เห็นชีวิตทุกชีวิตมีค่าอย่างเท่าเทียมกัน..
เมตตาธรรมคำจุนโลกจริงๆ
สวัสดีครับ คุณ โอ๋-อโณ
ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ :)
สวัสดีครับ คุณครูสังเวียร
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนบันทึกนี้ :)
สวัสดีครับ คุณ ครูเอ
บุญรักษา ครับ :)
สวัสดีครับ คุณครูแอ๊ว
บุญรักษา คุณครูแอ๊ว ครับ :)
แอบมาเอาคาถาค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
อิ อิ ครูเอ ... ขอบคุณครับ :)